The simple life of the emperor - ตอนที่ 161
ไม่นานนักรถก็มาถึงโรงแรมสตาร์ไลท์ คุณลุงหันมาพูดด้วยรอยยิ้มว่า
“เอาล่ะถึงแล้วทั้งหมดก็ 150”
เทียนหลางพยักหน้าก่อนจะถามคุณลุงว่า
“ไม่ทราบว่าที่นี้รับเป็นสกุลเงินอะไรครับ ?”
คุณลุงที่ได้ยินแบบนั้นก็หัวเราะเล็กน้อยก่อนจะพูดขึ้นว่า
“รับเป็นเงินดอลล่าพ่อหนุ่ม”
เทียนหลางพยักหน้าก่อนจะหยิบแบงค์ร้อยให้กับคุณลุงไปสองใบพร้อมกับบอกว่า
“ไม่ต้องทอนครับ”
คุณลุงที่ได้ยินแบบนั้นก็พยักหน้า
“ขอบใจมากนะพ่อหนุ่ม”
หลังจากจ่ายเงินแล้วทั้งคู่ก็เดินเข้ามาด้านในของโรงแรมสตาร์ไลท์ ทันทีที่เข้ามาก็ได้รับการต้อนรับอย่างดีจากพนักงานต้อนรับด้านหน้า
“ยินดีต้อนรับครับ”
ทั้งคู่พยักหน้าเล็กน้อยก่อนจะเดินตรงไปที่เคาน์เตอร์ เมื่อพนักงานพบเห็นก็กล่าวถามออกมาด้วยรอยยิ้มทันที
“สวัสดีค่ะ ไม่ทราบว่าทั้งคู่มีอะไรให้ช่วยคะ ?”
เทียนหลางมองไปที่เฟิงหยวนเล็กน้อย เฟิงหยวนจึงยิ้มพร้อมกับกล่าวกับพนักงานว่า
“ฉันได้จองห้องไว้เมื่อสัปดาห์ก่อนน่ะ ชื่อเฟิงหยวน”
พนักงานได้ยินแบบนั้นก็พยักหน้าเล็กน้อย
“สักครู่นะคะ”
เธอหันไปค้นข้อมูลบางอย่างในคอมฯ ก่อนจะกล่าวกับเฟิงหยวนว่า
“ไม่ทราบว่าทางลูกค้ามีบัตรยืนยันตัวตนหรือเปล่าคะ ?”
เทียนหลางที่ได้ยินแบบนั้นก็แสดงสีหน้างุนงงออกมา ทางพนักงานจึงยิ้มพร้อมกับกล่าวว่า
“หากทางลูกค้าได้จองห้องกับทางเราไว้ ทางเราจะจัดส่งบัตรยืนยันตัวตนให้ท่านเพื่อนำมาใช้ยืนยันค่ะ”
เฟิงหยวนที่ได้ยินแบบนั้นก็พยักหน้าเล็กน้อยก่อนจะนึกอะไรบางอย่างขึ้นมาได้ พร้อมกับหาบางอย่างในกระเป๋าใบเล็กคงเธอ จากนั้นเฟิงหยวนก็ได้หยิบบัตรสีดำใบหนึ่งที่ด้านหน้าของบัตรเป็นรูปดาวออกมา
“หมายถึงนี่หรือเปล่า ?”
ทางพนักงานที่ได้เห็นบัตรใบนั้นก็พยักหน้าด้วยรอยยิ้ม
“ใช่แล้วค่ะ”
เฟิงหยวนส่งบัตรใบนั้นให้กับพนักงาน เมื่อเธอรับไปก็ได้ไปทำอะไรบางอย่างก่อนจะส่งคืนให้กับเฟิงหยวนพร้อมกับพูดขึ้นว่า
“ห้องของคุณเฟิงหยวนคือห้องสวีท ที่ชั้น 42 ห้องหมายถึง 4203 นะคะ”
เฟิงหยวนพยักหน้ารับด้วยรอยยิ้มก่อนจะกล่าวขอบคุณ และพาเทียนหลางไปที่ลิฟท์ เมื่ออยู่ในลิฟท์เทียนหลางก็ได้ถามกับเฟิงหยวนว่า
“คุณจองห้องสวีทเลยงั้นเหรอเนี้ย”
เฟิงหยวนที่ได้ยินคำถามก็พูดออกมาด้วยรอยยิ้มว่า
“ทำไม คุณไม่พอใจงั้นเหรอ ?”
เทียนหลางส่ายหน้าทันทีก่อนจะพูดว่า
“ผมจะไม่พอใจได้ยังไงกันล่ะ แค่คิดไม่ถึงเท่านั้นเอง”
จากนั้นเขาก็ถามต่ออีกว่า
“ว่าแต่คุณได้จองไว้กี่วันนะ ?”
“10 วัน”
“10วันเชียว ?”
เทียนหลางพูดออกมาด้วยความตกใจ เฟิงหยวนจึงหันมาอย่างรวดเร็วพร้อมกับถามด้วยความสงสัย
“ทำไมงั้นเหรอ ?”
“เปล่า… ก็แค่คิดว่า 10 วันมันนานไปไหมเท่านั้นเอง”
เฟิงหยวนที่ได้ยินแบบนั้นก็หันมาถามด้วยความสงสัย
“หรือคุณคิดจะเข้าร่วมงานประมูลเสร็จแล้วก็กลับ ?”
เทียนหลางที่ได้ยินแบบนั้นก็สะดุ้งเล็กน้อยเพราะคำพูดนั้นแฝงไปด้วยความไม่พอใจอันรุนแรง เขาจึงส่ายหน้าอย่างรวดเร็วพร้อมกับพูดว่า
“ไม่ใช่แบบนั้นผมคิดว่าอย่างน้อยเรามาฮันนีมูนกันทั้งทีก็ไม่ควรจะมาพักโรงแรมในเมือง น่าจะไปหาที่พักดีๆริมทะเล พักให้มันสมกับการฮันนีมูนเท่านั้นเอง”
เฟิงหยวนได้ยินแบบนั้นก็พยักหน้าเล็กน้อยก่อนจะกล่าวกับเทียนหลางว่า
“ที่พักพวกนั้นถูกจองไปหมดแล้วล่ะ คงหาที่ดีๆยากถึงมีก็ราคาสูงเกินไป”
“เข้าใจแล้ว”
“คุณนี่เตรียมทุกอย่างไว้พร้อมแล้วจริงๆ”
เฟิงหยวนที่ได้ยินคำพูดของเทียนหลางก็พูดออกมาด้วยน้ำเสียงไม่พอใจเล็กน้อย
“แหงล่ะ ใครจะเหมือนกับคุณกันละ แม้แต่งานประมูลที่จะไปกันเล่นๆยังไม่คิดจะหาข้อมูล คุณนี่นะ”
เทียนหลางที่ได้ยินแบบนั้นก็เกาหัวตัวเองเล็กน้อยก่อนจะหัวเราะแก้เขิน ทำเอาเฟิงหยวนถึงกับถอนหายใจออกมา
ในขณะนั้นเองลิฟท์ก็ได้มาถึงชั้น 42 เมื่อประตูลิฟท์เปิดออกเทียนหลางก็พบเห็นกับทางเดินยาวที่ตรงไปยังประตูห้อง ซึ่งระหว่างทางก็พบเห็นว่ามีประตูห้องอยู่อีกสองห้องด้านข้าง เมื่อเห็นแบบนั้นเขาก็อดไม่ได้ที่จะพูดออกมาด้วยความตกใจ
“นี่อย่างบอกนะว่าทั้งชั้นมีเพียงสามห้อง ?”
เฟิงหยวนที่ได้ยินแบบนั้นก็อดไม่ได้ที่พูดขึ้น
“ก็คงจะเป็นแบบนั้น”
ทั้งคู่เดินออกจากลิฟท์และตรงไปยังห้อง 4203 ที่อยู่ตรงสุดท้ายเดิน เมื่อมาถึงเฟิงหยวนก็ได้แนบบัตรสีดำใบหน้านั้นเข้ากับที่สแกนตรงประตู จากนั้นประตูของห้องก็เปิดออก
เมื่อเข้ามาด้านในทั้งคู่ก็อดที่จะตกตะลึงไม่ได้ เพราะด้านในนั้นกว้างขวางเป็นอย่างมาก เรียกได้ว่ากว้างพอๆกับบ้านทั้งหลังของเขาเลยทีเดียว
“เป็นห้องที่สุดยอดไปเลยนะเนี้ย”
เทียนหลางกล่าวออกมา ก่อนจะเดินสำรวจด้านในซึ่งมีทั้งห้องนั่งเล่น ห้องครัว ห้องน้ำถึงสองห้อง และยังมีโฮมออฟฟิตอีกด้วย และห้องนอนถึงสองห้อง และเมื่อออกไปด้านนอกระเบียงยังมีสระว่ายน้ำขนาดเล็กอยู่อีกด้วย
จะเรียกว่านี้ห้องสวีทไม่ได้แล้วต้องเรียกว่าบ้านเลยดีกว่า นี้เทียนหลางสามารถขนครอบครัวเขามาอยู่ที่นี้ได้เลยนะเนี้ย