The simple life of the emperor - ตอนที่ 24
หลังจากที่เทียนหลางกลับมาบ้านเขาก็ตรงขึ้นนอนทันที ก่อนนอนเทียนหลางก็ได้ดื่มโอสถน้ำตามังกรเข้าไปเพื่อบ่มเพาะอย่างช้า ๆ เช้าวันต่อมาเทียนหลางตื่นขึ้นอย่างรีบร้อนและรีบแต่งตัวในชุดที่ต่างออกไป
วันนี้เทียนหลางสวมกางเกงขายาวสีดำ เสื้อเชิ้ตสีขาวพร้อมกับผูกไทสีน้ำเงินคาดแดง เมื่อเขาส่องกระจกเพื่อตรวจดูตัวเองก็เห็นตราสัญลักษณ์ของโรงเรียนมัธยมที่หนึ่งอยู่ตรงอก
วันนี้เป็นวันเปิดเทอมวันแรกของภาคเรียนสุดท้ายในช่วงมัธยมปลายของเทียนหลาง แต่เพียงแค่วันแรกเขาก็ตื่นสายเสียแล้วหลังจากเช็คทุกอย่างแล้วเทียนหลางก็หยิบกุญแจรถและลงไปข้างล่างทันที เช้าวันนี้เทียนหลางรีบจนลืมเรื่องอาหารเช้าที่แม่ของเขาเป็นคนทำซะสนิท
เทียนหลางขับ Audi ออกจากบ้านและตรงไปยังโรงเรียนมัธยมที่หนึ่งซึ่งอยู่ไม่ไกลนักจากหมู่บ้านเทียเฮอ ระหว่างทางเทียนหลางก็ค้นความทรงจำของเทียนหลางคนเก่าเกี่ยวกับเรื่องที่โรงเรียน
ช่างน่าเสียดายที่ส่วนใหญ่มีแต่เรื่องที่ตัวเขานั้นโดนกลั่นแกล้ง น้อยนักจะมีแต่เรื่องดี ๆ แต่มีสิ่งหนึ่งที่ทำให้เทียนหลางตกใจนั่นก็คือ เทียนหลางคนเก่านั้นถูกจัดว่าเป็นนักเรียนที่เก่งและฉลาดมากคนหนึ่งเลยทีเดียวเขานั้นสามารถเข้าใจเนื้อที่เรียนได้ทั้งหมดอย่างรวดเร็ว และสามารถแก้โจทย์เลขยาก ๆ ได้อีกด้วย
แต่เพราะการที่เขาถูกกลั่นแกล้งบ่อย ๆ ทำให้เขานั้นไม่กล้าที่จะแสดงความสามารถนี้ออกไปเพราะกลัวว่าจะถูกแกล้งหนักกว่าเดิมจากความอิจฉาจึงจำใจจะต้องทำตัวเป็นเด็กนักเรียนที่ผลการเรียนธรรมดา ๆ อยู่ตลอด
”เจ้าเด็กคนนี้ทำไมถึงได้ขี้ขลาดแบบนี้กันนะ”
เทียนหลางบ่นออกมาพร้อมกับถอนหายใจ ไม่นานนักเทียนหลางก็ขับมาถึงโรงเรียนมัธยมที่หนึ่ง โรงเรียนมัธยมที่หนึ่งนั้นเป็นโรงเรียนสำหรับพวกลูกคนมีเงินจึงมีหลายคนที่ขับรถมาซึ่งมีที่จอดรถเพียงพอสำหรับทั้งนักเรียนและครู
………………………………..
ไม่นานนักเทียนหลางก็ขับรถมาถึงโรงเรียนมัธยมปลายที่หนึ่ง แม้เทียนหลางจะเคยเห็นมันจากความทรงจำเก่า ๆ ของเทียนหลางคนเก่าก็ตามแต่เมื่อมาเห็นเองแล้วเขาก็ต้องตกใจเล็กน้อย เพราะมันมีขนาดใหญ่มาก ๆ เทียนหลางเดาว่ามันคงใหญ่กว่าโรงเรียนธรรมดาทั่วไปถึงเท่านึงได้
เมื่อรถ Audi ของเทียนหลางเข้ามาในเขตโรงเรียนก็ได้เรียกความสนใจของใครหลาย ๆ คนที่กำลังเรียนอยู่ในทันที
”เฮ่ย นั่นมัน Audi นี้หว่า !”
ทันทีที่หนึ่งในนักเรียนพูดขึ้นทุกคนก็ต่างหันออกไปมองยังรั้วโรงเรียนทันที
”จริงด้วย สุดยอดโครตสวยเลย”
”แน่นอนสิรถนั่นราคาเป็นล้านเลยนะ”
”ใครขับมากันหน่ะ ?”
”ไม่รู้สิ น่าจะเป็นคนใหญ่คนโต หรือไม่ก็พวกนักเรียนห้องอื่นละมั้ง”
”เป็นไปไม่ได้หรอก ถึงแม้พวกนั้นจะรวยแต่ก็ไม่น่าจะเอารถราคาเกือบสิบล้านขับไปไหนมาไหนได้ อย่างมากก็ได้แค่รถราคาละสามสี่ล้านแหละ”
”นั่นสินะ”
”ใครจะไปรู้”
เสียงพูดคุยดังไปทั่วอาคารเรียน แต่เทียนหลางนั้นไม่ได้สนใจแม้แต่นิดเดียวเขาขับรถเข้าไปจอด ณ ลานจอดรถอย่างเร่งรีบเพราะตอนนี้เขาสายแล้ว และทันทีที่เทียนหลางลงมาจากรถเหล่านักเรียนก็พูดคุยกันอีกครั้ง
”ดูนั่นสิ นั่นมันชุดของโรงเรียนเราไม่ใช่เหรอ ?”
”เออวะ ใครกัน ?”
”ฉันไม่เคยเห็นหน้าเลย เด็กใหม่รึเปล่า ?”
”เป็นไปได้นะ แต่นี่มันก็จะหมดปีแล้วจะมีเด็กใหม่เข้ามาได้ยังไงกัน ?”
เหล่านักเรียนต่างพูดกันต่าง ๆ นา ๆ ไม่เว้นแม้แต่นักเรียนหญิงที่พูดคุยกันถึงหน้าตาของเทียนหลาง
”ดูนั่นสิ เขาหล่อใช้ได้เลยนะ”
”ใช่ดูใบหน้าที่ละเอียดอ่อนของเขาสิ ผมดำยาวสีดำสนิทของเขาเข้ากับใบหน้าของเขาจริงๆ”
………………………………….
เทียนหลางเดินไปตามทางที่คุ้นเคยเรื่อย ๆ จนมาถึงหน้าห้องเรียนห้องหนึ่ง ม.6 ห้อง3 เทียนหลางยืนถอนหายใจอยู่สักพักก่อนจะเปิดประตูห้องเข้าไป
ครืดดดดด
ทันทีที่เทียนหลางเปิดประตูห้อง ทั้งห้องก็ต่างจ้องมองมาที่เทียนหลางเป็นตาเดียวกันพร้อมกับเสียงซุบซิบ ไม่นานนักอาจารย์ที่กำลังสอนอยู่นั้นก็ถามขึ้น
”เธอเป็นเด็กใหม่งั้นเหรอ ?”
เทียนหลางที่ได้ยินก็ส่ายหน้าเล็กน้อยก่อนจะเดินไปยังที่นั่งริมหน้าต่างของเขา พร้อมกับสายตาของคนทั้งห้องที่กำลังมองเขาเป็นตาเดียวกัน เทียนหลางนั่งลงช้า ๆ ก่อนจะวางกระเป๋าและหยิบสมุดขึ้นมา
การกระทำของเทียนหลางสร้างความสงสัยงงงวยให้กับทุกคนในห้องเป็นอย่างมากไม่เว้นแม้แต่อาจารย์ผู้สอน เพราะพวกเขาจำได้ว่าตั้งแต่เทอมที่แล้วนั้นไม่มีนักเรียนคนนี้อยู่ในห้อง ต่อให้เป็นคนที่จืดจาง หรือไม่เป็นที่สนใจแค่ไหนก็ตามก็ไม่มีทางที่พวกเขาจะจำเพื่อนร่วมห้องที่เรียนมาด้วยกันตลอดครึ่งปีไม่ได้หรอก
อาจารย์ก็เช่นกันแม้เขาจะได้สอนนักเรียนชั้นม. 6 หลายห้องแต่เขาก็จำหน้านักเรียนเกือบทั้งหมดได้ไม่มีทางที่เขาจะลืมคนที่โดดเด่นแบบนักเรียนคนนี้ได้แน่นอน ดังนั้นเขาจึงถามออกไป
”นี่นักเรียน เธอชื่ออะไร ?”
เทียนหลางที่ได้ยินก็เงยหน้าพร้อมกับพูดชื่อของตัวเอง
”ผมเทียนหลางไงครับอาจารย์”
”งั้นเหรอ ? เทียนหลางสินะ”
อาจารย์พยักหน้าพร้อมกับเช็คชื่อในสมุดรายชื่อ นักเรียนคนอื่นก็พยักหน้าหงึก ๆ เมื่อได้ยินชื่อของเขา แต่ในวินาทีต่อมาทุกคนในห้องก็ต่างแสดงท่าทีตกใจออกมาพวกเขาจดจำเทียนหลางได้อย่างรวดเร็วเพราะภายในห้องมีเพียงคนเดียวเท่านั้นที่มีชื่อนี้
”อ๊าาาา ทะ… เทียนหลางงั้นเหรอ ?”
”เจ้าเทียนหลางนั่นหน่ะเหรอ ?”
”เจ้าอ่อนเทียนหลางงั้นเหรอ ?”
”ได้ยังไงกัน ฉันจำได้ว่ามันไม่ได้มีหน้าตาแบบนี้นี่หน่า ?”
”มันไปทำอะไรมาถึงหน้าตาเปลี่ยนไปแบบนั้น ?”
”ศัลยกรรมงั้นเหรอ ?”
”บ้าเหรอ ? เธอรู้รึเปล่าศัลยกรรมใช้เงินเท่าไหร่ ฉันรู้มาว่าบ้านของเทียนหลางเปิดร้านอาหารเล็ก ๆ เท่านั้นเองไม่มีทางที่เขาจะมีเงินไปศัลยกรรมหรอกน่า !”
”แล้วพวกนายจะอธิบายเรื่องนี้ยังไง ?”
”นั่นนะสิ”
ทั้งห้องเกิดการซุบซิบกันไปต่าง ๆ นา ๆ ไม่ว่าจะทั้งกลุ่มนักเรียนชาย และนักเรียนหญิงจนทำให้อาจารย์ต้องเตือนให้พวกเขาตั้งใจเรียน
………………………………
และแล้วก็มาถึงช่วงพักกลางวัน เทียนหลางกำลังนั่งเก็บหนังสือเข้ากระเป๋าและจะเตรียมไปโรงอาหารก็ได้มีผู้หญิงกลุ่มหนึ่งเดินเข้ามาหาเขา
”นี่ ๆ นายชื่อเทียนหลางใช่ไหม ?”
เทียนหลางที่ได้ยินคำถามก็เงยหน้ามองผู้หญิงกลุ่มนั้นอย่างใจเย็นก่อนจะนึกขึ้นได้ว่าผู้หญิงพวกนี้เป็นเพื่อนร่วมห้องของเขา เทียนหลางพยักหน้าพร้อมกับพูดขึ้น
”ใช่”
ผู้หญิงเหล่านั้นได้คำตอบก็ยิ้มและหัวเราะคิกคักกันออกมา ทำเอาเทียนหลางงุนงงเล็กน้อย จากนั้นผู้หญิงคนหนึ่งก็ได้ถามขึ้น
”ช่วงปิดเทอมนายไปทำอะไรมางั้นเหรอ ? ถึงได้เปลี่ยนไปขนาดนี้ ?”
เทียนหลางที่ได้ยินก็ขบคิดสักพักก่อนจะพูดขึ้น
”ก็ออกกำลังกาย และกินอาหารดี ๆ หล่ะนะ”
เมื่อผู้หญิงเหล่านั้นได้ยินก็พยักหน้าพร้อมกับจดอะไรบางอย่างลงสมุด เทียนหลางคิดว่าพวกเธอคงจะมาถามหาเคล็ดลับในการเปลี่ยนแปลงตัวเองอะไรทำนองนั้น
‘ใคร ๆ ก็อยากดูดีขึ้นสินะ’
ในขณะที่ผู้หญิงกำลังจะถามอะไรต่อก็ได้มีเสียงผู้ชายคนหนึ่งพูดขึ้น
”โอ้ ~ เพียงแค่กินอาหารดี ๆ กับออกกำลังกายมันทำให้ขยะเปลี่ยนไปได้ขนาดนี้เลยงั้นเหรอ ?”
เทียนหลางหันหน้าไปตามเสียงก็พบกับเด็กผู้ชายหน้าตาดีคนหนึ่งกำลังเดินมาพร้อมกับพวกเขาอีกสองสามคน เทียนหลางจำได้ลาง ๆ ว่าผู้ชายคนนี้ชื่อ ซันซื่อจิน เป็นคนที่มักจะกลั่นแกล้งเขาบ่อย ๆ ในอดีต
เมื่อพวกเขาเดินมาที่โต๊ะของเทียนหลาง เหล่านักเรียนหญิงที่ล้อมกันอยู่ก่อนหน้านี้ก็เริ่มถอยออกไปทันทีปล่อยให้พวกของซันซื่อจินล้อมโต๊ะของเทียนหลางเอาไว้
ซันซื่อจินหัวเราะเบา ๆ พร้อมกับท้าวแขนไว้บนหัวของเทียนหลางก่อนจะพูดขึ้น
”ไม่คิดว่าขยะอย่างแกจะเปลี่ยนไปได้มากขนาดนี้ระหว่างปิดเทอม ดูเหมือนว่าแกจะได้อะไรดี ๆ มาสินะ”
เทียนหลางที่เดิมทีไม่ได้อารมณ์ดีอยู่แล้วเมื่อเห็นซันซื่อจิน และเมื่อซันซื่อจินกำลังดูถูกเขาโดยการวางแขนไว้บนหัวของเขาแบบนี้ทำให้เทียนหลางรู้สึกอารมณ์เสียขึ้นมา เขาจึงพูดขึ้นอย่างใจเย็น
”ซันซื่อจิน ฉันขอแนะนำให้แกเอาแขนออกจากหัวของฉันซะ”
เมื่อซันซื่อจินได้ยินคำพูดของเทียนหลางเขาก็หัวเราะออกมาก่อนจะก้มหน้าลงมาพร้อมกับพูดด้วยน้ำเสียงดูถูก
”ถ้าฉันไม่เอาออกหล่ะ แกจะทำอะไร ?”
เทียนหลางไม่ตอบเขายิ้มเบา ๆ ก่อนจะบิดแขนของซันซื่อจินด้วยแรงเล็กน้อย
กร๊อบ อ๊ากกกกกกกก
เสียงร้องของซันซื่อจินดังไปทั่วห้องจนเรียกความสนใจของนักเรียนที่อยู่ในห้องและตามระเบียง เมื่อพวกเขาได้ยินเสียงร้องของใครบางคนพวกเขาก็มักจะรีบมาด้วยความสนใจทันที
เมื่อพวกเขามาเห็น พวกเขาก็ต้องเห็นภาพที่น่าตกใจ นั่นก็คือพวกเขาเห็นเทียนหลาง กำลังจับแขนที่บิดจนผิดรูปของซันซื่อจินอยู่ ซึ่งพวกเขานั้นคิดออกโดยทันทีว่าแขนของซันซื่อจินนั้นหักไปที่เรียบร้อยแล้ว
เทียนหลางมองซันซื่อจินที่กำลังร้องโหยหวนอย่างเย็นชาก่อนจะพูดขึ้น
”ฉันเตือนแกแล้ว หลังจากนี้อย่ามาให้ฉันเห็นหน้าอีก ไม่งั้นฉันจะหักขาแกด้วย”
เมื่อเทียนหลางพูดจบเขาก็เดินออกจากห้องไปทันที ทิ้งไว้เพียงซันซื่อจินและพรรคพวกที่กำลังช่วยเหลือเขาอยู่ ส่วนคนที่กำลังมุงดูกันอยู่นั้นเมื่อเห็นเทียนหลางกำลังเดินมาพวกเขาก็รีบหลีกทางให้เทียนหลางเดินทันที โดยไม่คิดแม้แต่จะขวางเลยด้วยซ้ำ