The Trembling World - ตอนที่ 308
TW:บทที่ 308 การตรวจสอบ
คนที่ได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิตภายในโลกแห่งความฝันนั้นคือกลุ่มคนที่อารมณ์อ่อนไหวที่สุด นั่นเป็นวิธีที่แมงกะพรุนฝันร้ายมีโอกาสกลืนกินจิตวิญญาณของพวกเขา เกิดอะไรขึ้นถ้าบทบาทแบบนั้นถูกเปลี่ยน?ถ้ามันบังเอิญได้รับบาดเจ็บหรือจิตวิญญาณของมันถูกกินภายในความฝัน?แมงกะพรุนฝันร้ายนี้จะตายหรือไม่ ถ้ามีโอกาสฆ่าแมงกะพรุนฝันร้ายที่เป็นสัตว์ประหลาดกลายพันธุ์ระดับสูงมันอาจจะเพิ่มระดับให้ หลิวกํา ถึงระดับ 10
การที่จะก้าวขึ้นสู่ระดับ 5 มันเป็นปัญหาคอขวดสําหรับผู้เล่นทุกคนและการเข้าถึงระดับ 10 อาจเป็นคอขวดขั้นที่ 2 ต้องใช้ค่าประสบการณ์มากมายในการผ่านคอขวดนี้ไป ถ้า หลิวกํา ต่อสู้กับปูยักษ์อีกครั้งเขาก็คงไม่มีโอกาสบางทีการที่เขาจะเอาชนะปูยักษ์ได้คงหลังจากที่เขาขึ้นเป็นระดับ 10 แล้ว ความอดทนความแข็งแรงและความเร็วของร่างกายจะเข้าสู่ระดับใหม่ และคงเพียงพอที่จะสู้กับปูยักษ์
ในตอนที่ หลิวกํา ขึ้นมาในระดับ 5 เขาสามารถปลุกทักษะ [Mist Armour] (เกราะหมอก) บางทีเมื่อเขาเพิ่มเป็นระดับ 10 เขาอาจปลูกทักษะที่ดีขึ้นกว่าเดิม
ก่อนที่ หลิวกํา จะนอนหลับนั้นเขาได้สั่งให้ ยินฮี ไม่ต้องปลุกเขาจนกว่าจะมีบางสิ่งเกิดขึ้น หลิวกํา ตัดสินใจเดินทางในความฝันเพื่อเรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับศัตรูของเขาโดยเฉพาะอย่างยิ่งการโจมตีของแมงกะพรุนในความฝัน จากนั้นเขาต้องการต่อสู้เพื่อให้จิตใจของเขาแข็งแกร่งขึ้น
แม้ว่าการต่อสู้ในดินแดนแห่งความฝันนั้นเป็นการพยายามที่ล้มเหลวของแมงกะพรุนฝันร้าย หลิวกํา ยังคงเชื่อว่าการต่อสู้กับจิตใจแบบนี้ทําให้เขาสามารถฝึกความคิดของตัวเองได้ แม้ว่า [Psychic Shock] ของเขาจะไม่ได้พัฒนาขึ้น แต่เขายังคงสามารถฝึกฝนจิตใจและมีภูมิต้านทานต่อการโจมตีทางจิตใจได้
ไฟในห้องพักมีแหล่งกําเนิดแสงเพียงแห่งเดียวและประตูก็ยังปิดอยู่ เฉพาะ หลิวกํา เท่านั้นที่อยู่ภายใน หลิวกํา เดินออกจากห้องพักและเดินเข้าไปโดยตรงในห้องโดยสาร เขาเดินไปรอบๆ และจดจํารายละเอียดของสภาพแวดล้อมและความรู้สึกของเขา
โลกแห่งความฝันนี้ดูสมจริงมาก มันยากที่จะบอกว่าเป็นความจริงหรืออะไรเป็นของปลอม แม้แต่ในตอนนี้ หลิวกํา เดินด้วยเท้าเปล่าการแตะพื้นผนังทุกอย่างมั่นคงและไม่สามารถแยกแยะได้จากความเป็นจริง มันคล้ายๆกับตอนที่เขาเข้าสู่ The Trembling World ในครั้งแรกเขาค้นพบว่าไม่มีความแตกต่างที่ชัดเจนระหว่างโลกใหม่กับโลกเก่าที่เขาเข้ามา ตอนนี้เขาอยู่ในโลกแห่งความฝันและเขารู้สึกเหมือนจริงมาก หลิวกํา มองไปรอบๆและพยายามมองความแตกต่างระหว่างโลกแห่งความฝันและโลกแห่งความจริง
ดูเหมือนว่าความแตกต่างในโลกแห่งความฝันของ The Trembling Worldมันยากที่จะแยกแยะระหว่างโลกความฝันและความจริง เช่นเดียวกับที่เขาไม่สามารถแยกแยะความแตกต่างระหว่างโลกแห่งความเป็นจริงกับ The Trembling Worldได้
ในห้องอื่น
“ทําไมคุณถึงยังไม่หลับ?” ฮันกวงมิน ถาม เชาเหมิง ในห้องนี้มีเตียง 2 เตียงถูกวางไว้ใกล้กัน เชาเหมิง นอนไม่หลับและยังคงนอนพลิกไปมาจนทําให้เตียงบดกับพื้นเกิดเสียงดัง กังวาน ขึ้น
“ผมมีอะไรจะพูด แต่ผมไม่แน่ใจว่าควรจะพูดไหม ดังนั้นผมจะพูดกับหัวหน้ากลุ่มฮันก่อน แต่ถ้าผมพูดเรื่องนั้นโปรดอย่ารายงานเรื่องผมต่อพี่ใหญ่หลิว” เชาเหมิง ลังเล
“มันคืออะไร?ทําไมถึงไม่ให้ผมบอกพี่ใหญ่หลิว?” ฮันกวงมิน จ้องมอง เชาเหมิง อย่างแปลกๆ
“อ่า…ผมรู้สึกว่าการกระทําของพี่ใหญ่หลิวแปลก ตัวอย่างเช่นเมื่อเรามาถึงที่นี่ทําไมพวกเขาไม่จัดให้คนคอยเฝ้าเรือดําน้ำ?เมื่อคืนวานพวกเราได้รับบทเรียนเรื่องที่ไม่มีคนเฝ้ายานพาหนะไว้แล้ว เมื่อทุกคนเข้าไปในเซเรนิตี้รถก็ถูกผลักลงไปในทะเล ตอนนี้เกิดสิ่งเดียวกันกับเรือดําน้ำและตอนนี้เราก็สูญเสียเรือดําน้ำไปแล้ว ทําไมเราไม่เรียนรู้จากความผิดพลาดของเราในครั้งก่อน?เราถูกขังอยู่ที่นี่และไม่สามารถกลับขึ้นไปได้” เชาเหมิง บ่นและแสดงความผิดหวังของเขาออกมา
“คุณกําลังคิดเกี่ยวกับปัญหาเรื่องนี้นั่นหรอ?คุณต้องการให้ใครบางคนคอยเฝ้าเรือดําน้ำไว้?แต่เรือดําน้ำมันอยู่ข้างนอกในทะเล ให้ตายสิ! นอกจากพี่ใหญ่หลิวไม่มีใครสามารถใช้เรือดําน้ำไม่ได้ มันต้องป้อนลายนิ้วมือและรหัสผ่าน คุณให้เราเฝ้าระวังใคร?คุณคิดว่าสัตว์ทะเลจะมาเอาเรือดําน้ำของเราไปหรือเปล่า?คุณคิดว่าคุณฉลาดกว่าพี่ใหญ่หลิวงั้นหรอ?ถ้าอย่างนั้นเราควรทิ้งคุณไว้ให้คุณอยู่ในทะเลนี้และกลายเป็นอาหารว่างของพวกมัน” ฮันกวงมิน ตอบ เชาเหมิง
“อ่า… งั้นเราจะไม่พูดถึงเรื่องเรือดําน้ำอีก แล้วเมื่อคืนวานล่ะ?พี่ใหญ่หลิวควรส่งคนไปดูแลรถทั้ง 2 คันใช่ไหม?ถ้ารถทั้ง 2 คันยังอยู่ที่นั่นเราก็จะไม่ติดอยู่ในฝันร้ายของเซเรนิตี้” เชาเหมิงตอบ
“เดี๋ยวก่อนถ้าพูดถึงเรื่องเมื่อคืนวานมันเป็นเพราะมีฝนตกหนัก?เอาละต่อไปผมจะบอกให้พี่ใหญ่หลิวปล่อยให้คุณอยู่ในรถ ด้วยวิธีนี้คุณสามารถตายด้วยการโดนฟ้าผ่าหรือซอมบี้กลายพันธุ์ที่ล้อมคุณไว้ได้ นั่นคือสิ่งที่คุณต้องการใช่ไหม?เนื่องจากความเฉลียวฉลาดของพี่ใหญ่หลิวเราจึงไม่สูญเสียสมาชิกคนใดสักคน ถึงอย่างนั้นคุณก็ยังสงสัยในความคิดของพี่ใหญ่หลิว…เฮ้อ…ผมไม่รู้ด้วยซ้ำว่าจะพูดอะไรกับคุณดี…” ฮันกวงมิน หัวเราะเยาะ เชาเหมิง
“ ผมเป็นเพียงระดับ 4 ผมไม่สามารถเฝ้าอยู่ที่รถได้แต่พี่ใหญ่หลิวสามารถให้รองหัวหน้า (ยินฮี)เฝ้าได้ หากเธออยู่ที่นั่นคงไม่มีอะไรกล้าที่จะไปยานพาหนะนั้น” เชาเหมิง ลังเลและเถียงกลับ
“คุณกล้าที่จะใช้รองหัวหน้าเฝ้ารถอย่างนั้นหรอ? OK ถ้าพี่ใหญ่หลิวไม่ตื่นขึ้นจากความฝันและในขณะที่รองหัวหน้าไปเฝ้ารถ ดังนั้นจะไม่มีใครรู้ว่าอะไรเกิดขึ้นและเช้าในวันต่อมาเธอก็จะพบว่าทั้งเรือเซเรนิตี้นี้เต็มไปด้วยซากศพ..โอ้พี่ใหญ่หลิวคุณตายแล้ว!” ฮันกวงมิน พูดจาเสียดสี
“เรื่องนี้ไม่อย่างนั้นพี่ใหญ่หลิวก็ควรที่จะอยู่ในรถ.เพราะไม่มีใครเฝ้ารถและเรือดําน้ำมันถึงได้เป็นแบบนี้” เชาเหมิง รู้สึกสูญเสียเกียรติของเขา
“คุณอยากจะให้พวกเรานอนอย่างสุขสบายในเซเรนิตี้ในขณะที่ให้พี่ใหญ่หลิวเสี่ยงต่อการโดนฟ้าผ่าเพื่อให้เขาเฝ้ารถของเราเนี่ยนะ? พี่ใหญ่หลิวเป็นใครเขาเป็นขี้ข้าอย่างนั้นหรอ?ผมคิดว่าหัวของคุณ คงมีประโยชน์เป็นเพียงลูกบอลไว้เตะเท่านั้น อัเอาล่ะดังนั้นถึงแม้ว่าคุณต้องการให้พี่ใหญ่หลิวเฝ้ารถจากภายนอกแต่เมื่อถึงเช้ามาบนเรือก็เต็มไปด้วยซากศพ…คุณคิดว่าผลลัพธ์นี้ดีกว่าเก่าหรอ” ฮันกวงมิน ไม่รู้ว่าจะชักจูง เชาเหมิง ได้ยังไง
“ตกลงมันเป็นความผิดพลาดของผม พี่ใหญ่หลิวฉลาด ผมคิดว่าเหตุผลของผมคงไม่เพียงพอนั่นคือเหตุผลที่ผมเลือกที่จะคุยเรื่องนี้กับคุณก่อน ไม่มีความหมายอื่นอยู่เบื้องหลังเรื่องนี้ หัวหน้ากลุ่มฮันอย่าเอาสิ่งที่เราพูดคุยกันในวันนี้ไปบอกกับพี่ใหญ่หลิว ถ้าเขารู้เขาคงจะเตะผมอย่างแน่ๆ” เชาเหมิง พึมพํา
“แน่นอนผมจะไม่บอกเรื่องนี้กับพี่ใหญ่หลิว ต่อจากนี้คุณไม่ควรตั้งคําถามเกี่ยวกับการตัดสินใจของพี่ใหญ่หลิว สิ่งที่เราทําเมื่อเปรียบเทียบกับสิ่งที่พี่ใหญ่หลิวสามารถทําได้มันเป็นช่องว่างขนาดใหญ่ไหากพี่ใหญ่หลิวเป็นนกอินทรีย์ที่ทะยานอยู่บนท้องฟ้าแล้วก็คงเป็นคางคกที่กระโดดอยู่ด้านล่างของบ่อ พี่ใหญ่หลิวมีประสบการณ์ชีวิตมากกว่าพวกเรานัก!” ฮันกวงมิน ปรับทัศนคติกับ เชาเหมิง