The Rise of Otaku - ตอนที่ 16
บทที่ 16 บริษัทเกม
ถ้าเขาซื้อพวกมันทั้งหมดจะเสียค่าใช้จ่ายรวมอยู่ที่ 4,400 เหรียญโม แม้ว่าเขาจะสามารถซื้อพวกมันทั้งหมดได้ แต่ยังไงเขาก็คิดว่าการมีเงินเหลือเอาไว้จะเป็นอะไรที่เข้าท่ากว่า และเขากลัวว่าหลังจากที่เขาซื้อพวกมันมาแล้ว มันอาจต้องมีการซื้อวัสดุอื่นโดยใช้เหรียญโมเพิ่มเติม มันอาจจะเหมือนกับครั้งที่เขาได้รับบ้านของเกษตรกรก่อนหน้านี้
ในตอนนี้โจวหยูเองก็ยังคงมีสตูดิโอการ์ตูนแบบชั่วคราวก่อนที่มันจะวาดการ์ตูนให้เขาถึง 300 บทจนเสร็จเขาไม่ได้วางแผนที่จะเข้าร่วมในธุรกิจในด้านนี้แต่อย่างใด การที่เขามีส่วนร่วมในเรื่องนี้ในช่วงก่อนหน้านั้นมันก็เป็นเพียงแค่ว่าเขาต้องการตอบสนองความต้องการของเขาเองเท่านั้น ไม่ได้มีอะไรมากไปกว่านั้น
ในแง่ของเกมเองเขามักจะเกลียดเกมที่มีผู้เล่นมากกว่าคนเดียวเช่นกัน ด้วยเกมประเภทนี้มันจำเป็นที่จะต้องเสียเงินเพื่อที่จะเอาชนะคู่ต่อสู้ในเกม แต่ถ้าเป็นเกมประเภทเล่นคนเดียว เขาก็ไม่ได้รู้สึกรำคาญแต่อย่าใด
หลังจากคิดไปแล้ว เขาก็ตัดสินใจที่จะลองซื้อบริษัทเกมก่อน
หลังจากใช้เงิน 2,000 เหรียญโมไปที่ตู้จำหน่ายอัตโนมัติ เขาก็ได้รับพิมพ์เขียวของบริษัทเกมมา จากนั้นตามที่เขาคาดไว้ เขาได้ถูกเรียกเก็บเงินจากค่าวัสดุและการก่อสร้างจากช่างไม้บีเวอร์เป็นจำนวนถึง 500 เหรียญโม และเพียงหนึ่งวันต่อมาเขาก็มีบริษัทเกมอย่างเป็นทางการเป็นของตัวเองแล้ว
เช่นเดียวกับวิหารเต๋าก่อนหน้านี้ ตัวบริษัทเกมเองก็ถูกออกแบบมาให้มีอาคารหลักและอาคารย่อยถึง 3 อาคาร คือ ตัวอาคารหลักเป็นอาคารสูงและทันสมัยมาก
รูปปั้นที่อยู่กลางจัตุรัสด้านล่างอาคารนั้นมีความโดดเด่นเช่นกัน ส่วนอาคารขนาดเล็กทั้งสองด้านเป็นที่พักพนักงานและบริษัทจัดการอสังหาริมทรัพย์
เขาได้นำบริษัทเกมนี้ไปวางไว้ถัดจากบ้านของเกษตรกร ซึ่งนั้นได้แสดงความแตกต่างกันระหว่างคนรวยและคนจนออกมาชัดเจนมาก อย่างไรก็ตามถ้าเปรียบเทียบกับวิหารลัทธิเต๋าแล้ว สถานะของตัวบริษัทเกมนั้นยังคงแสดงให้เห็นว่า “ปิดทำการ” อยู่ตลอดเวลา
เมื่อตรวจสอบอย่างละเอียด โจวหยูก็พบว่าตัวบริษัทเกมนั้นยังคงขาดพนักงาน เขาจำเป็นที่จะต้องทำการจ้างพนักงานมาเสียก่อน ซึ่งในส่วนนี้เขาเองก็จำเป็นต้องมีทีมพัฒนา ทีมผู้บริหารอสังหาริมทรัพย์ และทีมปฏิบัติการ ทั้งสามทีมสามารถรับสมัครได้ที่แผนกทรัพยากรบุคคลในอาคารหลัก
ทีมพัฒนามีหน้าที่รับผิดชอบในการพัฒนาเกม ทีมผู้บริหารอสังหาริมทรัพย์ต้องการช่างไฟฟ้า คนทำความสะอาด ยามรักษาความปลอดภัย เจ้าหน้าที่ซ่อมบำรุงอาคารและอื่นๆ ทีมปฏิบัติการจะรับผิดชอบการดำเนินงานที่เกี่ยวข้องกับเกมทั้งหมดของตัวบริษัท และนี้ก็ถือว่าเป็นเรื่องดีของโจวหยูที่ปัจจุบันบริษัทเกมของเขานั้นเป็นเพียงบริษัทเกมพื้นฐานเท่านั้น ดังนั้นจึงไม่จำเป็นต้องใช้พนักงานมากมายอะไร
เมื่อคลิกไปที่ไอคอนของแผนกทรัพยากรบุคคล หน้าต่างการสรรหาบุคลากรก็ปรากฏขึ้นต่อหน้าเขา การค้นหาทีมแต่ละครั้งจะเสียค่าใช้จ่ายเป็นเงิน 100 เหรียญโม และมันจะแสดงสามทีมในแต่ละครั้ง คุณภาพของแต่ละทีมแตกต่างกัน แต่โจวหยูสามารถเปรียบเทียบพวกเขาและเลือกทีมที่เขาชอบมากที่สุดได้ นอกเหนือจากทีมที่มีคุณสมบัติต่างๆแล้ว เขาก็ยังมีโอกาสหาพนักงานที่มีคุณสมบัติพิเศษ เช่น ระดับทองคำ ระดับเงิน หรือระดับทองแดง ได้อีกด้วย
โจวหยูนั้นคุ้นเคยกับการตั้งค่าการรับสมัครประเภทนี้เช่นกัน เพราะนี่เป็นกลไกประเภทพื้นฐานที่เกมเบราว์เซอร์เกือบทั้งหมดมีอย่างชัดเจน มันถูกใช้โดยบริษัทเกมเพื่อสร้างรายได้จากผู้เล่นให้ได้มากที่สุด แต่เขาก็ไม่ได้คาดหวังว่าของอย่างนี้เองก็จะมีปรากฏในโลกของ ACG ด้วย
โชคดีที่เขาซื้อบริษัทเกมเพียงแห่งเดียว ไม่อย่างนั้นเขาจะใช้เหรียญโมทั้งหมดของเขา
เขาได้ทำการเลือกตัวเลือกการรับสมัครสำหรับทีมพัฒนาเป็นอันดับแรกและกดปุ่มค้นหา สิ่งที่เขาได้รับคือ: ทีมสามัญของกลุ่มคนที่เชื่อฟัง, ทีมที่ใช้ชีวิตหรูหราอย่างเจ้าหญิง, ทีมขี้เกียจของพวกโอตาคุ
‘แม่*!’
เป็นที่รู้กันว่าทีมที่มีสถานะพิเศษดีนั้น จะเพิ่มเอฟเฟคที่ดีต่อการทำงานได้มากถึง 30% ส่วนทีมที่มีสถานะพิเศษแย่นั้นจะทำให้การผลเสียต่อการทำงานเพิ่มขึ้น 30% และนั่นเป็นตัวอย่างที่ชัดเจนของทีมที่เขากำลังเจออยู่ตอนนี้
เมื่อเปรียบเทียบกับพวกเขาทั้งสามทีมแล้ว ทีมสามัญดูเหมือนจะปลอดภัยมากที่สุด แต่มันก็แลกมาด้วยที่เขาจะไม่ได้รับเอฟเฟคพิเศษอะไร ซึ่งมันทำให้เขาคิดว่านี้ควรจะเป็นตัวเลือกที่แย่ที่สุดเท่านั้น
ตามที่เขาคาดไว้ เกมทั้งหมดที่เกี่ยวข้องกับการสุ่มแบบนี้มันเป็นเกมดูดเงิน
อย่างไรก็ตามเขาไม่ต้องการยอมแพ้อะไรง่ายๆแบบนี้ หากการสุ่มครั้งแรกไม่ได้ผล งั้นมันก็แค่ทำการสุ่มเพิ่มขึ้นอีกครั้งก็เท่านั้น
‘ทีมอันธพาลที่ไร้วินัย ซึ่งเป็นทีมของเหล่านักเรียนที่ไม่มีความสามารถพิเศษ’
…
‘แม่*! มันแย่ลงเรื่อยๆ!’
ในที่สุดหลังจากที่เขาเสียถึง 500 เหรียญโม ในที่สุดเขาก็พบทีมที่ดีในที่สุด – ‘ทีมของทหารที่ชอบทำสงคราม: เพิ่มคุณภาพของการพัฒนาเกมแนวสงครามเพิ่มขึ้น 20% แต่ทีมที่มีอารมณ์ด้านลบที่รุ่นแรง ถ้าในบริษัทมีทีมพัฒนาทีมอื่น มีความน่าจะเป็นที่จะเกิด “สงคราม” และเมื่อพวกเขาเข้าสู่สภาวะสงคราม พวกเขาจะไม่หยุดจนกว่าจะมีฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งถูกกำจัดออกไป’
เมื่อนำข้อมูลของทีมนี้ไปเปรียบเทียบกับทีมอื่นๆที่เขาค้นพบก่อนหน้านี้ เห็นได้ชัดว่าทีมนี้ดีกว่ามาก แต่เงื่อนไขของการใช้ทีมนี้เองก็ค่อนข้างรุนแรงสำหรับผู้เล่นใหม่อย่างเขาเช่นกัน
ถ้าเขาเข้าใจไม่ผิด มันหมายความว่าเขาจะไม่สามารถจ้างทีมพัฒนาอื่นเพิ่มขึ้นมาได้ ไม่อย่างนั้นบริษัทของเขาจะตกอยู่ในภาวะสงครามอย่างแน่นอน
ถึงแม้ว่าเลือกทีมพัฒนาจะได้รับข้อสรุปอย่างเป็นทางการแล้ว อย่างไรก็ตามเขาก็จำเป็นที่ต้องเตรียมเงินเดือนสำรองสำหรับพวกเขาเอาไว้ก่อน นั้นก็คือเหรียญโม 100 เหรียญ ไม่อย่างนั้นหากเขาไม่สามารถจ่ายให้พวกนั้นได้เมื่อสิ้นเดือน เขาอาจจะประสบกับปัญหาร้ายแรงขึ้นมาได้
เมื่อเขากดเลือกว่าจ้างแล้วก็ได้ปรากฏทหารกลุ่มเล็กๆที่แต่งตัวในชุดอำพรางปรากฏตัวต่อหน้าโจวหยูในไม่ช้า ภายใต้การแนะนำของผู้นำกลุ่มทหารนี้ได้สร้างรูปแบบการจัดการที่เป็นมาตรฐานขึ้นมาอย่างรวดเร็ว เพียงไม่นานทหารทั้งหมดก็ได้เดินไปยังที่พักพนักงานในขณะที่ร้องเพลงเดินสวนสนามไปด้วย เมื่อเห็นการกระทำตั้งแต่ต้นมันก็ทำให้โจวหยูถึงกับพูดอะไรไม่ออก พวกเขาดูไม่เหมือนทีมพัฒนาเลย พวกเขาดูเหมือนกลุ่มทหารที่กำลังเตรียมตัวเข้าสู่สนามรบมากกว่า
เนื่องจากสภาพที่เลวร้ายของการใช้งานทีมทหาร โจวหยูจึงไม่ได้วางแผนที่จะจ้างทีมพัฒนาเพิ่มในขณะนี้ แต่เขายังจำเป็นต้องสรรหาทีมผู้บริหารอสังหาริมทรัพย์และทีมปฏิบัติการ ไม่อย่างนั้นบริษัทเกมจะไม่สามารถเริ่มทำงานได้
และด้วยการรับสมัครก่อนหน้านี้ที่เขาจำเป็นต้องสุ่มที่ห้าครั้งถึงจะได้ทีมที่น่าพอใจ เขาสรุปได้ว่าการจ้างพนักงานอีกสองทีมนี้เองก็คงจะใช้จำนวนเงินที่เท่ากัน
อย่างไรก็ตามสิ่งที่เขาคิดไม่ได้เกิดขึ้น มันอาจจะเป็นเพราะโชคของเขาดีหรืออาจจะเป็นเพราะอีกสองทีมนั้นมีเปอร์เซ็นต์ได้ตัวละครที่สูงกว่า เขาเสียเงินในการสุ่มทั้งสองทีมเพียง 500 เหรียญโม เท่านั้น
ทีมผู้บริหารอสังหาริมทรัพย์ที่มองโลกในแง่ดีและสงบสุข: ให้บริการเป็นประจำและเพิ่มอารมณ์ของทีมทั้งหมด 10 คะแนน
ทีมปฏิบัติการเพนกวินผู้มีเกียรติ: ให้บริการอย่างสม่ำเสมอและเพิ่มคะแนนแฟชั่นของบริษัท 30 คะแนน
มีตัวบ่งชี้สำคัญสองประการของบริษัทเกม ตัวที่หนึ่งคือตัวบ่งชี้อารมณ์และอีกตัวคือตัวบ่งด้านชี้แฟชั่น
หลังจากการคัดเลือกทีมแล้ว ตัวบ่งชี้อารมณ์ของทีมทั้งหมดจะเป็น 100 คะแนนเสมอ เฉพาะหลังจากที่พวกเขาเริ่มทำงานจุดนี้ถึงจะเริ่มลดลง แต่มันก็ยังมีวิธีที่สามารถทำให้จุดพวกนี้คงที่ นั้นก็คือเขาจำเป็นจะต้องจัดกิจกรรมความบันเทิงบางอย่างแก่พวกเขาเป็นบางครั้ง และหากความไม่พอใจหรือข้อร้องเรียนของพนักงานถูกเพิกเฉยอยู่เสมอ จุดอารมณ์นี้ก็จะลดลงไปเรื่อยๆ และเมื่อมันเหลือเหลือศูนย์ก็จะเป็นการกระตุ้นให้ทีมเหล่านี้หยุดงานประท้วง ถ้าเหตุการณ์นี้มันเกิดขึ้นจริงๆ มันคงยากที่เขาจะสามารถจัดการได้
ในส่วนของตัวบ่งชี้แฟชั่นเองก็สำคัญเช่นกัน โดยที่บางทีมที่มีเอกลักษณ์จะมีข้อกำหนดเฉพาะสำหรับตัวบ่งชี้แฟชั่นของบริษัท ถ้าเกิดว่าตัวบ่งชี้แฟชั่นของบริษัทไม่ตรงกับความต้องการของพวกเขา พวกเขาก็จะปฏิเสธที่จะเข้าร่วมบริษัททันที
แน่นอนเขาสามารถซื้อสินค้าแฟชั่นจากร้านค้าบางแห่งเพื่อเพิ่มคะแนนแฟชั่นของบริษัทได้ อย่างไรก็ตามเขาไม่ได้วางแผนที่จะซื้อพวกเขาในขณะนี้ เพราะมันเป็นเรื่องที่สิ้นเปลืองเกินไปสำหรับมือใหม่อย่างเขา
หลังจากจ้างทั้งสามทีมแล้ว สถานะของบริษัทเกมก็เปลี่ยนเป็น “เปิด” ในที่สุด
สมาชิกของทีมผู้บริหารอสังหาริมทรัพย์ได้ย้ายเข้าและออกจากอาคารหลักอย่างต่อเนื่อง พวกเขาดูยุ่งมาก อย่างไรก็ตามสมาชิกของอีกสองทีมที่อยู่ในที่พักดูเหมือนจะไม่อยากออกไปทำงาน
เขาได้คลิกที่อาคารหลักอีกครั้ง นอกเหนือจากฝ่ายทรัพยากรมนุษย์ เขาสามารถดูฝ่ายพัฒนาและฝ่ายปฏิบัติการในครั้งนี้ หลังจากเปิดแผนกพัฒนาเขาก็ค้นพบการตั้งค่าอื่นที่ทำให้เขาพูดไม่ออก ความต้องการหลักของการพัฒนาเกมเองก็คือเหรียญโม!
โจวหยูไม่ทราบว่าจะหัวเราะหรือร้องไห้ดี แต่เดิมเขาคิดว่าการมีเงินถึง 5,000 เหรียญโม มันได้เปลี่ยนสถานะที่เขาเป็นอยู่ตอนนี้จากคนยากจนกลายไปคนรวยไปแล้ว แต่เขาไม่คิดว่าเมื่อมาตอนนี้เงิน 5000 เหรียญโมอาจจะไม่พอ
เกมระดับหนึ่งดาว ราคา 100 เหรียญโม การ์ดเขียนโปรแกรม X 1, การ์ดสัตว์ขนาดเล็ก X 5, 10 คะแนนอารมณ์
เกมระดับสองดาว ราคา 300 เหรียญโม การ์ดเขียนโปรแกรมX 3, การ์ดสัตว์เล็กสัตว์ X 15, 30 แต้มอารมณ์
เกมระดับสามดาว ราคา 500 เหรียญโม การ์ดเขียนโปรแกรม X 5, การ์ดสัตว์เล็กสัตว์ X 25, 50 คะแนนอารมณ์
เพราะมันเป็นบริษัทเกมขั้นพื้นฐานเท่านั้น ดังนั้นระดับเกมที่มันสามารถทำได้จึงอยู่ที่ระดับ 3 ดาวเท่านั้น หากเขาต้องการสร้างเกมที่ดีกว่านี้ มันก็จำเป็นที่จะต้องมีการเพิ่มข้อกำหนดที่ค่อนข้างมาก อย่างแรกเลยบริษัทจะต้องมีนักวางแผนเกมระดับเงินอย่างน้อยหนึ่งคน และระดับตัวบ่งชี้แฟชั่นของบริษัทเองก็ยังต้องมากกว่า 150 คะแนน แน่นอนว่าสิ่งที่สำคัญที่สุดก็คือเขาจำเป็นต้องจ่ายเงิน 2500 เหรียญโม ในการยกระดับ
‘อืมม! … ในตอนนี้ฉันยังไม่มีเงินมากขนาดนั้น’
การ์ดเขียนโปรแกรมเองก็เป็นการ์ดที่หายากเป็นอย่างมาก แม้ว่าเขาจะออกไปจับสัตว์เล็กๆทุกวัน แต่เขาก็มีมันเพียง 4 ใบเท่านั้นในขณะนี้ ซึ่งแค่นี้มันยังไม่เพียงพอที่จะเขาจะสามารถใช้สร้างเกมระดับ 3 ขึ้นมาได้ นอกจากนี้เขายังมีเหรียญโมไม่เพียงพออีกด้วย
ดังนั้นเขาจึงต้องหันกลับมาดูเกมในระดับ 1 และ 2 ได้เท่านั้น แม้ว่าเขาจะไม่รู้ว่าเกมระดับหนึ่งดาวและระดับสองดาวจะมีความแตกต่างกันมากขนาดไหน? แต่เขาก็หวังว่ามันคงแตกต่างกันอยู่
ดังนั้นในเวลานี้เกมสำหรับผู้เล่นคนเดี่ยวเกมแรกที่สร้างโดย “บริษัท ” ของเขาจึงได้เริ่มกระบวนการพัฒนาขึ้นมาในที่สุด