The simple life of the emperor - ตอนที่ 144
เทียนหลางกลับมาที่บ้านก็เห็นว่าพ่อกับแม่ของเขากำลังนั่งดูทีวีกันอย่างสบายใจ เทียนหลางพูดคุยกับทั้งคู่อยู่เล็กน้อยก่อนจะเดินไปหาเฟิงหยวนที่กำลังนั่งดูอะไรบางอย่างในโน็ตบุ๊คอยู่
เทียนหลางเข้าไปนั่งลงใกล้ๆกับเฟิงหยวนก็จะยื่นหน้าเข้าไปดูก็พบว่าเฟิงหยวนกำลังดูเว็บไซต์อะไรบางอยู่ เขาจึงถามออกไปด้วยความสงสัย
“คุณทำอะไรอยู่งั้นเหรอ ?”
เฟิงหยวนมองเทียนหลางเล็กน้อยก่อนจะอธิบายถึงสิ่งที่เธอกำลังทำอยู่
“นี่เป็นเว็บไซต์ของพวกผู้บ่มเพาะนะ ในนี้จะมีทุกอย่างทั้งพูดคุยเกี่ยวกับการบ่มเพาะ ซื้อขาย การประมูลสินค้า หรือแม้กระทั้งการจ้างงานด้วย”
เทียนหลางแปลกใจถึงกับร้องออกมาเลยทีเดียว
“ว้าว ~ มีอะไรแบบนี้ด้วยงั้นเหรอเนี่ย แล้วคุณไปรู้เรื่องพวกนี้มาจากไหนน่ะ ?”
“เจ้าหนูซ่านฉินบอกมานะ”
“เห ~ เจ้าหนูนั่นก็รู้อะไรดีๆเยอะนี่หน่า”
เฟิงหยวนยิ้มเล็กน้อยก่อนจะกล่าวถามกับเทียนหลาง
“แล้วทำไมคุณถึงกลับมาเร็วจัง เห็นบอกว่ามีธุระที่มหาลัยไม่ใช่เหรอ ?”
“อันนั้นเรียบร้อยแล้วล่ะ ที่จริงแล้วมันเป็นการประชุมเพื่อจัดตั้งกลุ่มสำรวจเล็กๆไปดูงานที่ไซต์งานขุดเจาะโบราณสถานน่ะ”
เฟิงหยวนได้ยินแบบนั้นก็พยักหน้าและทำท่าทีเหมือนจะสนใจเล็กน้อย เทียนหลางจึงยิ้มพร้อมกับถามว่า
“คุณสนใจงั้นเหรอ ?”
“ก็นิดหน่อย แต่ที่ฉันสนใจจริงๆคือเจ้านี่ต่างหาก”
เฟิงหยวนชี้บนหน้าจอให้กับเทียนหลางได้ดู เทียนหลางมองเล็กน้อยก่อนจะอ่าน
“อืม… งานประมูลที่จัดขึ้นในประเทศดารางั้นเหรอ ? มันมีประเทศนี้ในแผนที่โลกด้วยเหรอ ?”
เทียนหลางถามด้วยความสงสัย เฟิงหยวนพยักหน้าและอธิบายเกี่ยวกับประเทศดาราให้กับเทียนหลางได้ฟัง
เฟิงหยวนบอกว่าจากที่เธอหาข้อมูลมานั้นประเทศดาราเป็นเพียงประเทศเล็กๆที่ไม่ใหญ่มากนัก มีประชากรเพียงไม่กี่ล้านคนเท่านั้น แต่ถึงอย่างงั้นประเทศดาราก็เป็นประเทศที่ทั้งโลกให้การยอมรับเนื่องจากเป็นประเทศที่ส่งออกแร่ดิบเป็นอันดับต้นๆของโลก
ดูเหมือนว่าประเทศดาราจะตั้งอยู่บนเส้นเลือดแร่ที่ใหญ่มาก และนอกจากจะเป็นประเทศที่ส่งออกแร่ประเทศดารานั้นยังขึ้นชื่อเรื่องการท่องเที่ยวอีกด้วย เหตุด้วยภูมิประเทศของที่นั่นนั้นเต็มไปด้วยหุบเขาและป่า อีกทั้งประเทศดารายังอยู่ติดกับทะเลดังนั้นเรื่องชายหาดอันสวยงาม และอาหารทะเลอันโอชะย่อมเป็นของดีของที่นั่นด้วยเช่นกัน
และเฟิงหยวนยังบอกอีกว่า
“ดูเหมือนว่าการประมูลนี้จะจัดขึ้นเพื่อผู้คนที่อยู่ในยุทธภพ มีสินค้ามากมายจากหลายแหล่งมารวมกันอยู่ที่นั่น บางทีเราอาจจะได้เจอของดีก็ได้นะ”
เทียนหลางได้ยินแบบนั้นก็มองเฟิงหยวนแว๊บนึงก่อนจะยิ้มออกมา
“ได้ซิ เดียวผมจัดการเรื่องที่ทะเลทรายเสร็จแล้วเดียวจะพาคุณไป ว่าแต่งานประมูลนั่นจะมีขึ้นเมื่อไหร่กันล่ะ ?”
“ดูเหมือนว่าจะจัดขึ้นในอีกครึ่งเดือนข้างหน้า”
“งั้นเอาเป็นว่าหลังจากผมจัดการเรื่องที่ทะเลเสร็จเราจะไปกัน”
เฟิงหยวนพยักหน้าและไม่ได้พูดอะไรต่อก่อนจะหันไปสนใจอย่างอื่นในเว็บบอร์ดต่อ เทียนหลางก็ได้แต่ยิ้มออกมาเขาพอจะรู้อยู่ว่าใจจริงแล้วเฟิงหยวนนั้นไม่ได้สนใจงานประมูลอะไรนั่นสักเท่าไหร่นัก แต่สิ่งที่เธอสนใจจริงๆนั้นคือการไปท่องเที่ยว ซึ่งเทียนหลางก็สามารถมองเห็นเรื่องนี้ได้อย่างง่ายดายเขาจึงไม่ได้ปฏิเสธการไปที่ประเทศดารา
เพราะตั้งแต่ที่เฟิงหยวนมายังโลกใบนี้เธอก็เหมือนจะอยู่แต่ที่บ้านเท่านั้น เทียนหลางจึงคิดว่าเธอคงอยากจะออกไปเที่ยวกับเขา
เทียนหลางก็อยากจะให้เฟิงหยวนนั้นออกไปเที่ยวบ้าง ไม่อยากให้อุดอู้อยู่แต่ในบ้านแต่เขาก็รู้ดีว่าตัวของเฟิงหยวนนั้นไม่ค่อยจะชอบออกไปไหนมากสักเท่าไหร่
หลังจากนั้นเทียนหลางก็นั่งกินข้าวเที่ยงกับเฟิงหยวน ก่อนจะขับรถออกไปที่เมืองจี้เมิงเป็นเมืองเล็กๆที่อยู่ติดกับทะเลทรายโกบี ซึ่งนั่นเป็นเมืองสุดท้ายที่หน่วยข่าวกรองพบเห็นคนของหน่วยหมาป่า
ไม่กี่ชั่วโมงต่อมาเทียนหลางก็มาถึงเมืองจี้เมิง ซึ่งเป็นเมืองเล็กๆที่ตั้งอยู่ใกล้ทะเลทรายโกบี แต่ถึงจะเป็นเมืองเล็กๆแต่เมืองจี้เมิงนั้นก็ถือว่าคึกคักไม่น้อยหากเทียบกับเมืองอื่นๆ เพราะที่เมืองนี้มีสถานที่ท่องเที่ยวค่อนข้างจะเยอะ
เทียนหลางเดินสำรวจยังสถานที่ต่างๆในข้อมูลที่ได้รับมา แต่การที่หน่วยหมาป่าได้ถูกจับตัวไปสักพักแล้วจึงทำให้ไม่มีข้อมูลอะไรเหลือเลย แต่จากการสอบถามอยู่สักพักเทียนหลางก็ได้ข้อมูลอะไรใหม่ๆ
ชาวบ้านบอกว่าเมื่อสองวันก่อนได้พบเห็นขบวนรถบรรทุกจำนวนหนึ่งวิ่งเข้าไปในทะเลทรายตอนเย็น แต่พวกชาวบ้านก็ไม่ได้สนใจอะไรมากนักเพราะพวกเขาได้ยินว่ามีคณะของนักโบราณคดีกำลังทำงานอยู่ในทะเลทรายจึงคิดว่ารถบรรทุกเหล่านั้นเป็นของพวกเขาจึงไม่ได้ให้ความสนใจ
เมื่อเทียนหลางได้ฟังเขาก็ลูบคางตัวเองเล็กน้อยก่อนจะตัดสินใจจะไปดูตรงจุดที่ข้อมูลให้มา
ทันทีที่เทียนหลางเห็นทะเลทรายโกบีในสายตาของเขาก็อดไม่ได้ที่จะกล่าวออกมาอย่างประทับใจ เนินทรายที่เคลื่อนไหวไปตามสายลมทำให้ทะเลทรายนั้นดูราวกับมีชีวิตขึ้นมาทันที
เทียนหลางยิ้มเล็กก่อนจะพูดกับตัวเอง
“แม้จะไม่เทียบเท่ากับทะเลทรายเพลิงแต่ที่นี้ก็แลดูจะมีชีวิตชีวามากกว่า”
จากนั้นเทียนหลางก็หยิบกระดาษเอกสารที่เขาปลิ้นออกมาดูก่อนจะมองไปรอบๆตัว
“เอาล่ะ ไหนดูซิว่าจุดในกระดาษนี่จะพาฉันไปพบเจอกับอะไร”