The Rise of Otaku - ตอนที่ 23
บทที่ 23 เจ้าชายมังกรที่สาม
อาคารตัวแทนการท่องเที่ยวไม่ใหญ่มากนัก มันไม่ได้แตกต่างจากบริษัทเกมมากนัก ที่จะแตกต่างก็คงมันมีที่จอดเรือเหาะเพิ่มเติมขึ้นมา พื้นที่ที่ครอบคลุมนั้นใหญ่พอๆกับอ่างล้างหน้า เรือเหาะเป็นเรือใบสไตล์จีนโบราณ มันดัดแปลงมาจากเรือจีนโบราณ ดังนั้นรูปร่างของมันจึงมีความเป็น “โบราณ” อยู่ในนั้น
แน่นอนว่าสิ่งนี้โจวหยูไม่คิดจะวางไว้ในห้องของเล่นอย่างเด็ดขาด ไม่อย่างนั้นพวกเด็กๆเหล่านั้นอาจจะนำมันไปเล่นก็ได้
ทุกสิ่งที่อยู่ในห้องของเล่นนั้นจะเป็นของเด็กๆทั้งหมด แต่สิ่งต่างๆที่เก็บไว้ในโรงเรือนนั้นแตกต่างกัน สิ่งต่างๆเช่น บริษัทเกมเองก็ถูกเก็บไว้ที่นั่นทั้งหมด นี่เป็นข้อตกลงที่เขาทำกับเด็กเอาไว้ และเด็กเกือบทั้งหมดที่มาที่บ้านของเขาต่างก็รู้เกี่ยวกับข้อตกลงนี้
เมื่อบริษัทเกมเสร็จสิ้นภารกิจ โจวหยูจึงตัดสินใจปล่อยให้ทีมพัฒนาทหารได้รับการพักผ่อนบ้าง แต่ก็ไม่วายที่เขาจะต้องเสียค่าใช้จ่ายในการเดินทาง 50 เหรียญโม
เรือเหาะค่อยๆยกตัวขึ้นหลังจากกลุ่มทหารทั้งหมดเข้าไปในเรือ ในสายตาของโลกแห่งความจริงตัวเรือเหาะไม่ขยับไปไหนแต่อย่างใด แต่ในสายตาของโลก ACG มันกับค่อยๆบินขึ้นไปบนท้องฟ้าและหายไปจากสายตาของโจวหยู
แต่เมื่อมองย้อนกลับมาเขาก็พบว่าตอนนี้เหรียญโมของเขาลดลงเหลือน้อยกว่า 3 หลักแล้ว โจวหยูก็อดไม่ได้ที่จะคิดถึงเมล็ดพันธุ์ดอกไม้ไอดอลขึ้นมา เพราะท้ายที่สุดแล้วมันก็เป็นวิธีที่เร็วที่สุดที่เขาจะได้รับเหรียญโมจำนวนมาก ส่วนเงินที่เขาได้รับจากการตกปลานั้นกับเห็นได้ชัดว่ามันไม่เพียงแต่กิจกรรมที่เขามี
เมื่อเร็วๆนี้เองบ้านของผู้ขุดแร่ชั่วคราวเองได้หายไป และทิ้งเพียงกองแร่ที่ไม่รู้จักในห้องเก็บของ ในสายตาแห่งโลกของความเป็นจริง สินแร่พวกนั้นเป็นเพียงก้อนกรวดสีสันสดใสธรรมดาเท่านั้น แต่ในสายตาของโลก ACG พวกมันคือ “แร่ทองแดง”, “แร่เหล็ก” “,” วัสดุหินธรรมดา “ฯลฯ … สิ่งที่มีค่าที่สุดอาจเป็นแร่ทองคำ
แร่พวกนี้สามารถขายให้กับราชามังกรเฒ่าได้ แต่ถ้าไม่จำเป็นจริงๆโจวหยูก็ไม่ต้องการขายวัสดุเหล่านั้น ดังนั้นพวกมันจึงถูกเก็บไว้ในห้องเก็บของ
………….
อยู่มาวันหนึ่งโจวหยูกำลังตกปลาข้างนอกตามปกติ แม้ว่าตอนนี้จะไม่มีพวกเด็กซนมากวนใจเขาแล้วก็ตาม แต่เขาก็ยังไม่สามารถจับปลาได้อยู่ดี อย่างน้อยนั่นคือสิ่งที่คนอื่นเห็น
โชคดีที่เพื่อนบ้านนั้นต่างก็คุ้นเคยกับเหตุการณ์นี้แล้ว ดังนั้นพวกเขาจึงไม่ได้เขามาหาโจวหยูพร้อมกับให้ความช่วยเหลืออย่างการสอนตกปลาอีก
และในตอนนี้โจวหยูก็เคยชินกับกระบวนการตกปลานี้แล้ว มีปลาไม่กี่ตัวเท่านั้นที่สามารถหนีออกจากเบ็ดของเขาได้ในปัจจุบัน ดังนั้นความสามารถในการสตันของคันเบ็ดเมเปิ้ลฟานของยียี นั้นจึงกลายเป็นไร้ประโยชน์ไป
ดังนั้นเขามักจะใช้เบ็ดต้นยูจีนของเจียงซียะมาใช้มากกว่า เนื่องจากเอฟเฟคการเพิ่มเปอร์เซ็นต์ที่เขาจะตกได้ปลาที่มีชื่อ “ราชา” ซึ่งปลาเหล่านี้เองก็เป็นอะไรที่ขายได้ค่อนข้างแพงกว่าปลาปกติ
ในตอนนี้เขามีเหยื่อเหลือเพียงหนึ่งอันเท่านั้น และหลังจากนั้นมันก็ถึงเวลาที่เขาจะต้องไปจับสัตว์ตัวเล็กๆต่อ อาจจะเพราะช่วงนี้เขาพยายามหาสัตว์ที่ให้การ์ดเขียนโปรแกรมให้มากขึ้น มันจึงทำให้เขารู้สึกหวาดกลัวการออกไปจับสัตว์พวกนั้นเล็กน้อย
เมื่อพูดถึงการจับสัตว์แล้วโจวหยูได้ทำมันทุกวันเป็นเวลากว่าสองเดือนแล้ว และเขามักจะใช้เวลามากกว่าสองชั่วโมงในการทำมันทุกวัน
โจวหยูอาจไม่ตรวจดูร่างกายของตัวเองบ่อยนัก แต่ไม่ใช้กับเหล่าเพื่อนบ้านที่เห็นเขา พวกเขาสามารถบอกได้อย่างชัดเจนถึงการเปลี่ยนแปลงของเขา สิ่งที่ชัดเจนที่สุดคือไขมันส่วนเกินในหน้าท้องของเขาได้หายไปแล้ว แม้ว่ากล้ามเนื้อของเขาจะไม่แข็งมาก แต่ก็ไม่นุ่มเหมือนเมื่อก่อน
ส่วนคนที่เห็นการเปลี่ยนแปลงในตัวโจวหยูมากที่สุดจะเป็นใครไม่ได้นอกจากหัวหน้าหมู่บ้าน หลังจากที่เขาได้เห็นผลลัพธ์ของพฤติกรรมแปลกๆของโจวหยูก่อนหน้านี้ เขาก็คิดว่ามันอาจเป็นวิธีการออกกำลังกายแปลกๆที่คนในเมืองคิดขึ้นมา
แม้ว่ามันจะทำให้สับสนว่าทำไมท่าออกกำลังกายถึงต้องกลิ้งตัวอยู่บนพื้นและทำไมมันถึงดูเหมือนว่ากำลังหลบการโจมตีของคู่ต่อสู้ด้วยก็ตาม
อย่างไรก็ตามเขาก็ไม่ได้ค้นพบพฤติกรรมแปลกใหม่อื่นๆจากโจวหยูอีก ซึ่งนั้นทำให้เขาโล่งใจเป็นอย่างมาก ดังนั้นเขาจึงโทรหาโจวหงและบอกอีกฝ่ายว่าไม่จำเป็นต้องกังวลเกี่ยวกับลูกของเขาอีกต่อไป
เขายังบอกด้วยว่าอย่าไปเพิ่มแรงกดดันมากเกินไปและเจ้าเด็กโจวหยูนั้นก็ไม่ใช่เด็กไม่ดีอะไร เขายังบอกอีกว่าเจ้าเด็กโจวหยูนั้นมีทักษะฝีมือที่ดีมาก ในช่วงสองวันที่ผ่านมาอีกฝ่ายก็ยังสามารถทำเงินจากของเล่นที่สร้างมาได้อีกด้วย
เมื่อได้ยินสิ่งที่หัวหน้าหมู่บ้านพูดออกมา โจวหงก็มีความสุขมากในช่วงแรก แต่เมื่อเขาได้ยินส่วนหลังเขาก็สับสนมาก
‘บ้าน่า! ไอ้ลูกชายของฉันจะมีทักษะในการประดิษฐ์ได้ยังไง?? และเจ้าเด็กนั้นยังทำของเล่นและขายมันได้อีกด้วย? ตั้งแต่เมื่อไหร่กันที่เจ้าเด็กนั้นมีความสามารถนี้ ? ‘
โจวหงที่ไม่เชื่อสิ่งที่หัวหน้าหมู่บ้านพูดออกมา แต่เขาก็ได้ฟังมาว่าเมื่อเร็วๆนี้ทางหมู่บ้านเองก็พึ่งจะออกทีวี ในนั้นได้มีการพูดถึงเจ้าเด็กโจวหยูด้วย ถ้าเขาไม่เชื่อก็สามารถไปหาดูได้
หลังจากเขาเห็นวิดีโอนั้น เขาก็รู้ว่าทำไมหัวหน้าหมู่บ้านถึงพูดเช่นนั้น
ด้วยเรือบรรทุกเครื่องบินขนาดใหญ่ รถถังขนาดเล็ก และเครื่องบินขับไล่ไอพ่น พวกมันทั้งหมดนั้นดูสมจริงมาก ในฐานะพ่อแม่ของโจวหยูแล้วเขารู้ว่าเจ้าเด็กโจวหยูนั้นมีงานอดิเรกทำโมเดลของเล่น แต่เขาไม่เข้าใจว่าอะไรดนใจให้เจ้าเด็กนั้นเปลี่ยนจากอดิเรกให้เป็นธุรกิจแบบนี้
แม้ว่าเขาจะไม่เห็นด้วยกับธุรกิจแบบนี้ แต่เมื่อเปรียบเทียบกับสิ่งที่เจ้าเด็กนั้นเคยทำมาก่อน มันก็ถือว่าเป็นการปรับปรุงที่ดีมากเช่นกัน ดังนั้นเขาจึงไม่ได้วางแผนที่จะบังคับให้ลูกคนนี้ไปทำงานเหมือนเมื่อก่อน
อย่างไรก็ตามกลับไปที่จุดตกปลาในเวลานี้ มันได้มีอุบัติเหตุเกิดขึ้น เมื่อโจวหยูตกปลาโดยใช้เหยื่อตัวสุดท้ายที่เขามี
เมื่อตกปลาบางครั้งเขาจะตกอะไรอย่างที่แสดงด้วยเครื่องหมายคำถาม โดยปกติสิ่งเหล่านั้นจะเป็นเพียงขยะทั่วไป ในบางกรณีที่หายากพวกมันก็จะเป็นหีบสมบัติ ซึ่งเมื่อเปิดจะให้เขาวัตถุที่หายากบางอย่าง
แต่วันนี้เขากับตกคนได้!
แน่นอนว่าเป็นพลเมืองที่ของโลก ACG
“ อ่า…มันเจ็บ! นี่มันเกิดอะไรขึ้นกันเนี่ย! เจ้ากล้าวางเบ็ดบนตัวเจ้าชายมังกรองค์ที่สามได้อย่างไร!”
หลังจากที่อีกฝ่ายได้ขึ้นมาจากน้ำก็ได้เริ่มตะโกนออกมาพร้อมกับสาปแช่งอยู่ตลอดเวลา
‘รอเดี๋ยว …ชื่อของอีกฝ่ายมีคำว่ามังกรอยู่ด้วย หรือว่าอีกฝ่ายจะเป็นญาติกับเฒ่ามังกรกัน?’
เมื่อโจวหยูคิดได้แบบนั้น เขาก็รีบไปนำราชามังกรเฒ่ามาอย่างรวดเร็ว ก่อนที่เขาจะทันได้อธิบายอะไร ตัวประหลาดทั้งสองที่มีส่วนหนึ่งในชื่อว่ามังกร ก็ได้โผเข้าไปกอดกันแล้ว หากในเวลานี้มีเพลงเศร้าเล่นอยู่ด้านหลังละก็ โจวหยูจะไม่สงสัยเลยว่านี่จะต้องเป็นละครโศกนาฏกรรมเรื่องดังอย่างแน่นอน
หลังจากนั้นเขาก็ได้ข้อสรุปว่า เดิมพวกเขาทั้งคู่ต่างก็ลูกชายและพ่อกัน แต่สิ่งที่ทำให้โจวหยูสับสนก็คือทำไมพวกมันไม่อยู่ในวังในทะเลตะวันออก แต่กลับมาอยู่ในหมู่บ้านเล็กๆแห่งนี้แทน
อย่างไรก็ตามในตอนนี้จำนวนพลเมืองของโลก ACG ก็ได้เพิ่มขึ้นอีกครั้ง
เจ้าชายมังกรองค์ที่สาม: ทายาทแห่งวังมังกร มีสมบัติแปลกใหม่มากมาย ขณะนี้กำลังทำการสรรหาการ์ดสัตว์เล็กๆเพื่อแลกกับสมบัติ ยิ่งมีจำนวนดาวมากเท่าไรก็จะสามารถแลกเปลี่ยนสมบัติได้ดีเท่านั้น
คำอธิบายนี้ทำให้โจวหยูถึงกับต้องอ้าปากขึ้น เขาแทบรอไม่ไหวที่จะได้เห็นสมบัติแบบไหนที่เจ้าชายมังกรตัวอ้วนนี้มี อย่างไรก็ตามชายอ้วนกับยกหัวขึ้นและพูดอย่างระมัดระวัง “ สมบัติของวังมังกรนั้นไม่สามารถแสดงให้คนอื่นเห็นได้อย่างง่ายดาย เจ้าจำเป็นจะต้องมอบบัตรสัตว์เล็กๆมาให้ข้าก่อน และข้าจะมอบโอกาสเขย่าชามสมบัติให้ ไม่อย่างนั้นเจ้าก็อย่าคิดเลยว่าจะได้เห็นสมบัติของข้า!”
‘แม่*! นี้ไม่ได้หมายความสมบัติพวกนี้จะเป็นการแบบสุ่มอีกแล้วเหรอ?’ ในส่วนจำนวนดาวที่แตกต่างกันก็หมายถึงขนาดของชามสมบัติที่แตกต่างกัน ในแง่ของสมบัติที่เขาจะได้รับนั้นก็ยังต้องพึ่งโชคของตัวเองอยู่ดี
‘เอาละ! เลิกคิดดีกว่า ยังไงเราก็ต้องลองมันดูซักครั้ง’
ในตอนนี้เขามีการ์ดสัตว์ขนาดเล็กเหลืออยู่เยอะพอสมควร เพราะยังไงทุกครั้งที่เขาออกไปจับสัตว์ตัวเล็กๆนั้น เขาก็จะได้รับพวกมันอยู่แล้ว
และในช่วงสองเดือนที่ผ่านมาด้วยความแข็งแกร่งทางกายภาพของเขาที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว เปอร์เซ็นต์ที่เขาจะชนะเองก็ได้เพิ่มขึ้นจากหนึ่งในสิบก่อนเป็นหนึ่งในห้า
แต่การปรับปรุงที่สำคัญที่สุดคือความสามารถของเขาในการทนต่อการโจมตี แม้ว่าเขาจะยังไม่สามารถชนะการแข่งขันต่อสู้ได้ แต่เขาก็สามารถหลีกเลี่ยงการเป็น KO ในรอบแรก ยิ่งกว่านั้นเขาไม่จำเป็นต้องนอนบนเตียงของเขาตลอดทั้งวัน ถ้าเขาแพ้การแข่งขันการต่อสู้ ดังนั้นด้วยเรื่องนี้จึงไม่เป็นปัญหาสำหรับเขาที่จะรวบรวมการ์ดสัตว์ร้ายขนาดเล็กสิบใบในวันเดียว
และหลังจากบริษัทเกมบริโภคการ์ดโปรแกรมไปถึง 45 ใบ เขายังเหลือการ์ดสัตว์ขนาดเล็กอยู่ถึง 50 ใบเลยที่เดียว ดังนั้นเขาสามารถทำการจับรางวัลได้ 10 ครั้ง
ปะการัง X 6, น้ำตาของมหาสมุทร X 2, เถ้าถ่านแมนจูเรียของแมนจูเรียฮายาโอะมิยาซากิ X1, เมล็ดเปล่า X 1
ไม่จำเป็นต้องคิดเกี่ยวกับสองอย่างแรก เพราะโจวหยูไม่รู้การใช้ของพวกมัน ดังนั้นพวกมันจึงถูกโยนลงไปในห้องเก็บของทันที
เถ้าถ่านแมนจูเรียของแมนจูเรียฮายาโอะมิยาซากิ จะให้เอฟเฟ็กต์ในด้านของ “ อนิเมชั่น” ต่อเมล็ดที่ถูกโรย ซึ่งจะเป็นการเพิ่มโอกาสในเกิด “ผู้กำกับอนิเมชั่นระดับสูง”
ส่วนเมล็ดเปล่าจะสามารถดูดซับสารอาหารของดินได้ง่ายขึ้น ดังนั้นความน่าจะเป็นของการวิวัฒนาการจึงเพิ่มขึ้น
‘อืม…ไม่เลวเลย! โดยเฉพาะเมล็ดนั้น ถ้าเขาสามารถเลี้ยงผู้กำกับอนิเมชั่นได้ละก็’