The simple life of the emperor - ตอนที่ 126
ทันทีที่เทียนหลางเดินออกมาจากห้องขังเขาก็ถูกแอนเดียต่อว่าทันที
“นี่คุณทำอะไรลงไป ! คุณไม่รู้หรือไงว่าเขานั้นเป็นคนในองค์กรของเรา ?!”
เทียนหลางมองแอนเดียเล็กน้อยก่อนจะตอบกลับด้วยท่าทีแบบไม่สบอารมณ์นัก
“อย่าพูดให้ผมขำนักเลย พวกคุณเองก็รู้อยู่แก่ใจว่าเขานั้นไม่ใช่มนุษย์อีกต่อไปแล้ว ให้เขามีชีวิตอยู่แบบนี้สู้ฆ่าเขาทิ้งไปเลยยังจะดีซะกว่า”
แอนเดียที่ได้ยินแบบนั้นสีหน้าของเธอก็เปลี่ยนไปเธอโมโหอย่างมากพร้อมกับต่อว่าเทียนหลางอีกครั้ง
“แต่คุณก็ไม่มีสิทธิ์ไปฆ่าเขาแบบนั้นนะ”
เทียนหลางถอนหายใจออกมาทันที
“ก็คุณบอกเองว่าให้ผมจัดการได้ตามใจชอบ อีกอย่างนะตัวคุณเป็นเชิญผมมาเอง เอาละเรื่องทางนี้ก็จบแล้วพาผมไปหาอำพันปีศาจได้หรือยัง ?”
เทียนหลางถามออกไปด้วยท่าทีสบายๆ แอนเดียได้แต่ถอนหายใจออกมาพร้อมกับนำทางเทียนหลางไปยังห้องที่เก็บรักษาอำพันปีศาจเอาไว้โดยมีหัวหน้าเดเมี่ยนเดินตามอยู่ด้านหลัง ในระหว่างทางจู่ๆเทียนหลางก็เอ่ยขึ้นกับทั้งสองคนว่า
“ผมไม่รู้หรอกนะว่าพวกคุณมีประสบการณ์ต่อสู้กับปีศาจมามากขนาดไหน แต่พวกคุณอย่าดูถูกปีศาจมากจนเกินไปจะดีกว่านะ”
แอนเดียที่ได้ยินคำพูดของเทียนหลางก็อดไม่ได้ที่จะถามออกมาด้วยความสงสัย
“คุณหมายความว่ายังไง ?”
“เจ้าปีศาจที่ผมพึ่งตบตายไปนั่นก่อนหน้านั้นคุณบอกว่ามันร้ายกาจมากเลยใช่ไหม ?”
”ใช่”
แอนเดียพยักหน้าตอบรับ เทียนหลางจึงหัวเราะเล็กน้อยและพูดต่อว่า
“ปีศาจนะไม่ได้โง่อย่างที่คุณคิดหรอกนะ ในโลกของปีศาจนั้นก็มีการแบ่งชนชั้นเช่นเดียวกันกับสังคมมนุษย์นอกจากพวกปีศาจชั้นเลวที่เห็นกันได้ทั่วไปแล้วปีศาจที่อยู่เหนือกว่านั้นก็มักจะมีสติปัญญาเทียบเท่ากับมนุษย์ทั่วๆไป หรือบางทีอาจจะมากกว่าด้วยซ้ำ”
เมื่อแอนเดียและเดเมี่ยนได้ยินก็พยักหน้าอย่างเข้าใจเพราะพวกเขาก็เคยเจอปีศาจที่มีสติปัญญามาบ้างเหมือนกันแต่ส่วนใหญ่ก็จะมีสติปัญญาเทียบเท่ากับเด็กอายุสิบขวบเท่านั้น ยากนักที่จะเจอปีศาจที่จะมีฉลาดเทียบเท่ากับมนุษย์ที่เติบโตเต็มที่ และในตอนนี้นักวิทยาศาสตร์และผู้นำระดับสูงขององค์กรก็ยังคงถกเถียงกันอยู่ว่าจะมีปีศาจที่ฉลาดเหนือกว่านั้นอยู่บ้างหรือเปล่า
“มีปีศาจแบบนั้นอยู่จริงๆงั้นเหรอ ?”
แอนเดียถามด้วยความสงสัย เทียนหลางที่ได้ยินแบบนั้นก็ยิ้มพร้อมกับหัวเราะออกมาก่อนจะตอบกลับคำถามของเธอไปด้วยคำถามที่ว่า
“เธอคิดว่าแท้จริงแล้วมนุษย์เราฉลาดได้แค่ไหนล่ะ ?”
แอนเดียที่ได้ยินคำถามก็คิดสักพักก่อนจะส่ายหน้า
“ไม่รู้สิปัจจุบันก็มีอัจฉริยะที่มี IQ มากกว่า 180 อยู่หลายคนเหมือนกันนะ”
เทียนหลางพยักหน้าเล็กน้อยก่อนจะพูดขึ้นว่า
“ปีศาจรูปร่างคล้ายมนุษย์ที่พวกคุณเคยเห็นเดิมทีก็มีรากฐานเดียวกันกับมนุษย์เรียกได้ว่าแทบจะถอดแบบกันมาด้วยซ้ำเพียงแค่เส้นทางการดำเนินชีวิตนั้นแตกต่างกันก็เท่านั้น การที่จะมีปีศาจที่ฉลาดหลักแหลมเกินกว่ามนุษย์อยู่ใช่ว่าจะเป็นไปไม่ได้”
เทียนหลางเงียบไปสักพักก่อนจะพูดต่อไปว่า
“กอปรกับที่ปีศาจนั้นมีช่วงชีวิตที่ยาวนานกว่ามนุษย์มากมายนักย่อมมีอารยธรรมมากกว่ามนุษย์อีกทั้งพวกมันยังคงแทรกซึมอยู่ร่วมกับมนุษย์นั่นแสดงให้เห็นแล้วว่าพวกมันนั้นฉลาดเพียงใด”
เทียนหลางยิ้มขึ้นอีกครั้งพร้อมกับมองไปที่แอนเดียและเดเมี่ยน
“ระวังเอาไว้เถอะ หากมนุษย์ยังคงลุ่มหลงในอำนาจจอมปลอมอยู่แบบนี้ไม่ช้าพวกคุณก็อาจจะพ้ายแพ้ให้แก่สังคมของพวกปีศาจเอาได้นะ”
เทียนหลางเงียบไปครู่หนึ่งก่อนจะพูดขึ้นอีกว่า
“อีกทั้งในโลกนี้ยังมีสิ่งมีชีวิตที่เลวร้ายกว่าปีศาจอยู่”
แอนเดียและเดเมี่ยนที่ได้ยินคำพูดของเทียนหลางก็แสดงสีหน้าตกใจออกมาทันที แอนเดียเหมือนพยายามจะพูดอะไรบางอย่างแต่ทันทีนั้นก็ได้มีเสียงระเบิดดังขึ้น
ตูม !!!
เสียงระเบิดพร้อมกับเสียงสัญญาณเตือนภัยดังขึ้น แอนเดียกับเดเมี่ยนตกใจเล็กน้อยก่อนที่เดเมี่ยนจะหันมาพูดกับแอนเดียบางอย่างและเขาก็วิ่งออกไปทันที
แอนเดียทันมาพูดกับเทียนหลางว่า
“ดูเหมือนจะมีคนโจมตีที่นี้นะค่ะ โปรดตามฉันมาด้วยฉันจะพาคุณไปที่หลบภัย”
เทียนหลางมองแอนเดียเล็กน้อยก่อนจะเดินตามไปอย่างว่าง่าย แอนเดียพาเทียนหลางเดินไปตามทางเรื่อยๆซึ่งรอบข้างก็ต่างมีทหารติดอาวุธวิ่งพล่านไปทั่วพร้อมกับเสียงปืนดังสนั่น
ในระหว่างที่เทียนหลางกำลังเดินตามแอนเดียไปอยู่นั้นเขาก็ได้ถามเธอไปว่า
“เธอเคยสู้กับใครหรือเปล่า ?”
แอนเดียที่ได้ยินแบบนั้นก็ตอบกลับเทียนหลางด้วยท่าทีไม่พอใจเล็กน้อย
“คุณคิดจะดูถูกฉันเพราะเห็นฉันเป็นผู้หญิงงั้นเหรอ ?”
เทียนหลางส่ายหน้าก่อนจะชี้ไปยังด้านหน้าของแอนเดียซึ่งเป็นพื้นที่ลานกว้าง แอนเดียมองตามไปก็เห็นกับหน่วยติดอาวุธขององค์กรกำลังยิงปะทะกับผู้บุกรุกอยู่ แอนเดียตกใจเล็กน้อยและอดไม่ได้ที่จะพูดออกมา
“พวกมันบุกมาไวกันขนาดนี้ได้ยังไง ?”
”คงมาจากหลายทางหรือเปล่า ?”
เทียนหลางถามกลับแอนเดียซึ่งเธอก็ได้แต่พยักหน้าพร้อมกับเดินนำเทียนหลางไปยังห้องนิรภัย แต่ในขณะนั้นก็ได้มีคนกลุ่มหนึ่งถืออาวุธมาขวางพวกเขาเอาไว้พร้อมกับตะโกนใส่แอนเดียว่า
“หยุด !!”
แอนเดียกับเทียนหลางหยุดลงทันที เทียนหลางจ้องมองฝ่ายตรงข้ามเล็กน้อยเพื่อสำรวจคนเหล่านี้
‘อืม… เสื้อเกราะกันกระสุนอย่างดี ปืนกลกึ่งอัตโนมัติคุณภาพสูง ใช่พวกนี้บุกศูนย์วิจัยที่ขั้วโลกหรือเปล่านะ ?’
เทียนหลางขบคิดเล็กน้อยก่อนจะยิ้มออกมาอย่างช่วยไม่ได้ ทางด้านแอนเดียที่กำลังแสดงสีหน้าตกใจอยู่นั้นก็กลับมาแสดงท่าทีปกติอย่างรวดเร็วทันทีก่อนจะถามออกไป
“พวกแกต้องการอะไร ?”
พวกมันจ้องมองแอนเดียอยู่เล็กน้อยก่อนจะชูปืนขึ้นและยิงใส่พวกเขาทันที
ปัง ปัง ปัง
แอนเดียตกใจพร้อมกับลากเทียนหลางหลบไปหลังเสาขนาดใหญ่อย่างรวดเร็ว เมื่อหลบมาด้านหลังเสาแล้วแอนเดียก็หยิบปืนสั้นที่ซ่อนอยู่ออกมายิงปะทะกับฝ่ายตรงข้าม
เทียนหลางมองแอนเดียเล็กน้อยก่อนจะเอ่ยถามกับเธอไปว่า
“เธอคิดจะยิ่งสู้กับพวกมันจริงๆงั้นเหรอ ?”
แอนเดียที่ได้ยินคำถามก็หันมามองเทียนหลางด้วยความสงสัยก่อนจะถามกลับไปว่า
“แล้วคุณมีวิธีที่ดีกว่านั้นงั้นเหรอ ?”
เทียนหลางพยักหน้าพร้อมกับพูดขึ้นว่า
“มีแต่เธอช่วยหยุดยิงก่อนจะได้ไหม”
แอนเดียสงสัยแต่เธอก็ไม่มีทางเลือกมากนักเพราะหากยังยืนปะทะกันนานกว่านี้กระสุนของเธออีกไม่นานก็จะหมดลงและพวกเขาทั้งคู่ก็จะโดนล้อมทันทีดังนั้นแอนเดียจึงเลือกที่เชื่อเทียนหลางและหยุดยิง
เทียนหลางที่ได้เห็นว่าแอนเดียเชื่อใจเขาตัวของเทียนหลางก็อดไม่ได้ที่จะยิ้มออกมา
“รออยู่นี่”
“รอ ?”
ยังไม่ทันทีแอนเดียจะหายสงสัยร่างของเทียนหลางก็จางหายไปจากสายตาของเธอพร้อมกับเสียงกรีดร้องที่ดังออกมา
อ๊าาาาา อ๊ากกกก
เลือดสายกระจายพร้อมกับซากศพของผู้ที่บุกรุกที่กองอยู่บนพื้น เวลาเพียงเสี้ยววินาทีที่แอนเดียกระพริบตาผู้บุกรุกที่กระหน่ำรุมยิงเธออยู่เมื่อครู่ก็กลายเป็นเพียงซากศพไปเสียแล้ว
แอนเดียมองเทียนหลางที่ยืนอยู่ท่ามกลางเลือดด้วยความสงสัยและตื่นตระหนก ก่อนที่เธอจะถามออกไปด้วยน้ำเสียงอันหวาดหวั่น
“คุณเป็นใครกันแน่ ?”