The Ultimate Student สุดยอดนักเรียนสมองอัจฉริยะ - บทที่ 195 ช้อปปิ้ง!
“ดูเหมือนว่าบ้านของญาติคุณก็ค่อยข้างมีฐานะดีไม่อย่างนั้นด้วยบุคลิกหยิ่งยโสของพวกเขาผมกลัวว่าคงจะมาเกาะแข้งเกาะขาอาศัยบุญบารมีของบ้านคุณมานานแล้วและไหนจะถือตัวว่าตัวเองเหนือกว่าจนเข้ามายุ่งเกี่ยวกับเรื่องของคุณตามอำเภอใจ… แต่เดี๋ยวก่อน!”
ขณะที่กำลังพูดอยู่จี้เฟิงก็เหมือนจะนึกอะไรออกเขาอดไม่ได้ที่จะมองไปที่เซียวหยูซวนด้วยความประหลาดใจ “อย่าบอกนะว่าที่ญาติคุณต้องการแนะนำผู้ชายดีๆให้กับคุณเป็นเพราะว่า.. ต้องการใช้คุณเป็นบันไดเพื่อก้าวไปสู่ความเจริญก้าวหน้าของตัวเอง”
ด้วยนิสัยของคนที่บ้านมีฐานะร่ำรวยแต่หัวสูงและเย่อหยิ่งมักจะเห็นแก่ตัวและไม่น่าจะมากังวลเกี่ยวกับการแต่งงานของเซียวหยูซวนแต่จู่ๆทำไมถึงอยากหาผู้ชายมาให้เซียวหยูซวน มันดูแปลกๆ เว้นเสียแต่ว่า.. จี้เฟิงรู้สึกว่าการคาดเดาของเขาน่าจะถูกต้อง เขาไม่คิดว่าคนประเภทนี้จะจริงใจต่อญาติของตัวเองโดยไม่หวังผลประโยชน์อะไรเลย
เมื่อมองไปที่จี้เฟิงแล้วเซียวหยูซวนก็อดไม่ได้ที่จะเอียงคอเล็กน้อยและกระพริบตาด้วยความใคร่รู้“ฉันล่ะสงสัยจริงๆว่าสมองคุณมันทำด้วยอะไร ฉันเพิ่งจะพูดเกี่ยวกับญาติของฉันไปไม่กี่ประโยค คุณก็เดาออกได้แทบจะในทันที สมองของคุณนี่มัน….”
“อะฮ่า!ผมเดาถูกจริงๆด้วย!” จี้เฟิงยิ้มเล็กน้อยและถามสิ่งที่เซียวหยูซวนพูดค้างไว้ “สมองผมมันทำไม”
“มันผิดปกติ!คิกคิก~” เซียวหยูซวนหัวเราะเบาๆ เมื่อพูดต่อในประโยคที่เธอยังพูดไม่จบ
จี้เฟิงจ้องเขม็งไปที่เซียวหยูซวน“หันหลังมาเดี๋ยวนี้! กล้าพูดกับสามีแบบนี้สงสัยอยากโดนลงโทษ!”
เซียวหยูซวนหน้าแดงในทันทีเธอรู้ดีว่าคำพูดของจี้เฟิงหมายถึงอะไร เธอจึงได้แต่บ่นอุบอิบใส่จี้เฟิงเบาๆ “มัวแต่แกล้งฉันอยู่นั่นแหละ รีบกินเร็วๆ จะได้ไปซื้อเสื้อผ้าให้คุณกัน!”
“ไม่ต้องกังวลขนาดนั้น!”จี้เฟิงส่ายหัวเล็กน้อย “ในเมื่อคืนนี้พ่อแม่ของคุณอยากเจอผมทั้งที ผมก็ต้องทำตัวดีๆหน่อย ผมไม่อาจปล่อยให้คุณต้องเสียหน้าต่อหน้าญาติและลูกพี่ลูกน้องหัวสูงของคุณได้หรอก ไม่อย่างนั้นเกิดพ่อแม่คุณไม่ชอบผมขึ้นมาล่ะแย่เลย!”
“คิดได้แบบนี้ก็ดี!”เซียวหยูซวนยิ้มกว้าง
หลังจากรับประทานอาหารเช้ากันเสร็จแล้วทั้งสองก็ขับรถวอลโว่สีแดงของเซียวหยูซวนวิ่งไปบนถนนจินหลิงอีกครั้ง
“เอาเป็นว่าวันนี้คุณไม่ได้รับอนุญาตให้จ่ายเงินค่าเสื้อผ้าอย่างเด็ดขาดเพราะครั้งสุดท้ายที่ฉันพาคุณไปซื้อนาฬิกา ดูเหมือนว่าคุณจะเป็นคนจ่ายไปแล้ว!”
เซียวหยูซวนพูดพร้อมกับรอยยิ้มในขณะที่เธอขับรถครั้งนี้ก็เหมือนเดิม จี้เฟิงยังคงไม่มีโอกาสได้ขับรถ เนื่องจากเซียวหยูซวนรับไม่ได้จริงๆกับการขับรถที่บ้าคลั่งของเขา ตราบใดที่เธออยู่ด้วยสิทธิ์ในการขับรถของจี้เฟิงก็แทบจะเป็นศูนย์
จี้เฟิงยิ้มเข้าเล่ห์และกล่าวว่า“โอเค! ไม่มีปัญหา มีแม่ยกรวยมันดีแบบนี้นี่เอง!”
“เจ้าเด็กบ้า!”เซียวหยูซวนอดไม่ได้ที่จะเขินเล็กน้อย เธออายุมากกว่าจี้เฟิงเพียงไม่กี่ปี แล้วจู่ๆจี้เฟิงพูดขึ้นมาแบบนี้มันก็อดไม่ได้ที่หัวใจของเธอจะรู้สึกกระวนกระวายแปลกๆ
จี้เฟิงยิ้มเล็กน้อยเขาพอจะเดาความคิดของเซียวหยูซวนได้ แต่ที่เขาพูดหยอกล้อไปแบบนั้นนั่นเป็นเพราะว่าเขาอยากให้เซียวหยูซวนได้คลายความกังวลของเธอลงบ้าง ดังนั้นเขาจึงไม่สนใจคำบ่นของเธอ
………
“จี้เฟิง!มาดูชุดนี้สิ!”
ในห้างสรรพสินค้าเซียวถือเสื้อแจ็กเก็ตสีดำและตะโกนเรียกจี้เฟิง “ฉันคิดว่าชุดนี้เหมาะกับคุณมาก!” จี้เฟิงยิ้มเล็กน้อยในขณะที่เขาเดินเข้าไปหาเซียวหยูซวนในมือของเขาก็มีถุงสามสี่ใบและทั้งหมดนี้เป็นของที่เซียวหยูซวนเลือกให้เขา
จี้เฟิงรับเสื้อแจ็กเก็ตสีดำและเดินเข้าไปในห้องลองเสื้อผ้าโดยไม่ได้มองมันเลยการลองเสื้อผ้าอย่างต่อเนื่องในตลอดเช้าของวันนี้ทำให้เขาเวียนหัวตาลายจนไม่มีกระจิตกระใจจะตื่นเต้นอีกแล้ว
หลังจากเปลี่ยนเสื้อผ้าอย่างลวกๆเสร็จจี้เฟิงก็เดินออกมาจากห้องลองเสื้อ
เซียวหยูซวนกำลังเดินมองหาเสื้อผ้าชุดต่อไปให้จี้เฟิงอย่างไม่รู้สึกเหนื่อยมันเป็นความสุขของผู้หญิงอย่างหนึ่งที่ได้ช้อปปิ้งและเลือกซื้อเสื้อผ้าให้แฟนหนุ่มที่หล่อล่ำใส่อะไรก็ดูดี
“แอ๊ดด~!”
เสียงประตูห้องลองเสื้อถูกเปิดออกพร้อมกับจี้เฟิงที่เดินออกมา ในทีแรกสายตาของทุกคนแค่ชายตามองไปตามเสียงโดยอัตโนมัติรวมถึงเซียวหยูซวนด้วยแต่พอเห็นผู้ชายที่เดินออกมามันก็ทำให้พวกเขาถึงกับหันไปมองอย่างเต็มตา แม้แต่พนักงานขายที่ยืนอยู่รอบๆยังหันไปมองอย่างไม่เกรงใจแล้วนับประสาอะไรกับลูกค้าคนอื่นๆ
จี้เฟิงที่เดินออกมาด้านล่างของเขาสวมกางเกงสแล็กสีดำแบบเรียบง่ายส่วนท่อนบนก็เป็นเสื้อแจ็กเก็ตสีดำตัวที่เซียวหยูซวนเลือกให้ตัดด้วยสีน้ำตาลเข้มของรองเท้าหนังเรียบๆที่เท้าของเขา
เสื้อผ้ารองเท้าที่จี้เฟิงสวมใส่ทั้งหมดเป็นแบบเรียบง่ายแต่มันกลับทำให้ผู้คนที่มองมารู้สึกถึงจิตวิญญาณที่ไม่ธรรมดาของเขา
ดวงตาที่สวยงามของเซียวหยูซวนไม่สามารถปิดบังความสดใสได้เลยเมื่อเธอกำลังมองไปที่แฟนหนุ่มอันหล่อเหลาของเธอเซียวหยูซวนเพียงแต่เคยได้ยินมาว่าการสวมเสื้อผ้าแบบเดียวกันโดยคนที่แตกต่างกันจะสร้างผลกระทบที่แตกต่างกัน สำหรับบางคนแม้เสื้อผ้าที่สวมใส่อยู่จะหรูหราแต่พอใส่แล้วอาจจะทำให้ดูเหมือนชุดทำงานธรรมดาๆ อาจจะถึงขั้นดูขัดๆไม่เข้ากันด้วยซ้ำ แต่สำหรับบางคนแม้ว่าจะใส่ชุดทำงานธรรมดาๆแต่เขากลับทำให้เสื้อผ้าเหล่านั้นกลายเป็นเสื้อผ้าที่ดูหรูหราขึ้นมาได้
เห็นได้ชัดว่าจี้เฟิงเป็นคนประเภทหลัง!
ในเวลานี้จี้เฟิงดูหล่อเหล่ามากโดยเฉพาะคิ้วที่หนาเข้มแต่ได้รูปดวงตาที่สงบนิ่งแต่แวววาวลึกล้ำราวกับมันสามารถมองทะลุทะลวงไปถึงหัวใจของคนได้ แล้วเป็นจังหวะที่สีหน้าของเขาในเวลานี้ที่ไม่ได้แยแสกับสิ่งรอบตัวยิ่งทำให้เขาดูเย็นชาแต่มันกลับทำให้เขาดูมีเสน่ห์น่าค้นหามากยิ่งขึ้นไปอีก
คนหล่ออยู่ที่ไหนก็หล่อ…ทุกคำที่แสดงถึงความหล่อเหลาดูดีถูกใช้บรรยายเกี่ยวกับรูปร่างหน้าตาของจี้เฟิงแต่กลับไม่มีใครตระหนักถึงความดูดีจริงๆของจี้เฟิงได้เลย อันที่จริงจี้เฟิงไม่ได้หล่อเหลามากมายขนาดนั้นแต่มันเป็นเพราะบุคลิกและอารมณ์ของเขาที่แผ่อยู่รอบๆตัว อย่างไรก็ตามผู้คนทั่วไปไม่สามารถมองได้อย่างลึกซึ้งขนาดนั้น (อินเนอร์ดีว่าซั่น)
ไม่ใช่แค่เซียวหยูซวนเท่านั้นที่มองเขาอย่างไม่วางตาแต่ผู้หญิงแทบทุกคนต่างจ้องมองไปที่จี้เฟิง และแม้แต่ผู้หญิงที่ใจกล้าบางคนมองจี้เฟิงด้วยสายตาที่ร้อนแรงอย่างไม่ปิดบัง ไอลีนโนเวล
“คุณคะพอดีฉันกำลังมาเลือกซื้อเสื้อผ้าให้พี่ชาย แล้วบังเอิญว่าเขามีรูปร่างประมาณเดียวกันกับคุณเลย ฉันอยากจะรบกวนให้คุณช่วยลองเสื้อผ้าชุดนี้ให้ฉันดูหน่อยได้มั้ยคะ” หญิงสาวร่างอวบคนหนึ่งเดินพุ่งตรงเข้ามาหาจี้เฟิง เธอพูดพร้อมกับขยิบตาให้เขา
“หืม…ผม” จี้เฟิงสะดุ้งด้วยความแปลกใจเล็กน้อย
“ค่ะ”หญิงสาวยิ้ม “พอดีว่าพี่ชายของฉันบอกมาแค่ไซส์น่ะค่ะ แต่ฉันก็ไม่รู้ว่าถ้าใส่จริงๆแล้วมันจะดูดีหรือเปล่า ฉันเลยไม่อยากซื้อทั้งๆที่ไม่แน่ใจ แล้วพอดีว่ารูปร่างของคุณดูดีมาก…เอ่อหมายถึงรูปร่างพอๆกับพี่ชายของฉัน ฉันเลยอยากจะรบกวนคุณลองให้ฉันดูหน่อยน่ะค่ะ..”
“นี่…!”
จี้เฟิงกำลังคิดอยู่ว่าจะปฏิเสธเธออย่างไรดี เขาไม่ค่อยได้รับมือกับผู้หญิงที่เป็นฝ่ายเข้าหาเขาเองแบบนี้ และถ้าหากปฏิเสธแรงๆไปมันก็คงจะดูไม่ดี เพราะหญิงสาวคนนี้ก็ไม่ได้ทำตัวน่ารำคาญขนาดนั้น
“ขอโทษทีแฟนของฉันต้องพาฉันไปซื้อเสื้อผ้าอีก เขาคงไม่ว่างมาลองชุดให้คุณหรอกค่ะ!” จู่ๆเซียวหยูซวนก็เดินเข้าไปจับแขนของจี้เฟิงและพูดกับหญิงสาวด้วยรอยยิ้มพิฆาตบนใบหน้าของเธอ
เมื่อเห็นเซียวหยูซวนที่หน้าตาสวยงามและหุ่นดีมากขนาดนี้หญิงสาวก็ฉายแววตาที่แสดงความผิดหวังออกมาอย่างชัดเจน แต่เธอก็ยิ้มอย่างใจเย็นและกล่าวว่า “น่าเสียดายจริงๆ ฉันจะไปหาคนอื่นให้ช่วยแทนแล้วกันค่ะ”
“จี้เฟิงไปกันเถอะ!ไปจ่ายเงินกัน!” เซียวหยูซวนหัวเราะเบาๆพร้อมกับดึงแขนจี้เฟิงออกไปซึ่งตอนนี้เขากำลังอยู่ในอาการตกตะลึง
ทันใดนั้นเองจู่ๆจี้เฟิงก็รู้สึกเจ็บที่เอวของเขาและคำเตือนที่เย็นเยียบของเซียวหยูซวนก็ดังขึ้นที่หูของเขาอย่างแผ่วเบา “ปีศาจน้อย อย่าใจดีกับผู้หญิงคนอื่นให้มากนักนะ!”
เส้นเลือดปูดโปนขึ้นบนหน้าผากของจี้เฟิงสองสามเส้นทันทีใจดีกับผู้หญิงคนอื่น ตั้งแต่ต้นจนจบเขาแทบจะไม่ได้พูดอะไรกับผู้หญิงคนนั้นเลย อย่างไรก็ตามจี้เฟิงเข้าใจดีว่าเรื่องแบบนี้ใช้เหตุผลกับผู้หญิงไปก็น่าจะมีแต่ผลลัพธ์ที่น่ากลัวตอบกลับมาเท่านั้น
ดังนั้นจี้เฟิงจึงทำแค่เพียงพยักหน้าเล็กน้อย“โอเค ผมจะไม่ใจดีกับผู้หญิงคนอื่น”
เซียวหยูซวนยิ้มอย่างพึงพอใจ“ถ้าฉันรู้ว่าคุณไปอ่อยใครอีก หรือมีผู้หญิงคนอื่นนอกจากฉันกับถงเล่ยล่ะก็ บอกลาของรักของคุณได้เลย หึหึ…!” เซียวหยูซวนไม่ได้พูดผลลัพธ์อย่างชัดเจนนักแต่จี้เฟิงก็อดไม่ได้ที่จะเสียวสันหลังวาบ เห็นได้ชัดว่าเวลาผู้หญิงส่งเสียง ‘หึหึ’ อย่างมีนัยยะมันจะต้องมีผลกระทบที่ร้ายแรงมากอย่างบอกไม่ถูก
ในตลอดช่วงเช้าทั้งสองคนซื้อเสื้อผ้าแทบจะเป็นโหลซึ่งส่วนใหญ่เป็นของเซียวหยูซวน เงินที่หมดไปกับเสื้อผ้าเหล่านี้มันทำให้จี้เฟิงอดไม่ได้ที่จะขมวดคิ้ว มันเป็นเงินที่มากกว่า 80,000 หยวน!
แม้ว่าตอนนี้เขาจะไม่ได้มีปัญหาเรื่องเงินอีกต่อไปแต่ตั้งแต่เด็กจนโตจี้เฟิงก็ไม่เคยใช้เงินมากขนาดนี้มาก่อนอย่าว่าแต่ใช้กับการช้อปปิ้งซื้อเสื้อผ้าเลย ด้วยเงิน 80,000 หยวนนี้มันสามารถทำสิ่งต่างๆได้มากมาย ถ้าเป็นสมัยก่อนมันสามารถเป็นค่าครองชีพสำหรับเขากับแม่ได้เป็นเวลาหลายปี!
“น่าเสียดายจริงๆ!”จี้เฟิงอดไม่ได้ที่จะบ่นพึมพำและส่ายหัวด้วยรอยยิ้มที่บิดเบี้ยว
ในช่วงที่พวกเขาทานมื้อกลางวันเซียวหยูซวนแนะนำครอบครัวของเธอให้จี้เฟิงรู้จักอย่างละเอียด
จี้เฟิงได้รู้ว่าพ่อของเซียวหยูซวนชื่อเซียวฉางเหอ เป็นผู้บริหารบริษัทยาขนาดเล็กธุรกิจของเขาส่วนมากจะติดต่อกับโรงพยาบาลหลายแห่งใจเจียงโจว ด้วยเหตุนี้จึงเป็นเรื่องง่ายสำหรับหลี่เว่ยตงที่จะจัดการกับเซียวฉางเหอ ไม่มีโรงพยาบาลไหนในเจียงโจวอยากทำให้ลูกชายของนายกเทศมนตรีต้องขุ่นเคือง อย่างที่รู้ๆกันในปันจุบันนี้ทุกโรงพยาบาลต่างสนใจเรื่องผลประโยชน์มาเป็นอับดับหนึ่ง
แต่สิ่งที่ดึงดูดความสนใจของจี้เฟิงคือเรื่องเกี่ยวกับญาติของเซียวหยูซวน
จากการแนะนำของเซียวหยูซวนบ้านของญาติเธอที่เป็นลูกพี่ลูกน้องของแม่เธอ ป้าของเธอทำอยู่ในหน่วยงานราชการขององค์การไฟฟ้า ส่วนลุงเขยเป็นผู้อำนวยการอยู่ในแผนกสินเชื่อของธนาคาร ซึ่งถือได้ว่าเป็นบุคคลที่มีอำนาจมากทีเดียว ครอบครัวแบบนี้จึงถือตัวว่าพวกเขานั้นสูงส่งกว่าครอบครัวของเซียวหยูซวนโดยธรรมชาติ
มีคำกล่าวที่ว่าคนจนไม่กล้าสู้กับเศรษฐีและเศรษฐีก็ไม่อยากมีปัญหากับเจ้าหน้าที่
แม้ว่าครอบครัวของเซียวหยูซวนจะร่ำรวยเช่นกันแต่ต่อให้อยู่ในระดับสูงสุดของบริษัทเซียวฉางเหอก็ต้องอ่อนน้อมถ่อมตนต่อผู้อำนวยการของโรงพยาบาลต่างๆหรือหน่วยงานด้านสุขภาพบางแห่งเพื่อผลประโยชน์ในการทำธุรกิจ และยังต้องส่งของขวัญเพื่อสานสัมพันธ์กับคนเหล่านั้นอยู่เป็นประจำ พูดอย่างง่ายๆก็คือต่อให้ร่ำรวยก็ไม่ได้หมายความว่าจะมีอำนาจเหนือกว่าคนของทางการอยู่ดี อย่างไรก็ตามป้าของเธอที่ทำงานราชการเกี่ยวกับองค์การไฟฟ้าและลุงของเซียวหยูซวนที่เป็นผู้อำนวยการฝ่ายสินเชื่อของธนาคาร นั้นมีอำนาจอยู่ในมืออยู่แล้ว เพราะไม่ว่าใครที่คิดจะทำธุรกิจต่างก็ต้องกู้เงินจากเขา ดังนั้นแม้ว่าตำแหน่งของเขาจะไม่สูงแต่คำพูดและการตัดสินใจของเขาก็มีประโยชน์มาก
ยิ่งไปกว่านั้นลุงของเธออาจจะมีประโยชน์ขึ้นมาได้ตลอดเวลาหากวันหนึ่งบริษัทยาของพ่อเธอมีปัญหาเกี่ยวกับสภาพคล่องทางด้านการเงิน
ด้วยสถานการณ์เช่นนี้บวกกับนิสัยใจดีมีเมตตาของเซียวฉางเหอบ้านญาติของเซียวหยูซวนจึงรู้สึกว่าพวกเขาเหนือกว่าและด้วยเหตุนี้เองพวกเขาจึงกล้าที่จะเข้ามาแทรกแซงการแต่งงานของเซียวหยูซวนได้อย่างง่ายดาย
“จี้เฟิงถ้าญาติๆของฉันพูดอะไรที่เกินพอดีมากจนเกินไปคุณอย่าเก็บมาใส่ใจนะ ขอแค่คุณจำไว้ว่าฉันคิดยังไงกับคุณก็พอ” เซียวหยูซวนอดไม่ได้ที่จะพูดเตือนด้วยความเป็นกังวล
“ไม่ต้องห่วงผมรู้ว่าอะไรทำแล้วจะไม่เหมาะสม”จี้เฟิงยิ้ม
“ฉันรู้ว่าคุณรู้แต่บางทีฉันกลัวว่าคุณอาจจะยับยั้งความโกรธไว้ไม่อยู่”เซียวหยูซวนมองจี้เฟิงด้วยสีหน้าจริงจัง
“เฮ้หยูซวนถ้าผมจะยับยั้งอารมณ์ไว้ไม่อยู่ก็เฉพาะเวลาอยู่กับคุณเท่านั้นแหละ!” จี้เฟิงยิ้มเจ้าเล่ห์ “แฟนของผมมีเสน่ห์ที่ยากจะห้ามใจขนาดนี้ผมคงยับยั้ง ‘อารมณ์’ ไว้ไม่ได้จริงๆ”
“ไปตายซะ!”เซียวหยูซวนรู้สึกเขินอายจนใบหน้าแดงก่ำ “ฉันกำลังคุยเรื่องซีเรียสอยู่นะ!”
“แล้วผมไม่จริงจังตรงไหน!ฮ่าฮ่า~!” จี้เฟิงหัวเราะ “เอาล่ะตอนนี้ยังพอมีเวลา เรากลับบ้านไปพักผ่อนกันก่อนดีกว่า เดี๋ยวจะได้เตรียมตัวเดินทางไปบ้านของคุณกัน!”