The Rise of Otaku - ตอนที่ 61
บทที่ 61 ทีน่าสาวใช้
แม้ว่าทางเข้าของถ้ำแห่งความมืดนั้นสูงพอที่เจ้าเดียนเดียนจะเข้าไปได้ แต่ดูเหมือนว่าเนินเขาที่มีขนาดเท่ากะละมังนี้จะไม่มีพื้นที่มากพอสำหรับให้นักผจญภัยใช้ในการสำรวจ เป็นไปได้ไหมว่าจะมีอีกโลกหนึ่งในนั้น?
โจวหยูที่มีความอยากรู้อยู่เต็มอก ก็ได้ลองนำไฟฉายไปฉายในนั้นด้วยความอยากรู้อยากเห็น แต่ก่อนที่เขาจะเห็นได้ชัดว่ามีอะไรอยู่ในนั้น เขาก็ได้ยินเสียงตะโกนดังออกมาจากในถ้ำ จากนั้นก็ตามมาด้วยกลุ่มคนที่มีขนกระเซิงใส่หนังสัตว์ต่างๆวิ่งออกมาจากถ้ำแล้วยิงธนูลูกศรเล็กๆใส่เขา ยังมีบางคนที่ร้องตะโกนโหยหวนดังๆก่อนที่จะพุ่งเข้าหาเขาด้วยอาวุธที่ทำจากหิน อย่างไรก็ตามเนื่องจากพวกเขาไม่สามารถออกจากถ้ำไปไกลมากได้ มันจึงทำให้พวกเขาทำได้เพียงตะโกนใส่โจวหยูที่ขอบเนินเขาเท่านั้น
การถูกยิงด้วยลูกธนูนั้นเจ็บปวดอย่างน่าประหลาดใจ มันเหมือนกับถูกยุงกัด เมื่อมีร่างกายที่สามารถโต้ตอบกับทั้งความเป็นจริงและโลก ACG ได้ มันจึงทำให้โจวหยูกลายเป็นคนในโลกแห่งความจริงเพียงคนเดียวที่ถูกโจมตีโดยคนจากโลก ACG
เมื่อคิดว่าเขาไม่ควรกระตุ้นกลุ่มคนแปลกนี้ไปมากกว่านี้อีก เขาจึงได้ตัดสินใจที่จะปิดไฟฉายลง คราวนี้กลุ่มโจรก็ได้เงียบลงในที่สุด พวกมันต่างก็เลิกรวมตัวกันอย่างช้าๆและเดินกลับไปที่ถ้ำ ในแง่ของจำนวนอีกฝ่ายโจวหยูนับได้ประมาณยี่สิบถึงสามสิบคน และอุปกรณ์ของพวกนั้นเองก็ยังเป็นอะไรที่หยาบเป็นอย่างมาก แน่นอนว่านี้เป็นดันเจี้ยนระดับมือใหม่เท่านั้น มันอาจใช้เป็นสถานที่ฝึกเหล่านักผจญภัยมือใหม่
ในขณะเดียวกันเจ้าเดียนเดียนก็ออกมาในที่สุด
เมื่อโจวหยูมองไปที่มันอย่างระมัดระวัง เขาก็รู้สึกตกใจกับสิ่งที่เห็นเป็นอย่างมาก ในตอนนี้เจ้าเดียนเดียนได้มีอุปกรณ์มากมายบนร่างกาย
ด้วยอานม้า เกราะ และบังเหียนที่สร้างโดยแจ็ค ทำให้เจ้าเดียนเดียนดูเป็นเครื่องจักรสังหารมากขึ้น แม้แต่จงอยปากและกรงเล็บของมันยังมีการติดตั้งชุดเกราะเหล็กเข้าไปอีกด้วย เมื่อรวมทุกอย่างเข้าด้วยกันตอนนี้เจ้าเดียนเดียนดูเหมือนไก่นักสู้ในตำนานเป็นอย่างมาก
แจ็คเองก็ได้นั่งอยู่ด้านหลังของเจ้าเดียนเดียนเช่นกัน แต่โจวหยูเห็นว่ามันไม่ได้ใช้ดาบขนาดเล็กเหมือนเดิม มันกลับกลายเป็นหอกที่ใช้ในการต่อสู้บนหลังม้าแทน บวกกับชุดเกราะเต็มตัวมันยิ่งทำให้อีกฝ่ายดูเหมือนคนเหล็กที่พร้อมจะโจมตีทุกคนที่ขวางทาง ด้วยชุดแบบนี้มันเกินพอที่จะใช้ข่มขู่ทุกคน
การติดอาวุธครั้งใหญ่นี้อาจจะเป็นครั้งแรกของเจ้าเดียนเดียน จะสังเกตเห็นว่าตลอดเวลามันจะสะบัดตัวเล็กน้อยดูเหมือนว่ามันจะรู้สึกอึดอัด
“เจ้าของที่ดิน! โปรดช่วยดูแลผับของข้าด้วย ข้าสัญญาว่าจะกลับมาเร็วๆนี้”
เสียงของแจ็คนั้นฟังดูผ่อนคลายมาก การเอาชนะกลุ่มโจรเล็กๆนี้อาจจะเป็นอะไรที่ไม่จำเป็นต้องใช้ทักษะของเขามากนัก หลังจากพูดจบลงเจ้าเดียนเดียนก็มุ่งหน้าไปยังถ้ำแห่งความืดทันที คราวนี้โจวหยูก็จะได้ดูว่าพวกเขาต่อสู้กันอย่างไร
ใต้แสงไฟของไฟฉาย โจวหยูเห็นว่าขนาดของเจ้าเดียนเดียนค่อยๆลดลงหลังจากเข้าไปในถ้ำ และในที่สุดมันก็หดตัวจนมีขนาดใหญ่เพียงหนึ่งเซนติเมตร ด้วยขนาดนี้มันสามารถเริ่มต้นการผจญภัยที่น่าอัศจรรย์ได้ โชคไม่ดีที่หลังจากนั้นไม่นายทั้งคู่ก็ได้เดินลึกเข้าไป
มันทำให้โจวหยูไม่สามารถเห็นได้ว่าทั้งคู่จะทำการต่อสู้ยังไง ดังนั้นเขาจึงได้นำหูของเขาเข้าไปใกล้ถ้ำหลังจากผ่านไประยะหนึ่งมีเสียงต่อสู้และเสียงร้องของเจ้าเดียนเดียนดังขึ้นมา แต่เสียงส่วนใหญ่เป็นเสียงกรีดร้องของเหล่าโจรมากกว่า หลังจากเสียงทั้งหมดหายไปเจ้าเดียนเดียนก็ค่อยๆปรากฏตัวขึ้นที่ปากถ้ำอีกครั้ง
เมื่อเห็นแบบนั้นโจวหยูก็รีบสังเกตมันโดยตรง ก่อนที่เขาจะเห็นว่าไม่มีรอยแผลบนร่างกายเลย แม้แต่แจ็คเองก็ไม่มี มันเหมือนกับว่าพวกเขาทั้งสองไม่ได้เข้าไปปราบกลุ่มโจรมา แต่พวกเขากำลังพึ่งไปเยี่ยมญาติของพวกเขายังไงยั้งงั้น
โชคดีที่การออกมาของพวกเขาไม่มีหัวของพวกโจวอยู่ในมือด้วย ถ้ามันมีอะไรแบบนั้นจริงๆมันคงเป็นอะไรที่ไม่น่าดูเป็นอย่างมาก แต่หลังจากนั้นไม่นานความประหลาดใจของโจวหยูก็ถูกจุดขึ้นมาอีกครั้ง เพราะด้านหลังของแจ็คนั้นดูเหมือนว่าจะมีคนอีกคนบน เธอเป็นเด็กสาว ที่สำคัญที่สุดเธอสวมชุดแม่บ้านอยู่ในตอนนี้?
‘อย่าบอกฉันว่าหัวหน้าของกลุ่มโจรเป็นสาวใช้นะ?’
โชคดีที่แจ็คได้ทำการอธิบายว่า “ชื่อของเธอคือทีน่า เธอถูกลักพาตัวไปโดยกลุ่มโจรก่อนหน้านี้ และเธอยังไม่รู้ว่าบ้านเกิดของเธออยู่ที่ไหน ดังนั้นข้าจึงได้ชักชวนเธอมาเป็นพนักงานเสิร์ฟในผับของเราในอนาคต “
‘พระเจ้า! นายเป็นคนโชคดีมาก แค่การผจญภัยที่เรียบง่ายแค่นี้ เขาถึงกับสามารถรับสมัครคนงานได้ ‘
หลังจากที่อ่านข้อมูลทั้งหมดของอีกฝ่าย เขาก็รู้ว่าอีกง่านชื่อว่าทีน่า อายุเพียงสิบสามหรือสิบสี่ปี เธอดูบริสุทธิ์และน่ารักกว่าในชุดแม่บ้าน แต่ดูเหมือนเธอจะไว้ใจแจ็คเท่านั้น ดังนั้นตลอดเวลาเธอมักจะซ่อนอยู่ด้านหลังของแจ็คเท่านั้น เธอไม่กล้ามองคนอื่นเลย ดูเหมือนว่าตอนนี้เขาจะไม่มีทางสื่อสารกับเธอได้ มันคงต้องให้เวลากับอีกฝ่ายเท่านั้น
ส่วนผลประโยชน์ที่ได้รับจากการเครียถ้ำแห่งความมืดในครั้งนี้ นอกเหนือจากแม่บ้านโลลิแล้วยังมี – เหรียญโม 320 เหรียญ เมล็ดพันธุ์นักผจญภัย ชุดสูทบรีแกนที่ขาดรุ่งริ่ง หากเขาสามารถมีวันรายได้แบบนี้ทุกวัน มันจะเป็นอะไรที่ดีเป็นอย่างมาก
อย่างไรก็ตามความฝันนี้ถูกทำลายโดยแจ็ค
แจ็ดได้บอกเหตุผลว่าตัวเขานั้นเป็นนักผจญภัยที่เกษียณแล้ว ดังนั้นจึงไม่ต้องการเดินทางต่อไปในการผจญภัยนี้อีก คราวนี้ที่มันลงไปเครียก็เพราะต้องการให้เจ้าเดียนเดียนทำความคุ้นเคยกับภูมิประเทศเท่านั้น เพราะต่อไปในอนาคตเมื่อใดก็ตามที่มีคุกใต้ดินใหม่เกิดขึ้น หน้าที่ที่จะต้องไปตรวจสอบจะมีเพียงเจ้าเดียนเดียนเท่านั้น
นั่นหมายความว่าต่อไปในอนาคตโจวหยูจำเป็นต้องฝึกฝนนักผจญภัยด้วยตัวเองหรือเขาต้องรอให้นักผจญภัยจากที่อื่นมาเยี่ยมชมที่นี่ได้เท่านั้น
ส่วนเมล็ดพันธุ์นักผจญไม่สามารถใช้ได้ในตอนนี้ เนื่องจากเขายังไม่มีจอบที่เกี่ยวกับมัน การที่จะปลูกเมล็ดนี้ลงไปในดินแบบปกติไม่มีทางเป็นไปได้ ดังนั้นในตอนนี้เขาจึงทำได้เพียงเก็บมันไว้ในห้องเก็บของและค่อยๆรอให้จอบที่เหมาะสมปรากฏขึ้นได้เท่านั้น
………………………
เมื่อเร็วๆนี้หนูน้อยโจวเฮาและลูกน้องของเขาต่างก็มาเยี่ยมเจ้าเดียนเดียนบ่อยมาก มันไม่ได้มีเหตุผลพิเศษอื่นใดนอกจากที่เจ้าเดียนเดียนนั้นมีการแต่งตัวที่เจ๋งเกินไป!
ไม่มีใครรู้ว่าพี่ชายหยูได้รับแรงบันดาลใจมาจากไหน แต่เขาได้เตรียมชุดเกราะที่ดีมากสำหรับเจ้าเดียนเดียน หลังจากสวมใส่แล้วมันก็เหมือนสายพันธุ์ไก่นักสู้เป็นอย่างมาก
การสวมชุดเกราะของเจ้าเดียนเดียนกำลังลาดตระเวนในสนามอย่างช้าๆและสบายๆเหมือนคนทั่วไปที่กำลังตรวจสอบอาณาเขตของตัวเอง มันทำให้เด็กๆต่างตกใจกับสิ่งที่เกิดขึ้น ไม่มีใครสามารถจินตนาการได้ว่าใช้เวลาเพียงน้อยกว่าหนึ่งเดือนเจ้าเดียนเดียนจะกลายเป็นสง่างามแบบนี้
แต่มันก็มีคำถามเกิดขึ้นกับพวกเขาเช่นกัน นั้นก็คือทำไมมันจะต้องมีอานติดอยู่ด้วยกัน? ใครมันจะสามารถขี่ไก่ได้?
‘ไม่มีใครรู้ว่าพี่ชายหยูคิดอะไรอยู่’
ตอนนี้เจ้าเดียนเดียนได้ทำหน้าที่เป็นผู้พิทักษ์บ้านของโจวหยูอย่างเต็มตัว สำหรับพวกหนูแล้วนี้ถือว่าเป็นหายนะเลยก็ว่าได้ ไม่ว่าเมื่อใดก็ตามที่พวกมันพบเจ้าเดียนเดียนพวกมันจะพยายามวิ่งหนีอย่างรวดเร็ว
และนั้นทำให้โจวหยูมักจะเห็นเจ้าเดียนเดียนไล่จับหนูไปทั่วบ้าน มันสามารถฆ่าพวกมันได้หลายตัวในหนึ่งวัน ในอัตรานี้หนูเหล่านั้นซึ่งเคยอาศัยอยู่ในชีวิตที่มีความสุขสบายจะถูกกำจัดโดยเจ้าเดียเดียนในไม่ช้า
อย่างไรก็ตามมีสิ่งหนึ่งที่โจวหยูไม่เข้าใจ แจ็คเองก็เป็นหนูเหมือนกัน และเขาก็ยังเป็นผู้ฝึกสอนของเจ้าเดียนเดียนด้วยแล้วทำไมเจ้าเดียนเดียนถึงชอบฆ่าหนูกัน?
หรือว่าบางทีความไม่พอใจทั้งหมดในการฝึกอบรมจะถูกระบายออกมาในรูปแบบนี้กัน? มันทำให้เขาไม่สามารถอดคิดแบบนี้ไม่ได้
นอกเหนือจากรูปลักษณ์ที่น่าประทับใจแล้ว เจ้าเดียนเดียนเองก็ยังเชื่อฟังเช่นกัน ครั้งหนึ่งมีเด็กหญิงตัวเล็กๆ สองคนที่อยากจะวาดภาพของมัน มันก็ยินดีที่จะยืนนิ่งๆอยู่นานถึงสิบห้านาที
ดังนั้นในไม่ใช้ไก่หุ้มเกราะก็มีชื่อเสียงขึ้นมา
เมื่อพูดถึงสิ่งที่โด่งดังที่สุดที่เจ้าเดียนเดียนเคยทำ มันคงจะเป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา ในเหตุการณ์นี้การแสดงของเจ้าเดียนเดียนได้ทำลายมุมมองของทุกคนอย่างสิ้นเชิง …