The Trembling World - ตอนที่ 266
TTW:บทที่ 266 การสกัดกั้น
หลิวกำ ดึง จางเฉียงหลี่ ออกจากใต้เตียงแล้วมองกลับไปที่เชาเฟิง ที่นอนตายอยู่ ตอนนี้ หลิวกำ กำลังขบคิดในตอนแรกพวกนักรบพวกนี้จับพวกเขามาแบบมีชีวิตเพื่อต้องการเปลี่ยนให้เป็นซอมบี้กลายพันธุ์ และในตอนนี้พวกเขาฆ่าเชาเฟิงหมายความว่ามีบางอย่างผิดพลาดและไม่ต้องการทดลองอีกต่อไป
แต่นี่ไม่ใช่เวลาที่เขาจะมาคิดเรื่องนี้ในสถานที่นี้ จะเป็นการดีที่สุดถ้าพวกเขารีบหนีออกไป ก่อนที่จะกังวลถึงเรื่องอื่น นักรบพวกนี้มีพลังมากเกินไปสำหรับ หลิวกำ เขาไม่มีทางที่จะเผชิญหน้ากับพวกมันได้โดยตรงมันจะดีซะกว่าถ้าเขารีบหลบหนีออกจากตำแหน่งนี้และกลับมาอีกครั้งเมื่อมีเจ้าหน้าที่น้อยลง
“เหล่านักรบพวกนี้พึ่งพาพลังงานโฟตอนเป็นพลังงาน ภายในร่างกายของพวกเขามีพลังงานโฟตอนหมุนเวียนอยู่มันมีประสิทธิภาพมากกว่าการส่งพลังงานไฟฟ้า เพียงแค่นาโนเดียว ก็มีค่ามากกว่า 10 เท่าของพลังงาน นาโนบอทแบบพลาสม่า หากเราสามารถฆ่านักรบคนใดคนหนึ่งได้เราสามารถสกัดนาโนโฟตอนเพื่อแลกเปลี่ยนกับนาโนบอทพลาสม่าไฟฟ้าของเราได้ นั่นจะช่วยทำให้พลังงานของฉันนานยิ่งขึ้น” ยินฮีบอกกับ หลิวกำ
“ คุณรู้วิธีที่จะฆ่าพวกเขาหรือยัง?” หลิวกำ ถาม
“ ยัง ตอนนี้ความแข็งแกร่งของฉันยังไม่เพียงพอที่จะฆ่าหุ่นยนต์เหล่านี้ นอกจากนี้ภายในไมโครชิพของพวกเขายังมีการป้องกันเพื่อไม่ให้เทคโนโลยีลับของพวกเขาถูกเปิดเผย ขณะที่พวกเขาตายนาโนบอททั้งหมดจะหยุดทำงาน มันเป็นเรื่องยากที่ฉันจะใช้ประโยชน์จากนาโนบอทที่หยุดทำงานแล้ว เว้นเสียแต่ว่าฉันสามารถเอามันออกมาในขณะที่มีชีวิตอยู่ แต่ตอนนี้ฉันยังทำไม่ได้” ยินฮี อธิบายต่อ หลิวกำ
“ นั่นฟังดูยาก อย่าเพิ่งทำอะไร แม้ว่าจะมีข้อได้เปรียบก็ตาม คุณต้องมีชีวิตอยู่เพื่อให้ได้รับผลประโยชน์นี้” หลิวกำ อธิบายกับ ยินฮี เขากลัวว่าเธอจะไม่ฟังคำสั่งของเขาและทำอะไรให้เกิดความเสี่ยง บางทีมันอาจเป็นเพราะความใกล้ชิดที่เพิ่มขึ้นระหว่างพวกเขา เมื่อเร็วๆนี้ ยินฮี มีลักษณะคล้ายมนุษย์มากยิ่งขึ้น ยังเร็วเกินไปที่จะบอกว่าเป็นสิ่งที่ดีหรือไม่ดี
“ ฉันจะไม่ขัดคำสั่งคุณ ตอนนี้คุณยังมีเวลาก่อนที่จะมีนักรบคนหนึ่งกำลังเข้ามาใกล้ตำแหน่งของคุณ” ยินฮี ต่อ หลิวกำ
ในขณะที่คุยกับ ยินฮี หลิวกำมองออกไปนอกห้องเพื่อให้แน่ใจว่าปลอดภัย จากนั้นเขากลับไปที่ห้องเพื่อลาก จางเฉียงหลี่ ไปกับเขา ถึงแม้ จางเฉียงหลี่ จะสามารถฟื้นคืนความแข็งแกร่งได้บางส่วนแต่เขาก็ยังไม่สามารถที่จะยืนได้ หลิวกำ ยังคงลากเขาต่อไป
“พี่ใหญ่หลิวอย่าทำแบบนี้เลย ทิ้งผมไว้ที่นี่ ผมไม่อยากเป็นภาระให้กับคุณ” จางเฉียงหลี่ พึมพำ
“อย่าพูดอย่างนั้น ผมต้องใช้ความพยายามอย่างมากเพื่อที่จะให้คุณขึ้นเป็นระดับ 6 แล้วจะให้ผมปล่อยให้คุณอยู่ที่นี่เพื่อให้พวกเขาฆ่าคุณนั่นหรอ นั่นหมายความว่าผมได้ละทิ้งการลงทุนทั้งหมดไป ผมจะทำอย่างนั้นได้ยังไงผมลงทุนกับคุณไปมาก” หลิวกำ ใส่หัว
“พี่ใหญ่หลิว….” จางเฉียงหลี่ ไม่สามารถพูดอะไรออกมาได้
หลิวกำ ลาก จางเฉียงหลี่ ไปยังห้องถูกซึ่งนำไปสู่บันได บันไดอยู่สุดของห้องโถง ทันใดนั้นพวกเขาก็ได้ยินเสียงฝีเท้าจากด้านหลัง จังหวะการเดินของฝีเท้าเป็นนักรบที่ ยินฮี เตือนเขาก่อนหน้านี้
หลิวกำ ไม่ได้รับทิ้ง จางเฉียงหลี่ เขาพยายามวิ่งไปบันไดด้วยความรวดเร็ว เขาแบกจางเฉียงหลี่ ไว้ที่หลังและเริ่มออกวิ่ง พวกเขาหวังว่าเขาจะถึงบันไดก่อนที่นักรบสวมชุดเกราะจะเจอพวกเขา
หลิวกำ ไม่กล้าเดินเร็วเกินไปเนื่องจากเสียงฝีเท้าของเขาอาจดึงดูดความสนใจมากขึ้น ความสมดุลระหว่างความเร็วที่เพิ่มขึ้นกับทำให้เกิดเสียงน้อยสุดจึงเป็นเรื่องยาก หลิวกำ อยากจะให้ไปถึงบันไดให้เร็วที่สุด แต่นักรบก็หันมาเห็น หลิวกำ และ จางเฉียงหลี่ อยู่ที่สุดทางเดิน
นักรบสวมชุดเกราะ ขึ้นเสียงดัง ในขณะนี้ หลิวกำ และ จางเฉียงหลี่ ทั้งคู่สวมชุดเสื้อโค้ทของแล็บ นักรบสวมชุดเกราะจึงเข้าใจผิดว่าพวกเป็นหมอและไม่ทำร้ายพวกเขา นักรบสวมชุดเกราะตะโกนใส่ หลิวกำ และ จางเฉียงหลี่ ราวกับว่าพวกเขาเข้าใจความหมาย นักรบสวมชุดเกราะต้องการให้พวกเขาหยุดและสอบปากคำ
แต่หลิวกำ ไม่หยุด เขาพยายามเร่งฝีเท้าให้เร็วขึ้นแล้ววิ่งขึ้นไปบนบันไดตอนนี้พวกเขาถูกค้นพบแล้วและพวกเขาไม่กังวลว่าจะมีคนอยู่ที่บันไดหรือไม่ แผนของพวกเขาคือไปที่บันไดหนีไฟแล้วเปิดประตูพุ่งออกไปจากนั้นล็อคประตูในขณะที่พวกเขาวิ่งหนี
หลังจากที่ หลิวกำ ล็อคประตูหนีไฟเขาก็ได้ยินเสียงฝีเท้าวิ่งลงมา มันเป็นใบหน้าที่คุ้นเคยผู้เล่นคนนี้คือ ซูหยาน แต่สภาพของเขาดีกว่า จางเฉียงหลี่ มาก
ซูหยาน มีความสามารถในการรักษาดังนั้นตอนที่เขาเป็นอัมพาตเขาสามารถรักษาตัวเองได้ ซูหยาน แกล้งทำเป็นอัมพาตในขณะที่กำลังรักษาตัวเองอยู่ตลอดเวลา ในขณะที่นักรบสวมชุดเกราะพา ซูหยานไปสู่อีกห้อง เขาก็ใช้เวลานั้นแก้มัดของตัวเองออก และค่อยๆแอบหลบหนีในจนกระทั่งเขามาถึงบันไดเขาพบกับ หลิวกำ และ จางเฉียงหลี่ ดังนั้น ซูหยาน จึงลงบันไดเพื่อมาพบกับ หลิวกำ
เมื่อครั้งแรกในการเข้าห้องปฏิบัติการลับนั้นมีผู้เล่นอยู่ 9 คน ขณะนี้เหลือเพียง 4 คนเท่านั้น กลุ่มของ หลิวกำ และผู้เล่นเดี่ยวอย่าง ซูหยาน กลุ่มของ หวังเจ้า ถูกกวาดล้างอย่างสมบูรณ์ เป้าหมายเดิมของ หวังเจ้า คือการให้พวก คนอื่นเป็นเหยื่อ แต่ฝ่ายของตัวเองกลับกลายเป็นเหยื่อเสียแทน
“ คุณอยู่ที่นี่ได้ยังไง?มันปลอดภัยไหม?” ซูหยาน ถาม หลิวกำ
ถึงแม้ประตูทางหนีไฟจะถูกล็อคแต่มันยังคงส่งเสียงก้องกังวาน หลังจากที่นักรบสวมชุดเกราะเห็น หลิวกำ และ จางเฉียงหลี่ ไม่ฟังคำสั่งของเขาเขาจึงไล่ตามจับพวก หลิวกำ
ในขณะที่ทั้งสามคนกำลังรีบลงบันได ยินฮี ก็เตือน หลิวกำ ผ่านหูฟังเพื่อหยุด เนื่องจากมีนักรบยืนเฝ้ายามอยู่ด้านหน้าของพวกเขา
จากนั้นประตูหนีไฟก็เกิดเสียงดัง “ปัง” เสียงมันดังไปทั่วบันไดหนีไฟ ทำให้นักรบที่ยืนอยู่ประจำชั้นล่างมองขึ้นไปด้านบน
“ ชั้นนี้มีนักรบไหม?” หลิวกำ ถาม ยินฮี อย่างรวดเร็วในขณะที่เขาแนบตัวกับประตูหนีไฟของชั้นนั้นในขณะที่ด้านบนนักรบกำลังลงมาและด้านล่างกำลังที่จะเดินขึ้นมาเช่นกัน
“ชั้นนั้นมีนักรบอย่างน้อย 5 ถึง 6 คนแต่ฉันไม่รู้ว่า มีประตูหนีไฟ ใกล้ๆไหม” ยินฮี อธิบาย
ความเร่งด่วนจากโดนขนาบทั้งบนและล่าง หลิวกำ จึงตัดสินใจเปิดประตูหนีไฟบนชั้นปัจจุบันในขณะที่เขายังคงลาก จางเฉียงหลี่ ไว้บนหลังและมี ซูหยานตาม อยู่ด้านหลังสุด
——————