The simple life of the emperor - ตอนที่ 125
เทียนหลางและแอนเดียเข้ามาในวิหารนักบุญเปรโดเขาอดไม่ได้ที่จะทึ่งกับการออกแบบที่สมบูรณ์แบบระหว่างความงามและศักดิ์สิทธิ์ที่ผสมรวมกันได้อย่างลงตัวแม้จะมีบางจุดที่ผิดพลาดอยู่นิดหน่อยแต่นั่นก็สามารถมองข้ามไปได้หากมองในภาพรวม ทำเอาเทียนหลางนั้นอดไม่ได้ที่จะชื่นชมนักออกแบบที่ออกแบบวิหารแห่งนี้
แอนเดียนำเทียนหลางเดินไปตามทางระหว่างทางนั้นเทียนหลางก็เห็นบาทหลวงเดินผ่านไปผ่านมา พร้อมกับมองเขาด้วยท่าทีสงสัยเล็กน้อยแต่เทียนหลางก็ไม่ได้สนใจอะไรมากนักเขายังคงเดินตามแอนเดียไปเรื่อยๆ
แอนเดียพาเทียนหลางลงลิฟท์มายังชั้นใต้ดิน เมื่อประตูลิฟท์เปิดออกเทียนหลางก็พบเห็นห้องโถงขนาดใหญ่ที่เต็มไปด้วยเทคโนโลยีที่ทันสมัยและการป้องกันที่แน่นหนาของกองกำลังติดอาวุธ ทำให้เทียนหลางอดไม่ได้ที่จะถามติดตลกออกมา
”มีกองกำลังติดอาวุธของตัวเองขนาดนี้จะไปก่อสงครามที่ไหนงั้นเหรอ ?”
แอนเดียที่ได้ยินแบบนั้นก็หัวเราะออกมาก่อนจะพูดขึ้นว่า
”ต้องมีการเตรียมพร้อมกันมากหน่อยเพราะสิ่งที่เราต้องเจอนั้นไม่ใช่ทหารหรือว่าสัตว์ทั่วไปนี่คะ”
เทียนหลางที่ได้ยินแบบนั้นก็พยักหน้าออกมาเล็กน้อยก่อนจะถามต่อว่า
”พวกคุณมีสาขากันอยู่ทุกที่เลยงั้นเหรอ ?”
”ไม่หรอกคะ แต่ถึงอย่างงั้นพวกเราก็มีสาขาอยู่เกือบทุกประเทศในโลกยกเว้นแต่บางประเทศเท่านั้นอย่างเช่นเกาหลี อเมริกา หรือจีน ประเทศเหล่านี้จะมีองค์กรของตัวเองอยู่นะคะ”
”งั้นเหรอ..”
เรื่องเหล่านี้เทียนหลางก็พอจะเข้าใจอยู่บ้างว่าแต่ละประเทศนั้นมักจะมีองค์กรลับของตัวเองอยู่ยกตัวอย่างจีนนั้นก็มีหน่วยรบพิเศษที่คอยทำภาระกิจลับๆอยู่ภายในประเทศ หรือกระทั้งเหล่าสำนักและนิกายต่างๆก็เช่นกัน
เทียนหลางเดินตามแอนเดียมาเรื่อยๆระหว่างทางเจ้าหน้าที่จำนวนมากก็ต่างทักทายแอนเดียอย่างสนิทสนมทำเอาเทียนหลางอดไม่ได้ที่จะพูดออกมา
”ดูเหมือนคุณจะมีเป็นที่รู้จักดีเลยนะ”
”ก็นิดหน่อยนะ ว่าแต่คุณต้องการจะไปตรวจสอบอำพันปีศาจก่อนหรือว่าจะดูนักวิจัยคนนั้นก่อนดีละ ?”
เทียนหลางลูบคางเล็กน้อยก่อนจะพูดขึ้นว่า
”งั้นไปดูนักวิจัยคนนั้นของคุณก่อนก็แล้วกัน”
”งั้นตามฉันมาทางนี้เลย”
แอนเดียนำเทียนหลางมาตามทางเดินลึกลงไปยังชั้นใต้ดินซึ่งดูเหมือนที่นี้จะเป็นห้องวิจัยอะไรสักอย่าง ระหว่างทางเทียนหลางก็ถูกแอนเดียเดินพาทั้งวิจัยอุปกรณ์และอาวุธต่างๆมากมายจนเทียนหลางอดไม่ได้ที่จะยิ้มออกมาก่อนจะพูดออกมา
”คุณไม่จำเป็นจะต้องโอ้อวดของพวกนี้กับผมหรอก ผมไม่ได้สนใจของพวกนี้”
เทียนหลางนั้นมีชีวิตอยู่มานานเดินทางไปยังดินแดนและโลกต่างๆมามากทำให้เขานั้นเห็นสิ่งประดิษฐ์ล้ำยุคมาเป็นจำนวนมากฉะนั้นของที่เหล่านี้ที่นักวิจัยของวาติกันกำลังวิจัยกันอยู่สำหรับเทียนหลางแล้วมันก็เหมือนกับของเล็กเด็กเท่านั้นเอง ยิ่งไม่ต้องพูดถึงว่าเทียนหลางนั้นแข็งแกร่งพอที่จะทำลายดาวดวงนึงได้
แอนเดียที่ได้ยินก็ยิ้มออกมาก่อนจะพาเทียนหลางมายังห้องขังห้องหนึ่งซึ่งด้านในมีปีศาจสูงกว่าห้าเมตรถูกตึงร่างด้วยโซ่ขนาดใหญ่อยู่พร้อมกับมีเจ้าหน้าที่ติดอาวุธหนักหลายคนคอยจับตาดูอยู่อย่างใกล้ชิด
เทียนหลางมองมันผ่านกระจกอยู่สักพักก่อนจะถามกับแอนเดียว่า
”นี่คือนักวิจัยคนนั้นงั้นเหรอ ?”
แอนเดียพยักหน้าก่อนจะหยิบเอกสารมาให้กับเทียนหลางได้ดู ซึ่งมันคือข้อมูลที่ทางนักวิจัยของวาติกันศึกษาจากปีศาจตัวนี้ในช่วงเวลาที่ผ่านมา พร้อมอธิบายถึงศักยภาพด้านต่างๆของมันไว้อย่างละเอียด
เทียนหลางพลิกกระดาษไปมาก่อนจะเอ่ยกับแอนเดียว่า
”เปิดประตูหน่อยสิ ผมอยากจะเข้าไปดูใกล้ๆ”
แอนเดียที่ได้ยินคำพูดของเทียนหลางก็ตกตะลึงไปเล็กน้อยก่อนจะถามออกไปว่า
”คุณอ่านเอกสารทั้งหมดรึยัง ?”
เทียนหลางพยักหน้าพร้อมกับถามกลับไปว่า
”อ่านแล้วล่ะ”
”ถ้าอ่านแล้วคุณก็น่าจะรู้ว่าปีศาจตัวนั้นน่ากลัวและทรงพลังมากขนาดไหนคุณยังอยากจะเข้าไปดูมันใกล้ๆอีกงั้นเหรอ ?”
เทียนหลางพยักหน้ายืนยัน แอนเดียเห็นแบบนั้นก็ค้านขึ้นมาอีกครั้ง
”แม้แต่เจ้าหน้าที่ระดับสูงที่มีประสบการณ์มากกว่าสิบปีก็ยังยากที่จะต่อกรกับมันเลยนะคุณแน่ใจงั้นเหรอ ?”
เทียนหลางที่ได้ยินคำทักท้วงของแอนเดียเขาก็เริ่มที่จะเบื่อเล็กน้อยก่อนจะพูดกับเธอไปว่า
”คุณจะให้ผมเข้าไปด้วยตัวเองหรือว่าคุณจะเปิดมันให้ผมเข้าไป ?”
เมื่อแอนเดียเห็นสีหน้าจริงจังของเทียนหลางแล้วเธอก็ถึงกับถอนหายใจก่อนจะพูดอะไรบางอย่างกับกล้องจากนั้นประตูห้องกระจกก็เปิดออกพร้อมกับเสียงขู่คำรามของปีศาจด้านใน
เทียนหลางเดินเข้าไปด้านในอย่างช้าๆก่อนจะสำรวจเจ้าปีศาจตรงหน้าอย่างใจเย็น ทางด้านแอนเดียที่คอยยืนดูอย่างด้านหลังอย่างกระวนกระวายใจนั้นก็ถูกทักโดยชายวัยกลางคนคนหนึ่ง
”เป็นยังไงบ้างแอนเดียผู้เชี่ยวชาญที่คุณบอกว่าเชิญเขามาแล้วนั่นนะ”
แอนเดียที่ได้ยินก็สะดุ้งเล็กน้อยก่อนจะหันไปหาชายวัยกลางคนคนนั้นพร้อมกับตอบกลับด้วยท่าทีเคารพนับถือว่า
”หัวหน้าเดเมี่ยนคะ ฉันได้เชิญเขามาแล้วคะแต่ว่าในตอนนี้เขาเข้าไปด้านในห้องขังแล้ว”
เมื่อหัวหน้าเดเมี่ยนได้ยินแบบนั้นก็แสดงสีหน้าตกใจออกมาทันทีก่อนจะพูดกับแอนเดียว่า
”แล้วทำไมเธอไม่ห้ามเขาละ ?”
”ฉันพยายามแล้วคะ แต่เขาก็ยืนยันว่าจะเข้าไปให้ได้”
แอนเดียพูดออกมาด้วยท่าทีช่วยไม่ได้ หัวหน้าเดเมี่ยนก็ได้แต่ถอนหายใจพร้อมกับมองไปยังห้องขังก็พบกับเด็หนุ่มคนหนึ่งกับมองเจ้าปีศาจตรงหน้าอย่างพินิจพิเคราะห์
เทียนหลางมองเจ้าปีศาจอย่างสนใจอยู่สักพักก่อนจะเลิกสนใจมันและหันมาพูดกับแอนเดียว่า
”คุณให้ผมจัดการได้ตามเหมาะสมใช่ไหม ?”
แอนเดียได้ยินก็แสดงสีหน้าสงสัยเล็กน้อยก่อนจะหันไปมองที่หัวหน้าเดเมี่ยน ซึ่งหัวหน้าเดเมี่ยนก็คิดอยู่สักพักก่อนจะพยักหน้าเล็กน้อยเพื่ออนุญาต
ทางด้านแอนเดียที่ได้เห็นว่าหัวหน้าของเธออนุญาตแล้วนั้นเธอก็พยักหน้าบอกเทียนหลางทันที เทียนหลางเมื่อได้รับคำยืนยันแล้วเขาก็ถอนหายใจออกมาก่อนจะบ่นเล็กน้อยเพื่อให้แอนเดียได้ยิน
”พอดีผมจะต้องรีบออกไปซื้อของฝากให้คนในบ้าน ฉะนั้นจะมาเสียเวลาอยู่ที่นี้นานนักไม่ได้ ผมจะรีบจัดการเรื่องของคุณให้เร็วก็แล้วกันนะ”
เมื่อพูดจบเทียนหลางก็รวบรวมพลังเล็กน้อยไปที่ฝ่ามือก่อนจะซัดไปยังร่างของปีศาจอย่างรวดเร็ว ทางด้านหัวหน้าเดเมี่ยนและแอนเดียที่กำลังงุนงงกับคำพูดของเทียนหลางอยู่นั้นเมื่อเห็นท่าทีของเทียนหลางพวกเขาก็ถึงกับแสดงสีหน้าตกใจออกมากับการกระทำของเขา
ทันทีที่ฝ่ามือของเทียนหลางปะทะเข้ากับร่างของปีศาจนักวิจัยคนนั้น ร่างของมันก็แตกสลายกลายเป็นละอองเลือดทันที
เทียนหลางลดฝ่ามือลงอย่างรวดเร็วก่อนจะเดินออกมาจากห้องขังโดยที่เสื้อผ้าของเขาไม่ได้เลอะเลือดแม้แต่หยดเดียว