The Rise of Otaku - ตอนที่ 154
บทที่ 154 เมืองท้องฟ้าบนเครื่องบิน
ด้วยการเริ่มต้นที่น่าอึดอัดใจทําให้ทุกการโต้ตอบกันระหว่างเขาและเธอในภายหลังสามารถอธิบายได้ว่าเป็นนรกดีๆนี้เอง
อย่างไรก็ตามการมีเลขาฯ ก็ไม่ได้เลวร้ายจริงๆ อย่างน้อยระหว่างทางก็ได้มีใครบางคนที่สามารถช่วยเขาจัดเตรียมทุกอย่างได้เช่นอาหารและที่พัก ซึ่งมันเป็นอะไรที่ช่วยเขาได้มากจริงๆ แต่มันก็มีสายตาแปลกๆมองมา
ทางพวกเขามากเช่นกัน อาจจะเพราะในสายตาของคนอื่นพวกเขาทั้งคู่ต่างก็มีอายุใกล้เคียงกัน มันจึงทําให้พวกเขาดูเหมือนเป็นคู่รักหนุ่มสาวที่เดินทางออกมาท่องเที่ยวด้วยกันเท่านั้น แต่มันก็มีเรื่องแปลกอย่างจะเป็นผู้หญิงที่จ่ายบิลอยู่เสมอ และดูเหมือนเธอก็รู้สึกดีที่ทําแบบนั้น
เรื่องราวทั้งหมดจะไม่เกิดขึ้นเลยถ้ารูปร่างหน้าตาของหลินวานจะมีคะแนนรวมอยู่ระหว่าง 8 คะแนนกับ 10 คะแนน มันทําให้การปรากฏตัวพร้อมกันกับเธอจึงไม่ได้เรียบง่ายอย่างที่ควร แน่นอนว่ามีบางคนอาจคิดว่าโจวหยูนั้นเป็นคนรวยรุ่นที่สองหรืออะไรทํานองนั้น แต่วิธีที่พวกเขาทํานั้นกับเป็นอะไรที่ดูสับสนจริงๆ
โจวหยู่ไม่ได้พูดคุยกับหลินวานตลอดทาง นอกจากการเผลอตะโกนออกไปเย็นวันนั้น เขาก็ไม่รู้จริงๆว่าจะพูดอะไรดี ดังนั้นเขาจึงเลือกที่จะไม่พูดอะไรเลยและให้ความสนใจเฉพาะกลุ่มเด็กโตที่เพิ่งออกจากบ้านเป็นครั้งแรกแทน
ความจริงแล้วกล้องคลอสมินินั้นสามารถถ่ายรูปได้ และก่อนที่พวกเขาจะขึ้นเครื่องบินทิ้งห้อยได้ยืนยันที่จะถ่ายรูปกับมู่ลี่เล็กน้อย โชคดีที่พวกเธอไม่มีโทรศัพท์มือถือเป็นของตัวเอง ไม่อย่างนั้นมีความเป็นไปได้ที่การเดินทางในครั้งนี้ต้องล่าชลงไปมาก เพราะการหยุดแวะพักถ่ายภาพเซลฟี่ตลอดเวลาของพวกเธอ
สิ่งที่ทําให้โจวหยูพูดไม่ออกมากขึ้นก็คือบนเครื่องบินเองก็มีพลเมืองของโลก ACG เช่นกัน และพวกเขาก็อ้างว่าเป็นพลเมืองของเมืองท้องฟ้า
เมื่อมองไปรอบๆมีอาคารทุกชนิดในทุกมุมของเครื่องบิน ซึ่งคนทั่วไปจากโลกแห่งความจริงมองไม่เห็น และถือว่าเป็นโชคดีที่พวกเขาไม่ได้สร้างมันบนที่นั่ง ไม่อย่างนั้นถ้ามีผู้โดยสารนั่งลงมันอาจจะเป็นเหมือนฉากในอนิเมชั่นเรื่องคนยักจากประเทศเกาะได้
และเมื่อไม่นานมานี้ที่ประตูขึ้นเครื่อง โดยไม่คาดคิดกลุ่มลูกๆของเขาได้ถูกขอให้หยุดเพื่อรับการตรวจสอบเช่นกัน อย่างไรก็ตามมันไม่ได้เกิดขึ้นกับคนเป็นพ่ออย่างโจวหยู แต่เขาก็ยังต้องทําเรื่องสําหรับการขออนุญาตชั่วคราวเช่นกัน เครื่องบินของโจวหยเป็นเมืองบนท้องฟ้าหมายเลข 37 มันแยกจากโลกภายนอก ดังนั้นการเข้าและออกทั้งหมดจําเป็นต้องลงทะเบียน
มันทําให้โจวหยูรู้สึกสูญเสียคําพูดที่จะพูดออกไปจริงๆ
มันเป็นเมืองเล็กๆที่มีคนเพียงไม่กี่ร้อยคนเท่านั้น แต่น่าแปลกใจที่มันยังมีลําดับชั้นที่เข้มงวดอย่างมาก โจวหยูนั่งในคลาสธุรกิจที่ประชาชนทั่วไปอาศัยอยู่ คลาสแรกคือพื้นที่ของกษัตริย์ ขุนนาง พระ และอื่นๆ คลาสต่อมาเป็นที่อยู่อาศัยของคนธรรมดา ส่วนโรคลาสนั้นเป็นที่อยู่ของคนจน
เครื่องบินในตาของโจวหยูนั้นแตกต่างจากเครื่องบินในสายตาของคนอื่นอย่างสิ้นเชิง สิ่งที่คนธรรมดาเห็นคือกําแพงเครื่องบินสีขาว แต่สิ่งที่เขาเห็นนั้นกับเป็นบ้านหินสีสันสดใสที่แขวนอยู่บนผนังเครื่องบิน ซึ่งเปลี่ยนห้องโดยสารเครื่องบินธรรมดาให้กลายเป็นเมืองยุคกลางบนหน้าผา
เขาไม่กล้าที่จะนั่งหลังตรงเมื่อเขาขึ้นเครื่อง เพราะเขากลัวว่าเขาอาจจะทําให้เกิดอุบัติเหตุขึ้นโดยไม่จําเป็น
การเดินทางกับพวกเด็กๆดูเหมือนจะเป็นการล้างผลาญดีๆนี้เอง ด้วยความแปลกใหม่ทุกรูปแบบและของกินที่ไม่รู้จัก มันจึงไม่ใช่เรื่องแปลกที่พวกเด็กๆจะถูกดึงดูดโดยพวกมัน พวกเขาต่างก็มีความกระตือรือร้นสูงมากที่จะออกไปสัมผัสพวกมัน
โจวหยูไม่สามารถตาออกไปได้ ดังนั้นเขาจึงทําได้เพียงให้เงินกับพวกเขาและขอให้แจ็คไปเป็นคนคุ้มกัน เขาไม่ต้องการให้เกิดอุบัติเหตุกับพวกเด็กขึ้น
อย่างไรก็ตามสิ่งที่เขาไม่ได้คาดคิดก็คือการตัดสินใจครั้งนี้จะนําไปสู่เหตุการณ์สําคัญในภายหลัง
ตลาดรูปดิสก์เป็นตลาดขนาดใหญ่ที่แขวนอยู่เหนือหัวตรงทางเดิน แต่ถ้าดูดีๆแล้วมันมีรูปร่างเหมือนไข่มากกว่า แต่เนื่องจากขนาดที่ใหญ่มากมันจึงเป็นเรื่องยากที่จะระบุบให้ชัดเช่น บนนั้นมีร้านค้าทุกประเภทเรียงรายเต็มไปหมด มันให้ความรู้สึกเหมือนย่านการค้าในโลกแห่งความเป็นจริง
นอกจากฝูงชนที่พลุกพล่านแล้ว บางครั้งก็มีสัตว์ประหลาดแปลกๆปรากฏตัว เช่นสัตว์ประหลาดจากโลกท้องฟ้า
นี้จึงสมควรได้รับการขนานนามว่าเมืองท้องฟ้าอย่างแท้จริง ที่นี้มีระบบนิเวศที่เป็นเอกลักษณ์ของตัวเอง ทําให้สิ่งเหล่านี้ไม่ได้เกิดขึ้นบนพื้นดินอย่างน้อยก็สถานที่ที่โจวหยูอยู่ เขาไม่เคยเจอสัตว์ประหลาดเหมือนที่เจอตอนนี้ หากไม่ใช้เพราะการถือกล้องคลอสมิติบนเครื่องบนจะทําให้เกิดเป็นจุดสนใจ เขารับรองว่าเขาจะต้องยกกล้องขึ้นมาถ่ายฉากที่เห็นอย่างแน่นอน
เมื่อเขาไม่สามารถทําอะไรนอกจากดูด้วยตาเปล่า เขาจึงเลือกที่จะพักเอาแรง ส่วนลูกๆของเขาเลือกที่จะออกไปท่องเที่ยวแทน
หมู่บ้านมินิลู่หัวไม่มีตลาดและมันก็ไม่มีคนมากมายเช่นนี้ รวมไปถึงตัวตลกที่สามารถแสดงตลกได้ สิ่งเหล่านี้เป็นอะไรที่น่าสนใจสําหรับพวกเด็กๆ ภาพลักษณ์ในตอนนี้ของพวกเขาเป็นเหมือนกับคนบ้านนอกเข้าสู่เมืองหลวงยังไงยังงั้น ไม่ว่าพวกเขาจะไปที่ไหนเห็นอะไร พวกเขาต่างก็อุทานออกมาด้วยความประหลาดใจอย่างต่อเนื่อง โชคดีที่แจ็คเคยสัมผัสกับประสบการณ์พวกนี้มาก่อน ดังนั้นเขาจึงสามารถยับยั้งคนตัวเล็กทั้งสี่ได้โดยที่ไม่ปล่อยให้พวกเขาวิ่งไปอย่างไม่ระมัดระวัง
อย่างไรก็ตามหลังจากผ่านไปซักพักแจ็คก็รู้สึกเหนื่อยล้าทั้งทางร่างกายและจิตใจ ลึกลงไปในใจของเขา เขารู้สึกเสียใจที่เขาเข้ามาแทนที่บบ เพราะถ้าสถานการณ์นี้เกิดขึ้นกับเบียโม่ ด้วยรูปลักษณ์ที่เย็นชาและเป็นปรปักษ์ต่อสังคม มันจึงไม่มีทางที่เขาจะมาสนใจสิ่งพวกนี้อย่างแน่นอน
อนิจจา! ไม่มียาที่สามารถลบความเสียใจขาย ดังนั้นเขาจึงทําได้เพียงยอมรับมันเท่านั้น!
หลังจากดูการแสดงข้างถนนซักพัก พวกเขาก็ถูกดึงดูดโดยอาหารที่ยืนอยู่ข้างๆ จากนั้นพวกเขาก็ไปที่ร้านขายเสื้อผ้า กล่าวอีกนัยหนึ่งคือพวกเด็กๆต่างก็รู้สึกว่าวันนี้เป็นวันที่พวกเขามีความสุขมากที่สุด มันไม่มีโอกาสแบบนี้เกิดขึ้นบ่อยนัก ถ้าพวกเขาพลาดโอกาสในวันนี้ไป อย่างน้อยพวกเขาต้องรอถึงสองปีกว่าจะมาที่นี้ได้อีกครั้ง ดังนั้นถ้าพวกเขาไม่พยายามหาความสุขจากสถานการณ์นี้ให้พอใจ หลังจากผ่านเรื่องนี้ไปแล้วพวกเขาอาจจะรู้สึกเสียใจก็ได้
เรื่องนี้เองก็เกิดขึ้นกับคู่ฝาแฝด เบ็นเป็นร่างยักษ์ได้กลายเป็นจุดสนใจของตลาดและทําให้เกิดความปั่นป่วนมากมายไม่ว่าเขาจะไปที่ไหน โชคดีที่เขาเป็นคนง่ายๆและซื่อสัตย์ เขาสนใจเพียงการกินเท่านั้นตราบใดที่กระเพาะอาหารของเขาพอใจ เขาจะไม่ทําสิ่งใดที่ผิดกฎหมาย
ในบรรดาร้านค้าที่พวกเขาไปนั้น ร้านที่โชคร้ายที่สุดอาจเป็นร้านที่ขายอาหารชนิดพิเศษที่เรียกว่าโคคาลาบ ชโคทางเจ้าของร้านบอกว่าตราบใดที่มีใครบางคนสามารถกินวัวน้ําเต้าทั้งตัวภายในเวลาที่กําหนด ไม่เพียงแต่อาหารจานนี้จะไม่เสียเงินเท่านั้น แต่พวกเขายังสามารถได้รับสมบัติของร้านด้วยสูตรที่เรียกว่า สูตรอาหารเที่ยวบินตะวันตกหมายเลข 1
สูตรอาหารเที่ยวบินตะวันตกหมายเลข 1 นี้เป็นบันทึกขั้นตอนการทําอาหารตะวันตกบางอย่าง นั้นรวมไปถึงอาหารจานหลักและของหวานด้วย ถึงแม้ว่ามันจะมีสูตรอาหารไม่มากนัก แต่มันเป็นสิ่งที่เชฟสองคนต้องการ ด้วยสิ่งนี้พวกเขาสามารถเรียนรู้เกี่ยวกับการปรุงอาหารตะวันตกได้
ดังนั้นมันจึงกลายเป็นโศกนาฏกรรมครั้งสําคัญสําหรับร้านค้า เป็นเป็นได้นั่งอยู่ที่ประตูแล้วกลืนวัวน้ําเต้าสองตัวโดยไม่มีปัญหาใดๆ ซึ่งหลังจากนั้นเขาก็ได้ชนะเสียงปรบมืออย่างเป็นเอกฉันท์จากผู้ชม
เจ้าของร้านที่เคราะห์ร้ายไม่สามารถยอมรับมันผลที่เกิดขึ้นได้ แต่เขาก็ไม่สามารถทําอะไรได้ ไม่เพียงแต่เขาจะไม่สามารถเก็บเงินได้เท่านั้น แต่เขายังต้องสูญเสียสูตรอาหารของทางร้ายไปด้วย
น้องเบนเป็น! นายนี้ยอดเยี่ยมจริงๆ พี่สาวคนนี้อยากจะรู้จริงๆว่าท้องของนายมันจะใหญ่แค่ไหน?
หิงห้อยยืนบนปลายเท้าและตบท้องของเบนเป็นอย่างสงสัย วัวน้ําเต้าสองตัวนั้นหนักพอๆกับเป็นเบน แล้วเขาจะกลืนพวกมันลงไปได้ง่ายๆยังไงกัน? ยิ่งไปกว่านั้นดูเหมือนว่าเจ้าน้องคนนี้ยังสามารถกินได้มากกว่านี้? มู่ลี่อยู่ที่ไหล่ของเบ็นเท็นตลอดเวลา เธอไม่มีความคิดเหมือนพี่สาวของตัวเอง เธอทําเพียงส่งเสียงเชียร์น้องสาวร่างยักคนนี้อยู่ข้างๆเท่านั้น
ในเวลาเดียวกันนั้นเอง ได้มีเสียงดังขึ้นจากชั้นคลาสขุนนาง ได้มีหญิงสาวผมสีบลอนด์และเกราะเต็มร่างกายวิ่งออกมา ข้างหลังเธอยังมีทหารสิบนายไล่ล่าอย่างใกล้ชิดขณะตะโกน หยุด! หยุดเดี๋ยวนี้! แต่น่าแปลกที่ถึงแม้ว่าพวกเขาจะมีอาวุธอยู่บนมือ แต่พวกเขาก็ไม่ได้ใช้พวกมันออกมา
ผู้หญิงคนนั้นวิ่งเร็วเท่าที่จะทําได้ และในไม่ช้าเธอก็มาที่ตลาดรูปดิสก์
ในเวลานี้ทหารที่ยืนอยู่ระหว่างคลาสเศรษฐกิจและคลาสธุรกิจเห็นว่าเกิดอะไรขึ้น พวกเขาจึงได้ส่งทีมออกไปล้อมรอบกลุ่มสาวติดอาวุธอย่างรวดเร็ว
หลังจากเส้นทางหลบหนีถูกปิดกั้น ผู้หญิงที่ตกเป็นเป้ามีทางเลือกเพียงสองทางเท่านั้น คือการใช้กําลังเพื่อฝ่าวงล้อมหรือยอมแพ้ตัวเอง
และสิ่งที่ผู้หญิงเลือกคือการใช้กําลัง ด้วยดาบขนาดใหญ่ในมือของเธอ เธอเริ่มต่อสู้กับทหารที่อยู่ใกล้ที่สุดทันที
เมื่อเห็นการต่อสู้เกิดขึ้น เหล่าพ่อค้าแม่ค้าริมถนนรวมไปถึงกลุ่มนักท่องเที่ยวในตลาดล้วนถอยห่างออกไปทันที อย่างไรก็ตามกลับเป็นติ่งห้อยที่วิ่งเข้ามามีส่วนร่วมในเรื่องนี้ เธอไม่สามารถทนเห็นผู้หญิงคนหนึ่งถูกโจมตีโดยผู้ชายจํานวนมากได้
พวกนั้นจะทําร้ายผู้หญิงคนนั้นจริงๆ และที่สําคัญกว่าก็คือพวกนั้นต่างก็เป็นผู้ชาย! พวกเขาไม่รู้สึกละอายใจหรือไงที่ใช้คนมากมารุมผู้หญิงคนเดียวแบบนี้!