The Rise of Otaku - ตอนที่ 85
บทที่ 85 ในที่สุดสวนสนุกก็เปิดอย่างเป็นทางการ
เดิมหมู่บ้านลู่หัวก็ไม่ใช้หมู่บ้านที่ยากจนแต่อย่างใด แต่ยังไงก็ตามกลับมีคนหนุ่มสาวจำนวนน้อยที่ต้องการมีส่วนร่วมในการเกษตรแบบดังเดิม แน่นอนว่าการโหยหาเมืองใหญ่ๆนั้นเป็นธรรมชาติของมนุษย์ แต่มันก็มีข้อยกเว้นเช่นกันนั้นก็คือโจวหยูถือว่าเป็นข้อยกเว้น
ในหมู่บ้านและเมืองใกล้เคียงเองก็มีเพียงหมู่บ้านวู่ตงที่ได้ค้นพบวิธีใหม่ๆในการพัฒนาเศรษฐกิจของหมู่บ้านตัวเอง แน่นอนว่าได้มีหมู่บ้านอื่นๆที่พยามทำตาม แต่มันก็ไม่ได้ประสบความสำเร็จเท่ากับหมู่บ้านวู่ตงแต่อย่างใด
แต่มาตอนนี้กลับมีสวนสนุกในชนบทที่สร้างโดยโจวหยูและจัดการโดยโจวฟูเกิดขึ้น และนั้นทำให้เหล่าหมู่บ้านต่างๆต่างก็จับตามองดูผลลัพธ์ที่จะเกิดขึ้น
หลังจากเข้ามาดำเนินงานในธุรกิจนี้อย่างเป็นทางการ งานแรกที่โจวฟูคือทำการประปรุงสภาพแวดล้อมรอบๆของสวนน้ำทันที พร้อมๆกับการเปลี่ยนเครื่องแบบให้เป็นแนวเดียวกันทั้งหมด หลังจากการปรับเปลี่ยนนี้เสร็จมันก็ทำให้ภาพรวมของสวนสนุกแห่งนี้ดูดีขึ้นมากในตอนแรก
นี่คือทั้งหมดที่เขาสามารถทำได้สำหรับปีนี้ ภายในปีหน้ามันจะแตกต่างกว่านี้อย่างแน่นอน
ในโรงเรียนประถมศึกษาลู่หัวเองก็ได้เข้าสู่บรรยากาศในการสอบครั้งสุดท้ายแล้ว ดูเหมือนว่าการสอบครั้งนี้จะมีความรุนแรงกว่าครั้งก่อนมาก โดยเฉพาะนักเรียนชั้นป. 6 นี่ถือว่าเป็นวันหยุดฤดูร้อนครั้งสุดท้ายของพวกเขาในหมู่บ้านลู่หัว ไม่ว่าพวกเขาจะได้ไปสวนสนุกของพี่ชายหยูแบบฟรีหรือไม่ มันได้ขึ้นอยู่กับการสอบครั้งนี้
เมื่อผลการสอบออกมามันก็ช่วยไม่ได้ที่จะมีทั้งคนที่สมหวังและผิดหวัง คนที่ได้รับบัตรเข้าฟรีต่างก็ส่งเสียงดังออกมาอย่างไม่ปิดบัง ส่วนคนที่ไม่ถูกเรียกชื่อต่างก็ได้แสดงสีหน้าเศร้าออกมาอย่างไม่ปิดบังเช่นกัน แต่มันก็ไม่เท่ากับนักเรียนที่อยู่อันดับที่ 11 พวกเขาเหล่านี้ถึงจะเป็นคนที่ผิดหวังมากที่สุด
นักเรียนที่ได้รับบัตรฟรีในครั้งนี้ไม่ได้เป็นอะไรที่เกินดาดหมายมากนัก ส่วนใหญ่พวกเขาต่างก็เป็นนักเรียนที่มีผลการเรียนดีอยู่แล้ว แต่มันก็มีเรื่องเซอไพร์เช่นกันนั้นก็คือ เด็กนักเรียนที่ทำผลการสอบได้ดีจากเดิมมากจะได้รับเลือกโดยโจวหยูเป็นการส่วนตัวและเขาจะมอบบัตรเข้าฟรีให้เด็กๆเหล่านั้น หนึ่งในก็คือเจ้าหนูน้อยโจวเฮา
วันหยุดฤดูร้อนกำลังจะมาถึงเร็วๆนี้ ส่วนพนักงานดูแลสวนน้ำเองก็ได้รับการคัดเลือกเสร็จแล้วเช่นกัน พวกเขาทั้งหมดต่างก็เป็นนักเรียนในท้องถิ่นทั้งหมด การทำงานในสวนน้ำในช่วงวันหยุดฤดูร้อนไม่เพียงแต่พวกเขาสามารถทำเงินได้เท่านั้น แต่พวกเขายังสามารถเข้าสวนสนุกได้ฟรีอีกด้วย ดังนั้นมันจึงเป็นเรื่องง่ายที่โจวฟูจะทำการรับสมัครพนักงาน
เนื่องจากปัจจุบันมีเพียงสวนน้ำในสวนสนุกเท่านั้น ดังนั้นมันจึงไม่มีค่าเข้าสำหรับสวนสนุก ทุกคนสามารถเข้าไปได้ แต่เมื่อพวกเขาต้องการเข้าสวนน้ำนั้นจะแตกต่างออกมา พวกเขาจำเป็นต้องเสียค่าเข้าไม่อย่างนั้นพวกเขาจะถูกกันไม่ให้เข้าไปข้างในเด็ดขาด
ในส่วนของร้านขายของและโต๊ะเก้าอี้ไม้เองก็ได้รับการถูกจัดเรียงอย่างดี โจวฟูได้เปิดพื้นที่เหล่านี้เป็นสถานที่พักผ่อน แต่แน่นอนว่าพวกเขายังคงต้องจ่ายค่าอาหารหากพวกเขาต้องการกินมัน
น้ำผลไม้ ไอศกรีม และเครื่องดื่มเย็นๆทุกประเภทต่างก็เป็นของโปรดของพวกเด็กๆ นอกจากนี้โจวฟูยังได้มีการจัดเตรียมอาหารว่างของท้องถิ่นเอาไว้มากมาย ในเวลาปกติอาหารและของขบเคี้ยวเหล่านี้ดูเป็นของธรรมดาในสายตาชาวบ้าน แต่เมื่อนำพวกมันมารวมตัวกันและถูกจัดเอาไว้ในสถานที่แบบนี้ มันทำให้อาหารธรรมดาพวกนี้กลายก็เป็นของอร่อยขึ้นมาได้
ทางด้านพ่อค้าแม่ค้าทุกคนเองต่างก็แต่งตัวเหมือนกันหมด ด้วยรูปลักษณ์แบบนี้มันทำให้คนที่พบเห็นต่างก็รู้สึกถึงความเป็นมืออาชีพทันที
หลังจากทำงานหนักมาตลอดสองสามวันที่ผ่านมา ในที่สุดโจวฟูก็สามารถหายใจออกมาได้ด้วยความโล่งอก ทุกอย่างได้รับการจัดการอย่างเหมาะสมแล้ว สิ่งที่เหลืออยู่ในตอนนี้คือการดูว่าเขาสามารถดึงดูดลูกค้าได้มากแค่ไหน ยังไงก็ตามเขาเองก็ไม่ได้หวังไว้สูงนัก เนื่องจากก่อนหน้านี้พวกเขาไม่เคยทำการโฆษณาอะไรเลย ถึงเขาจะเริ่มโฆษณาในตอนนี้แต่มันก็คงสายเกินไปแล้ว ดังนั้นเขาจึงหวังว่าด้วยชื่อเสียงของสวนสนุกนี้จะสามารถดึงดูดผู้คนจะหมู่บ้านข้างๆและในเมืองได้บ้าง ไม่อย่างนั้นมันก็มีความเป็นไปได้ที่จะสวนสนุกแห่งนี้จะเจ๊ง
ในช่วงต้นฤดูร้อน สวนสนุกลิตเติ้ลพาราไดซ์ก็ได้เปิดอย่างเป็นทางการ
เนื่องจากการคัดค้านที่แข็งแกร่งของโจวหยู มันจึงทำให้ไม่มีพิธีเปิดอะไรมากมาย พวกเขาทำเพียงจุดประทัดแบบง่ายๆเท่านั้น หลังจากผ่านเที่ยงวันของวันแรกไปก็มีผู้คนปรากฏตัวขึ้นทีละน้อย แต่ส่วนใหญ่เป็นนักเรียนที่ถือบัตรฟรีและคนที่พวกเขานำมา
กลุ่มเด็กๆมาที่สวนสนุกเพื่อความสนุกสนานเท่านั้น พวกเขาต่างก็ไปรับปืนฉีดน้ำฟรี เรือไม้ หรือของเล่นสำหรับเล่นในน้ำอื่นๆ ก่อนที่จะไปอาบน้ำร้อนในพื้นที่ซักผ้าและจากนั้นก็กระโดดลงสระอย่างแรง
สระคลื่นเองก็ยังได้ต้อนรับลูกค้ากลุ่มแรกเช่นกัน ก่อนหน้านี้พนักงานคิดว่าพวกเด็กๆจะรีบวิ่งไปเล่นยังสระน้ำเสียอีก แต่มันก็เกิดเรื่องแปลกๆขึ้นเพราะพวกเด็กๆต่างก็อยู่บริเวณชายหาดเกือบทั้งหมด มีเด็กเพียงส่วนน้อยเท่านั้นที่ลงไปเล่นในน้ำ
ในตอนนี้โจวหยูพักที่บ้านเดิมตลอดเวลา พวกเด็กๆต่างก็ไปที่สวนสนุกทั้งหมด มันจึงทำให้ตอนนี้บ้านของเขาเงียบกว่าเดิมมาก บ้านใหม่ในสวนสนุกยังอยู่ในระหว่างการก่อสร้างและมันยังมีสถานที่ก่อสร้างทุกแห่งในสวน มันไม่เหมาะกับการใช้ชีวิตในขณะนี้ ดังนั้นเขาจึงได้วางแผนเอาไว้ว่าหลังจากระยะเวลาหนึ่งเมื่อโครงการเสร็จสมบูรณ์ดีแล้ว เขาจะรีบย้ายเข้าไปทันที
ในตอนเย็น
โจวฟูมาหาโจวหยูด้วยใบหน้าที่แย่เป็นพิเศษ ดูเหมือนว่าสถานการณ์การขายในวันนี้ยังไม่เป็นที่น่าพอใจ มันจึงทำให้อีกฝ่ายต้องการพูดคุยกับโจวหยู แต่เขาไม่ได้ตระหนักว่าวันนี้มันเป็นเวลาที่ภาพยนตร์อนิเมชั่น
พวกเด็กๆต่างก็มาดูหนังตรงเวลา ดังนั้นมันจึงทำให้โจวฟูทำได้เพียงนั่งรอด้านข้างได้เท่านั้น
“ ฉันไม่คิดเลยว่าขนาดวันแรกของการเปิดตัวของสวนสนุก เธอจะอยู่ที่บ้านของตัวเองแบบนี้ และนี้เธอยังจะมีอารมณ์มาเปิดหนังให้พวกเด็กๆดูอีกเหรอ?”
โจวฟูรู้สึกหงุดหงิดอย่างหนักกับทัศนคติแบบนี้ของโจวหยู เห็นได้ชัดว่าอีกฝ่ายได้ทำการลงทุนเป็นจำนวนเงินหลายล้านหยวน แล้วทำไมอีกฝ่ายถึงสามารถทำตัวผ่อนคลายแบบนี้ หรือว่ามันอาจจะเกิดบางอย่างที่ผิดปกติกับหัวของอีกฝ่ายกัน?
โดยทั่วไปหากเจ้าของธุรกิจทำเช่นนี้ธุรกิจแบบนี้มันมีความเป็นไปได้มากที่จะล้มเหลว แม้ว่ามันอาจจะมีข้อยกเว้นบ้าง แต่โจวฟูไม่เชื่อว่าข้อยกเว้นเช่นนี้จะเกิดขึ้นกับคนอย่างโจวหยู
“เออ!…แล้วมันมีความจำเป็นอะไรที่ผมต้องไปละครับ?”
โจวหยูกำลังพูดความจริง เพราะอากาศเริ่มร้อนขึ้นมันจึงเป็นเรื่องยากอย่างมากที่เขาจะออกไปข้างนอก และเขารู้ดีว่าการไปงานแบบนั้นจำเป็นต้องมีการแต่งตัวอย่างทางการ ซึ่งมันเป็นอะไรที่เขาไม่ต้องการจะทำ ในทางกลับกันโจวฟูสวมสูทและท่าทางที่เฉียบแหลมของนักธุรกิจที่ประสบความสำเร็จ มันได้ทำลายรูปลักษณ์ที่ขี้เกียจของโจวหยูอย่างสิ้นเชิง
“หยุดยิ้มเลย! … เฮ้อ! ในวันนี้การขายบัตรไม่ดีเลย นอกจากนักเรียนที่เธอได้แจกบัตรเข้าฟรีไป ก็มีคนเพียงร้อยคนเท่านั้นที่มาใช้งามมัน จะเป็นการดีกว่าไหมถ้าเราทำพวกบัตรส่วนลดหรือบัตรสมาชิก…”
หลังจากพูดอย่างนั้นเขาก็มองโจวหยูอย่างคาดหวังบางอย่าง แต่เขาไม่ได้คิดว่าใบหน้าของโจวหยูจะไม่มีการเปลี่ยนแปลงอะไรเลยหลังจากที่ได้ยิน
โจวฟูที่เห็นแบบนั้นก็พูดต่อไปว่า “เฮ้อ! นี้คิดเป็นเงินหมุนเวียนของวันนี้ ฉันคิดว่าถ้าเราเปิดในช่วงกลางคืนเพิ่ม มันอาจจะทำให้เราได้รับผลกำไรมากขึ้น เธอคิดยังไงกับการปาร์ตี้ริมสระน้ำละ? ทุกวันนี้คนหนุ่มสาวทุกคนชอบจัดปาร์ตี้แบบนี้มาก? “
“เออ! ถ้ามีงานปาร์ตี้ในตอนเย็นแบบนี้ลุงโจวคิดว่าพวกชาวบ้านจะเห็นด้วยไหม?”
มันคงไม่ใช้เรื่องดีนักถ้าทำให้คนในหมู่บ้านได้รับผลกระทบจากปาร์ตี้ริมสระน้ำ ดังนั้นเพื่อป้องกันการเกิดปัญหาตามมา โจวหยูจึงได้ต้องกฎเอาไว้ว่าการจัดปาร์ตี้สระน้ำนั้นสามารถทำได้ แต่มันต้องตั้งอยู่ในเงื่อนไขที่มีเสียงดังไม่มากเท่านั้น ถ้าเกิดว่ามีชาวบ้านมาร้องเรียนเรื่องนี้กับเขา เขาก็ยินดีที่จะหยุดกิจกรรมนี้ทันที
โจวฟูที่ได้ฟังแบบนี้ก็รีบตกลงอย่างรวดเร็ว และออกไปจัดการเรื่องนี้โดยเร็วที่สุด
คนเก่งกับคนธรรมดานั้นแตกต่างกันเสมอ พวกเขาทำงานได้เร็วมาก ซึ่งมันเป็นอะไรที่แตกต่างจากโจวหยูที่เป็นเหมือนตตัวหนอนขี้เกียจตัวนี้มาก ถึงเขาจะมีความคิดมากมายเต็มไปหมด แต่เขาก็เลือกที่จะอยู่เฉยๆและปล่อยผ่านความคิดเหล่านั้นไป
เงินกำไรของสวนน้ำวันแรกนั้นไม่เป็นที่น่าพอใจเท่าไหร่ แต่สำหรับร้านค้าขายขนมกับสามารถทำกำไรได้เป็นอย่างดี ที่เป็นแบบนั้นก็เนื่องจากพวกเด็กๆต่างก็ใช้พลังงานไปมากในการเล่น มันจึงช่วยไม่ได้ที่พวกเขาต่างก็รู้สึกหิวทันทีที่ขึ้นมา
แน่นอนว่ามันไม่ได้สร้างผลกำไรมากมายอะไรนัก แต่สำหรับพ่อค้าแม่ค้าเหล่านั้นแค่นี้ก็ถือเป็นเงินมากกว่าที่พวกเขาทำได้ตามวันปกติเสียอีก ดังนั้นพวกเขาจึงต้องการใช้โอกาสนี้เพื่อทำเงินให้ได้มากที่สุด
ถ้าจะพูดโดยสรุป สถานการณ์ในปัจจุบันของสวนน้ำนั้นคือกำลังประสบภาวะขาดทุนนั้นเอง