The Ultimate Student สุดยอดนักเรียนสมองอัจฉริยะ - บทที่ 184 การก้าวข้ามขีดจำกัดของการขับรถที่แท้จริง
- Home
- The Ultimate Student สุดยอดนักเรียนสมองอัจฉริยะ
- บทที่ 184 การก้าวข้ามขีดจำกัดของการขับรถที่แท้จริง
จี้เฟิงยิ้มเหี้ยม“หึหึ! ในเมื่อพวกเขาชื่นชอบการแข่งรถกันมากนัก วันนี้ผมจะทำให้พวกเขาได้รู้ตัวว่าฝีมือการขับรถของพวกเขามันห่วยแตกมากขนาดไหน และการแข่งรถมันจะไม่สนุกสำหรับพวกเขาอีกเลย!”
“ตื้ด—!”
เสียงแจ้งเตือนของวิทยุสื่อสารภายในรถของจี้เฟิงดังขึ้นเซียวหยูซวนหันไปมองและพบว่าเป็นหวู่หลิงเอ๋อที่ติดต่อมา
จี้เฟิงขมวดคิ้วและพยักหน้าเล็กน้อยเพื่อบอกให้เซียวหยูซวนกดรับ
เซียวหยูซวนกดเชื่อมต่อวิทยุสื่อสารทันที“เสี่ยวหลิงใช่มั้ย เธอหยุดแข่งรถบ้าๆนี่เดี๋ยวนี้เลย ฉันบอกแล้วใช่มั้ยว่ามันอันตราย เธอต้องกลับไปกับพวกเราเดี๋ยวนี้!”
เสี่ยวหลิงตะคอกกลับ“หยูซวน เธอเลิกพูดเรื่องนี้ไปได้เลย ถนนปันซานแห่งนี้มันเขตแดนของพวกเรา พวกเราจะไม่มีทางยกมันให้ซุนจื่อซวงไปง่ายๆอย่างเด็ดขาด! อ้อ แล้วก็แฟนตัวน้อยของเธอพูดไว้ไม่ใช่เหรอว่า ถ้าฉันแข่งรถอีกจะจัดการฉันกับพวกที่แข่งรถทั้งหมด ฉันอยากจะเห็นเหมือนกันว่าเขาทำได้จริงหรือแค่โม้อวดสาวไปอย่างนั้นเอง!”
เซียวหยูซวนผงะท่าทีของเธอเปลี่ยนไปอย่างรวดเร็วเธอรีบหันไปมองทางจี้เฟิงแต่ก็พบว่าจี้เฟิงไม่ได้แสดงสีหน้าท่าทางอะไรที่ผิดแปลกไปจากเดิมราวกับว่าเขาไม่ได้ยินสิ่งที่เสี่ยวหลิงเพิ่งพูดออกมา เซียวหยูซวนรู้สึกโล่งใจและพูดกับเสี่ยวหลิงต่อไปว่า “เสี่ยวหลิงอย่าพูดอะไรโง่ๆ หยุดรถเร็วๆเลย ไหนรับปากกับฉันแล้วไงว่าจะไม่แข่งอะไรที่มันอันตรายแบบนี้อีก!”
“หยูซวนเลิกยุ่งกับฉันได้แล้วให้ฉันได้ทำตามความตั้งใจของฉัน ฉันไม่อาจปล่อยให้ถนนปันซานตกเป็นของซุนจื่อซวงได้จริงๆ” เสียงของหวู่หลิงเอ๋อมุ่งมั่นมาก “หยูซวนฉันจะปิดวิทยุสื่อสารแล้ว ไว้ค่อยคุยกัน… แค่ก! ซ่า~!”
และเสียงของหวู่หลิงเอ๋อก็เงียบหายไป
ใบหน้าของเซียวหยูซวนเต็มไปด้วยความโกรธ“ผู้หญิงร้ายกาจคนนี้ทำไมถึงได้ดื้อรั้นแบบนี้นะ!”
จี้เฟิงยิ้มเล็กน้อยเขาพูดขึ้นว่า“หยูซวนคุณไม่จำเป็นต้องโกรธมันไม่คุ้มที่จะโกรธคนไร้การศึกษาแบบนี้ ผมจะสั่งสอนบทเรียนให้กับพวกเขาเองที่ทำให้แฟนของผมต้องอารมณ์ไม่ดี!”
เซียวหยูซวนรู้สึกใจคอไม่ดี“บทเรียนอะไร”
จี้เฟิงกล่าวด้วยรอยยิ้ม“สิ่งที่คุณต้องทำในตอนนี้คือนั่งให้ดีๆก็พอ”
หึหึ~~!
ใบหน้าของจี้เฟิงกลายเป็นจริงจังทันทีเขาเหยียบคันเร่งจนสุดฝ่าเท้า เขาเร่งเครื่องยนต์อย่างต่อเนื่อง
รถสามคันบนถนนปันซานที่กำลังแข่งกันด้วยความเร็วโดยมีรถของซุนจื่อซวงอยู่ด้านหน้าและรถของหวู่หลิงเอ๋อที่ยังไม่สามารถแซงซุนจื่อซวงได้อยู่ในลำดับที่สอง รถของจี้เฟิงก็ตามมาติดๆอยู่ในลำดับที่สาม
รถของจี้เฟิงที่ตามมาอยู่ด้านหลังสุดไม่สามารถเพิ่มความเร็วได้มากกว่านี้ เพราะด้านหน้าของเขาถูกรถของหวู่หลิงเอ๋อและซุนจื่อซวงขัดขวางไว้ จึงทำให้ต้องชะลอความเร็วลงในระดับใกล้เคียงกับทั้งสองคันข้างหน้า ถึงฝั่งจี้เฟิงจะเรียกว่าชะลอ แต่โดยรวมแล้วรถทั้งสามคันกำลังพุ่งไปข้างด้วยความเร็วมาก แต่รถสองคันข้างหน้าดูเหมือนจะมีฝีมืออยู่พอตัว พวกเขารู้ดีว่าควรทำอะไรในเวลานี้ พวกเขาขัดขวางจี้เฟิงอย่างดุเดือดและแน่นหนาในขณะที่ตำแหน่งของรถยังคงไม่เปลี่ยนไป ซุนจื่อซวงยังเป็นคันที่นำอยู่เป็นอันดับหนึ่ง
“ฮ่าฮ่า~เด็กน้อยนายไม่ได้จะมาเพื่อเอาชนะฉันหรอกเหรอ ทำไมไม่แซงไปล่ะ?!” ทันใดนั้นเสียงของซุนจื่อซวงในวิทยุสื่อสารก็ดังขึ้น “นายคงหวงผู้หญิงของนายมากสินะ แต่ฉันจะบอกไว้นะว่า ไม่ว่ายังไงหวู่หลิงเอ๋อก็ต้องตกเป็นของฉัน! ฮ่าฮ่า~!”
จี้เฟิงยิ้มเหี้ยม“รีบๆหัวเราะซะนะ เพราะนายคงทำได้แค่ตอนนี้เท่านั้นแหละ!”
ในช่วงเสี้ยววินาทีที่รถของหวู่หลิงเอ๋อเบี่ยงไปทางซ้ายรถสปอร์ตสีน้ำเงินของจี้เฟิงก็เร่งเครื่องอย่างกะทันหัน กว่าหวู่หลิงเอ๋อจะรู้ตัว รถของจี้เฟิงก็ขับมาอยู่ด้านข้างของเธอแล้วและเขาก็แซงหน้าเธอไปอย่างง่ายดาย
“ไอ้บ้าเอ๊ย!”หวู่หลิงเอ๋ออดไม่ได้ที่จะสบถออกมา แม้ว่าเธอจะรู้ว่าฝีมือการขับรถของจี้เฟิงนั้นดีมาก แต่เมื่อนักแข่งรถอย่างเธอต้องมาถูกแซงอย่างง่ายดายเช่นนี้จึงไม่ใช่เรื่องแปลกที่เธอจะรู้สึกเสียหน้า
ในตอนนั้นเองซุนจื่อซวงก็รู้สึกตกใจเช่นกันแม้ว่าทักษะการขับรถของหวู่หลิงเอ๋อจะด้อยกว่าเขา แต่ก็เรียกได้ว่าดีมากหากเทียบกับนักแข่งรถใต้ดินทั่วๆไป แต่เธอกลับมาถูกจี้เฟิงแซงได้อย่างง่ายดาย
จี้เฟิงยังคงมีสีหน้าเรียบเฉยเขาเร่งเครื่องต่อไป!
หากมองจากภายนอกรถของจี้เฟิงนั้นได้เร่งความเร็วถึงขีดจำกัดแล้ว รถทั้งคันที่กำลังเร่งความเร็วอยู่บนถนนด้วยความเร็วสูงสุดจนเกือบจะทำให้เห็นเป็นภาพลวงตาได้ขนาดนี้ไม่ต้องสงสัยเลยว่านี่คือความเร็วที่สูงมาก
“ฉันไม่ปล่อยแกแซงไปได้อย่างแน่นอน!”ซุนจื่อซวงพูดกับตัวเองในขณะที่มีเหงื่อเย็นๆผุดขึ้นบนหน้าผากของเขา เขาขับรถโยกซ้ายขวาด้วยความพลิ้วไหวเพื่อป้องกันไม่ให้จี้เฟิงขับแซงเขาไปได้
อย่างไรก็ตามจี้เฟิงยังคงไม่มีทีท่าจะชะลอความเร็วลงเลยเขาไม่สนใจการป้องกันอย่างแน่นหนาของซุนจื่อซวงเลยแม้แต่น้อย
“ฉันไม่เชื่อหรอกว่าแกจะกล้าชนด้วยความเร็วสูงขนาดนี้ทุกคนคงได้พากันตายห่าหมดแน่!” ซุนจื่อซวงยิ้มเยาะ เขารู้ดีว่าจี้เฟิงแค่ใช้วิธีทางจิตวิทยาให้เขากลัวและเขาจะได้หลีกทางให้ “ถือว่าไม่เลว สำหรับคนแข่งรถหน้าใหม่อย่างแกที่ใช้วิธีแกล้งทำให้ฉันตกใจ แต่แกคงต้องไปคิดวิธีมาใหม่แล้วล่ะถ้าอยากจะเอาชนะคนอย่างฉัน!”
“แกล้งทำให้ตกใจ”จี้เฟิงยิ้มเล็กน้อย “ฉันแกล้งทำให้ตกใจหรือเปล่าก็รอดูเอาแล้วกัน!”
หลังจากนั้นจี้เฟิงก็เร่งความเร็วอย่างกะทันหันและทันใดนั้นรถของจี้เฟิงก็ชนไปที่มุมหนึ่งของท้ายรถของซุนจื่อซวง
เอี๊ยดดดดดด!
เกิดเสียงล้อที่เสียดสีกับพื้นอย่างรุนแรงดังขึ้นทันทีและในตอนนั้นเองรถของซุนจื่อซวงที่ถูกทำให้เสียหลักก็ไถลไปอยู่ด้านข้าง
ฟิ้ววว~!
และแล้วรถของจี้เฟิงขับผ่านไป…
“เป็นไปได้ยังไง!”เสียงโวยวายของซุนจื่อซวงดังขึ้นจากวิทยุสื่อสาร “แกทำได้ยังไง!”
“ก็แค่ใช้วิธีมุมกลศาสตร์ง่ายๆ!”จี้เฟิงยิ้มเยาะ จากนั้นเขาก็ชะลอความเร็วลงเพื่อให้ซุนจื่อซวงลดความเร็วลงเช่นกัน
“ถ้าอย่างนั้นก็ถึงทีฉันไล่ล่าแกบ้างล่ะ!”ซุนจื่อซวงคำรามด้วยความโมโห
อย่างไรก็ตามไม่ว่าเขาจะขับรถเคลื่อนที่ไปในทิศทางใดก็ดูเหมือนจี้เฟิงจะสามารถเดาทิศทางของเขาล่วงหน้าได้หนึ่งก้าวอยู่เสมอดังนั้นซุนจื่อซวงจึงไม่สามารถขับเบียดแทรกรถของจี้เฟิงขึ้นมาได้เลย
รถของซุนจื่อซวงและหวู่หลิงเอ๋อเหมือนถูกบังคับให้ชะลอความเร็วลงจนแทบจะเหลือไม่ถึง40 กิโลเมตรต่อชั่วโมง และไม่ว่าจะใช้วิธีไหนพวกเขาก็ไม่สามารถแซงจี้เฟิงไปได้เลย
“ขีดจำกัดของการขับรถที่แท้จริงไม่ใช่แค่ความเร็วแต่ต้องปฏิบัติเสมือนรถทั้งคันเป็นส่วนหนึ่งของร่างกาย นี่ถึงจะเป็นขีดจำกัดที่ทำได้ยากที่สุดที่แท้จริง มีแต่คนโง่เท่านั้นที่คิดว่าทักษะที่ดีที่สุดในการขับรถคือความเร็วเพียงอย่างเดียว” จี้เฟิงหัวเราะเยาะเมื่อมองไปที่กระจกหลังที่ตอนนี้เขาทำให้รถทั้งสองคันต่างหยุดลง ไอรีนโนเวล
เมื่อมองไปที่ใบหน้าที่ซีดเซียวของซุนจื่อซวงและหวู่หลิงเอ๋อจี้เฟิงและเซียวหยูซวนที่ยืนเคียงข้างกันที่หน้ารถก็พูดขึ้นด้วยน้ำเสียงที่เย็นชา “ออกมาเดี๋ยวนี้!”
ซุนจื่อซวงและหวู่หลิงเอ๋อต่างผงะในเวลาเดียวกันหลังจากที่พวกเขามองไปที่ใบหน้าไม่สบอารมณ์ของจี้เฟิงพวกเขาก็รู้สึกกังวลเล็กน้อย หลังจากลังเลอยู่ครู่หนึ่ง หวู่หลิงเอ๋อก็เปิดประตูแล้วเดินลงมาจากรถ
“คุณด้วย!”จี้เฟิงจ้องเขม็งไปที่ซุนจื่อซวงและพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชา “ถ้าไม่อย่างนั้นผมจะไปเชิญคุณลงมาด้วยตัวเองเป็นการส่วนตัว!”
ซุนจื่อซวงกระพริบตาถี่และพยายามครุ่นคิดวิธีเอาตัวรอดถ้าเขาต้องลงไปในสภาพนี้เขาคงอยู่ในวงการนี้อย่างเชิดหน้าชูตาอีกไม่ได้ในอนาคต เขาเลื่อนมือไปที่กุญแจรถอย่างเงียบๆ พลันนึกใจใจว่าเขาได้ก่อเรื่องไว้ไม่น้อย สิ่งที่ต้องทำในเวลานี้ก็คือสตาร์ทรถและหนีไปอย่างรวดเร็วเพื่อไปตั้งหลักก่อนเท่านั้น!
ซุนจื่อซวงมองไปยังด้านหน้าและรู้ดีว่าไม่สามารถไปได้เพราะถูกรถของจี้เฟิงขวางทางเอาไว้อยู่ส่วนทางด้านหลังก็ถูกรถของหวู่หลิงเอ๋อปิดกั้นไว้อยู่เช่นกัน แต่ทางออกที่ดีที่สุดที่จะทำให้เขาหนีพ้นคือขับรถถอยหลังและชนรถของหวู่หลิงเอ๋อให้พ้นทางและกลับรถขับย้อนไปเท่านั้น ถ้าทำอย่างนี้จี้เฟิงก็จะขับตามเขาได้ลำบากมากขึ้น
ตราบใดที่เขาไม่ถูกจับโดยตรงพร้อมกับหลักฐานชี้ชัดขนาดนี้ไม่ว่ายังไงเขาก็ไม่มีทางโดนกฎหมายเล่นงานได้ง่ายๆ! ยิ่งไปกว่านั้นด้วยเส้นสายทั่วเจียงโจวที่เขามีมันไม่ทำให้เขาเดือดร้อนด้วยข้อหาเล็กๆน้อยๆอย่างนี้แน่นอน
จี้เฟิงไม่ได้แสดงสีหน้าอะไรออกมาเขาเพียงแค่จ้องไปที่ใบหน้าของซุนจื่อซวงเงียบๆ และแน่นอนว่าจี้เฟิงเห็นทุกการเคลื่อนไหวของเขา แต่เขาไม่ได้พูดอะไร
“ซวนซวน!”หลังจากที่หวู่หลิงเอ๋อลงมาจากรถแล้วเธอก็พุ่งตรงไปที่เซียวหยูซวนทันทีพร้อมกับทำหน้าสำนึกผิดและพูดด้วยเสียงที่แผ่วเบา “ฉันขอโทษนะซวนซวนที่ทำให้เธอต้องมามีส่วนเกี่ยวข้องกับเหตุการณ์นี้ด้วย”
เซียวหยูซวนยังคงมีสีหน้าเรียบเฉยคราวนี้เธอโกรธมากจริงๆ ด้วยความฉลาดของเธอจึงไม่ใช่เรื่องยากที่เธอจะรู้ว่าหวู่หลิงเอ๋อจงใจทิ้งโน้ตไว้ให้เธอเพื่ออะไร มันเป็นเพราะหวู่หลิงเอ๋อตั้งใจทำให้เธอเป็นห่วงและใช้เธอเป็นเครื่องมือในการดึงดูดจี้เฟิงมาที่นี่ในครั้งนี้
แต่ไม่ว่าแท้จริงแล้วหวู่หลิงเอ๋อมีจุดประสงค์อะไรที่ทำแบบนี้แต่หวู่หลิงเอ๋อก็ทำให้เซียวหยูซวนโกรธมาก
เธอรู้สึกอับอายที่เคยเป็นห่วงว่าหวู่หลิงเอ๋อจะตกอยู่ในอันตรายหากจี้เฟิงคิดที่จะจัดการกับเธอเข้าจริงๆแต่ในขณะเดียวกันหวู่หลิงเอ๋อกลับยิ่งทำให้เรื่องนี้ยากขึ้นโดยการลากจี้เฟิงมามีส่วนเกี่ยวข้องจนทำให้เธอกับจี้เฟิงเกือบตกอยู่ในอันตราย การกระทำของหวู่หลิงเอ๋อในครั้งนี้ทำให้เซียวหยูซวนไม่พอใจมาก
ดังนั้นเมื่อหวู่หลิงเอ๋อทักทายเธอเซียวหยูซวนจึงไม่พูดตอบอะไรเลยแม้แต่คำเดียว
“ซวนซวนฉันรู้ว่าฉันทำผิด!”หวู่หลิงเอ๋อจับมือเล็กๆของเซียวหยูซวนและเขย่าเล็กน้อยเพื่อเรียกร้องความสนใจจากเธอ
“หุบปาก!”ก่อนที่เซียวหยูซวนจะทันได้พูดอะไร จี้เฟิงก็ตะคอกอย่างเย็นชา
หวู่หลิงเอ๋อผงะในทันทีเธอรู้สึกอึดอัดหายใจไม่ออกจนใบหน้าของเธอแดงก่ำแต่ก็ไม่สามารถตอบโต้อะไรได้
จี้เฟิงชี้ไปที่ซุนจื่อซวงที่อยู่ในรถและพูดอย่างเย็นชา“ซุนจื่อซวงฉันให้เวลาคุณแค่สิบวินาทีถ้าคุณยังไม่ลงจากรถก็อย่าโทษฉันถ้าฉันจะไปเชิญคุณลงมาด้วยตัวเอง!”
แม้ว่าหน้าต่างรถของซุนจื่อซวงจะถูกปิดอยู่ทั้งหมดแต่เสียงของจี้เฟิงนั้นถูกส่งตรงเข้ามาในหูของเขาอย่างชัดเจนแจ่มแจ้ง และใบหน้าของเขาก็เปลี่ยนไปทันที
ซุนจื่อซวงตอบสนองโดยไม่รู้ตัวเขาสตาร์ทรถอย่างเร่งรีบและเข้าเกียร์ถอยหลังอย่างกะทันหัน
ตูม!
ซุนจื่อซวงขับรถสปอร์ตของเขาไปชนกับรถของหวู่หลิงเอ๋ออย่างแรง
วินาทีต่อมาซุนจื่อซวงก็ขับรถย้อนกลับไป
“กรี๊ดดด!”หวู่หลิงเอ๋อและซียวหยูซวนต่างส่งเสียงกรีดร้องออกมาพร้อมกัน เซียวหยูซวนรีบดึงจี้เฟิงให้ถอยหนี
ใบหน้าของจี้เฟิงมีรอยยิ้มจางๆ“ไม่ต้องห่วง ผมก็อยากจะรู้นักว่าเขาจะหนีไปที่ไหน!” จากนั้นจี้เฟิงก็ดึงเซียวหยูซวนไปที่รถสปอร์ตสีฟ้าคันที่เขาขับก่อนหน้านี้ เมื่อเขาเดินออกไปได้สองก้าวเขาก็หันกลับมามองที่หวู่หลิงเอ๋ออีกครั้ง “ลืมบอกไป คุณจะต้องจ่ายในสิ่งที่คุณทำไปในวันนี้อย่างสาสม ก่อนอื่นบริษัทของพ่อและแม่ของคุณจะต้องล้มละลายและหลังจากนั้น ตัวคุณจะต้องทุกข์ทรมานจากการแข่งรถที่ผิดกฎหมายโดยการไปอยู่ในคุก ส่วนจะอยู่ในคุกนานแค่ไหน มันก็ขึ้นอยู่กับการตัดสินของผู้พิพากษา!”
เมื่อได้ยินคำพูดของจี้เฟิงหวู่หลิงเอ๋อก็อดไม่ได้ที่จะสั่นไปทั้งตัวและมองไปที่จี้เฟิงด้วยความไม่เชื่อเธอไม่คิดเลยว่าจี้เฟิงจะจัดการด้วยวิธีที่รุนแรงขนาดนี้ ไม่เพียงแต่เขาจะจัดการกับพ่อแม่ของเธอเท่านั้น แต่เขายังจะส่งเธอเข้าคุกด้วย!
เธออ้าปากเพื่อจะอธิบายอะไรบางอย่างแต่เธอก็พูดไม่ออก เพราะลึกๆแล้วเธอก็รู้อยู่แก่ใจว่าผลลัพธ์เหล่านี้เป็นสิ่งที่เธอไม่สามารถโทษใครได้เลย
เซียวหยูซวนต้องการขอร้องจี้เฟิงเพื่อช่วยหวู่หลิงเอ๋อแต่เมื่อเธอฉุกคิดถึงสิ่งที่เกิดขึ้น มันก็ทำให้เธอต้องล้มเลิกความตั้งใจ “ตอนนี้ไม่ว่าจะพูดอะไรไปก็คงจะไม่ได้ผล จี้เฟิงยังคงโกรธอยู่มากรอเขาใจเย็นลงหน่อยแล้วค่อยขอร้อง.. อย่างน้อยๆก็อย่าถึงกับให้เสี่ยวหลิงต้องติดคุก..” เซียวหยูซวนพูดกับตัวเองในใจ
บรึ้ม~!
เสียงเครื่องยนต์ของรถสปอร์ตสีน้ำเงินคำรามดังกระหึ่มขึ้นอีกครั้งราวกับตอบรับความต้องการของผู้ขับขี่อย่างจี้เฟิง
จี้เฟิงเปลี่ยนเกียร์และเหยียบคันเร่ง…
เมื่อเห็นรถสปอร์ตสีฟ้าพุ่งตัวออกไปราวกับจรวดหวู่หลิงเอ๋อก็ครุ่นคิดอะไรบางอย่างอยู่ครู่หนี่ง จากนั้นก็กัดฟันและกลับเข้าไปในรถของเธอเพื่อขับตามไป