The Rise of Otaku - ตอนที่ 77
บทที่ 77 วายร้าย
พนักงานสาวภายใต้นามแฝงคีร์ได้เย้ยหยันการกระทำของโจวหยู แต่มันก็เป็นเพียงในใจเท่านั้น ‘นี้นายจะเปิดสวนสนุกเหรอ? เห็นได้ชัดว่ามันเป็นเพียงเรื่องที่นายพยายามโมเท่านั้น นายคิดว่าการสร้างสวนสนุกมันมีราคาเพียง 100 หยวนหรือไง? นายคิดว่าฉันเป็นเด็กสาวที่ไม่รู้จักอะไรเลยเหรอไง? ‘
แม้ว่าเธอจะรู้ว่าอีกฝ่ายกำลังพูดโกหกของอยู่แต่เธอก็ไม่สามารถทำอะไรได้กับเรื่องนี้ ดังนั้นเธอจึงพยายามเตรียมที่จะหาเรื่องอื่นพูดเพื่อทำให้เวลา 30 นาที ผ่านไปอย่างรวดเร็ว
โชคดีที่ลูกค้าอย่างโจวหยูไม่ได้มีความกล้ามากนัก อีกฝ่ายแค่มองดูหน้าอกของเธอเป็นครั้งคราวเท่านั้นโดยไม่มีพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมอื่นๆ แต่เห็นได้ชัดว่าผู้ชายคนนี้ไม่ได้อยู่ในอารมณ์ที่จะพูดคุยเลย คำตอบของเขาเป็นแบบสุ่มและบางครั้งก็ดูไม่สมเหตุสมผลเลย ดูเหมือนว่าอีกฝ่ายจะดูเพียงเนินอกของเธอเท่านั้น
‘เขาดูเหมือนจะต้องการพูดอะไรบางอย่าง? หรือว่าเขาต้องการอย่างอื่น? ‘
กีร์ได้หัวเราะเยาะโจวหยูในใจของเธอขณะที่พยายามคุยกับอีกฝ่ายด้วยความอดทน แต่เธอไม่ได้คาดหวังว่าถึงเขาจะไม่ได้ลงมือทำอะไร แต่นกพิราบที่มากับเขานั้นกลับลงมือแทน
โจวหยูได้เฝ้าดูสถานการณ์การต่อสู้อย่างใกล้ชิด เขาไม่มีความคิดที่ไม่ดีจริงๆ ในตอนนี้ชายทั้งสามคนกำลังต่อสู้กันอย่างดุเดือดในพื้นที่เด้งๆนั้นนั้น เห็นแบบนี้แล้วเขาจะมีอารมณ์ที่จะพูดอะไรอีก?
ความสามารถของสัตว์ในตำนานนั้นแข็งแกร่งมาก แม้ว่าวังฟาสต์และบูบูที่ต่อสู้กับมันจะเร่งความเร็วขึ้นมาขนาดไหน มันก็ยังไม่สามารถเอาชนะได้ บวกกับสัตว์ในตำนานตัวนี้คุ้นเคยกับภูมิประเทศ มันจึงเป็นเรื่องยากมากขึ้นที่จะบอกได้ว่าใครจะเป็นผู้ชนะ
หลังจากสถานการณ์การสู้รบได้ชะงักงันอยู่พักหนึ่ง ในที่สุดบูบูก็หมดความอดทนและผิวปากเรียกเจ้าเซอร์แบล็กให้เข้ามันเตรียมพร้อมที่จะเข้าสู่โหมดการต่อสู้ของอัศวินนภา
มันเป็นเสียงนกหวีดที่ทำให้โจวหยูรู้สึกว่าสถานการณ์ไม่สามารถควบคุมได้
แน่นอนว่าเจ้าแบล็กเซอร์ผู้ซึ่งยืนนิ่งอยู่บนโต๊ะอย่างเชื่อฟังได้ตอบรับเสียงนกหวีดและกระพือปีกทันที ก่อนที่มันจะรีบวิ่งไปที่ “สนามรบ” ด้วยความเร็วเต็มที่ แม้ว่ามันจะไม่ได้ตีสาวใช้โดยตรง แต่เธอก็ยังตกใจกับการกระทำของมัน
ทางกลับกันหลังจากที่บูบูได้ขึ้นไปบนเจ้าเซอร์แบล็กแล้ว ก็ได้บินวนเป็นวงกลมและพุ่งไปที่สัตว์ในตำนานตัวนั้นทันที
การกระทำแบบนี้ของบูบูมันได้กลายเป็นความโกลาหลโดยสมบูรณ์
พนักงานที่ชื่อคีร์ถึงกับกรีดร้องออกมาในขณะที่พยายามหลบการโจตีของเจ้าเซอร์แบล็กไปด้วย คนอื่นที่ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นก็เริ่มหวาดกลัวขึ้นมา และนั้นทำให้ร้านกาแฟที่เต็มไปด้วยบรรยากาศแห่งความสุขก่อนหน้านี้ระเบิดทันทีราวกับว่ามีใครบางคนโยนระเบิดมือลงในร้านคาเฟ่
“เฮ้! คุณผู้หญิง! ทำไมคุณถึงพยายามหลบข้ากัน? เจ้าสามารถมั่นใจได้ว่าข้าจะไม่มีทางโจมตีผิดพลาดแน่นอน เพราะอย่างนั้นเจ้าโปรดหยุดขยับตัวทีได้ไหม?”
บูบูไม่พอใจอย่างมากในตอนนี้ แต่ถึงแม้ว่ามันจะพูดยังไงคีร์ก็ไม่สามารถได้ยินได้เลย โดยปกติเมื่อใครก็ตามที่ถูกโจมตีโดยนกพิราบการกรีดร้องและวิ่งหนีเป็นปฏิกิริยาที่สมเหตุสมผลที่สุด
ด้วยการกระพือปีกในอากาศและการพุ่งลงมาเหมือนกระสุนปืนใหญ่ ดูยังไงมันก็เป็นสิ่งที่ทำให้คนที่พบเห็นต่างก็กลัว
ในตอนนี้โจวหยูได้ตกตะลึงด้วยสมบรูณ์แล้ว เขาไม่ได้คาดคิดว่าสถานการณ์มันจะออกมาในรูปแบบนี้? เขาไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเรื่องพวกนี้มันจะจบยังไง
ความโกลาหลได้เลวร้ายลงเรื่อยๆ แต่มีลูกค้าคนอื่นต่างก็ได้รีบซ่อนตัวหลังเคาน์เตอร์ ก่อนที่พวกเขาจะพบว่าแหล่งที่มาของความโกลาหลนั้นมีเป็นเพียงนกพิราบและบุคคลเดียวที่ถูกโจมตีก็คือพนักงานที่ชื่อว่าคีร์เท่านั้น
‘นกพิราบตัวนี้มันลามกจริงๆ!’ พวกเขาต่างก็คิดเรื่องนี้ในใจ.
ในที่สุดความโกลาหลก็ได้รู้ไม่ถึงผู้จัดการร้าน เขาได้รีบเข้ามาพร้อมกับพนักงานชายอีกจำนวนหนึ่งเพื่อที่จะไปจับนกพิราบที่กำลังสร้างปัญหา แต่พวกเขาไม่รู้ว่าคนที่บังคับเจ้าเซอร์แบล็กนั้นอยู่คือบูบู มันเป็นถึงอัศวินนภาที่แท้จริงและเจ้าเซอร์แบล็กเองก็เป็นพาหนะที่เกิดจากโลกACG แล้วคิดเหรอว่าพวกมันทั้งคู่จะถูกจับได้ง่ายๆ?
ในเวลานั้นเจ้าเซอร์แบล็กมันได้ทำการหลบจากการตะครุบของชายคนหนึ่ง ก่อนที่มันจะบินฉีกออกมาได้อย่าง่ายดาย
เทคนิคนี้ของบูบูนั้นเป็นอะไรที่น่าทึ่งมาก และหลังจากนั้นมันยังได้แสดงเทคนิคพิเศษอีกมากมาย การพุ่งเข้าใส่หลังจากปล่อยพลังงานจะแสดงสายฟ้าสายฟ้าสีเหลืองยิงเข้าหาสัตว์ในตำนาน โชคดีที่มันไม่สามารถส่งผลกระทบต่อโลกแห่งความเป็นจริงได้ ไม่อย่างนั้นเขาก็ไม่รู้ว่าเนินอกขาวๆนั้นจะได้รับผลกระทบยังไงเช่นกัน
จากการประเมินแบบง่ายๆแล้ว โจวหยูรู้สึกว่าพลังของการโจมตีนี้ดูเหมือนจะแรงเป็นอย่างมาก อย่างน้อยเจ้าสัตว์ร้านในตำนานเองจะต้องใช้กำลังทั้งหมดเพื่อต้านทานมัน และเมื่อวังฟาสต์ที่เห็นแบบนั้นก็ได้ฉวยโอกาสจากช่วงเวลาเช่นนี้เพื่อเริ่มการโจมตีที่ดุเดือดมากขึ้น และดูเหมือนว่าเขาจะได้รับผลลัพธ์ที่ดี
ในขณะนี้ร้านกาแฟก็ได้กลายเป็นเหมือนฉากหนังตลกเรื่องหนึ่งไปแล้ว เพื่อจับนกพิราบเพียงตัวเดียวได้มีผู้ใหญ่ที่จำนวนหนึ่งวิ่งไปทุกที่ ถึงกับกระแทกเข้าหากันเก้าอี้หรือโต๊ะก็หลายครั้ง มันยังได้ทำลายของตกแต่งมากมายในร้านอีกด้วย ใบหน้าของผู้จัดการที่เห็นแบบนั้นก็ได้ทุกข์ใจขึ้นมาทันทีที่เขาได้เห็นว่ามีอะไรบ้างที่ได้รับความเสียหายจากเหตุการณ์นี้ อย่างไรก็ตามลูกค้าที่อยู่ในร้านตอนนี้กลับทำสิ่งที่ตรงกันข้ามกับสิ้นเชิง พวกเขาถึงกับปรบมือและส่งเสียงเชียร์อยู่ด้านข้าง เห็นได้ชัดว่าพวกเขามีความสุขมากกับสิ่งที่เกิดขึ้น
“ใครเป็นคนนำนกพิราบตัวนี้มากัน!”
ในตอนนี้ผู้จัดการโกรธเป็นอย่างมาก และยิ่งได้เห็นว่ายามที่เขาจ้างมานั้นมีกลับไม่มีความสามารถขนาดไหน มันก็ยิ่งทำให้อารมณ์โกรธของเขาระเบิดออกมามากขึ้น
เมื่อเห็นว่าสถานการณ์เริ่มจะเลวร้ายลง แผนก่อนหน้านี้โจวหยูยังต้องการใช้ประโยชน์จากความวุ่นวายที่เกิดขึ้นนี้หนีออกไป เนื่องจากเจ้าเซอร์แบล็กและบูบูรู้วิธีกลับไปที่หมู่บ้านมันจึงทำให้เขาไม่ต้องกังวลว่าพวกมันจะหลงทาง แต่เมื่อเขาเห็นกล้องวงจรปิดในร้านนี้มันก็ทำให้เขารู้ว่าแม้ว่าเขาจะวิ่งหนีออกไปจากที่นี้ พวกเขาก็สามารถตามหาเขาได้อยู่ดี ดังนั้นเขาจึงเลือกที่จันั่งที่เดิมและรอผลลัพธ์ออกมาได้เท่านั้น
วันนี้อาจเป็นวันที่โชคร้ายที่สุดสำหรับคีร์ เพราะเธอได้ถูกโจมตีโดยนกพิราบหนึ่งตัวมาเกือบจะสิบนาทีแล้ว แม้ว่าเธอจะไม่ได้รับบาดเจ็บจากมันก็ตาม แต่เธอก็ยังรู้สึกกลัวอยู่ดี ในท้ายที่สุดเธอก็วิ่งออกจากร้านด้วยความหวาดกลัวและเจ้าเซอร์แบล็กก็ยังตามเธอไปเช่นกัน นั่นหมายความว่าโจวหยูก็ต้องติดตามพวกเขาไปเช่นกัน
บนถนนในตอนนี้มีภาพอย่างพนักงานที่แต่งชุดแม่บ้านสาวน้อยกำลังวิ่งอย่างไม่คิดชีวิต และเจ้าเนินภูเขาสีขาวคู่หนึ่งที่กำลังกระดอนขึ้นๆลงๆ มันช่างเป็นภาพที่ทำให้คนที่พบเห็นนั้นต่างก็ตั้งหยุดมองอย่างช่วยไม่ได้ อย่างไรก็ตามสถานการณ์ที่กำลังเกิดขึ้นนี้กับส่งผลกระทบต่อการต่อสู้เช่นกัน มันถึงกับทำให้วังฟาสต์และสัตว์ร้ายในตำนานต้องหยุดการต่อสู้ลง
“ทักษะการต่อสู้ของเจ้าไม่เลว แต่เจ้ายังคงดูหมิ่นผู้อาวุโสคนนี้มากเช่นกัน”
“เจ้าเฒ่า! แกหยุดพูดเรื่องไร้สาระและเตรียมตัวตายได้แล้ว”
ในที่สุดโจวหยูก็สามารถตามพวกเขามาได้ทัน พร้อมกับสาปแช่งเกี่ยวกับเรื่องที่เกิดขึ้น ‘เมื่อไหร่พวกเขาจะสู้กันเสร็จนะ? ในตอนนี้สถานการณ์เป็นอะไรที่เกินควบคุมไปแล้ว และยิ่งไปกว่านั้นบูบูกับเจ้าเซอร์แบล็กจะดูมีความสุขของการต่อสู้ในครั้งนี้จริงๆ แล้วแบบนี้ฉันจะทำยังไงดี’
ด้วยการวิ่งที่เร็วเกินไปมันจึงทำให้คีร์ได้สะดุดเข้า และนั้นทำให้การเจ้าเซอร์แบล็คไม่พลาดโอกาสในการโจมตีอย่างดุเดือดใส่เจ้าสัตว์ร้ายในตำนาน แต่สำหรับคนนอกเห็นเพียงว่าเจ้านกตัวนี้คงมีความแค้นฝั่งหุ่นกับผู้หญิงคนนี้ ไม่อย่างนั้นมันจะไม่พยายามโจมตีอีกฝ่ายตลอดเวลาแบบนี้
ในขณะเดี่ยวกันก็ได้มีชายหนุ่มหน้าตาดีคนหนึ่งได้เดินเข้ามาพร้อมกับถอดเสื้อของเขาและปกตัวของคีร์เอาไว้ จากนั้นเขาก็หันไปพูดกับโจวหยูผู้ซึ่งเพิ่งจะตามทันว่า “มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่? ทำไมคุณถึงได้ปล่อยให้นกของคุณโจมตีคนอื่นในเวลากลางวันแสกๆแบบนี้?”
‘อึศักดิ์สิทธิ์ … นี่คือรูปแบบคลาสสิคของฮีโร่ที่จะออกมาช่วยหญิงสาวที่กำลังตกอยู่ในความทุกข์’
เมื่อคิดถึงเรื่องนี้หัวใจของโจวหยูถึงกับกลายเป็นเย็นเฉียบขึ้นมาทันที สถานการณ์ในปัจจุบันนั้นชัดเจนมากมันเป็นฉากของฮีโร่ที่ได้ออกมาช่วยหญิงสาวในความทุกข์ และฉากบทบาทวายร้ายนั้นไม่ต้องพูดถึงเลย เพราะมันเป็นเขาที่ได้รับบทบาทนี้
‘ทำไมมันถึงเป็นแบบนี้กัน ???’ หลังจากได้รับพลังพิเศษเขาไม่ต้องการกลายเป็นเศรษฐีและไม่ต้องการเป็นชายหนุ่มที่หยิ่งผยองที่กลั่นแกล้งเด็กผู้หญิงในหมู่บ้านเหมือนสิ่งที่พวกเขาเขียนในนวนิยาย เขาแค่อยากจะอยู่ในหมู่บ้านของเขาและอยู่ที่นั่นอย่างมีความสุขตลอดไปก็เท่านั้น
‘แต่นี่ … เขาไม่คิดว่าเขาจะอธิบายให้พวกเขาฟังยังไงดี’
‘ดังนั้น … มันคงเป็นการดีกว่าถ้าเขาจะแสดงบทบาทวายร้ายต่อไป เพื่อช่วยให้ชายหนุ่มคนนี้สมหวังในฉากของการช่วยหญิงสาวให้พ้นทุกข์ หรือเขาควรจะหันหลังให้และวิ่งให้เร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้ดี? หรือเขาควรขอโทษอย่างจริงใจแล้วมันจะเป็นการสิ้นสุดที่มีความสุข’
‘อนิจจา! ในตอนนี้มันกลับมีตัวเลือกมากมายให้เขาต้องเลือก …’
ในขณะเดียวกันการต่อสู้ก็ได้สิ้นสุดลงในที่สุด วังฟาสต์ได้ประสบความสำเร็จในการเอาชนะสัตว์ในตำนาน – อัลพาก้า และนั้นทำให้เขาได้กลายเป็นศิลปินมังงะชั้นเลิศที่สุด และนั้นทำให้เจ้าเซอร์แบล็กได้กลับมายืนอยู่บนไหล่ของโจวหยูอย่างผู้มีชัย แต่สิ่งที่พวกมันได้รับจากเรื่องนี้ไม่ใช้เสียงแสดงความยินดีหรือของรางวัลอะไร แต่มันกลับเป็นสายตาที่โกรธเกรี้ยวของเจ้านายแทน
‘ฉันจะจัดการกับพวกคุณสองคนในภายหลัง!’