The simple life of the emperor - ตอนที่ 152
เทียนหลางเริ่มรู้สึกว่าเรื่องราวมันชักจะใหญ่โตเกินไปแล้ว เริ่มแรกก็เป็นเพียงแค่ปีศาจโบราณ ต่อมาก็เป็นปีศาจที่บุกวาติกัน และนี้ยังมีปีศาจที่ควบคุมองค์กรก่อการร้ายระดับโลกอีก
เทียนหลางเริ่มปวดหัวกับเรื่องพวกนี้ เขาเพียงแค่อยากจะใช้ชีวิตอย่างสบายๆกับโลกใบใหม่ กับเหล่าภรรยาของเขาเท่านั้นแต่นี่เขากลับต้องมาพบเจอเรื่องพวกนี้ มันทำให้เขารู้สึกหงุดหงิดอย่างบอกไม่ถูก
‘อย่าให้ฉันหาพวกแกเจอก็แล้วกัน’
เทียนหลางกล่าวออกมาในใจก่อนจะออกไปด้านนอกถ้ำ เพื่อพบกับไป๋ตงหลินและลูกทีม เมื่อทุกคนเห็นเทียนหลางเดินออกมาพวกเขาก็เข้ามาทักทายทันที
“เป็นยังไงมั่งเทียนหลาง ?”
ไป๋ตงหลินถามออกมา เทียนหลางก็ได้แต่ยิ้มพร้อมกับบอกไปว่า
“ทุกอย่างเรียบร้อยดีครับ”
“แล้วเราจะทำยังไงกันต่อละ ตอนนี้พวกเราติดอยู่กลางทะเลทราย”
ถังถังถามออกมาด้วยความสงสัย เทียนหลางได้ยินแบบนั้นก็ยิ้มออกมาก่อนจะพูดว่า
“ไม่ต้องห่วงหรอกครับ มีคนไปติดต่อกับเลขาไป๋แล้ว อีกไม่นานพวกเขาน่าจะมารับพวกเรา พวกเรารออยู่นี่แหละครับ”
ทุกคนได้ยินแบบนั้นก็พยักหน้า เทียนหลางจึงหันไปถามไป๋ตงหลินว่า
“หัวหน้าไป๋ ทำไมพวกคุณถึงไปเกี่ยวข้องกับพวกอัลคาทาร่าได้ละครับ ?”
หัวหน้าไป๋ได้ยินแบบนั้นเขาก็ถอนหายใจออกมาอย่างหนักหน่วงก่อนจะเริ่มเล่า
“เมื่อราว สัปดาห์ก่อนทางเราได้รับรายงานจากสายของเราว่ามีคนกลุ่มหนึ่งได้พยายามลักลอบขนสารเคมีชีวภาพจำนวนมากเข้าสู่ประเทศผ่านทางทะเล”
“ทางเราได้ตรวจสอบพวกมันและพบว่าเป็นเพียงพวกหัวรุนแรงกลุ่มหนึ่งที่ไม่เคยได้ยินชื่อ แต่พวกเขานั้นมีฐานทัพอยู่ที่สหรัฐฯ หลังจากสืบสวนและติดตามอยู่สองวันทางรัฐบาลสหรัฐก็ได้ติดต่อมาเพื่อขอความร่วมมือ”
พูดจบไป๋ตงหลินก็มองไปทางแองเจลิก้า แองเจลิก้าเห็นแบบนั้นเธอก็ไอออกมาเล็กน้อยและพูดต่อจากไป๋ตงหลิน
“ทางสหรัฐได้ติดต่อมาขอความร่วมมือกับทางรัฐบาลจีน เพื่อติดตามกลุ่มหัวรุนแรงนี้และมีข้อตกลงกันโดยการที่เราทั้งสองฝ่ายจะแชร์ข้อมูลของกันและกัน หลังจากที่ทางเราและรัฐบาลของคุณได้รวบรวมข้อมูลทั้งหมดมาตรวจสอบ”
“พวกเราก็ได้รับรู้ว่ากลุ่มหัวรุนแรงนี้เป็นองค์กรย่อยของอัลคาทาร่า กลุ่มผู้ก่อการหัวรุนแรงที่แผ่ขยายอิทธิพลไปทั่วทุกมุมโลกเพื่อก่อความวุ่นวาย เมื่อเราได้ทราบดังนั้นทางรัฐบาลสหรัฐก็ได้ส่ง CIA เข้ามาร่วมมือด้วยเพราะพวกเขาก็ได้ติดตามกลุ่มอัลคาทาร่ามาพักหนึ่งแล้วเช่นกัน”
เทียนหลางพยักหน้าเล็กน้อยและฟังที่แองเจลิก้าเล่าต่อ
“หลังจากนั้นพวกเราก็ได้ทำทุกวิธีทางเพื่อให้รู้ว่าพวกนั้นได้เอาอะไรเข้ามาในประเทศจีน หลังจากตรวจสอบแล้วพบว่าเป็นอาวุธชีวภาพชนิดใหม่ที่พึ่งถูกคิดค้นขึ้นมา อำนาจทำลายล้างนั้นไม่เป็นที่ทราบแน่ชัด แต่จากจำนวนที่พวกมันมีแล้วคาดว่าคงสร้างหายนะได้ไม่น้อยเลย”
แองเจลิก้าเงียบไปสักพักก่อนจะเล่าต่อว่า
“ทางเราได้ติดตามพวกไปจนถึงมองโกเลีย และดูเหมือนพวกมันจะรู้ตัวพวกเราตกลงสู่กับดัก ลูกทีมของฉันและของทาง CIA ตายหมดฉันและหัวหน้าทีมของ CIA ถูกจับเป็นตัวประกันดูเหมือนว่าพวกมันจะมีข้อเรียกร้องบางอย่างกับรัฐบาลสหรัฐและรัฐบาลของคุณ พวกมันจึงตัดสินใจจะไม่ฆ่าพวกเราและพวกเราก็ถูกจับมาไว้ที่นี้”
“แต่ฉันก็ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมพวกมันจะต้องพาพวกเรามาซ่อนที่นี้ด้วย”
แองเจลิก้าส่ายหัว เทียนหลางได้ยินแบบนั้นก็พูดออกไปว่า
“ที่ทะเลทรายแดงแห่งนี้มีสัญญาณรบกวนมากมาย อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ทุกชนิดจึงไม่สามารถใช้งานได้ ผมคิดว่าที่พวกมันเลือกที่นี้เป็นฐานทัพก็คงเพราะเหตุนี้”
แองเจลิก้าได้ยินแบบนั้นก็พยักหน้าเห็นด้วยกับความเห็นของเทียนหลาง และดูเหมือนว่าเธอพยายามจะถามอะไรบางอย่างกับเทียนหลางแต่ก็ถูกขัดจังหวะของเสียงเรียกของใครบางคน
“เป็นยังไงบ้าง !!!”
เสียงตะโกนของคนๆหนึ่งดังขึ้นไม่ไกล เมื่อพวกเขาหันไปก็พบว่าเป็นขบวนรถขนาดใหญ่กำลังแล่นมาทางนี้ซึ่งคนที่กำลังตะโกนอยู่นั้นก็ไม่ใช่ใครที่ไหนก็คือซูฮูที่กำลังโบกมือให้พวกเขาอยู่นั่นเอง
ไม่นานนักทั้งทีมก็ถูกช่วยเหลือ คนบาดเจ็บถูกนำไปปฐมพยาบาลก่อนจะส่งตัวไปยังโรงพยาบาลในภายหลัง เลขาไป๋เดินมาทางเทียนหลาง ไป๋ตงหลิน และแองเจลิก้า เพื่อถามเรื่องราวที่เกิดขึ้น
เทียนหลางเล่าเรื่องราวทั้งหมดให้กับเลขาไป๋ได้ฟัง เลขาไป๋กล่าวขอบคุณเทียนหลางเล็กน้อยซึ่งเทียนหลางก็ได้แต่โบกมือพร้อมกับพูดด้วยรอยยิ้มว่า
“ผมจะเขียนลิสรายชื่อสำหรับค่าใช้จ่ายไปให้ภายหลังก็แล้วกัน”
เลขาไป๋ได้ยินแบบนั้นก็หัวเราะออกมาก่อนจะพาหัวหน้าไป๋ตงหลินไปรักษาตัว ก่อนจากหัวหน้าไป๋ตงหลินก็กล่าวขอบคุณกับเทียนหลางอีกครั้ง
ทางด้านแองเจลิก้าก็กล่าวขอบคุณเทียนหลางพร้อมกับพูดว่า
“ทางฉันและรัฐบาลสหรัฐติดหนี้คุณ หากภายหน้าต้องการความช่วยเหลือโปรดติดต่อมา”
หลังจากนั้นแองเจลิก้าก็ได้จากไปกับพวกหมอ หลังจากนั้นเทียนหลางก็เดินไปหาเลขาไป๋ที่กำลังตรวจสอบความเรียบร้อยอยู่เพื่อเล่าเกี่ยวกับซูฮูและหมู่บ้านของชนเผ่าทะเลทรายให้ฟัง
“ไม่ต้องห่วงเทียนหลาง พวกเขาให้ความช่วยเหลือพวกเรา หากพวกเขาไม่ขออะไรมากเกินไปพวกเราสามารถจัดการให้พวกเขาได้”
เทียนหลางที่ได้ยินแบบนั้นก็วางใจก่อนจะเดินขึ้นรถเพื่อกลับไปที่เมืองจี้เมิง