The Rise of Otaku - ตอนที่ 44
บทที่ 44 การเคลื่อนย้าย
ตราบใดที่มีเงินเข้าเกี่ยวข้อง ความเร็วจะไม่เป็นปัญหาอีกต่อไป
ในวันรุ่งขึ้น ลุงโจวฟูก็ได้พาชายวัยกลางคนที่แต่งตัวในชุดสูทและดูมีความสามารถมาที่บ้านของเขา ดูจากการแต่งตัวแล้วอีกฝ่ายควรเป็นคนที่ทำงานให้กับบริษัทก่อสร้างที่ลุงโจวฟูพูดถึง
เมื่อโจวหยูเห็นคนนี้ เขารู้สึกประหม่า ผู้คนในสังคมเป็นสัตว์ที่น่ากลัวเสมอ
ชายในชุดสูทได้หยิบนามบัตรออกมาและกล่าวว่า “สวัสดีครับ! ผมชื่อว่าหลี่ฮันเซิง นี่คือนามบัตรของผม ผมรู้สึกได้ทันทีว่าคุณโจวนั้นเป็นคนที่มีความสนใจและสง่างามมาก และความคิดในการสร้างเรือนกระจกเองก็เป็นสิ่งดีอย่างมากเช่นกัน …”
การประจบประแจงของอีกฝ่ายเป็นอะไรที่เป็นมืออาชีพอย่างแท้จริง
โจวหยูได้รับนามบัตรมาอย่างเขินอายเล็กน้อย เขาไม่สามารถแนะนำตัวเองได้อย่างอีกฝ่าย ซึ่งนั้นทำให้ลุงโจวฟูผู้ซึ่งยืนอยู่ด้านข้างรู้ดีถึงเรื่องนี้ดี ดังนั้นเขาจึงได้พูดขัดจังหวะในทันที “พอเลย! นายอย่าใช้ทักษะการพูดโน้มน้าวใจของนายที่นี่ เด็กคนนี้ตั้งใจจะสร้างเรือนกระจกจริงๆ นายก็แค่ต้องช่วยเขาเลือกแผนการที่เหมาะสมที่สุด ดังนั้นนายควรเริ่มงานของนายได้แล้ว ฉันหวังว่านายคงไม่พยายามเอาเปรียบเพื่อนร่วมชั้นอย่างฉันหรอกนะ!.”
ที่แท้อีกฝ่ายก็เป็นเพื่อนร่วมชั้นของลุงโจวฟูนี้เอง เมื่ออีกฝ่ายได้ยินสิ่งที่ลุงโจวพูดเขาก็ได้เปิดกระเป๋าเดินทางออกทันที
ข้างในนั้นเองก็มีพวกกองเอกสารต่างๆ พวกมันทั้งหมดเกี่ยวกับวัสดุราคาและรูปแบบของเรือนกระจกที่พวกเขาสามารถจัดหาได้
โจวหยูไม่เข้าใจสิ่งเหล่านี้เลย ดังนั้นหลี่ฮันเฉิงจึงช่วยเขาเลือกและลุงโจวฟูเองก็จะคอยให้คำแนะนำด้านข้าง
ในแง่ของรูปแบบเรือนกระจกนั้น โจวหยูมีแปรนสร้างอาคารอยู่แล้ว เขาจึงได้เดินกลับเข้าไปในบ้านและหยิบเอกสารส่งให้อีกฝ่าย หลังจากที่หลี่ฮันเหิงเข้ามารับกระดาษและมองมัน ตาของเขาก็เบิกกว้างทันที
“โอ้พระเจ้า! ผมไม่รู้เลยว่าคุณโจวจะเป็นผู้เชี่ยวชาญในสาขานี้ คุณเคยเรียนการออกแบบสถาปัตยกรรมที่มหาวิทยาลัยมาก่อนเหรอครับ?”
เป็นที่รู้ดีว่าโจวหยูนั้นไม่มีความสามารถพวกนี้ สิ่งที่อีกฝ่ายได้รับไปนั้นคือการออกแบบจากช่างไม้บีเวอร์ ชายที่มีระดับออกแบบระดับเทพ ดังนั้นมันจึงไม่ใช้เรื่องแปลกที่แปรนนี้จะได้ถูกยอมรับว่าเป็นแบบชั้นยอด
“ไม่ครับ! นี้เป็นแบบแปรนที่เพื่อนผมช่วยออกแบบให้ คุณหลีสามารถทำตามแบบนี้ได้ไหมครับ?” ในขณะที่โจวหยูพูดออกมา เขาก็ยังได้นำเอาแบบจำลองเรือนกระจกที่ทำจากไม้มาให้อีกฝ่ายได้ดูเช่นกัน
ซึ่งไม่ต้องบอกว่าโมเดลนี้เองก็ได้รับการทำขึ้นจากฝีมือของช่างไม้บีเวอร์เช่นกัน และเมื่อเจ้าโมเดลนี้ได้ถูกนำมาโชว์มันก็ทำให้หลี่ฮันเหิงและลุงโจวหยูตกตะลึงไปทันที
ตัวโมเดลตรงหน้าของพวกเขานั้นมันเป็นอะไรที่สวยงามเป็นอย่างมาก ยิ่งไปกว่านั้นมันยังเต็มไปด้วยความงามแบบคลาสสิก มันทำให้หลี่ฮันเหิงซึ่งจบการศึกษาด้านการออกแบบสถาปัตยกรรมมาไม่สามารถแม้แต่จะละสายตาจากโมเดลนี้ได้
“อ่า!…มันไม่มีปัญหาครับ! แต่ผมขอถามได้ไหมครับว่าเพื่อนที่ออกแบบแปรนนี้ให้คุณโจวสนใจจะมาทำงานที่บริษัทของผมไหม? – บริษัทก่อสร้างของซันไชน์ของเรานั้นต้องการคนที่มีความสามารถเช่นเพื่อนของคุณจริงๆ”
‘เอ้อ! ผู้ชายคนนี้ตรงไปตรงมาจริงๆ พวกเรายังไม่ทันจะเริ่มธุรกิจกันเลย อีกฝ่ายก็ได้มาพูดถึงการจ้างคนแล้ว ‘
“เอ่อ … เรื่องนี้เองผมก็ไม่รู้เหมือนกัน แต่ดูเหมือนว่าเขาจะมีงานอยู่แล้ว … “
“อนิจจา! นั่นเป็นเรื่องน่าอายจริงๆ แต่คุณโจวโปรดส่งข้อความของเราถึงเพื่อนของคุณด้วย ถ้าเกิดว่าเขาต้องการเปลี่ยนงานเร็วๆนี้ ทางเรายินดีต้อนรับเขาเข้าร่วมกับเราได้ตลอดเวลา “
จากนั้นหลี่ฮันเหิงก็กลับมาที่ธุรกิจเดิมอีกครั้ง เขาเริ่มวัดพื้นที่อย่างรวดเร็วแล้วร่างแผนก่อสร้าง ตามที่โจวหยูคาดไว้ ราคาจะอยู่ที่ประมาณ 10000 หยวน
อย่างไรก็ตามเมื่อลุงโจวฟูได้ยินราคานี้ เขาก็เกือบอยากจะคว้าคอเพื่อนของเขาและชกอีกฝ่ายต่อหน้า ‘ทำไมราคาเรือนกระจกธรรมดาแบบนี้มันแพงนัก?’
แต่เมื่อเขาคิดว่าตัวเขาไม่ได้มีความรู้เกี่ยวกับแผนการสร้างนี้มากพอ เขาจึงไม่ได้คิดจะเข้าไปยุ้งอะไรมากนัก อย่างไรก็ตามตัวโมเดลนั้นสวยมากจริงๆ ‘ไม่น่าแปลกใจว่าทำไมทุกคนถึงพูดว่าเด็กโจวเก่งในงานไม้มาก เห็นได้ชัดว่าพวกเขาไม่ได้พูดเกินจริงเลย ‘
หลังจากที่โจวหยูชำระค่างวดงวดแรกไป ในที่สุดพวกเขาก็ตกลงกันได้ หลี่ฮันเซิงก็มีความสุขเช่นกัน แต่เขาไม่สามารถอยู่ที่นี่ได้นานนัก หลังจากคุยสั้นๆเขาก็รีบออกจากบ้านของโจวหยูไป ก่อนที่เขาจะไปนั้นเขาก็ได้บอกว่าเขาจะกลับไปรวบรวมคนงานก่อน เมื่อทุกอย่างพร้อมแล้วเขาจะเริ่มดำเนินงานทันที
หลังจากเรือนกระจกได้รับการจัดการแล้ว ในที่สุดโจวหยูก็รู้สึกว่ามีบางอย่างไม่ถูกต้อง หลังจากนั้นไม่นานเขาก็ตระหนักว่าเขาลืมถามพวกเขาเกี่ยวกับราคาเพื่อปรับปรุงบ้านเก่าของตัวเอง
“เออ!…ลุงบีเวอร์! คุณช่วยออกแบบบ้านหลังใหม่ให้ผมหน่อยได้ไหม?”
แม้แต่คนที่เป็นมืออาชีพก็ยังได้ชื่นชมงานของช่างไม้บีเวอร์ และพวกเขาก็ต้องการจ้างด้วย ดังนั้นมันจะเป็นเรื่องที่โง่มากถ้าเขาไม่ได้ให้อีกฝ่ายช่วยเขา
เมื่อเขาคิดว่าบ้านและสนามหญ้าที่ได้รับการออกแบบโดยมันจะต้องสวยงามมากขนาดไหนอยู่นั้น เขาก็ต้องตื่นจากฝันเมื่ออีกฝ่ายได้พูดขึ้นว่า
“โอเค! ค่าออกแบบ 100 เหรียญโม!”
ช่างไม้บีเวอร์ได้พูดออกมาอย่างเฉียบขาด มันไม่ได้ให้ใบหน้าของโจวหยูเลย ‘ไอ! นี้นั่นไม่ยุติธรรม! ก่อนหน้านี้มันไม่ได้ขออะไรเลยเมื่อออกแบบเรือนกระจก! แต่ทำไมตอนนี้มันถึงต้องการเงินกัน? ‘ รอยยิ้มบนใบหน้าของเขาได้แข็งค้างทันที
“ เรือนกระจกนั้นมันสำหรับทุกคน แน่นอนในฐานะพลเมืองของหมู่บ้านลู่หัว ข้าจะไม่ขอเงิน แต่การออกแบบบ้านหลังใหม่ที่มีสนามหญ้าก็เพื่อความสุขส่วนตัวของเจ้าเอง ซึ่งมันมันแตกต่างอย่างสิ้นเชิง” ช่างไม้บีเวอร์ดูเหมือนจะรู้ว่าโจวหยูกำลังคิดอะไรอยู่
‘อืม … มันก็ดูสมเหตุสมผลอยู่’
โจวหยูไม่สามารถหาเหตุผลอื่นใดที่ทำให้เจ้าสัตว์ชนิดนี้เปลี่ยนความคิดของตัวเองได้ ดังนั้นเขาจึงจ่ายเงิน 100 เหรียญโมอย่างไม่เต็มใจ
เมื่อเขาได้รับพิมพ์เขียวในวันที่สอง เขาก็รู้สึกทึ่งในทักษะของช่างไม้บีเว่อร์อีกครั้ง ปีกด้านหน้าและด้านหลังของเรือนแบบใหม่นั้นประกอบไปด้วยลานสนามหญ้าถึงสองแห่ง นี้มันยิ่งทำให้รอบๆบ้านของเขาเงียบสงบและเย็นสบายมากขึ้น มันอาจจะเรียกว่าเป็นเหมือนสวรรค์ย่อมๆก็ไม่ผิดนัก
ถ้าเขาได้อาศัยอยู่ในสถานที่แห่งนี้ มันจะเป็นอะไรที่ดีเป็นอย่างมาก และเขาคิดว่าการจ่ายเงินไปก่อนหน้านี้ 100 เหรียญโมนั้นเป็นอะไรที่คุ้มค่าอย่างมาก
……………………
หนึ่งสัปดาห์ต่อมา หลี่ฮันเหิงเองก็ได้นำวัสดุและทีมก่อสร้างมาถึง พวกเขาได้อาศัยอยู่ในโรงแรมเล็กๆใกล้หมู่บ้าน ทุกเช้าพวกเขาจะมาที่บ้านของโจวหยูเพื่อทำงานและออกไปเมื่อถึงเวลาเลิกงาน โจวหยูไม่จำเป็นต้องจัดเตรียมอาหารและที่พักให้ ดังนั้นมันจึงช่วยโจวหยูแก้ปัญหาไปได้มากมาย
การสร้างเรือนกระจกนั้นเป็นอะไรที่แตกต่างจากการสร้างบ้านเป็นอย่างมาก มันได้ใช้เวลาน้อยกว่าห้าวัน ตัวเรือนกระจกก็ได้สร้างเสร็จ
ผนังกระจกนิรภัยนั้นค่อนข้างพราวภายใต้ดวงอาทิตย์ บ้านที่โปร่งใสสมบูรณ์ทำให้พวกเด็กๆอยากรู้อยากเห็นมาก และมีคนอื่นๆอีกมากมายที่มาเยี่ยมชมเรือนกระจกทุกวัน
แต่เมื่อพวกเขาได้ยินว่าเจ้าบ้านแปลกๆหลังนี้มีราคาสูงถึงหนึ่งหมื่นหยวน มันก็ทำให้พวกเขาทั้งหมดรู้สึกตกใจจริงๆ ‘บ้านหลังเล็กๆและมันก็สูงเพียงชั้นเดียว ทำไมมันจึงมีราคาสูงขนาดนี้กัน?’
แต่นี้มันก็เป็นอีกครั้งที่แสดงให้เห็นว่า ลูกชายของโจวหงนั้นสามารถหาเงินได้มากมายจริงๆ มันไม่แปลกใจเลยว่าทำไมเขาต้องใช้เงินจำนวนมากกับเด็กๆก่อนหน้านี้
“ เฮ้อ! เด็กน้อยโจว! ทำไมเธอถึงสร้างบ้านแบบนี้ เธอไม่รู้หรือไงว่าเมื่อเธอนอนหลับในนั้นทุกคนจะเห็นเธอตลอดเวลา?” ป้าเหอหัวได้พูดถึงข้อเสียของเจ้าเรือนกระจกนี้ออกมาทันที
แต่หลังจากที่คำพูดของเธอหลุดออกมาแล้ว มันก็ทำให้ทุกคนถึงกับหัวเราะออกมาดังๆทันที โจวหยูเองก็ไม่ได้รู้สึกลำบากใจอะไรที่จะอธิบายเรื่องนี้อีกครั้งว่ามันไม่ใช่ห้องนอนของเขา เพราะเขาได้วางแผนที่จะใช้เจ้าเรือนกระจกนี้เอาไว้ใส่พวกโมเดลงานฝีมือและกระถางต้นไม้ของเขา
‘นี่เป็นงานที่น่าตื่นเต้นและน่าเบื่อหน่ายพอๆกัน’
ถึงแม้ว่าโจวหยูจะมีความรู้สึกแบบนั้น แต่เขาก็ไม่สามารถทำอะไรได้ เพราะนี้เป็นสิ่งตอบแทนที่พลเมืองของโลก ACG ทุกคนสมควรจะได้รับ และพวกเขาเองก็มีความต้องการของตนเอง ดังนั้นการวางแบบจำลองทำให้โจวหยูปวดหัวมาก
ก่อนอื่นเขาจะต้องจัดพื้นที่ใหม่และสร้างแท่นเล็กๆเอาไว้กลางเรือนกระจก จากนั้นเขาก็เริ่มวางแบบจำลองอาคารทั้งหมดบนแพลตฟอร์มนั้น
ส่วนต้นไม้กระถางทั้งหมดก็ถูกนำออกจากกระถาง ก่อนที่เขาจะนำมันมาปลูกลงบนแท่นที่เตรียมเอาไว้อีกครั้ง แน่นอนว่าการย้ายครั้งนี้มันได้ถูกดูดแลโดยเทียนเนียงทั้งหมด ดังนั้นหมั่นใจได้ว่าดอกไม้ทั้งหมดจะอยู่รอดอย่างแน่นอน
หลังจากเสร็จสิ้นการจัดวางทั้งหมด หมู่บ้านเล็กๆก็ปรากฏตัวต่อหน้าเขา มีถนนและต้นไม้และกลางแท่นยังได้วางเอาไว้ด้วยวิหารเต๋าของนกอมตะ ฐานที่สูงของมันได้กลายเป็นภูเขาของหมู่บ้านเล็กๆแห่งนี้ ด้านหน้าของตัวภูเขาขนาดเล็กนี้เองก็ได้กระจัดกระจายไปด้วยแบบจำลองอาคารอื่นๆ
ในตอนนี้สภาพหมู่บ้านนี้ยังมีขนาดเล็กไม่ใหญ่มาก แต่ในอนาคตเขามั่นใจว่ามันจะต้องมีการขยายขึ้นอย่างแน่นอน
ทางด้านของพลเมืองของโลก ACG เองก็พอใจกับสภาพแวดล้อมใหม่นี้ แต่มีอยู่สิ่งหนึ่งที่โจวหยูรู้สึกแปลกมากๆ มันคือพลเมืองสองคนแรกของโลก ACG – ราชามังกรเฒ่าและช่างไม้บีเวอร์ ดูเหมือนว่าพวกเขาจะไม่ต้องการอาศัยอยู่ในเรือนกระจกหลังนี้
“ ฮ่าฮ่าฮ่า! เจ้าไม่ต้องกังวลกับชายชราคนนี้ ไม่ใช่ว่าชายชราคนนี้ไม่ต้องการอยู่ในเรือนกระจกนี้ มันก็แค่เจ้ายังคงไม่สามารถสร้างบ้านที่ชายชราคนนี้ต้องการได้” มังกรตัวเฒ่าหัวเราะแล้วจากไป
ซึ่งหลังจากนั้นเจ้าชายมังกรตัวที่สาม ตัวอ้วนก็ได้วิ่งเข้ามาหาเขาแล้วอธิบายว่า“ พวกเราชอบอยู่ในน้ำ สถาปนิกคนเดียวที่เจ้ามีคือช่างไม้บีเวอร์เท่านั้น อย่างไรก็ตามเมื่อบ้านไม้เปียกน้ำมันก็จะเน่า ดังนั้นก่อนที่เจ้าจะหาสถาปนิกใหม่ได้ พวกข้าจะไม่สามารถอยู่ในหมู่บ้านนี้ได้”
และก่อนที่เขาจะจากไป เขายังคงพูดกับโจวหยูว่า “ พี่ชายหยู! จำไว้ว่าข้าต้องการมหาสมุทร มหาสมุทรใหญ่โตมาก!”