The Rise of Otaku - ตอนที่ 79
บทที่ 79 ความสามารถได้ยกระดับขึ้น
แม้ว่าโจวหยูจะออกจากบ้านไปเพียงไม่กี่วัน แต่มันกลับทำให้เขารู้สึกเหมือนจากบ้านไปหลายปี และเมื่อเขากลับถึงบ้านเขาก็รู้สึกสบายใจจากภายในสู่ภายนอกทันที . . ทุกอย่างในสนามหญ้ายังคงเหมือนเดิม ชาวบ้านในโลกของ ACG เองก็ยังคงยุ่งอยู่กับการทำงานของตัวเอง พวกเขาไม่จำเป็นต้องการให้โจวหยูดูแลพวกเขาเลย กลับกันเป็นตัวของโจวหยูเองมากกว่าที่ต้องคอยให้พวกเขาช่วยเหลือ
เมื่อโจวหยูกลับถึงบ้านวังฟาสต์เองก็ได้ตื่นขึ้นอย่างช้าๆ เขาตกใจเมื่อเห็นว่ามีคนจำนวนมากอยู่รอบตัวเขา อย่างไรก็ตามเขาจำไม่ได้ด้วยซ้ำว่าเขามาที่นี่ได้อย่างไร
ในเรื่องนี้นั้นโจวหยูได้คิดว่าเขาต้องการเวลาที่จะพูดคุยกับเขาในเรื่องนี้ แต่เขาไม่ได้คาดหวังว่าเพื่อนคนนี้จะเข้าสู่สถานะของชาวบ้านมินิลู่หัวได้อย่างรวดเร็วราวกับว่าเขาเปลี่ยนไปเป็นคนละคนกับก่อนหน้านี้ เพราะในก่อนหน้านี้นั้นอีกฝ่ายถึงกับได้ตอบปฏิเสธออกมาอย่างแน่วแน่ที่จะมาที่หมู่บ้าน หรือว่านี่อาจเป็นผลกระทบของทักษะนักพูดกัน? มันเหมือนกับว่าวังฟาสต์นั้นได้ถูกล้างสมองไปอย่างสมบูรณ์
“ฮาฮาฮา! ฉันได้คุ้นเคยกับชีวิตอิสระมานานแล้ว ดังนั้นฉันจึงมีนิสัยที่ไม่ดีมากมาย ถ้าเกิดว่าฉันได้รุกรานเจ้าของบ้านหลังไหนไปในอนาคตก็ต้องขออภัยไว้ด้วย”
วังฟาสต์ได้พูดออกมาอย่างรวดเร็ว จากนั้นเจ้าตัวก็ได้เดินเข้าไปในสตูดิโอการ์ตูนที่ว่างเปล่ามาหลายวันทันที และทันใดนั้นเองสถานะของสตูดิโอการ์ตูนก็เปลี่ยนจากปิดกิจการไปเป็นเปิดทำการตามปกติแทน
เมื่อมองดูสถานะของวังฟาสต์อีกครั้ง มันก็ทำให้โจวหยูถึงกับยิ้มไม่หุบเลยที่เดียว : วังฟาสต์หนึ่งในศิลปินมังงะที่ดีที่สุดในประเทศ เขาชอบขี่ม้าและฝึกฝนศิลปะการต่อสู้ ไม่ชอบที่จะถูกห้ามหรือถูกสั่งให้ทำอะไร ไม่ต้องการเงินเดือนสูงมากนัก แต่ถ้าเขารู้สึกว่าสภาพแวดล้อมไม่ดีพอ เขาจะจากไปทันที
ซึ่งสถานะนี้มันเป็นอะไรที่แตกต่างจากนักวาดมังงะก่อนหน้านี้อย่างมาก และนี้ยังแสดงให้เห็นว่าต่อแต่นี้ไปโจวหยูจะไม่สามารถกำหนดทิศทางของมังงะได้อีกต่อไป เพราะอีกฝ่ายนั้นไม่ชอบการถูกบังคับ ดังนั้นต่อไปในอนาคตมังงะที่วาดออกมาโดยสตูดิโอการ์ตูนนี้จะถูกกำหนดขึ้นด้วยวังฟาสต์เพียงคนเดียว
ถึงแม้ว่านี้จะถือว่าเป็นเรื่องที่ยุ้งยากพอดู แต่สำหรับโจวหยูแล้วมันกับไม่ใช่ปัญหาเลย ท้ายที่สุดแล้วเขาเป็นเพียงแค่ถือคนที่ชื่นชอบมังงะเท่านั้น ในขณะที่วังฟาสต์นั้นเป็นถึงหนึ่งในศิลปินมังงะที่ดีที่สุดในประเทศ มันก็เป็นที่แน่นอนอยู่แล้วว่าเขานั้นไม่มีความสามารถมากพอที่จะให้คำแนะนำใดๆกับอีกฝ่าย ดังนั้นตั้งแต่นี้ต่อไปเขาจึงได้ตัดสินใจที่จะเฝ้าดูอยู่วงนอกเท่านั้น
แต่เมื่อดูจากความเร็วของสตูดิโอการ์ตูนแล้ว เขาก็คิดว่าอีกไม่นานวังฟาสต์คงจะทำมังงะออกมาให้เขาชมในที่สุด
เดิมทีโจวหยูยังตั้งตาคอยว่าเจ้ารูปปั้นริศนาที่ได้รับมานั้นจะให้เอฟเฟคอะไรเพิ่ม แต่เมื่อเขาได้ให้นกอมตะปลดผลึก มันกลับกลายเป็นเพียงรูปปั้นธรรมดาที่เพิ่มค่าสถานะการวาดขึ้นมา 5 คะแนนเท่านั้น เมื่อเปรียบเทียบกับรูปปั้นของนักปราชญ์ก่อนหน้านี้เห็นได้ชัดว่านี้เป็นเพียงของกากๆเท่านั้น
แต่เขาก็ไม่ได้รู้สึกผิดหวังมากนัก เพราะยังไงก็ตามมันยังคงมีโอกาสอีกมากในอนาคต รอให้เขาได้รับสิ่งที่ดีกว่านี้
คืนแรกหลังจากที่เขากลับบ้าน เขานอนหลับได้สนิทเป็นอย่างมาก แต่เขาไม่ได้คาดหวังว่าเมื่อเขาตื่นเช้าตรู่ขึ้นมาในวันรุ่งขึ้น เขาจะค้นพบการเปลี่ยนแปลงที่แปลกประหลาดเข้า
ที่ว่าแปลกก็คือสายตาของโลก ACG คือความสามารถในการฉายฉากของโลก ACG บนแว่นตาของเขาและในเวลาเดียวกันก็สามารถเปลี่ยนฉากของโลกแห่งความจริงให้เป็นฉากของโลก ACG ได้ แต่วันนี้เมื่อเขาตื่น เช้าขึ้นมา เขาได้สังเกตเห็นได้ทันทีว่าการมองผ่านแว่นตานั้นเปลี่ยนไปมาก
ถ้าจะอธิบายให้เข้าใจถึงการเปลี่ยนแปลงที่ง่ายที่สุดก็คือมุมมองของโลก ACG นั้นกลายเป็นชัดเจนยิ่งขึ้น ราวกับว่าความละเอียดมันได้เพิ่มขึ้นอีก 2-3 เท่าในหนึ่งลมหายใจ มันเปลี่ยนจากโหมดปกติไปเป็นโหมดความคมชัดสูงทันที โจวหยูไม่รู้ว่าทำไมมันถึงมีการเปลี่ยนแปลงอย่างฉับพลันแบบนี้เกิดขึ้น สิ่งเดียวที่เขาสงสัยคืออาจมีบางอย่างเกี่ยวข้องกับวังฟาสต์
ดังนั้น … การเชิญพลเมืองระดับสูงของโลก ACG ให้เข้าร่วมหมู่บ้านของเขาอาจจะเป็นตัวช่วยเพิ่มความสามารถของเขาหรือไม่? หรือเป็นเพราะเขารวบรวมองค์ประกอบหลักทั้งสามของโลก ACG ได้สมบรูณ์กัน?… ยิ่งเขาคิดมันมากเท่าไหร่เขาก็ยิ่งไม่ได้รับคำตอบกลับมา ดังนั้นมันคงเป็นเรื่องที่ดีมากกว่าถ้าเขาจะหยุดคิดเดี่ยวกับเรื่องเรื่องนี้
หลังจากที่ทำธุระส่วนตัวเสร็จแล้วนั้น โจวหยูก็ได้เดินเข้าไปในสนามหญ้าหน้าบ้านของเขาทันที สิ่งแรกที่เขาเห็นเป็นอย่างแรกก็คงเป็นกลุ่มเด็กจำนวนมากที่กำลังเล่นอยู่ในสนาม แต่มันกับเกิดเรื่องที่น่าสนใจขึ้น ซึ่งมันเป็นอะไรที่แตกต่างจากเดิมไปมาก เพราะปกติแล้วเรื่องพวกนี้มันจะเกิดขึ้นเฉพาะกับพลเมืองของโลก ACG เท่านั้น แต่เขาไม่ได้คาดหวังว่าหลังจากที่เขาได้ความสามารถของเขาได้ถูกยกระดับขึ้นแล้ว เขาจะสามารถอ่านข้อมูลของคนในโลกแห่งความจริงได้อีกด้วย
แต่มันก็ยังถือว่ามีความแตกต่างเช่นกัน เมื่อเขาได้ตรวจสอบข้อมูลของรายการในโลก ACG มันจะแสดงข้อมูลอย่างละเอียด ในขณะที่ข้อมูลของคนจริงจะปรากฏเป็นค่าแปลกๆอย่าง – ค่าโอตาคุ ขึ้นมาเท่านั้น ยกตัวอย่างเจ้าหนูน้อยโจวเฮา เมื่อเขาได้มองดูข้อมูลของอีกฝ่าย มันเห็นเพียงชื่อของเขาจากนั้นก็แสดงพลังโอตาคุของเขาคือ: 0.5 และการประเมินผล “เป็นคนที่สมบูรณ์” ถ้าเป็นคนแปลกหน้าชื่อนั้นจะเป็นเครื่องหมายคำถาม แต่พลังของโอตาคุจะยังคงปรากฏอยู่
ไม่รู้ว่าอำนาจของโอตาคุหมายความว่ายังไง ขนาดตัวของเขาเองก็มีพลังโอตาคุถึง 7.8 และ การประเมินคือ “คนที่ชอบโลกของ ACG”
‘อืม … นี้มันคืออะไรกันแน่นะ?’
หลังจากเดินเล่นในหมู่บ้านมาหนึ่งรอบ เขาก็พบว่าไม่มีใครในหมู่บ้านที่มีพลังโอตาคุมากกว่า 1 จริงๆแล้วมันค่อนข้างเข้าใจได้ เนื่องจากชาวบ้านหลายคนไม่มีเวลาว่างขนาดนั้น เพราะในเวลากลางวันพวกเขาต่างก็ต้องทำงานในฟาร์มทุกชนิด พวกเขาไม่ค่อยได้ดูแอนิเมชันหรือเล่นเกมมากนัก ดังนั้นจึงเป็นเรื่องปกติที่พวกเขาจะมีค่าพลังเท่านั้น
แต่อะไรคือการใช้ความสามารถนี้กัน? แม้ว่าเขาจะพบใครบางคนที่มีพลังโอตาคุ 10 แต่เขาก็ทำได้เพียงชื่นชมคนนั้นได้เท่านั้น เพราะจนถึงตอนนี้เขาก็ยังไม่รู้ว่าจะใช้ค่าพลังนี้ยังไง? นี้อาจเป็นสิ่งเดียวที่ใช้เพื่อบอกว่าคนแปลกหน้าว่ามีความสนใจร่วมกันและมีหัวข้อที่สนใจเหมือนกับตัวเขาหรือไม? แต่ยังไงก็ตามในหมู่บ้านลู่หัวนี้ก็ไม่ได้มีคนแปลกหน้ามากนัก ดังนั้นในตอนนี้ความสามารถนี้จึงกลายเป็นเพียงของไร้ประโยชน์เท่านั้น
และสิ่งแปลกใหม่ล่าสุดอีกอย่างก็คือระบบอาชีพ มันได้มีหลายอาชีพให้เขาเลือก แต่มันก็จำเป็นต้องมีประสบการณ์ขั้นพื้นฐานในระดับหนึ่งก่อนเช่นกัน ไม่อย่างนั้นเขาจะไม่สามารถเลือกอาชีพนั้นๆได้ ท่ามกลางข้อกำหนดมากมายมันจึงทำให้ในตอนนี้อาชีพที่เขาสามารถเลือกได้มีเพียงสองอาชีพเท่านั้น นั้นก็คือนักตกปลาและนักจับสัตว์ขนาดเล็ก
มันก็ไม่ใช้เรื่องแปลกใจมากนัก เพราะทุกวันเขาจะออกไปตกปลา สิ่งนี้ได้กลายเป็นงานประจำวันของเขาไปแล้ว การจับสัตว์ร้ายตัวเล็กเองก็เป็นกิจกรรมประจำวันที่จำเป็น เนื่องจากการพัฒนาเกมต้องการการ์ดเหล่านั้น
เขาไม่ได้ปลูกพืชผักหรือไม้กระถางอื่นๆบ่อยมากนัก อาจจะเพราะเขามีหน้าที่เพียงเมล็ดและปลูกมันลงสู่ดินเท่านั้น ก่อนที่งานต่อจากนั้นจะได้รับการดูแลโดยเกษตรกรในโลกของ ACG ไปทั้งหมด บางครั้งเขาเองก็จะทำงานของช่างไม้บ้าง แต่เขาไม่เคยทำงานของช่างหินมาก่อน ในแง่ของการฝึกอบรมและการฝึกกังฟูเองก็ไม่เคยซักครั้ง ดังนั้นการที่เขามีอาชีพให้เลือกเพียงสองอาชีพก็ไม่ใช้เรื่องแปลกอะไร
เมื่อเห็นแบบนี้แล้วสิ่งแรกที่โจวหยูทำก็คือการออกไปค้นหาชาวประมงนกอ้ายงั่ว ซึ่งเป็นคนที่จะมอบอาชีพของชาวประมงให้เขา หลังจากที่ได้สอบถามขั้นตอนต่างๆกับอีกฝ่ายแล้ว มันสามารถทำได้ง่ายๆเพียงแค่เขาตั้งจ่ายเงินไป 200 เหรียญโม เท่านั้น จากนั้นเขาจะถูกแต่งตั้งให้เป็นชาวประมงมือใหม่ทันที แม้ว่าพวกเขาจะคุ้นเคยกันมานาน แต่มันก็ไม่ได้ให้ส่วนลดใดๆกับเขาเลย และจากการสอบถามมายิ่งระดับของอาชีพสูงขึ้นเท่าใด มันก็จำเป็นที่จะต้องจ่ายเงินที่สูงขึ้นตามไปด้วย ยิ่งไปกว่านั้นในระดับต่อไปเองก็จะต้องมีเงือนไขเพิ่ม
เมื่อเห็นแบบนี้แล้วโจวหยูก็คิดว่ามันจำเป็นที่จะต้องใช้เวลานานกว่าที่เขาจะไปถึงระดับสูงสุด แต่ถ้าพูดถึงเรื่องเวลาแล้วนั้น สำหรับเขาแล้วมันเป็นเพียงเรื่องเล็กน้อยเท่านั้น
นักตกปลามือใหม่: ลดระยะเวลาในการทำให้ปลาติดเบ็ดประมาณ 10 วินาที ความน่าจะเป็น 5% ในการกระตุ้นทักษะการตกปลา
เมื่อได้รับเอฟเฟคอาชีพนี้มา มันทำให้โจวหยูถึงกับคิดว่าตัวเองได้ของที่มีประโยชน์มาเป็นอย่างมาก แต่เมื่อเขาได้ทดลองใช้จริงๆผ่านไปครึ่งวันมันก็ยังไม่แสดงผลอะไรออกมาเลย ดังนั้นความฝันก่อนหน้านี้ที่จะตกปลาได้ครั้งละมากๆต้องพังลงไป
‘ทักษะปัญญาอ่อนเอ้ย!’
จากนั้นเขาก็ไปที่นกอมตะเพื่อยกระดับอาชีพอีกหนึ่งอาชีพนั้นก็คือ – ฮันเตอร์ แต่เดิมเขาคิดว่าอาชีพนี้จะเพิ่มความสามารถทางกายภาพของเขาอย่างลึกลับ เช่นการเปลี่ยนเป็นซูเปอร์แมนหรืออะไรบางอย่าง แต่มันกลับน่าเสียดายที่ความฝันนี้ไม่เป็นจริง แต่อย่างน้อยมันก็ยังมีทักษะเพิ่มให้ นั้นก็คือเขาสามารถใช้ขวดอสูรได้ห้าครั้งต่อวัน
อันที่จริงแล้วขวดอสูรนั้นมีลักษณะเหมือนขวดน้ำเต้าธรรมด มันจะปรากฏขึ้นโดยอัตโนมัติหลังจากที่เขายกระดับเป็นอาชีพฮันเตอร์ และมันเป็นวัตถุที่สามารถมองเห็นได้ด้วยสายตาของความเป็นจริงเช่นกัน มันค่อนข้างเล็กดังนั้นมันอาจจะนำไปใช้เป็นของตกแต่งได้
แต่ฟังก์ชั่นของมันนั้นกลับเป็นอะไรที่น่ามหัศจรรย์มาก มันสามารถเปิดใช้งานพื้นที่ล่าสัตว์ได้ เขายังสามารถต่อสู้กับสัตว์ร้ายขนาดเล็กในนั้น ยิ่งกว่านั้นสัตว์ร้ายขนาดเล็กที่อยู่ในนั้นก็เป็นสัตว์ร้ายที่มีระดับหายากหรือยอดเยี่ยมอีกด้วย
ทักษะนี้ค่อนข้างดี ด้วยเจ้านี้เขาก็ไม่จำเป็นที่จะต้องกังวลเกี่ยวกับการที่จะถูกคนอื่นเห็น เมื่อเขาได้ต่อสู้กับสัตว์ร้ายตัวเล็กๆเหล่านั้นอีกต่อไป อย่างไรก็ตามมันเป็นเรื่องหน้าเศร้าที่เจ้าน้ำเต้านี้สามารถใช้ได้เพียงห้าครั้งต่อวัน นั่นหมายความว่าหากเขาต้องการการ์ดสัตว์ร้ายขนาดเล็กในอนาคต เขาจะทำได้เพียงห้าครั้งเท่านั้น
หลังจากทำความคุ้นเคยกับการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นจากสายตาของโลก ACG แล้ว สิ่งต่อไปที่โจวหยูทำก็คือการไปดูสตูดิโอการ์ตูนอย่างกระตือรือร้นและรอการกำเนิดของการ์ตูนชุดแรก