The Ultimate Student สุดยอดนักเรียนสมองอัจฉริยะ - ตอนที่ 47
บทที่ 47 จี้เฟิงผู้โชคดี??
“โอ้วว!”
ถงเล่ยเผลออุทานเสียงดัง เธอรีบเอามือมาปิดปากเล็กๆ ของเธอ แต่เมื่อมองไปที่ลอตเตอรี่ที่อยู่บนมือของจางเล่ย การกระทำแบบเดียวกันของทั้งสามคนจึงไม่น่าแปลกใจเมื่อพวกเขาต้องพบกับตัวเลขนี้ “5,000 ”
มีเลขห้าหนึ่งตัวและตามด้วยศูนย์อีกสามตัว!
และในตอนนี้ไม่ต้องสงสัยเลยว่านี่คือรางวัลใหญ่ ที่มีมูลค่าถึง 5,000 หยวน ในบรรดาลอตเตอรี่ราคาสองหยวนนี้ เงินรางวัลถึง 5,000 มันเป็นรางวัลใหญ่อย่างแน่นอน!
เมื่อเห็นตัวเลขนี้ ใบหน้าของซูหม่าก็ซีดลงทันที
ไม่ใช่แค่ใบหน้าของซูหม่าเท่านั้นที่ซีด แต่ยังมีเถ้าแก่อ้วนเจ้าของร้านที่ตอนนี้จ้องไปยังลอตเตอรี่ที่อยู่ในมือของจางเล่ยด้วยสีหน้าที่ซีดเผือดยิ่งกว่าซูหม่าเสียอีก เขาคร่ำครวญอยู่ภายในใจอย่างลับๆ “ไอ้เด็กเวรนี่มันจะโชคดีอะไรขนาดนั้นวะ!”
คุณควรรู้ว่าโอกาสในการได้รางวัลใหญ่ของลอตเตอรี่สำหรับสองหยวนนั้นน้อยมาก เถ้าแก่เจ้าของร้านเปิดร้านขายลอตเตอรี่มาหลายปีแล้ว และถ้ามีคนชนะรางวัลใหญ่จริงๆ ส่วนมากก็จะไม่เกินหนึ่งพันหยวนเท่านั้น สิ่งต่างๆ เช่นคำโฆษณาชวนเชื่อที่คุณอาจเคยได้ยินมาว่าจะได้รางวัลถึง 30,000 หยวนสำหรับลอตเตอรี่ราคาสองหยวนนั้นเป็นเรื่องโกหกหลอกลวง และไม่มีใครโง่พอที่จะเชื่อด้วยซ้ำ!
อย่างไรก็ตามเด็กคนนี้เขาโชคดีมากจริงๆ ที่ได้เงินรางวัลถึง 5,000 หยวน ส่วนจะโชคดีแค่ไหนนั้นซูหม่าก็คงเห็นด้วยตาตัวเองแล้ว
“ไอ้บ้า!” จางเล่ยอดไม่ได้ที่จะตะโกนด้วยความดีใจ “โชคของนายคงจะดีมาก!!”
“เพี๊ยะ!”
ถงเล่ยตีจางเล่ยและพูดว่า “ตะโกนทำไม ไม่มีมารยาทเลย!”
“เฮ้ย! ฮ่าฮ่าฮ่า~” จางเล่ยหัวเราะอย่างอารมณ์ดี เขาแกว่งลอตเตอรี่ในมือสองสามครั้งไปทางจี้เฟิงและพูดด้วยรอยยิ้ม
“เจ้าบ้า นี่ขนาดเพื่อนของนายเล่นแค่หนึ่งใบ นายก็ได้ทุนคืนแล้ว แถมยังเหลือกำไรไว้เล่นได้อีก ไม่สิ! นายต้องเก็บรักษาเงินไว้ให้ดี!”
จี้เฟิงหัวเราะและพูดว่า “ไม่ต้องห่วงหรอกหน่า ฉันเล่นเพื่อความสนุกสนานเท่านั้น แต่แค่ใบเดียวนายก็ดูชอบใจขนาดนี้แล้ว ฉันกลัวว่าจะเป็นนายเองซะมากกว่าที่จะเลิกเล่นมันไม่ได้!”
“ฮ่าฮ่าฮ่า~!” จางเล่ยหัวเราะร่วนในทันที “ฉันก็ว่างั้นแหละ! พวกนายต้องเร่งมือหน่อยนะ แล้วมาดูกันว่า ฉันจะนำโชคดีมาให้จี้เฟิงน้องรักได้อีกกี่รางวัล ฮี่ฮี่!”
เมื่อเห็นท่าทางที่ดูคึกคักสุดๆ ของจางเล่ย เซียวหยูซวนและถงเล่ยก็อดไม่ได้ที่จะหัวเราะ ส่วนจี้เฟิงก็ได้แต่ส่ายหัวและยิ้ม ในกลุ่มคนทั้งหมดนี้ ไม่มีใครจะรู้เรื่องราวเบื้องหลังทั้งหมดนี้ดีไปกว่าจี้เฟิงอีกแล้ว เพียงแต่เขาเองก็ไม่ได้คาดหวังขนาดว่าจะได้รางวัลใหญ่เป็นจำนวนเงินถึงห้าพันหยวนแบบนี้!
เนื่องจากมีลอตเตอรี่จำนวนมาก จี้เฟิงจึงทำได้แค่มองมันไปอย่างคร่าวๆ นอกจากนี้ลอตเตอรี่แต่ละใบนั้นมีตัวเลขเยอะพอสมควร ทำให้จี้เฟิงไม่มีเวลาจะดูได้อย่างละเอียด ดังนั้นเขาจึงไม่ได้สนใจมันมากนักในการคัดเลือกจำนวนเงินรางวัล
เมื่อนึกถึงเหตุผลนี้จี้เฟิงก็เริ่มที่จะตื่นเต้น เขาตั้งหน้าตั้งตารอทันทีว่าจะมีรางวัลใหญ่เป็นครั้งที่สองหรือไม่?!
จี้เฟิงหยิบลอตเตอรี่ขึ้นมาและดันลอตเตอรี่หลายใบไปที่ด้านหน้าของทั้งสามคน เขาหัวเราะและพูดว่า “อาจารย์เซียว ถงเล่ยและจางเล่ย เนื่องจากตอนนี้เราได้เงินทุนคืนมาทั้งหมดแล้ว แถมเรายังเหลือลอตเตอรี่อยู่อีก เพราะฉะนั้นหลังจากนี้จะเป็นส่วนของกำไรทั้งหมด!”
เซียวหยูซวนและอีกสองคนพยักหน้าเล็กน้อย และเริ่มทำการขูดลอตเตอรี่ด้วยความสนใจอย่างสนุกสนาน
เมื่อเห็นท่าทางของพวกจี้เฟิง.. ใบหน้าของซูหม่าก็ดำมืดลง และถึงแม้ว่าเขาต้องการจะเสแสร้งทำเป็นว่ามีความสุขด้วยความยินดี แต่ความเย็นชาในดวงตาของเขาก็ทรยศความรู้สึกภายในใจของเขาไม่ได้!
“แม่งเอ้ย!” ซูหม่าได้แต่ก่นด่าอยู่ในใจอย่างลับๆ “พวกแกจะโชคดีอะไรกันขนาดนั้นวะ… ไอ้เถ้าแก่อ้วน กล้ามาหักหลังคนอย่างฉัน ถ้าเรื่องนี้จบลงเมื่อไหร่ คอยดูแล้วกันว่าฉันจะมีวิธีจัดการกับคนอย่างแกยังไง!”
ไม่น่าแปลกใจที่ซูหม่าจะโมโหขนาดนี้ โดยที่ยังไม่ต้องพูดถึงว่ากองลอตเตอรี่ที่เถ้าแก่อ้วนเอาให้เขายกเว้นเงินทุนที่มีมูลค่ารวมน้อยกว่าห้าพันหยวน แต่ลอตเตอรี่เพียงใบเดียวของจี้เฟิงกลับมีมูลค่ามากกว่าเงินรางวัลของเขาทั้งหมดแล้ว ไหนจะลอตเตอรี่ที่เหลือของจี้เฟิงอีก!
แต่เนื่องจากจางเล่ยอยู่ใกล้ๆ กับซูหม่า เขาจึงไม่กล้าแสดงความโกรธออกมามากนัก เขาทำได้แค่เพียงมองไปที่เถ้าแก่อ้วนด้วยสายตาเย็นเยียบเพื่อเป็นคำเตือน!
เนื่องจากจี้เฟิงมีความสามารถในการมองที่ดี เขาจึงเห็นการกระทำเล็กๆ นั้นของซูหม่า จี้เฟิงยิ้มอยู่ในใจอย่างเย็นชาแต่ความเย็นชานั้นก็ยังปรากฏออกมาให้เห็นได้จากในแววตาของเขา
ที่ซูหม่าวางแผนเอาไว้นั้น จี้เฟิงก็สามารถเดาออกได้ตั้งแต่แรกแล้ว และจี้เฟิงก็รู้ดีว่า ที่ตอนนี้ซูหม่าต้องใช้วิธีการเอาชนะแบบเด็กๆ ในการกลั่นแกล้งเขาเพราะอันที่จริงแล้วซูหม่านั้นเกรงกลัวจางเล่ย
แล้วถ้าหากความสัมพันธ์ระหว่างเขากับจางเล่ยนั้นไม่ดีนัก ซูหม่าคงจะจัดการกับเขาด้วยวิธีที่ไร้ยางอายไปนานแล้ว
จี้เฟิงได้สัญญากับตัวเองไว้แล้วว่า เขาจะต้องเป็นคนที่แข็งแกร่งและจะไม่ยอมให้ใครหน้าไหนมารังแกเขาอย่างซึ่งหน้าได้อีก!
“อ๊ะ!”
ถงเล่ยอุทานออกมาเบาๆ เธอยิ้มอย่างสดใสและพูดว่า “ฉันได้รางวัลอีกแล้ว รอบนี้ได้ห้าสิบหยวนล่ะ!”
จี้เฟิงยิ้มบางๆให้ถงเล่ย แต่สีหน้าของซูหม่านั้นกลับตรงกันข้าม
จากนั้นทั้งสามคน จางเล่ย ถงเล่ยและเซียวหยูซวนก็ขูดลอตเตอรี่และมีถูกรางวัลบ้างเป็นครั้งคราว สุดท้ายแล้วพวกเขาก็เล่นลอตเตอรี่ขูดจนครบทั้งหมดที่จี้เฟิงเลือกซื้อมา หลังจากการขูดลอตเตอรี่สิ้นสุด มือของทั้งสามคนก็รู้สึกอ่อนล้าไปตามๆกัน
“ให้ตายสิ ไม่น่าเชื่อว่าการชนะแล้วได้รางวัลจากลอตเตอรี่ก็ทำพวกเราเจ็บปวดได้เช่นกัน!” จางเล่ยสะบัดข้อมือไปมาเบาๆ เขารู้สึกเมื่อยล้าที่มือเล็กน้อย เขายิ้มและพูดว่า “เจ้าบ้า ฉันอยากจะบอกว่าพวกเรานี่โชคดีจริงๆ ใบที่ไม่มีรางวัลนับเป็นแค่หนึ่งในสิบจากทั้งหมดเอง ส่วนที่เหลือนั้นพวกเราก็ขูดเจอรางวัลหมดเลย!”
จี้เฟิงยิ้มเล็กน้อยแล้วกล่าวว่า “ทั้งหมดนี้ต้องขอบคุณ หัวหน้าทีมซูหม่าของพวกเรา ถ้าเขาไม่เสนอให้ฉันมาเล่นลอตเตอรี่ขูดนี้ ฉันคิดว่าฉันคงไม่รู้ด้วยซ้ำว่าลอตเตอรี่ขูดคืออะไร และฉันคงไม่ได้ชนะและได้รับเงินรางวัลแบบนี้แน่ๆ!”
จริงๆ แล้ว คำพูดเหล่านี้ของจี้เฟิง เขาพูดเพื่อต้องการที่จะเสียดสีซูหม่าโดยตรง ในเมื่อซูหม่าต้องการที่จะกลั่นแกล้งเขา แล้วทำไมเขาต้องปล่อยให้เรื่องนี้มันจบไปง่ายๆ ด้วยล่ะ?
ทันทีที่ได้ยินจี้เฟิงพูด สีหน้าของซูหม่าก็ดำมืดขึ้นเขาเม้มปากเล็กน้อย จากนั้นเขาก็โบกมือแสร้งทำเป็นไม่เห็นด้วย “มันเป็นเพราะฉันที่ไหนกัน มันเป็นโชคดีของนายเองต่างหาก อ้อ..! และแน่นอน มันเป็นเพราะโชคดีของ อาจารย์เซียวกับถงเล่ย และพี่จางด้วยเช่นกัน!”
ในตอนนี้ดูเหมือนว่าเขาจะนึกอะไรออกบางอย่าง ทันใดนั้นเขาก็หันหน้าไปหาเถ้าแก่เจ้าของร้านและพูดว่า “เถ้าแก่คุณมีลอตเตอรี่เหลืออีกเท่าไหร่ เอาออกมาทั้งหมดนั่นแหละ ฉันต้องการจะซื้อมัน!”
ไม่มีใครรู้ว่าขณะนี้มือของเถ้าแก่กำลังสั่น เพราะเขารู้ดีว่าลอตเตอรี่แบบห้าหยวนและสิบหยวนที่นำไปให้ซูหม่าก่อนหน้านี้ เป็นส่วนที่มีเงินรางวัลมากที่สุดแล้ว ส่วนที่เหลือนั้นไม่มีรางวัลใดๆ อีก ส่วนแบบสองหยวน จี้เฟิงก็เลือกซื้อส่วนใหญ่ไปเกือบหมดแล้ว ส่วนที่เหลือเขาก็ไม่รู้แล้วว่าจะยังมีเงินรางวัลอยู่ในลอตเตอรี่ที่เหลืออีกหรือไม่!
“ฉันต้องการจะซื้อ คุณเป็นพ่อค้าแต่ไม่อยากจะขายของงั้นเหรอ?” ซูหม่ามองไปที่เถ้าแก่ที่ทำท่าทางลังเล ด้วยใบหน้าดำมืดและถามด้วยน้ำเสียงเย็นเยียบ
“ถ้าอย่างนั้นก็โอเค ถ้าน้องชายยืนยันที่จะซื้อทั้งหมดก็แล้วแต่น้องชายเลย!” เถ้าแก่เจ้าของร้านพูดอย่างขมขื่น “แต่น้องชาย ถึงฉันจะเป็นคนค้าขาย แต่ก็ต้องขอเตือนน้องชายไว้หน่อยว่า ลอตเตอรี่มันมีความเสี่ยง ควรที่จะพิจารณาให้ดีก่อนตัดสินใจซื้อ!”
“ไม่มีอะไรให้คิดแล้ว!” ซูหม่าขมวดคิ้วและพูดด้วยน้ำเสียงหงุดหงิด และคิดในใจว่า “ฉันไม่เชื่อหรอกนะว่าดวงของนายมันจะดีไปกว่าฉัน และฉันจะไม่ยอมแพ้นายแม้กระทั่งเรื่องการเสี่ยงโชค!”