The simple life of the emperor - ตอนที่ 150
“เทียนหลางนายมาที่นี้ได้ยังไง ?”
เทียนหลางที่ได้ยินคำถามเขาก็ยิ้มออกมาก่อนจะตอบกลับอย่างสบายๆ
“ก็เดินเข้ามานะสิครับ พอดีว่าเลขาไป๋โทรมาหาบอกเรื่องของพวกคุณ ผมก็เลยมาตามหาน่ะ”
ไป๋ตงหลิน ถังถัง และลูกทีมคนอื่นๆได้ยินแบบนั้นก็ถึงกับสับสนแต่ก็อดไม่ได้ที่จะแสดงสีหน้าดีใจออกมา ก่อนที่ไป๋ตงหลินจะนึกถึงเรื่องหนึ่งได้และถามออกมาด้วยความกังวล
“แล้วนายเข้ามาได้ยังไง พวกนั้นมันอยู่กันเต็มไปหมด”
“ไม่ต้องห่วงหรอกครับ ผมจัดการพวกนั้นเรียบร้อยแล้วเอาเป็นไปว่าออกมากันก่อนเถอะครับ”
เทียนหลางเปิดประตูห้องขังและให้ไป๋ตงหลินและคนอื่นๆออกมา จากนั้นเทียนหลางก็ถามกับไป๋ตงหลินว่า
“แล้วคนขององค์กรอื่นละครับ พอดีว่าเลขาไป๋อยากให้ช่วยพวกเขากลับไปด้วย”
ไป๋ตงหลินได้ยินแบบนั้นก็พยักหน้าก่อนจะบอกกับเทียนหลางว่า
“ดูเหมือนว่าเจ้าหน้าที่จาก FBI จะถูกนำไปเค้นข้อมูลที่ห้องอื่นส่วนเจ้าที่จาก CIA นั้นตายไปแล้ว”
ไป๋ตงหลินพูดออกมาด้วยสีหน้ารู้สึกผิด เทียนหลางถอนหายใจออกมาก่อนจะตบบ่าไป๋ตงหลินเบาๆ
“อย่าคิดมากไปเลยหัวหน้าไป๋ เอาเป็นว่าพวกคุณออกไปด้านนอกก่อนเถอะเดียวผมจะไปช่วยเจ้าหน้าที่คนนั้นเอง”
ไป๋ตงหลินพยักหน้าก่อนจะนำทีมของเขาออกไป หลังจากเสร็จสิ้นการช่วยเหลือไป๋ตงหลินและลูกทีมแล้ว เทียนหลางก็เดินตรงลึกเข้าไปในถ้ำ
เทียนหลางเดินมาเรื่อยๆก็พบเจอกับห้องๆหนึ่ง จากนั้นเทียนหลางก็ส่งสัมผัสของเขาเข้าไปด้านในก็พบว่ามีผู้ชายคนหนึ่งกำลังสอบสวนผู้หญิงที่กำลังถูกมัดอยู่กับเก้าอี้อยู่
เทียนหลางคาดว่าผู้หญิงที่กำลังถูกมัดอยู่นี้น่าจะเป็นเจ้าหน้าที่ของ FBI ที่ไป๋ตงหลินได้บอกก่อนหน้านี้ส่วนผู้ชายคนนี้ก็เหมือนกับว่ากำลังเค้นข้อมูลอะไรบางอย่างจากเธออยู่ และดูเหมือนว่าเธอจะปากแข็งไม่น้อยเลยทีเดียว
เทียนหลางมองเล็กน้อยก่อนจะส่งปราณกระบี่ของเขาพุ่งทะลุประตูเหล็กเข้าไป
“บอกฉันมาเดียวนี้ว่าแกรู้เรื่องเกี่ยวกับ อัลคาทาร่าได้ยังไง !!”
ชายที่ใบหน้าเต็มไปด้วยหรวดเคราตะโกนถามหญิงสาวที่กำลังถูกมัดติดอยู่กับเก้าอี้ เมื่อเห็นว่าหญิงสาวไม่ยอมบอกอะไรเลยชายคนนั้นก็แสดงท่าทีเคร่งครึมขึ้นก่อนจะสั่งให้ลูกน้องอีกคนด้านหลังหยิบถุงออกมาและคลุมหัวเธอพร้อมกับดึงให้ตึง เพื่อที่ต้องการจะให้หญิงสาวขาดอากาศหายใจ
หญิงสาวดิ้นรนอย่างทุรนทุรายเมื่ออากาศที่เธอใช้เริ่มเหลือน้อยลง เมื่อท่าทีของเธอเริ่มรุนแรงขึ้นลูกน้องของชายคนนั้นก็เอาถุงออกเพื่อให้เธอกลับมาหายใจได้อย่างปกติอีกครั้ง
แค๊ก แค๊ก
เธอไอออกมาเล็กน้อยก่อนจะจ้องมองไปยังชายตรงหน้าพร้อมกับยิ้มให้ เมื่อชายคนนั้นเห็นใบหน้าของเขาก็กลับไปมืดดำของอีกครั้งพร้อมกับสั่งให้ลูกน้องของเขาเริ่มทำการทรมานเธออีกครั้ง
อือ อือ !!
เธอดิ้นอย่างรุนแรงเพื่อที่จะขัดขืนการกระทำนั้น แต่การที่เธอถูกมัดอย่างแน่นหนาติดอยู่กับเก้าอี้แบบนี้ ทำให้เธอไม่สามารถทำอะไรได้นอกเสียจากการเตะขาไปมา
ถุงถูกครอบไปที่หัวของเธอพร้อมกับแรงที่ถูกกระชากทำให้ถุงนั้นแนบชิดกับใบหน้าของเธอ เธอดิ้นอย่างรุนแรงพร้อมกับหอบหายใจออกมา อากาศที่ใช้หายใจเริ่มน้อยลงพร้อมกับสติของเธอที่ค่อยๆเลือนราง
ชุดภาพความทรงจำเก่าๆแล่นเข้ามาในหัวของเธอ เธอกำลังจะขาดอากาศหายใจ เธอกำลังจะตายในตอนนี้เจ้าหน้าที่ FBI หญิงที่ไม่เคยเชื่อในพระเจ้าได้กำลังอ้อนวอนขอร้องพระเจ้าให้ช่วยเธอออจากสถานะการณ์นี้
ในขณะที่สติของเธอกำลังจะดับวูบไปถุงที่กำลังรัดหน้าเธออยู่นั้นก็ได้ผ่อนแรงลง เธอแปลกใจเล็กน้อยที่อยู่ๆมันก็ผ่อนแรงลง และคิดว่าหัวหน้าของมันคงจะเป็นคนสั่ง แต่เธอก็ไม่ได้ยินเสียงอะไรเลยแม้แต่น้อยทำให้เธอนั้นอดไม่ได้ที่จะสงสัย
ไม่นานนักการหายใจของเธอก็กลับมาเป็นปกติ ในขณะนั้นเธอก็เริ่มที่จะใช้ความคิดว่านี่มันเกิดอะไรขึ้นเพราะเธอไม่ได้ยินเสียงอะไรเลยแม้แต่น้อย แต่ในจังหวะนั้นเธอก็ได้ยินเสียงประตูเหล็กถูกเปิดออกพร้อมกับเสียงเดินของคนๆหนึ่งกำลังใกล้เข้ามา
เธอตื่นตระหนกเล็กน้อยเพราะเกรงว่าคนที่เข้ามาใหม่จะมาตัดสินใจที่จะให้ลูกเธอของมันกำจัดเธอทิ้ง เธอจึงเริ่มคิดหาวิธีหนี
ในขณะที่เธอกำลังวางแผนอยู่นั้นถุงที่ครอบหัวเธออยู่ก็ถูกดึงออก เมื่อเธอลืมตาขึ้นมองก็พบเห็นกับใบหน้าอันหล่อเหลาของเด็กหนุ่มกำลังมองเธออยู่ เธอแปลกใจเล็กน้อยที่เห็นเด็กอายุขนาดนี้อยู่ในขบวนการก่อการร้าย เธอจ้องมองเด็กหนุ่มอย่างสงสัย
เด็กหนุ่มยิ้มพร้อมกับเธอก่อนจะพูดออกมาเป็นภาษาอังกฤษว่า
“คุณคือ แองเจลิก้า ไวท์ ใช่ไหม ?”