The Rise of Otaku - ตอนที่ 2
บทที่ 2 การทำเควส
เพื่อป้องกันเหตุการณ์เหตุการณ์ที่ไม่ควรจะเกิดขึ้นมาอีกครั้ง ดังนั้นสิ่งแรกที่โจวหยูกลับมาถึงบ้าน เขาจึงไม่ได้เปิดคอมพิวเตอร์ขึ้นทันทีอย่างเคย แต่เขากลับเลือกที่จะเดินสำรวจไปรอบๆบ้านของเขาแทน และนั้นทำให้เขาพบอะไรแปลกๆที่ไม่เคยมีมาก่อน
เครื่องจักรที่ดูเหมือนตู้กาชาปองได้ถูกวางไว้ถัดจากประตูห้องนอนของเขา ภายในนั้นมีแคปซูลมากมายและส่วนใหญ่ก็มีสีที่ต่างกันเต็มไปหมด อย่างไรก็ตามเขาไม่สามารถระบุบได้อย่างชัดเจนว่ามีอะไรบ้างที่อยู่ในแคปซูลเหล่านั้น เป็นเรื่องที่แปลกเป็นอย่างมากที่ก่อนหน้านี้เขาไม่ได้สังเกตเห็นมันเลย อาจจะเป็นเพราะก่อนหน้านี้เขาสับสนกับเรื่องของโลกอนิเมชั่นมากเกินไปจนลืมที่จะสังเกตสิ่งที่เกิดรอบตัวไป
นอกจากนี้ยังมีตู้จำหน่ายเครื่องดื่มอัตโนมัติที่ตั้งอยู่ถัดจากทีวีอีกด้วย แต่มันไม่ได้ขายเครื่องดื่มเหมือนปกติ กลับกันมันได้ขายกล่องอาคารเล็กๆแปลกๆแทน อันสุดท้ายคือคลังสินค้าที่ดูเหมือนบ้านลูกสุนัข ซึ่งมันไม่เหมือนที่ที่จะเก็บของได้หลายอย่าง
เขาพบว่ามันเป็นอะไรที่น่าสนใจเป็นอย่างมาก เขาถึงกับหยิบเงินหนึ่งหยวนออกมาทันที เขาต้องการรู้ว่าเมื่อเขาหยอดเหรียญนี้ลงไปมันจะเกิดอะไรขึ้น อย่างไรก็ตามเขาไม่คิดว่าทั้งสองเครื่องจะไม่รับเงินสกุลจีน
แต่เมื่อเขาได้กลับมาคิดอีกครั้ง มันก็เป็นอะไรที่ค่อนข้างเข้าใจได้ ท้ายที่สุดแล้วเขาไม่เคยได้ยินว่ารัฐบาลจีนเคยสร้างความสัมพันธ์ทางการทูตกับโลก ACG มาก่อน ดังนั้นมันจึงเป็นเรื่องปกติที่โลก ACG จะไม่ยอมรับสกุลเงินจีน
อย่างไรก็ตามแม้หลังจากที่เขาได้พลิกบ้านของเขาแล้วก็ตาม เขาก็ไม่พบสกุลเงิน ACG ในบ้านของเขาแต่อย่างใด ในท้ายที่สุดสิ่งที่เขาทำได้ในตอนนี้ก็คือดูเจ้าตู้หยอดเหรียญทั้งสองเครื่อง พร้อมกับถอนหายใจออกมาอย่างจนใจเท่านั้น
อย่างไรก็ตามบางทีเมื่อเขาตื่นขึ้นมาอีกครั้ง ทุกอย่างอาจจะหายไปก็ได้ ดังนั้นเขาจึงไม่ได้วางแผนที่จะศึกษาปรากฏการณ์แปลกๆนี้ต่อ เขาได้หันความสนใจทั้งหมดของเขากลับมายังเกมของเขาแทน …
ดังนั้นในตอนนี้เขาจึงได้กลับมาใช้ชีวิตตามปกติของเขาอีกครั้ง: เขาได้เล่นเกมตามปกติ เข้านอนตามปกติ …
เพื่อยืนยันว่าทุกอย่างกลับสู่ปกติ เขาได้ตื่นเช้ากว่าเมื่อวาน และเมื่อเขาได้สวมแผนตาและมองผ่านแลนส์แว่นออกไป เขาก็ยังเห็นโลกของ ACG อยู่ นั้นทำให้โจวหยูไม่ทราบว่าเขาควรจะมีความสุขหรือเสียใจดี
ดูเหมือนว่า “โรค” นี้ไม่สามารถรักษาให้หายขาดได้จริงๆ แต่ก็มีสิ่งดีๆเกิดขึ้นเช่นกัน นั้นก็คือโรคสายตาสั้นของเขานั้นจะหายไปแล้ว เมื่อเขาถอดแวนตาออกแล้วมองไปยังสถานที่ไกลๆนั้น เขากับเห็นมันได้อย่างชัดเจน
ไม่ว่าเรื่องที่เกิดขึ้นนี้จะเกิดจากอะไร แต่สำหรับเขาแล้วมันถือว่าเป็นเรื่องที่ดีอย่างมาก
เนื่องจากไม่มีทางที่เขาจะกลับไปใช้ชีวิตอย่างเดิมอีกแล้ว ดังนั้นจะเป็นการดีกว่าที่เขาจะพยายามปรับตัวให้เขากับมัน หลังจากล้างหน้าและแปรงฟันเสร็จ เขาก็ได้เดินออกจากบ้านในช่วงเช้านี้เป็นครั้งแรก
เป็นเรื่องแปลกเล็กน้อยที่จะกล่าวว่าโจวหยูได้อาศัยอยู่ในหมู่บ้านนี้มาเป็นเวลาหนึ่งปีแล้ว อย่างไรก็ตามเขาไม่เคยเห็นทิวทัศน์ยามเช้าของหมู่บ้านนี้มาก่อนเลย
ทุกวันเมื่อเขาตื่นขึ้นมา มันก็เป็นช่วงเวลาเที่ยงไปแล้ว และเขาก็ออกจากบ้านเพียงครั้งเดียวต่อสัปดาห์เท่านั้น อาจจะบอกได้ว่าเขานั้นได้ใช้ชีวิตเหมือนคนร้ายที่กำลังหลบหนีคดีก็ไม่ผิด ดังนั้นมันจึงไม่น่าแปลกใจที่เมื่อเขาได้พบกับผู้คนในหมู่บ้านคนอื่นๆบนถนน พวกเขาต่างก็แสดงสีหน้าประหลาดใจออกมา
‘วันนี้หิมะจะตกมั้ย’ (1) ทุกคนได้คิดเหมือนกัน
ทุกคนรู้เกี่ยวกับการกลับมาอยู่หมู่บ้านนี้ของเด็กครอบครัวโจว เพราะมันเป็นเรื่องปกติที่จะมีคนออกไปจากหมู่บ้านนี้มากกว่าคนที่จะกลับมาที่หมู่บ้านนี้ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา โดยเฉพาะคนหนุ่มสาวเหล่าแบบโจวหยู
ดังนั้นชื่อของโจวหยูจึงค่อนข้างโด่งดังในหมู่บ้านนี้ แต่โจวหยูก็ยังคงเป็นโจวหยู เขาไม่ได้สนใจกับสายตาที่คนมองมายังที่เขาเลย
เป็นเวลาหนึ่งปีแล้วนอกเหนือจากการออกมาซื้ออาหาร เขาไม่เคยปรากฏตัวที่อื่นมาก่อน ในช่วงเวลานั้นเขาได้ทำการติดต่อกับโลกภายนอกเพียงเล็กน้อยเท่านั้น และเขาแทบจะไม่เคยออกจากบ้านเลย มันทำให้เขาเกือบจะเหมือนกับผู้หญิงในประเทศจีนโบราณ ไม่น่าแปลกใจที่ก่อนหน้านี้พ่อแม่ของโจวหยูจะได้ฝากฝังให้พวกเพื่อนบ้านช่วยดูแลลูกชายของพวกเขาเป็นพิเศษ
ในระหว่างที่พวกเขาได้ให้ของขวัญกับเหล่าเพื่อนบ้านนั้น พวกเขาได้บอกเกี่ยวกับนิสัยการเก็บตัวของโจวหยูให้ฟัง ก่อนที่พวกเขาจะขอให้เหล่าเพื่อนบ้านให้ความสนใจเกี่ยวกับโจวหยูให้มากขึ้น
ซึ่งเรื่องการเก็บตัวนี้มันเป็นเรื่องที่แปลกใหม่สำหรับเหล่าคนที่อาศัยอยู่ในหมู่บ้านนี้เป็นอย่างมาก ดังนั้นเหล่าเพื่อนบ้านจึงแสดงสีหน้าแปลกๆออกมาพร้อมกับรับปากว่าพวกเขาจะช่วยดูแลโจวหยูให้
ดังนั้นเมื่อพวกเขาได้เห็นโจวหยูออกมาเดินในช่วงเช้าแบบนี้ มันจึงทำให้พวกเขารู้สึกแปลกใจเป็นอย่างมาก ระหว่างทางก็ได้มีเหล่าเด็กน้อยที่กล้าหาญบางคน ที่จ้องมองไปยังโจวหยูอย่างสงสัยและหวาดกลัวเล็กน้อย สายตาที่เด็กเหล่านั้นมองมายังโจวหยูนั้นราวกับว่าเขาเป็นมนุษย์ต่างดาวยังไงยังงั้น
โจวหยูเองก็ไม่ได้คาดหวังว่าการตัดสินใจอย่างง่ายๆของเขาที่ต้องการเดินในช่วงเช้านี้จะเป็นที่สนใจจากคนที่เดินผ่านไปผ่านมา
“ฮะ!” ในขณะที่เขาเดินผ่านเหล่าเด็กๆนั้น เขาก็ได้หันหลังกลับทันทีพร้อมกับแสดงสีหน้าแปลกๆออกมา นั้นทำให้เหล่าเด็กๆที่ไม่ทันได้เตรียมใจว่าจะเจอกับการตอบโต้แบบนี้ก็ถึงกับร้องไห้ออกมาทันที
‘อืม … ตอนนี้ดีขึ้นมากแล้ว’ เขาที่เห็นการแสดงออกแบบนั้นก็รู้สึกตลกเล็กน้อย
มีศูนย์กิจกรรมสำหรับผู้สูงอายุในหมู่บ้าน มันเป็นสถานที่แรกที่เขามาค้นหาสิ่งมีประหลาดนี้ และมันก็ไม่ทำให้เขาผิดหวัง เพราะเขาได้เห็นสัตว์ประหลาดที่ดูเหมือนจะเข้าสู่วัยชรา สวมเสื้อคลุมสีดำและถือไม้เท้าแปลกๆกำลังเดินไปรอบๆศูนย์กิจกรรมแห่งนี้ ดูเหมือนว่ามันจะเพลิดเพลินกับกิจกรรมเหล่านี้เป็นอย่างมาก
แม้ว่าเจ้าสิ่งมีชีวิตประหลาดนี้จะสูงเพียง 20 เซนติเมตร มันก็ไม่ได้เป็นอุปสรรคในการทำสิ่งต่างๆเลย มันได้บินไปยืนอยู่บนไหล่ของชายชราที่กำลังเล่นไพ่นกกระจอกอยู่ ดูเหมือนว่าทักษะเล่นไพ่ของชายชราคนนั้นจะแย่เป็นอย่างมาก มันจึงทำให้ราชามังกรเฒ่า(เป็นสัวต์ประหลาดที่พระเองเจอ) ได้สบถออกมาพร้อมกับนำไม้เท้าที่มันถืออยู่นั้นเคาะไปยังไพ่ของชายชราคนนั้น อย่างไรก็ตามชายชราไม่ได้มีปฏิกิริยาใดๆเลย ดูเหมือนว่าการกระทำของราชามังกรเฒ่านั้นจะไม่ทำให้เกิดอันตรายถ้าพวกเขาไม่ได้อยู่ในมิติเดียวกัน
แต่เมื่อราชามังกรเฒ่าได้สังเกตเห็นตัวโจวหยูเข้า มันก็ได้แสดงอาการที่มีความสุขออกมา ก่อนที่มันจะได้ยืนบนก้อนเมฆสีขาวและบินไปทางโจวหยูทันที
‘โอ้! มันเป็นสิ่งมีชีวิตที่มาจากบนสวรรค์จริงๆเหรอ?’
“สวัสดีเจ้าหนู! เจ้ามาได้เวลาพอดีเลย! ไม้เท้าหัวมังกรของฉันมันเกิดชำรุดทรุดโทรมขึ้นมาเป็นเวลานานแล้ว เจ้าสามารถไปหาช่างไม้และรับไม้เท้าหัวมังกรอันใหม่มาให้ข้าได้ไหม?”
‘อะไรนะ! ตาเฒ่านี้ให้เควสท์ฉันตั้งแต่แรกเห็นเลยเหรอ?’ สิ่งมีชีวิตนี้มันชั่งไร้ยางอายอย่างจริงๆ อาจเป็นเพราะราชามังกรเฒ่าดูไม่เป็นอันตรายอะไร โจวหยูจึงไม่ได้ตอบปฏิเสธออกไป กลับกันเขาได้พยักหน้าเป็นการตอบรับออกมาเงียบๆ ดูเหมือนว่าคำขอนี้จะเป็นเหมือนกับภารกิจที่มีตามปกติในเกม ดังนั้นมันจะเป็นการดีที่เขาจะลองทำดู
แม้ว่ามันจะดูเหมือนเกม แต่เขาก็ยังอยู่ในโลกแห่งความเป็นจริง ราชามังกรเฒ่าได้บอกช่างไม้อยู่ในหมู่บ้านนี้ แต่ตัวระบบการค้นหาไม่ได้มีฟังก์ชั่นการค้นหาเส้นทางโดยอัตโนมัติ ดังนั้นมันจึงเป็นเรื่องลำบากเป็นอย่างมากในการค้นห้า
ในขณะที่เขาหลงทางในหมู่บ้าน เขาได้พบกับสิ่งมีชีวิตประหลาดแบบสุ่มบ้างเป็นบางครั้ง และสิ่งมีชีวิตประหลาดเหล่านั้นก็คล้ายกับสิ่งมีชีวิตที่เขาพบเมื่อวานนี้ แต่เขาคิดว่าเจ้าสิ่งมีชีวิตประหลาดเหล่านี้คงเป็นเพียงมอนเตอร์ธรรมดา พวกมันคงไม่ใช้ NPC เหมือนกับราชามังกรเฒ่า
ในที่สุดโจวหยูก็พบช่างไม้จนได้ เมื่อเขาเดินไปใกล้ต้นไทรที่ริมแม่น้ำสายเล็กที่อยู่ใกล้ๆบ้านเขา เห็นได้ชัดว่ามันเป็นเพียงโพรงไม้เก่าๆเท่านั้น และบ้านโพร่งไม้นั้นเองก็ได้ปรากฏสิ่งมีชีวิตประหลาดที่กำลังเดินไปมาพร้อมกับถอนหายใจอย่างต่อเนื่องเหมือนมนุษย์
แต่เมื่อมันเห็นว่าโจวหยูเข้ามาใกล้ๆ มันก็ได้เริ่มพูดขึ้นว่า “ดูเหมือนว่าไอ้เฒ่าราชามังกรนั้นจะหาคนได้แล้ว”
ทันทีที่มันพูดจบ มันก็ได้โยนไม้เท้าหัวมังกรอันใหม่มายังโจวหยูทันที พร้อมกับได้เดินกลับเข้าไปยังโพรงไม้นั้น
โจวหยูที่เห็นแบบนั้นก็ไม่ต้องการเรียนรู้ทักษะการประดิษฐ์ใดๆจากช่างไม้คนนี้ ดังนั้นเขาจึงรีบหยิบไม้เท้าหัวมังกรอันใหม่ที่ยาวประมาณสิบเซนติเมตรขึ้นมาทันที ก่อนที่เขาจะรีบวิ่งกลับไปที่ศูนย์กิจกรรมของผู้สูงอายุ
ราชามังกรเฒ่าที่เห็นว่าในมือของโจวหยูนั้นมีไม้เท้าหัวมังกรอันใหม่อยู่ มันก็มีความสุขเป็นอย่างมาก หลังจากที่มันได้รับไม้เท้าใหม่มาเป็นที่เรียบร้อย รางวัลก็ถูกมอบให้โจวหยูเช่นกัน หลังจากที่มันได้มอบรางวัลไปแล้วมันก็ไม่สนใจโจวหยูอีกเลย มันได้หันกลับไปดูเกมไพ่ต่ออีกครั้ง และไม่วายที่จะตีชายชราคนนั้นเหมือนเดิม
รางวัลที่ได้รับ: แผนที่และเหรียญโม 20 เหรียญ
เหรียญโม อาจเป็นสกุลเงินที่หมุนเวียนอยู่ในโลกของ ACG แต่มันไม่ใช่ของจริง แต่คำว่าเหรียญโม 20 เหรียญก็ได้ปรากฏที่มุมบนขวาของมุมมองของโจวหยู และที่มุมซ้ายบนของมุมมองของเขาแผนที่ก็ปรากฏขึ้นเช่นกัน
การพยายามเอื้อมมือออกไปสัมผัสมัน โจวหยูรู้สึกแปลกใจที่เขาสามารถใช้แผนที่ได้จริงๆ
หลังจากซูมเข้าไป เขาก็ได้เห็นภาพของหมู่บ้านลู่หัว มันชัดเจนยิ่งกว่าสิ่งที่เขาเห็นบนอินเทอร์เน็ตเสียอีก แต่พื้นที่รอบๆของแผนที่กับมีการเคลื่อนไหวเล็กน้อยเท่านั้น มันมีเพียงไอคอนของราชามังกรเฒ่าและบีเวอร์ช่างไม้เท่านั้นกำลังเคลื่อนไหวช้าๆ นอกเหนือจากสองคนนี้แล้ว มันก็ไม่มีอะไรอีกที่เคลื่อนไหว
นอกจากนั้นยังมีสถานที่พิเศษบางแห่งที่มีการทำเครื่องหมายเอาไว้ แต่ส่วนใหญ่ในแผนที่จะแสดงสัญญาณลักษณ์เพียง ‘ ? ?.’ อาจเป็นเพราะฟังก์ชั่นนี้เพิ่งจะถูกเปิดใช้งานไม่นาน มันจึงยังไม่สามารถแสดงข้อมูลทั้งหมดออกมาได้
ตอนนี้มันดูเหมือนเกมมากขึ้นเรื่อยๆแล้ว
เมื่อโจวหยูได้รับเหรียญโมมา สิ่งแรกที่เขานึกถึงก็คือเจ้าตู้กาชาปอง และตู้ขายของอัตโนมัติที่บ้านของเขา กล่องใหญ่ๆในตู้หยอดเหรียญดูเหมือนจะค่อนข้างแพง สิ่งที่ถูกที่สุดคือ 150 เหรียญโม ด้วยจำนวนเหรียญที่เขามีในตอนนี้ เขาไม่สามารถซื้ออะไรได้เลยในนั้น ดังนั้นคงมีเพียงเจ้าตู้กาชาปองที่ใช้เหรียญโม เพียง 10 เหรียญ เท่านั้นที่เขาสามารถทดลองใช้ได้ และด้วยเหรียญที่เขามีตอนนี้มันทำให้เขาสามารถหยอดได้เพียงสองครั้งเท่านั้น
ต้องพูดว่าในปัจจุบันนั้นมีเกมมากมาย เกมการพนันหรือเกมคล้ายสลากกินแบ่ง นี้เป็นหนึ่งในเกมที่โจวหยูชอบมากที่สุดและเกลียดมากที่สุดเช่นกัน
มีผู้เล่นจำนวนมากที่ใช้เงินจริงๆ เพื่อซื้อสิ่งของจำพวกอุปกรณ์หายาก หรืออาวุธเทพเจ้าในเกมออนไลน์ แต่สำหรับโจวหยูนั้นสามารถทำได้เพียงพึ่งพารางวัลของระบบและยังต้องขอทำภารกิจจำนวนมากกว่าที่จะได้อาวุธมา มันทำให้เขานั้นมักอิจฉาพวกนั้นเป็นอย่างมาก ดังนั้นการหยอดเหรียญในตู้กาชาปองในครั้งนี้สำหรับเขาแล้วมันจึงเป็นอะไรที่น่าตื่นเต้นที่สุด
‘ไปเลยโชคสูงสุดของฉัน!’ เขาได้ตะโกนขึ้นในใจ เมื่อเขาบิดสวิตช์ในการลองครั้งแรก จากนั้นเขาก็ได้รับ: ‘จอบขุดดินของเบโธเฟน’
‘ไปเลยมือแห่งปาฏิหาริย์’ เขาก็ยังคงตะโกนขึ้นในใจขณะที่เขาบิดสวิตช์เป็นครั้งที่สอง จากนั้นเขาได้รับ: ‘เมล็ดดอกไม้ไอดอล’
‘อืม … มันดีหรือไม่ดีกัน?’ เขาไม่รู้วิธีตอบสนองเลย…
คำอธิบายของผู้แปล
หิมะในฤดูร้อน เป็นปรากฏการณ์แปลกๆ มันถูกใช้เพื่ออธิบายบางสิ่งที่แปลกประหลาดและน่าตกใจ