The Rise of Otaku - ตอนที่ 49
บทที่ 49 การกลับมาของนีเนียนตัวน้อย
เพราะโจวหยูไม่รู้แนวเกมที่กำลังเป็นที่นิยมในตลาดในตอนนี้ ดังนั้นเขาจึงได้ทำการสร้างเกมที่มีเนื้อหาที่คล้ายๆกันขึ้น ก่อนที่เขาจะเริ่มทำการปรับเนื้อหาเล็กน้อย ที่เป็นแบบนั้นก็เนื่องจากเขาต้องการที่จะตัดสินใจหลังจากที่เขาเล่นพวกมันทั้งหมด
เห็นได้ชัดว่าคนที่สามารถแบบนี้ได้จะต้องอยู่ในระดับมหาเศรษฐีน้ำมันระดับนานาชาติเท่านั้น หรือโจวหยูผู้ซึ่งได้รับการช่วยเหลือจากคนในโลก ACG
ในความเป็นจริงนี้ก็ถือว่าเป็นวิธีที่ดีเช่นกัน ตัวอย่างเช่น อาจจะนำเกมพวกนี้เป็นส่วนเสริมให้กับตัวเกมหลักได้ในภายหลัง โดยที่มันจะมีพล็อตเรื่องและแผนการที่ยอดเยี่ยมมากมาย รวมถึงอาวุธและอุปกรณ์พิเศษอย่าง
อย่างไรก็ตามหลังจากทั้งหมดนี้มันก็เป็นเกมแนวรวมทีม มันควรจึงทำเป็นเกมนี้มีผู้เล่นหลายคนเพื่อให้ทุกคนสามารถเข้าร่วมได้
หลังจากผ่านไปประมาณหนึ่งสัปดาห์ จางเฟิงก็ได้ส่งข้อความถึงเขาว่าโครงการเกมสงครามแห่งถั่วเหลืองได้ถูกจัดตั้งขึ้นเป็นที่เรียบร้อย และมันกำลังเตรียมการส่งเสริมการขายอยู่ในขณะนี้ มันอาจจะเริ่มการทดสอบเบต้าในอีกหนึ่งเดือนต่อมา และหากไม่มีปัญหาอะไรก็จะมีการเปิดตัวเกมจริงในภายหลัง
ในส่วนอื่นนั้นทางเว็บไซต์ฉันเป็นโอตาคุจะจัดหาเซิร์ฟเวอร์และทีมการตลาดให้กับเกม และจะเป็นผู้ให้บริการหลักของเกมนี้ต่อไป
นี้ดูเหมือนว่าเขาจะไม่ถูก “คุกคาม” โดยจางเฟิงไปอีกสักพัก เพราะสำหรับเขาแล้วการอ่านข้อความที่ส่งมาจากผู้ชายคนนั้นและการหาวิธีตอบเขาทุกวันมันทำให้โจวหยูปวดหัวมาก
………………………
ในพริบตาฤดูใบไม้ร่วงกำลังจะผ่านไปและหลังจากนั้นก็มีฝนตกเล็กน้อย มันทำให้อากาศเริ่มเย็นลง เมื่อวานนี้ฝนเองก็ได้ตกมา มันจึงไม่มีการจัดโรงหนังกลางแจ้งขึ้นมา
และด้วยเหตุนี้โจวเฮาจึงอารมณ์เสียมาก ในขณะที่เขาและลูกสมุนของเขากำลังทำความสะอาดน้ำในบ้านของพี่ชายหยู พวกเขาก็มักจะบ่นว่าทำไมพระเจ้าไม่ยุติธรรมอย่างงี้หรือว่าทำไมพระเจ้าถึงต้องทำแบบนี้ พวกเขาได้ใช้ความพยายามอย่างมากในการทำการบ้านให้เสร็จแล้วทำไมพระเจ้าต้องแกล้งกันด้วย นี้พระเจ้าคิดว่าการบ้านนั้นมันทำได้ง่ายๆเหรอไง?
การ์ตูนอนิเมชั่นของโจวหยูนั้นยังไม่ค่อยเป็นที่รู้จักของคนนอกมากนัก แต่มันกับเป็นอะไรที่โด่งดังมากในพื้นที่รอบหมู่บ้านลู่หัว
ตราบใดที่เด็กๆที่เข้าเรียนที่โรงเรียนประถมลู่หัว ไม่มีเด็กคนไหนที่ไม่รู้เกี่ยวกับโรงหนังของพี่ชายหยู ทุกวันเสาร์ซึ่งเป็นวันที่โรงหนังกลางแจ้งเปิด เด็กๆที่เคยได้ยินเรื่องโรงหนังจะมาที่บ้านของพี่ชายหยูอย่างไม่หยุดหย่อน
ดังนั้นเมื่อเกิดเหตุการณ์อย่างฝนในฤดูใบไม้ร่วงขึ้นมา มันจึงทำให้พวกเด็กจึงบ่นเกี่ยวกับเรื่องนี้อยู่ตลอดเวลา
มีช่องระบายน้ำในบ้าน แต่เนื่องจากไม่มีใครใช้มันเป็นเวลานาน มันจึงได้ถูกปิดโดยใบไม้ วัชพืชและตะกอนต่างๆ ดังนั้นเมื่อฝนตมาเมื่อวานนี้มันจึงทำให้กลานจะเต็มไปด้วยน้ำ โจวเฮาและกลุ่มลูกสมุนของเขากำลังถือแท่งไม้ไผ่ยาวพยายามทำความสะอาดช่องทางระบายน้ำนี้อย่างขะเขม่น
ในแง่ของโจวหยู โอตาคุที่ขี้เกียจคนนี้กำลังแปรงฟันอยู่ เขาไม่ได้มีเจตนาที่จะยกย่องกับการกระทำนี้ของเด็กๆที่กำลังช่วยเหลือเขา นับประสาอะไรที่เขาจะเข้าร่วมกับพวกนั้นเพื่อทำความสะอาดช่องทางระบายน้ำด้วย
“พี่ชายหยู! วันนี้ทำไมพี่ถึงไม่ฉายการ์ตูนเรื่องใหม่ให้พวกเราดูเป็นการชดเฉยละครับ”
เห็นได้ชัดว่าเจ้าเด็กโจวเฮายังไม่อยากยอมแพ้ในเรื่องนี้ ตั้งแต่การฉายภาพยนตร์อนิเมชั่น “ฟอซ่า” ถูกปล่อยออกไป มันก็ทำให้เจ้าตัวได้รับประสบการณ์ที่ยอดเยี่ยมในการเป็นดาราดัง ในโรงเรียนทุกคนต่างก็รู้ว่าเขาเป็นตัวเอกของภาพยนตร์อนิเมชั่งฟอซ่า แม้ว่านี้จะไม่ใช่เขาที่เป็นคนแสดงจริงๆ แต่หลายคนก็ยังอิจฉาหรือชื่นชมเขา
‘เล่นตูดฉันนี้! ถ้าฉันทำแบบนั้นจริงๆ ฉันก็เตรียมตัวโดยหัวหน้าหมู่บ้านและครูหูด่าได้เลย! ไอ้เด็กคนนี้คิดจะสร้างปัญหาให้ฉันจริงๆ’
โจวหยูได้ปฏิเสธออกไปอย่างโหดเหี้ยม
อย่างไรก็ตามเมื่อไม่นานมานี้หลังจากที่ครูหูได้เห็นภาพยนตร์อนิเมชั่นที่โจวหยูฉายออกมา ในฐานนะอาจารย์ เขาคิดว่านี้เป็นอะไรที่ดีต่อเด็กๆเป็นอย่างมาก พวกมันยังมีคุณค่าทางการศึกษาและมีเสน่ห์ต่อเด็กๆมากกว่าอนิเมชั่นที่กรมการศึกษาส่งมาให้ด้วยซ้ำ
อย่างไรก็ตามมันก็มีบางสิ่งที่ทำให้อาจารย์หูรู้สึกแปลกๆ นั้นก็คือเขาไม่สามารถค้นหาภาพยนตร์เหล่านี้ได้ในเมือง แม้ว่าเขาจะไปร้านวิดีโอที่ใหญ่ที่สุดในเมืองแล้วก็ตาม เขาก็ยังหามันไม่เจอ เมื่อเขาได้ลองถามพนักงานที่ทำงานที่นั่น อีกฝ่ายก็ทำเพียงส่ายหัวเป็นการปฏิเสธออกมาหรือไม่ก็หยิบวิดีโอออกมาจำนวนมากซึ่งพวกมันก็ไม่ใช่วิดีโอที่เขามองหา
เขายังได้มีความคิดที่จะลองไปขอการ์ตูนอนิเมชั่นนี้จากโจวหยูเช่นกัน แต่เมื่อเขาเห็นว่าอีกฝ่ายได้ใช้เจ้าเครื่องฉายหนังแบบโบราณแล้ว ความคิดนี้ก็ได้ถูกลบทิ้งลงไปทันที
และการที่จะขอให้โจวหยูที่เป็นคนรวยมาช่วยฉายการ์ตูนที่โรงเรียนทุกวัน มันก็ดูเป็นอะไรที่เป็นการลบกวนเกินไป ดังนั้นในที่สุดเขาก็ได้ยอมแพ้ไปเท่านั้น
หลังจากล้างหน้าเสร็จแล้ว โจวหยูก็กำลังคิดว่าเขาควรออกไปจับสัตว์เล็กๆซักสองตัวหรือไม่ แต่ทันใดนั้นเขาก็เห็นเรือเหาะกำลังบินมาที่บ้านของเขา ขณะที่เขาก้มศีรษะลงเล็กน้อยเพื่อใช้สายตาของโลกแห่งความจริงมอง เจ้าเรือเหาะก็ได้หายตัวไป ดังนั้นมันจึงเป็นเรือเหาะของโลก ACG อย่างไม่ต้องสงสัย
ในเรือนกระจกดอกไม้ มีเพียงตัวแทนการท่องเที่ยวเท่านั้นที่มีเรือเหาะ ซึ่งก่อนหน้านี้ชาวบ้านในโลก ACG ก็พึ่งจะใช้เป็นพิเศษเพื่อเดินทางไปยังสถานที่ที่ไม่รู้จักมา และตอนนี้เจ้าเรือเหาะลำนั้นเองก็ได้กลับมาแล้วเมื่อวานนี้ ดังนั้นมันจึงเป็นไปไม่ได้ว่าจะเป็นเรือเหาะของเขา แล้วมันเป็นเรือเหาะของใครกัน?
เรือนกระจกดอกไม้นั้นมีความแข็งแกร่งมาก แต่มันก็ไม่สามารถกันการเข้ามาของเรือเหาะของโลก ACG ได้ ตัวเรือเหาะปริศนานั้นได้บินผ่านกระจกโดยตรงและจอดอยู่ในพื้นที่เปิดโล่งที่สงวนไว้ในหมู่บ้าน
ทันทีที่โจวหยูเข้ามาในเรือนกระจก เขาก็เห็นกลุ่มคนตัวเล็กที่ถืออุปกรณ์ถ่ายภาพที่หลากหลายออกมาจากเรือเหาะ เห็นได้ชัดว่าพวกนั้นจะต้องกำลังถ่ายทำอะไรอยู่อย่างแน่นอน? ก่อนที่เขาจะสังเกตเห็นเด็กหนุ่มคนหนึ่ง นั้นก็คือ นีเนียน ตัวน้อย
ชาวบ้านในโลกของ ACG เองก็ค่อยๆเดินออกจากบ้านไปทีละคน ราชามังกรเฒ่าได้บินมาพร้อมกับลากเจ้าชายมังกรองค์ที่สามซึ่งยังหลับอยู่ด้วย อาจจะบอกว่าการที่ไอดอลคนแรกของหมู่บ้านลู่หัวอย่างนีเนียนตัวน้อยกลับมานั้น มันเป็นอะไรที่สำคัญกับพวกเขาเป็นอย่างมาก
นีเนียนน้อยได้ออกเดินทางไปได้สักพัก และก่อนหน้านี้โจวหยูเองก็ไม่มีวิธีการติดต่อไป ดังนั้นเขาจึงไม่เคยได้รับข่าวเกี่ยวกับอีกฝ่ายเลย
แต่มาวันนี้กลับมีผู้คนมากมายที่กลับมาพร้อมเขา นี้อาจจะเป็นเพราะอาชีพของเขาประสบความสำเร็จหรือไม่? และตอนนี้เขาเองก็เป็นผู้มีชื่อเสียงที่ยิ่งใหญ่แล้วเหรอ?
เมื่อคิดแบบนั้นมันก็ช่วยไม่ได้ที่โจวหยูจะมีความสุขมาก ท้ายที่สุดอีกฝ่ายก็ถือว่าเป็น “ลูกชายคนโต” ของเขา
และดูเหมือนว่านีเนียนเองก็ไม่ได้เปลี่ยนแปลงมากนัก จริงๆแล้วเขาก็เพิ่งจากไปเพียงสองสามเดือนเท่านั้น ดังนั้นจึงเป็นเรื่องปกติที่เขาจะไม่ได้เปลี่ยนแปลงอะไรมากมาย
“คุณคือโจวหยูหรือเปล่า? ผมคือเซียวฮวนเป็นประธานบริษัทจัดการไอดอลจักวาล! ผมมีความสุขมากที่ได้พบคุณในครั้งนี้”
ชายผู้พูดเป็นชายหนุ่มที่ดูเหมือนว่าเจ้าตัวจะมีอายุเท่ากับโจวหยู อย่างไรก็ตามบางทีด้วยการที่อีกฝ่ายมีประสบการณ์การทำงานมากมาย มันจึงทำให้เขาดูมั่นคงกว่า
เนื่องจากอีกฝ่ายเป็นเจ้านายของนีเนียนตัวน้อย แน่นอนโจวหยูต้องปฏิบัติต่อเขาอย่างดี เพื่อไม่ให้นีเนียนตัวน้อยของเขาถูกแช่แข็ง
ในที่สุดหลังจากการพูดคุยกันแบบคราวๆ มันก็ทำให้เขาก็รู้ว่าทำไมอีกฝ่ายถึงได้มาที่นี่
มันเป็นเพราะอีกฝ่ายกำลังเตรียมที่จะถ่ายละครดราม่าวัยรุ่นขึ้นมา ซึ่งตัวละครหลักคือนีเนียนตัวน้อยนั้นเอง และนักแสดงจากบริษัท
อย่างไรก็ตามบริษัท จัดการไอดอลจักวาล นั้นถือว่าเป็นบริษัทที่ยากจน พวกเขาไม่สามารถที่จะเช่าสถานที่ถ่ายทำได้ และในที่สุดหลังจากที่พวกเขาคิดหาทางกัน พวกเขาก็คิดถึงบ้านเกิดของลูกชายคนโตของโจวหยูได้ และพวกเขารู้ว่าโจวหยูนั้นสามารถสร้างอุปกรณ์ประกอบฉากของโลก ACG ได้ พวกเขาจึงได้มาขอร้องให้เขาช่วยสร้างฉากประกอบฉากให้พวกเขา
โจวหยูที่ได้ฟังแบบนั้นก็ถึงกับพูดไม่ออก มันไม่น่าแปลกใจที่บริษัทนี้จะลงทะเบียนไอดอลคุณภาพต่ำอย่างนีเนียนก่อนหน้านี้ เห็นได้ชัดว่าอีกฝ่ายกำลังจะล้มละลาย ซีรีส์ทีวีนี้อาจเป็นความพยายามครั้งสุดท้ายในการสร้างรายได้ของพวกเขา
ถึงแม้ว่าเขาจะคิดได้แบบนั้น แต่เขาก็ไม่สามารถตอบปฏิเสธได้อยู่ดี เพราะสำหรับอนาคตของนีเนียนน้อยแล้วเขาจำเป็นจะต้องช่วย
มันก็เป็นเพียงอุปกรณ์ประกอบฉากภาพยนตร์เท่านั้น ด้วยมีช่างไม้บีเวอร์ผู้ที่มีทักษะระดับเทพและลิงช่างหินระดับเทพ เขาไม่เชื่อว่าเขาจะไม่สามารถสร้างมันได้
“ ใช่! พอดีว่าทางผมเองก็มีผู้กำกับอยู่ ไม่รู้ว่าคุณเซียวสนใจไหม?”
เนื่องจากเขาได้ตัดสินใจที่จะช่วยแล้ว มันก็จำเป็นที่เขาจะต้องช่วยให้ถึงที่สุด และเขามั่นใจว่าหยางกู่ที่เป็นน้อยชายจะต้องยินดีช่วยพี่ชายอย่างแน่นอน ถึงแม้ว่าตัวของน้องชายจะดูแก่กว่าผู้พี่ไปมากก็ตาม
ผู้อำนวยการสร้างเซี่ยฮวนที่ได้ฟังแบบนั้นก็ถึงกับตื่นเต้นออกมาเป็นอย่างยิ่ง “ เยี่ยมมาก! ก่อนหน้านี้ผมก็กำลังคิดอยู่เลยว่าจะไปหาสปอนเซอร์ที่ไหนมาจ้างผู้กำกับได้ อย่างไรก็ตามปัญหาทั้งหมดได้รับการแก้ไขแล้ว คุณโจวมันใจได้เลยว่าถ้าซี่รี่เรื่องนี้ได้รับออกฉายแล้ว ผมจะต้องตอบแทนคุณโจวอย่างงามแน่นอน! “
‘เออ!… ตราบใดที่บริษัทของแกสามารถอยู่รอดได้นานกว่านี้ และทำให้นีเนียนของฉันไม่ตกงานนั่นก็เพียงพอแล้ว’ โจวหยูได้คิดขึ้นใน