The Rise of Otaku - ตอนที่ 73
บทที่ 73 ออกจากหมู่บ้านอีกครั้ง
ศิลปินการ์ตูนที่เลอะเทอะ ศิลปินมังงะด่างพร้อย ศิลปินการ์ตูนฆ่าตัวตาย ศิลปินที่ไม่เคยส่งผลงาน ศิลปินวาดตกอับ … โจวหยูได้รับแต่ศิลปินไร้ประโยชน์ทั้งนั้นตลอดการสุ่มอย่างต่อเนื่อง และนั้นทำให้เหงื่อได้เริ่มไหลออกมาเต็มหน้าหน้าผากของเขา
‘WTF วันนี้ไม่ใช่วันของฉันจริงๆ นี่เป็นความโชคร้ายอะไรแบบนี้ ‘
การที่ต้องทนเห็นเหรียญโมที่ตัวเองเก็บเอาไว้ได้ลดน้อยลงไป ถ้าเป็นตามปกติแล้วเขาจะหยุดและล้างมือพร้อมกับสวดมนต์ต่อพระเจ้าแล้วรอจนกระทั่งวันรุ่งขึ้นเพื่อเริ่มใหม่อีกครั้ง แต่ดูเหมือนว่าวันนี้โจวหยูจะกลายเป็นคนเสียสติไปแล้ว เขาถึงกับไม่สนใจเหรียญโมที่ลดลงเลย กลับกันเขาได้ทำการสุ่มต่ออย่างบ้าคลั่ง เขาไม่เชื่อว่าเขาจะไม่สามารถหาสิ่งที่ดีได้
แน่นอนว่าถ้ามีเรื่องไม่ดีเกิดขึ้นแล้วมันก็จะติดตัวไปตลอดทั้งวัน โจวหยูยังคงสุ่มเพิ่มอีกห้าถึงหกครั้ง แต่มันก็เป็นเรื่องน่าเศร้ายิ่งกว่าเดิม ทุกรอบที่เขาสุ่มลงไปนั้นมันกับมีเพียงศิลปินมังงะที่มีผลกระทบเชิงลบเท่านั้น
“… ” โจวหยูได้ยอมแพ้ในที่สุด ดูเหมือนว่าเขาจะต้องรอให้ผ่านช่วงเวลานี้ไปก่อน
บทเรียนในครั้งนี้ช่างทำให้เขาเจ็บปวดเป็นอย่างมาก มันทำให้โจวหยูถึงกับไม่กล้าทำตัวเป็นคนร่ำรวยอีกแล้ว ที่จริงแล้วถึงแม้ว่าเขาจะมีความกล้ามากกว่านี้ เขาก็ไม่มีเหรียญโมเพียงพอที่จะทำมันอีกต่อไป ดังนั้นเพื่อที่จะหายจากอาการโมโหนี้ เขาจำเป็นที่จะต้องรีบไปหาที่ระบายโดยด่วนที่สุด
ทันใดนั้นเขาก็มีความคิดขึ้นมา พ่อแม่และปู่ย่าของเขาได้กลับไปที่เมืองแล้ว ในช่วงเวลาที่ผ่านมาเขาไม่ได้ออกไปจับสัตว์เล็กๆเลย และนั้นทำให้เขาเกือบลืมเรื่องนี้ไปแล้ว! ดังนั้นนี้ก็ถือว่าเป็น ฤงามยามดี ที่เขาจะเริ่มทำมันแล้ว
ทักษะเองก็ถูกเปิดใช้งาน – ชีวิตในฝัน: สัตว์นักล่าอัจฉริยะ:” มีความน่าจะเป็น 60% ที่สัตว์ขนาดเล็กจะยอมแพ้โดยไม่ต้องต่อสู้
ในสองชั่วโมงนี้ได้ผลลัพธ์ที่ยอดเยี่ยม แม้ว่าสัตว์ขนาดเล็กบางตัวจะไม่ยอมยอมแพ้ภายใต้พลังอันทรงพลังของอาชีพนี้ แต่ความสามารถของพวกมันก็ลดลงถึง 60% ซึ่งทำให้พวกมันกลายเป็นเป้าหมายที่ง่ายสำหรับโจวหยู แม้แต่สัตว์กังฟูขนาดเล็กที่มักจะทรมานเขาบ่อยที่สุดในอดีตก็ไม่อาจเทียบได้กับเขาในวันนี้ เขาสามารถเอาชนะพวกมันได้อย่างมีความสุข
หลังจากสองชั่วโมงของการทรมานพวกสัตว์ขนาดเล็ก ในที่สุดเขาก็หมดความสามารถและความหงุดหงิดแต่เดิมของเขาก็หายไป เขาลงเอยด้วยการมีการ์ดสัตว์เล็กระดับ 1 หลายร้อยใบ ในหมู่พวกมันมี 20 หรือ 30 ใบที่เป็นการ์ดอนิเมชั่นและการ์ดเขียนโปรแกรมซึ่งทั้งสองถือว่าเป็นการ์ดหายากมาก
แต่มันก็ยังมีเรื่องที่น่าปวดหัวเช่นกัน ด้วยจำนวนการ์ดที่มากขนาดนี้ มันทำให้เขาไม่สามารถจัดเก็บพวกมันได้หมด ดังนั้นเพื่อเป็นการแก้ปัญหานี้เขาจึงได้คิดไปถึงเจ้าชายมังกรอ้วนเพื่อแลกเปลี่ยนบางสิ่งจากชามสมบัติของมัน เนื่องจากก่อนหน้านี้เขาไม่มีโชคในการรับสมัครคน ไม่แน่ว่าวันนี้เขาอาจจะโชคดีในในการสุ่มชามสมบัติก็ได้
น่าเสียดายที่วันนี้เป็นวันที่เลวร้ายของโจวหยูจริงๆ สิบครั้งแรกของการสุ่มขามสมบัติเขาได้รับเพียงขยะไร้ค่าเท่านั้น เมื่อเห็นว่าสถานการณ์มันได้กลับไปยังอีหรอบเดิมอีกครั้ง มันก็ทำให้ครั้งนี้เขาได้หยุดการสุ่มลงทันที ถึงแม้ว่าเจ้าชายมังกรอ้วนนั้นจะพยายามล่อลวงเขายังไงก็ตาม
“หยุดพูดเลย! ยังไงฉันก็ไม่สนใจมันหรอก แต่ฉันมีเรื่องไม่เข้าใจอยู่นายอยู่เหมือนกัน นายทำยังไงกับการ์ดที่ฉันให้ไปละ? “
นี้เป็นเพียงการเบี่ยงเบนหัวข้อเท่านั้น โจวหยูไม่ได้สนใจเกี่ยวกับเรื่องนี้จริงๆ
“เฮ้อ! มันเป็นเรื่องเศร้าจริงๆ อย่าให้ฉันพูดถึงเลย…แต่ถ้านายอยากรู้มากขนาดนั้นฉันก็จะบอกนายละกัน…เห็นแก่ความเป็นเพื่อน นายเอียงหูมา…นายก็รู้ว่าถ้าฉันนำพวกสัตว์ระดับหนึ่งออกไปเดินข้างนอกมันจะทำให้ภาพลักษณ์ของฉันเสียหาย ดังนั้นก่อนที่ฉันจะได้สัตว์ระดับสามดาวมาครอง ฉันจะไม่มีวันนำพวกมันออกไปเดินข้างนอกอย่างแน่นอน”
เห็นได้ชัดว่าเจ้าชายมังกรอ้วนนี้ถือหน้าตาเป็นหลัก มันไม่แปลกใจเลยที่อีกฝ่ายชอบอยู่คนเดียว และนั้นทำให้โจวหยูเกิดความคิดที่จะนำประวัติส่วนตัวของอีกฝ่ายมาทำเป็นอนิเมชั่นเรื่องใหม่ แต่มันก็ถูกหยุดเอาไว้โดยอีกฝ่ายทันที
ในระหว่างการต่อรองกันนั้น เจ้าชายมังกรอ้วนก็ได้เสนอโอกาสให้โจวหยูใช้ชามใส่สมบัติได้ฟรีเพื่อแลกกับเขาจะไม่ทำหนังอนิเมชั่นเรื่องนี้
อีกหนึ่งสัปดาห์ก็ผ่านไปอย่างช้าๆ วันนี้โจวหยูได้ล้างมือของเขามาโดยเฉพาะและก่อนออกจากบ้านยังได้ไปที่วิหารเต๋าของนกอมตะเพื่อจุดธูปขอพร จากนั้นเขาก็มาที่สตูดิโอการ์ตูนและเริ่มรับสมัครคนอีกครั้ง
ในการลองครั้งแรกศิลปินที่ดีที่สุดเป็นเพียงศิลปินมังงะธรรมดา แต่อย่างน้อยมันก็ยังดีกว่าชุดของสัปดาห์ที่แล้วมาก ในการลองครั้งที่สองถึงแม้ว่าจะไม่มีอะไรดีขึ้นแต่ก็ไม่ได้แย่เหมือนกัน ในการลองครั้งที่สามในที่สุดเขาก็พบสิ่งที่ดี – ภารกิจการค้นหา
‘เอ่อ … เดี๋ยวก่อน … ภารกิจ? นี่ไม่ใช่สิ่งที่ควรจะเป็นนี้น่า? ทำไมถึงมีภารกิจในการสุ่มกัน? ‘
โจวหยูที่เห็นแบบนั้นก็ได้ตัดสินใจที่จะใช้เหรียญโม 100 เหรียญ เพื่อซื้อมันมา หลังจากเปิดมันออกมาก็ยิ่งทำให้เขาแปลกใจ เพราะดูเหมือนว่านี้จะเป็นภารกิจหาตัวศิลปินการ์ตูนในตำนาน
‘ภารกิจ- สัตว์ป่าอันมีค่า
ในตำนานเล่าว่าในป่าอันตรายที่เต็มไปด้วยสัตว์เหล็ก ได้มีสัตว์ร้ายลึกลับที่ไม่รู้จัก ใครก็ตามที่เคยเห็นมันจะได้รับความคิดสร้างสรรค์และแรงบันดาลใจไม่จำกัด วังฟาสต์ – ซึ่งเป็นศิลปินมังงะชั้นนำได้ตัดสินใจที่จะค้นหาสัตว์ร้ายที่มีค่าด้วยความหวังว่าจะได้รับคุณสมบัติในการเป็นศิลปินมังงะที่ดีที่สุด’
ดูเหมือนว่าจะเป็นเรื่องยากมาก แต่ตราบใดที่เขาสามารถหาวังฟาสต์คนนี้ได้ แม้ว่าการค้นหาของเขาจะล้มเหลวแต่ยังคงเขาก็ยังเป็นศิลปินชั้นนำ ในกรณีที่มันประสบความสำเร็จมันก็จะยิ่งทำให้เขาเป็นศิลปินมังงะที่ดีที่สุดขึ้นไปอีก สำหรับคนที่มีความสามารถเช่นนี้ดูเหมือนว่ามันสมควรที่จะเสี่ยง
หลังจากยอมรับภารกิจนี้แล้ว ข้อความนี้ก็ได้หายไปโดยอัตโนมัติ แต่มันกลับมีแผนที่ขนาดเล็กปรากฏขึ้นในมุมซ้ายบนของโลก ACG แทน ด้วยที่จุดสีแดงคือตำแหน่งเป้าหมาย จุดสีเขียวเป็นของตัวเอง แต่เขาไม่ทราบว่าระยะทางระหว่างจุดทั้งสองนั้นไกลแค่ไหน เพราะแผนที่ไม่ได้ระบุระยะเอาไว้
อย่างไรก็ตามมันเป็นเวลาที่จะเสียงแล้ว ดังนั้นมันจะเป็นการดีกว่าถ้าเขาจะเตรียมความพร้อมก่อนออกไปหา
อันดับแรกที่โจวหยูคิดได้คือการไปหาหัวหน้าหมู่บ้านก่อน จากนั้นเขาก็บอกถึงเป้าหมายของเขากับอีกฝ่าย โดยที่เขาขอให้หัวหน้าหมู่บ้านช่วยดูแลเจ้าเดียนเดียนให้เขา ส่วนเจ้าเซอร์แบลร์นั้นเขาจะนำมันไปด้วย
เจ้าเซอร์แบลร์ผู้ซึ่งคุ้นเคยกับท้องฟ้านั้น นี้ถือว่าเป็นการเดินทางที่มันต้องการมากที่สุด เมื่อมันได้ฟังเรื่องนี้มามันก็ถึงกับไปขอร้องให้บูบูช่วยพูดให้เจ้านายอีกคนพามันไปด้วยทันที
การมีอัศวินอยู่ข้างๆก็ไม่ใช่ความคิดที่ไม่เลวเลยที่เดียว การไปผจญภัยโดยไม่มีนักรบในทีมนั้นดูเหมือนจะเป็นการฆ่าตัวตาย ดังนั้นการมีเจ้าเซอร์แบลร์มาเข้าร่วมในครั้งนี้ดูเหมือนจะเป็นเรื่องดี จะเกิดอะไรขึ้นถ้ามีการต่อสู้เกิดขึ้น มันจะดีกว่าถ้าเขาจะมีผู้ช่วยที่แข็งแกร่งอยู่ข้างกาย
ถ้าเขาสามารถเลือกได้เขาก็คิดจะเลือกแจ็คไปด้วย อย่างไรก็ตามการทำแบบนี้มันดูเหมือนจะเวอร์เกินไป ดังนั้นเขาจึงนำเพียงเจ้าเซอร์แบลร์และบูบูไปได้เท่านั้น
ได้ยินโจวหยูต้องการออกจากหมู่บ้านสักสองสามวัน โจวฟูถือว่าเป็นคนแรกที่มาถึงบ้านของโจวหยู เขาไม่รู้ว่าจะพูดอะไรกับเจ้าเด็กที่นิสัยเสียคนนี้อีกแล้ว การลงทุนมากกว่าหนึ่งล้านหยวนยังดำเนินต่อไป เนื่องจากโจวหยูไม่ต้องการตรวจสอบความคืบหน้าการก่อสร้าง เขาจึงไม่ต้องการบังคับให้เขาทำอีก แต่นั้นก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง มาตอนนี้เจ้าเด็กคนนี้ยังยังต้องการออกไปเที่ยวอีก ถ้าเจ้าเด็กคนนี้เป็นลูกของเขาละก็เขาคงต้องสั่งสอนบทเรียนไปแล้ว
“เธอช่วยหยุดเล่นไปรอบๆได้ไหม? แม้ว่าเธอจะไม่ได้ขาดเงินแต่ลองคิดถึงพวกชาวบ้านด้วย ถึงแม้ว่าพวกเขาจะไม่พูดถึงเรื่องนี้มากนัก แต่พวกเขาก็หวังว่าสวนสนุกของเธอจะทำให้หมู่บ้านลู่หัวเป็นสถานที่ที่ดีกว่าเดิม พวกเขาถึงกับพยายามอย่างดีที่สุดเพื่อช่วยเหลือเธอ ไม่อย่างนั้นเธอจะคิดว่าพวกรัฐบาลจะอนุมัติใบสมัครของเธออย่างรวดเร็วอย่างนี้เหรอ ดังนั้นจะเป็นการดีที่สุดถ้าเธอจะอยู่ที่หมู่บ้านนี้พร้อมกับตรวจสอบความคืบหน้าของโครงการ … “
โจวหยูที่ได้ฟังลุงฟูพูดออกมาเป็นชุดแบบนี้ แน่นอนว่าเขานั้นไม่สามารถหาวิธีรับมือมันได้ซักพักหนึ่ง จากนั้นเมื่อเห็นว่าลูงฟูเริ่มที่จะเหนื่อยแล้ว เขาจึงได้พูดเรื่องโกหกออกมา “ลุงฟู! การเดินทางครั้งนี้ไม่ใช่เพื่อการพักผ่อนส่วนตัวของผม แต่เพื่อติดต่อกับเพื่อนๆทางออนไลน์ที่สร้างเกมต่างหาก เพราะในตอนนี้มันถึงเวลาที่ผมกับพวกเขาจะต้องทำการแบ่งกำไรกันแล้ว มันเป็นไปไม่ได้ที่ผมจะฮุบเงินจำนวนมากขนาดนี้เอาไว้คนเดียว “
หลังจากได้ฟังเหตุผลนี้ของโจวหยู มันก็ทำให้โจวฟูสงบลงในที่สุด เป็นเรื่องที่รู้กันว่าเงินทุนเพื่อพัฒนาสวนสนุกพวกนั้นได้รับมาจากการขายเกม ดังนั้นเรื่องที่เด็กน้อยโจวพูดออกมานั้นก็ถือว่าเป็นเรื่องที่เข้าใจได้
“โอ้ … ถ้าเป็นแบบนั้นฉันจะช่วยเธอดูแลทุกอย่างเอง แต่ฉันขอให้เธอรีบกลับมาโดยเร็วที่สุด”
‘เอาละ! ตอนนี้ก็ถึงเวลาที่จะออกนอกหมู่บ้านอีกครั้งแล้ว! ‘