The simple life of the emperor - ตอนที่ 109
หลังจากที่เทียนหลางก้าวเข้าด้านในต้นไม้เขาก็มาโผล่ยังบ้านไม้ที่ดูธรรมดาหลังหนึ่ง เขาเดินไปตามทางอย่างคุ้นเคยก่อนจะหยุดอยู่ที่สวนสายตาของเขาจ้องมองไปยังโต๊ะที่ตั้งอยู่ใจกลางสวนและมีชายชราผมขาวคนหนึ่งกำลังนั่งอยู่
เทียนหลางเดินตรงไปหาชายชราพร้อมกับคำนับเล็กน้อย
”ท่านอาจารย์เหตุใดถึงเรียกข้าทันทีตั้งแต่มาถึงเช่นนี้ ?”
ชายชราที่ได้ยินก็หันมาหาเทียนหลางก่อนจะพูดขึ้นด้วยสีหน้าเบื่อหน่ายว่า
”หากข้าไม่มีอะไรจะเรียกเจ้ามาไม่ได้หรือไงกัน เจ้าลูกศิษย์บ้านี่ !!”
เทียนหลางที่ได้ยินก็หัวเราะออกมาก่อนจะเดินไปนั่งตรงข้ามของชายชราพร้อมกับจ้องมองสิ่งที่ชายชรากำลังทำอยู่ซึ่งก็คือการเดินหมาก เขาจึงหยิบหมากตัวนึงขึ้นมาพร้อมกับวางลงไปบนกระดานก่อนจะพูดขึ้นว่า
”มันไม่ใช่อย่างงั้นท่านอาจารย์ข้าก็แค่สงสัยเท่านั้น”
ชายชราลูบคางของเขาเล็กน้อยก่อนจะเดินหมากและพูดว่า
”ข้าเห็นว่าเจ้ากับเฟิงหยวนตกลงปลงใจแต่งงานกันแล้วสิ”
เทียนหลางที่ได้ยินแบบนั้นก็ยิ้มเล็กน้อยพร้อมกับพยักหน้า
”สายตาของท่านอาจารย์ยังคงมองเห็นทุกสิ่งเช่นเคย ข้าไม่เคยปกปิดอะไรท่านได้เลย”
ชายชราหัวเราะก่อนจะมอบสิ่งหนึ่งให้กับเทียนหลาง เทียนหลางมองมันเล็กน้อยก่อนจะพบว่าเป็นแหวนสองวงที่มีลักษณะคล้ายกันแต่อีกวงหนึ่งถูกประดับไปด้วยเพชรสีน้ำเงินงดงามที่ขนาดไม่ใหญ่นักแต่มันกลับแผ่ออร่าอันบริสุทธิ์ออกมา ส่วนอีกวงนั้นถูกประดับด้วยเพชรสีแดงเพลิง
เทียนหลางมองมันสลับกับใบหน้าของชายชราพร้อมกับถามว่า
”นี่คืออะไรงั้นเหรอท่านอาจารย์ ?”
ชายชราที่ได้ยินก็หัวเราะเล็กน้อยก่อนจะพูดขึ้นว่า
”ตามธรรมเนียมของโลกเจ้าเมื่อผู้บ่าวสาวแต่งงานกันก็ต้องมีของขวัญไม่ใช่หรือไง นี่ก็เป็นของขวัญแต่งงานของเจ้ากับเฟิงหยวนไงละ”
เทียนหลางรับแหวนทั้งสองวงมาก่อนจะแสดงสีหน้าตกใจ
”ท่านอาจารย์นี่มัน !”
ชายชราพยักหน้าก่อนจะอธิบายว่า
”แหวนสองวงนี้ข้ากับยายเฒ่าอุส่าเป็นคนตั้งใจหลอมมันขึ้นมา ฉะนั้นใช้มันให้ดีๆละ”
เทียนหลางที่ได้ยินแบบนั้นก็แย้งขึ้นมาว่า
”แต่ท่านอาจารย์แหวนสองวงนี้มันล้ำค่ามากเกินไป”
ชายชราที่ได้ยินแบบนั้นก็ยกถ้วยชาขึ้นมาจิบพร้อมกับอธิบายว่า
”โลกมนุษย์นั้นเป็นดินแดนที่มีความลึกลับอยู่มากมายในอนาคตเรื่องวุ่นวายต่างๆจะเกิดขึ้นแหวนสองวงนั้นจะช่วยพวกเจ้าได้”
”ช่วย ? ช่วยยังไงท่านอาจารย์ ?”
ชายชราวางหมากลงบนกระดานและอธิบายเพิ่มเติมให้กับเทียนหลางได้ฟังถึงคุณสมบัติของแหวนทั้งสองวง
”แหวนทั้งสองวงนั้นถูกสร้างขึ้นจากวัสดุล้ำค่ามากมายรวมทั้งเกล็ดของมังกรนิรันดิ์และมังกรแห่งภัยพิบัติด้วย ตราบใดที่พวกเจ้าทั้งสองสวมมันไว้มันสามารถช่วยให้กฏแห่งเต๋าและกฏของสวรรค์ไม่มีผลกับพวกเจ้าทั้งคู่”
เทียนหลางที่ได้ยินก็แสดงสีหน้าตกตะลึงออกมาเพราะเขาไม่คิดว่ามันจะมีสิ่งประดิษฐ์ที่มีคุณสมบัติแบบนี้อยู่ด้วยแต่พอคิดว่ามันถูกสร้างมาจากเกล็ดของมังกรทั้งสองตัวนั้นแล้วเขาก็พอจะเข้าใจได้ว่าทำไมผู้ที่สวมแหวนทั้งสองวงนี้ถึงไม่ถูกผูกมัดไว้กับกฏแห่งเต๋า
เทียนหลางมองแหวนทั้งสองวงในมือก่อนจะเอ่ยถามกับอาจารย์ของเขา
”แล้วทำไมท่านอาจารย์ต้องให้ของมีค่าขนาดนี้กับข้าและเฟิงหยวนด้วยแม้ท่านจะบอกว่ามันเป็นของขวัญแต่งงานก็เถอะแต่มันก็ดูจะมีค่ามากเกินหน่อย หากใครรู้ว่ามีสิ่งของชิ้นนี้อยู่จริงผู้คนนับไม่ถ้วนจะต้องการมันอย่างแน่นอน”
เมื่อชายชราได้ยินคำถามของเทียนหลางเขาก็หัวเราะออกมาเล็กน้อยก่อนจะเอ่ยกับเขาว่า
”ในอนาคตอันใกล้เรื่องวุ่นวายจะเกิดขึ้นทั้งเก้าดินแดนจะเกิดความโกลาหลพลังของเจ้าและเหล่าลูกศิษย์นั้นจำเป็นกับการจะหยุดเรื่องพวกนี้”
เทียนหลางที่ได้ฟังก็คิดตามสักพักก่อนจะถามออกไป
”แล้วทำไมอาจารย์ไม่จัดการเองเล่า ? ทำไมต้องให้ข้าและเหล่าศิษย์ทำด้วยถ้าท่านอาจารย์ออกหน้าต่อให้เป็นเหล่าตาแก่มหาเทพก็ยังต้องฟัง”
ชายชราที่ได้ยินแบบนั้นก็ถอนหายใจออกมาพร้อมกับพูดว่า
”เทียนหลางเอ๋ย เจ้าก็น่าจะรู้ว่าข้าแก่ชรามากแล้วการที่จะให้ข้าออกไปสู้รบตบมือนั้นแลดูจะเป็นการทำร้ายคนแก่เกินไปหรอกหรือ ?”
”สู้ให้คนหนุ่มสาวอย่างเจ้าออกไปสู้แทนไม่ดีกว่าหรือไง ?”
เทียนหลางที่ได้ยินแบบนั้นก็ถึงกับคิ้วกระตุกกับคำว่าหนุ่มสาวเพราะถ้าหากมองจากภายนอกแล้วเขาจะดูเหมือนเด็กหนุ่มอายุสิบแปดแต่ภายในของเขาเป็นตาแก่อายุสี่หมื่นกว่าปีแล้ว แต่เมื่อเขาเอาอายุของตัวเองไปเทียบกับอาจารย์ของตนเขาก็ต้องยอมรับว่าเขานั้นเป็นเพียงคนหนุ่มตามที่อาจารย์ของเขานั้นว่าจริงๆ
แต่ถึงอย่างงั้นเทียนหลางก็ยังคงแย้งออกไปว่า
”บนสวรรค์มีเทพตั้งเยอะแยะแถมยังมีสำนักกับนิกายฝ่ายธรรมะอีก และไหนจะมีพวกตาแก่มหาเทพพวกนั้น ท่านอาจารย์มันยังคงจะต้องพึ่งพาข้ากับเหล่าศิษย์อีกเหรอ ?”
ชายชราผู้เป็นอาจารย์พยักหน้าก่อนจะพูดขึ้น
”เทียนหลาง เจ้าก็น่าจะรู้อยู่แก่ใจแม้เหล่ามหาเทพจะพึ่งพาได้ก็จริงแต่เหล่าสำนักและนิกายเหล่านั้นหาได้พึ่งพาได้ไม่เบื้องหน้าพวกเขาอาจจะอ้างตัวว่าเป็นฝ่ายธรรมะแต่ไม่มีใครหรอกที่เป็นฝ่ายธรรมะอย่างแท้จริงแม้แต่เจ้าและข้าก็ตาม”
เทียนหลางที่ได้ยินคำพูดของผู้เป็นอาจารย์เขาก็ทำได้แต่ยอมรับมันในใจเพราะเขารู้ว่าสิ่งที่อาจารย์ของตนพูดนั้นไม่ได้ผิดแต่อย่างใดนั่นเพราะไม่มีมนุษย์คนไหนที่จะดีงามอย่างแท้จริงมนุษย์ทุกคนมักจะมีความมืดมิดฝังลึกอยู่ในจิตใจรอเพียงเวลาที่จะถูกปลดปล่อยออกมาเท่านั้นแม้แต่เหล่าเทพเองก็ตาม
เทียนหลางถอนหายใจออกมาก่อนจะถามกับอาจารย์ของเขาอีกครั้ง
”ท่านอาจารย์… เรื่องวุ่นวายที่จะเกิดท่านหมายถึงสงครามที่เกิดขึ้นในตอนนี้หรือเปล่า ?”
ชายชราได้ฟังคำถามของเทียนหลางเขาก็หัวเราะออกมาเล็กน้อย
”ข้าไม่สามารถบอกเจ้าได้หรอกนะ”
”ข้าเข้าใจท่านอาจารย์”
เทียนหลางพยักหน้าพร้อมกับรอยยิ้มก่อนจะวางหมากบนกระดาษ เมื่อชายชราได้เห็นเทียนหลางวางหมากลงบนกระดานเขาก็หัวเราะออกมา
”โฮ๊ะๆ เจ้ากล้าโจมตีข้าตรงๆเลยงั้นเรอะเจ้าเด็กอวดดี”
ทั้งคู่เดินหมากกันอยู่สักพักก่อนที่อาจารย์ของเทียนหลางจะเอ่ยทักขึ้นมาว่า
”ลูกศิษย์คนใหม่ของเจ้านั้นพิเศษดีนะ”
เทียนหลางที่ได้ยินแบบนั้นก็แสดงสีหน้าภูมิใจออกมาทันที
”ใช่ไหมละท่านอาจารย์ ในตอนแรกที่ข้าเจอนางก็ไม่คิดว่านางจะมีกายาที่พิเศษขนาดนี้”
เมื่ออาจารย์ได้ยินคำพูดพร้อมท่าทีภูมิใจของเทียนเขาก็ถามขึ้นมาด้วยความสงสัย
”แต่เจ้าแน่ใจแล้วงั้นเหรอ ที่จะให้นางเข้าร่วมพิธีเทียนเทอ ? เจ้าจะดึงนางเข้ามายังโลกฝั่งนี้จริงๆงั้นเหรอ ?”
คำถามของผู้เป็นอาจารย์ทำให้เทียนหลางถึงกับชะงักเล็กน้อยก่อนที่เขาจะตอบกลับไปว่า
”แน่นอนสิท่านอาจารย์ เมื่อนางโตขึ้นพลังของนางก็จะยิ่งแข็งแกร่งขึ้นหากนางไม่ได้รับการสั่งสอนอย่างถูกต้อง เส้นทางชีวิตของนางอาจเปลี่ยนไปข้าไม่อยากเห็นภาพแบบนั้น”
”แต่ทางที่เจ้าพานางเข้ามาก็ไม่ได้แย่กว่ากันเท่าไหร่เลยนะ”
เทียนหลางที่ได้ยินแบบนั้นเขาก็ทำได้เพียงแต่พยักหน้ายอมรับมัน
”ข้ารู้ท่านอาจารย์แต่ถึงอย่างงั้นข้าก็อยากจะให้นางได้รู้ถึงสามารถของตัวเองเพื่อให้นางจะได้เลือกทางเดินของตัวเองได้”
เมื่อเทียนหลางพูดจบหมากตัวสุดท้ายก็ได้ถูกวางลงพร้อมกับความพ่ายแพ้ของเขา เทียนหลางลุกขึ้นก่อนจะเอ่ยกับอาจารย์ของเขาว่า
”พิธีจะเริ่มในอีกสองวันท่านอาจารย์ควรไปดูนะ ในอนาคตนางก็เปรียบเสมือนหลานอีกคนหนึ่งของท่าน”
เมื่อพูดจบเทียนหลางก็คำนับเล็กน้อยก่อนจะเดินจากไปเหลือเพียงอาจารย์ของเขาที่กำลังจ้องมองอะไรบางอย่างอยู่เขาถอนหายใจออกมาเล็กน้อยก่อนจะพึมพำออกมา
”หลานของข้างั้นเหรอ… ”