The Ultimate Student สุดยอดนักเรียนสมองอัจฉริยะ - บทที่ 203 โง่แล้วอวดฉลาด
ซุนกังเงยหน้าขึ้นทันทีและก็เห็นเข้ากับดวงตาอันเย็นชาคู่หนึ่ง เขารีบหลบสายตาหนีทันทีโดยไม่รู้ตัว
“คุณชื่ออะไร”จี้เฟิงถามเสียงเย็นพร้อมกับมองไปที่ซุนกัง หากใครก็ตามที่รู้จักคุ้นเคยกับจี้เฟิงดี จะรู้ได้ในทันทีเลยว่ายิ่งเขาพูดด้วยน้ำเสียงสงบนิ่งมากเท่าไหร่นั่นก็หมายความว่าในใจของเขายิ่งโกรธมากขึ้นเท่านั้น
ซุนกังที่หวาดกลัวกับสายตาและคำพูดของอีกฝ่ายเขารู้สึกทั้งอับอายทั้งโกรธเขาจึงทำใจดีสู้เสือตะคอกเสียงดังกลับไป “ฉันชื่ออะไรแล้วแกมาเสือก…อ๊ะ!”
ก่อนที่เขาจะพูดจบจู่ๆเขาก็รู้สึกปวดตึงที่ลำคอร่างที่ผอมบางของซุนกังลอยขึ้นเหนือพื้นด้วยฝีมือจี้เฟิงที่ใช้มือบีบคอของเขาและยกร่างของเขาขึ้น
“อุก!อั่ก!..” ซุนกังหายใจไม่ออกเขาตบแขนของจี้เฟิงด้วยมือทั้งสองข้างพร้อมกับขาที่พยายามแกว่งถีบไปที่จี้เฟิงเพื่อเอาตัวรอด แต่ยิ่งเขาดิ้นแรงเท่าไหร่ใบหน้าของเขาก็ยิ่งแดงก่ำมากขึ้นเท่านั้น ตอนนี้ดวงตาของซุนกังเริ่มกลอกขึ้นข้างบน เพียงไม่นานซุนกังที่ไม่สามารถหายใจเอาอากาศเข้าไปได้ก็หมดแรงที่จะดิ้นรน ร่างกายของเขาเริ่มกระตุกและสุดท้ายก็อ่อนยวบ
เมื่อถังไห่เว่ยเห็นฉากนี้เขาก็ตกใจรีบตะโกน“คุณจี้ คุณชายจี้ ใจเย็นๆก่อนครับ ซุนกังเขา ไอ้เจ้าบ้านี่มัน… เอ่อ ยังไงที่นี่มันก็ร้านอาหาร….”
ถังไห่เว่ยประหม่าจนพูดผิดพูดถูกแต่เขาไม่ลืมว่าตัวตนที่แท้จริงของจี้เฟิงคือใคร นั่นคือหลานชายของเลขาธิการคณะกรรมการพรรคเทศบาลนครเจียงโจว! และที่สำคัญพ่อของถังไห่เว่ยก็เป็นคนของทางการเช่นกัน ดังนั้นเขาจึงได้ยินเรื่องราวต่างๆมาตั้งแต่เด็กและได้รู้ได้เห็นอะไรมามากมาย เขารู้ดีว่าถ้าจี้เฟิงเกิดพลั้งมือฆ่าคนที่นี่ขึ้นมาจริงๆ คนที่ต้องซวยมากที่สุดจะเป็นใครไปไม่ได้นอกจากเขา!
เจ้าหน้าที่มีเหตุผลมากมายที่จะอธิบายว่าทำไมจี้เฟิงต้องฆ่าคนคนนี้ไม่ว่าจะเพราะป้องกันตัวหรือแค่ปกป้องใครซักคนในห้องนี้และแน่นอนว่าเมื่อมีคนตายก็ต้องมีคนผิด และแพะรับบาปที่เหมาะสมที่สุดในที่นี้จะเป็นใครได้นอกจากถังไห่เว่ย!
“จี้เฟิง!อย่าไปสนใจคนไร้ค่าแบบนี้!” เซียวหยูซวนรีบพูดเพื่อเกลี้ยกล่อม เธอรู้นิสัยของจี้เฟิงว่าถ้าเธอไม่พูดเขาจะก็กล้าที่จะฆ่าคนที่นี่จริงๆ
“เหอะ!”
จี้เฟิงตะคอกอย่างเย็นชาและเหวี่ยงซุนกังลงกับพื้นอย่างแรงและพูดอย่างเหยียดหยาม“ไอ้เศษสวะกล้ามาทำกร่างที่นี่ยังงั้นเหรอ”
“อ่อก!แค่ก! แค่ก!” ใบหน้าของซุนกังแดงก่ำเขาพยายามสูดลมหายใจแต่มันก็ยังคงไม่สามารถหายใจเข้าไปได้อย่างเต็มที่แม้เขาจะถูกปล่อยลงแล้วก็ตามที เขาได้แต่ไอและจับคอของตัวเองอยู่ตลอดเวลา
ผู้ชายคนนี้น่ากลัวมาก…
ทุกคนในห้องพากันตกตะลึงและตกใจพวกเขารู้ดีว่าไม่ว่าซุนกังจะผอมแค่ไหนแต่เขาก็น่าจะมีน้ำหนักมากกว่า 50 กิโลกรัม อย่างไรก็ตามสิ่งที่จี้เฟิงทำคือการบีบคอของซุนกังและยกขึ้นด้วยมือเพียงข้างเดียว จี้เฟิงต้องมีความแข็งแกร่งมากขนาดไหนถึงทำได้ขนาดนี้?
ที่สำคัญกว่านั้นเมื่อตอนที่จี้เฟิงบีบคอซุนกังดวงตาที่เต็มไปด้วยความเย็นชานั้น ทำให้ครอบครัวทั้งสามคนของหลิวซูหงหนาวสั่นไปถึงกระดูก เมื่อนึกถึงคำพูดที่พวกเขาเคยพูดจาดูถูกถากถางจี้เฟิงก่อนหน้านี้ โดยเฉพาะหลิวซูหงเธอถึงกับตัวสั่นไป เธอรู้สึกหวาดกลัวจนร่างกายอ่อนปวกเปียกและถ้าหากเธอต้องการจะหนีก็เกรงว่าคงจะทำไม่ได้เพราะเธอไม่สามารถลุกขึ้นยืนได้ด้วยซ้ำ
เมื่อถังไห่เว่ยเห็นจี้เฟิงปล่อยซุนกังเขาก็รีบไปช่วยซุนกังและหันไปพูดกับจี้เฟิงอย่างรีบร้อนว่า“คุณชายจี้ไปนั่งพักก่อนผมจะโยนไอ้คนไร้สมองนี่ออกไปข้างนอกให้เดี๋ยวนี้!” ในขณะที่พูดเขาก็กึ่งดึงกึ่งลากให้ซุนกังออกมานอกห้องอาหาร
เมื่อเขาทั้งลากทั้งดึงซุนกังจนมาถึงสุดทางเดินในที่สุดซุนกังก็ฟื้นกำลังขึ้นและเขาก็กรีดร้องอย่างรุนแรงว่า “ไอ้เด็กเลวนั่นมันเป็นใคร ฉันจะฆ่ามันถ้าไม่อย่างนั้นไม่ต้องเรียกฉันว่าซุนกัง!”
ถังไห่เว่ยเหลือบมองเขาอย่างดูถูกและพูดในใจว่า“ถ้าคนอย่างแกต้องการจะฆ่าเขา หลังจากนั้นก็อย่าคิดว่าจะตายได้แม้จะต้องการ”
“เหล่าซุงวันนี้คุณทำอะไรผลีผลามเกินไป!”ถังไห่เว่ยพูดด้วยใบหน้าตำหนิ “กว่าผมจะเชิญคุณชายจี้มาได้ เพื่อที่จะแนะนำให้รู้จักกับคุณ แต่คุณดันทำให้เรื่องมันพังไปหมด ถ้าคุณไม่มัวแต่หื่นกามมองผู้หญิง ตอนนี้คุณก็ไม่ต้องมาอยู่ในสภาพนี้หรอก!”
ซุนกังผงะพลางลูบคอและถามว่า“มีอะไรที่น้องถังยังไม่ได้บอกฉันหรือเปล่า ที่น้องถังชวนฉันมาวันนี้ไม่ใช่เพราะเรื่องบริษัทยาของเซียวฉางเหอเหรอ”
ถังไห่เว่ยยิ้มอย่างขมขื่น“แน่นอนว่ามันเป็นเรื่องเกี่ยวกับธุรกิจยา!”
“แล้วคุณยังจะพูดแบบนี้อีกเหรอ!”ซุนกังเริ่มโกรธเมื่อเขาได้ยินที่ถังไห่เว่ยพูด “ฉันอุตส่าห์ถ่อมาถึงที่นี่ถ้าไม่เห็นแก่น้องถังฉันคงไม่มาหรอกนะ กับอิแค่มองผู้หญิงสองคนนั้นพวกเขากลับไล่และทำกับฉันถึงขนาดนี้จะมาหาว่าฉันผลีพลามได้ยังไง?”
จู่ๆถังไห่เว่ยก็โกรธ“เหล่าซุง คุณรู้ตัวไหมว่าคุณกำลังพูดอะไรออกมา ลองใช้สมองของคุณคิดดูดีๆสิว่าถ้าเรื่องนี้มันเกี่ยวข้องแค่คนธรรมดาๆที่เป็นเจ้าของบริษัทยาฉันจะเชิญคุณมาถึงที่นี่ทำไม?”
ซุนกังถึงกับสะดุ้งเขาก้มหน้าครุ่นคิดอย่างหนักสุดท้ายก็คิดไม่ตกจึงเอ่ยปากถาม “น้องถังมันเกิดอะไรขึ้นกันแน่”
เมื่อเห็นถังไห่เว่ยไม่ตอบแต่ยังคงมีสีหน้าตึงเครียดซุนกังก็ดูเหมือนจะเริ่มคิดได้แล้วว่าเรื่องนี้ต้องมีอะไรผิดปกติ ไอรีนโนเวล
“เหล่าซุนคุณรู้หรือเปล่าว่าชายหนุ่มที่มีเรื่องกับคุณเมื่อกี้เขาเป็นใคร” ถังไห่เว่ยถามด้วยน้ำเสียงทุ้ม
ซุนกังส่ายหัวและกัดฟัน“ฉันไม่รู้หรอกว่าเขาเป็นใคร ฉันรู้แค่ว่าถ้าเขากล้าทำกับฉันแบบนี้ฉันจะไม่มีวันปล่อยเขาไปง่ายๆ!”
“งั้นก็เชิญคุณจัดการเขาได้ตามสบายถ้าคุณคิดว่าคุณยิ่งใหญ่พอจะจัดการหลานชายของเลขาธิการคณะกรรมการพรรค! แล้วอย่าบอกใครว่าคุณรู้จักฉัน ฉันไม่อยากถูกลากลงเหวไปกับคุณด้วย!” ถังไห่เว่ยยิ้มเยาะ
เปรี้ยง!!
ตัวตนที่แท้จริงของจี้เฟิงที่ซุนกังได้ยินมันทำให้เขารู้สึกราวกับถูกฟ้าผ่าร่างกายของเขาแข็งทื่อและไม่มีการตอบสนองใดๆอยู่พักใหญ่
“น้องถังเมื่อกี้คุณพูดว่าชายหนุ่มคนนั้นเป็นใครนะ”หลังจากใช้เวลารวบรวมสติอยู่นานซุนกังก็พูดอย่างตะกุกตะกัก
“ผู้ชายคนนั้นชื่อจี้เฟิงเขาเป็นหลานชายของเลขาธิการคณะกรรมการพรรคเทศบาลนครเจียงโจว!” ถังไห่เว่ยตอบเสียงดัง “เหล่าซุงแล้วคุณรู้หรือเปล่าว่าเซียวฉางเหอคือใคร นั่นคือพ่อตาในอนาคตของจี้เฟิง! ฉันอุตส่าห์ชวนคุณมาเพื่อแนะนำให้คุณรู้จักกับพวกเขาเอาไว้ เผื่อในอนาคตมันจะสามารถสร้างโอกาสดีๆให้กับคุณ แต่แล้วคุณได้ทำอะไรลงไป คุณไม่เพียงแต่ไม่คว้าโอกาสที่ผมหามาให้อย่างยากลำบาก แต่คุณกลับมองแม่ยายและภรรยาในอนาคตของคุณชายจี้เฟิงด้วยสายตาแทะโลมอย่างน่ารังเกียจ คุณนี่ช่างน่าทึ่งจริงๆ เหอะๆ!”
สีหน้าของซุนกังซีดเผือดและทำอะไรไม่ถูก
“น้องถังสิ่งที่คุณพูดมามันเป็นเรื่องจริงงั้นเหรอ!”ซุนกังถามอย่างสั่นสะท้านราวกับว่าเขาตกลงไปในน้ำที่เย็นเฉียบจนทำให้เสียงที่พูดออกมานั้นสั่นเครืออย่างห้ามไม่ได้
“เคยเห็นฉันพูดโกหกเหรอ”ถังไห่เว่ยตะคอก เขาไม่รู้สึกอายเลยที่ใช้เรื่องนี้มาทำให้ตัวเองได้หน้า
ซุนกังคนนี้อาศัยตำแหน่งรองผู้อำนวยการแผนกจัดซื้อโรงพยาบาลที่3 และมักจะทำตัวราวกับว่าไม่เคยเห็นถังไห่เว่ยอยู่ในสายตาของเขาเลย จนในที่สุดวันนี้ถังไห่เว่ยก็มีโอกาสที่จะได้แก้แค้นคืนบ้าง เขารู้สึกดีที่ทำให้ซุนกังรู้สึกหวาดกลัว
อันที่จริงถังไห่เว่ยก็ไม่แน่ใจหรอกว่าจี้เฟิงจะจัดการกับซุนกังได้หรือไม่เขาเพียงแค่ขู่ไปอย่างนั้นเองแต่เขาก็ไม่ลืมที่จะเชื่อมโยงตัวเองกับจี้เฟิง เพราะเขารู้ดีอยู่แล้วว่าซุนกังไม่รู้เรื่องนี้
อย่างไรก็ตามหลังจากเหตุการณ์นี้ซุนกังจะต้องไปหาใครสักคนเพื่อร้องขอความช่วยเหลือและเมื่อถึงเวลานั้นซุนกังจะต้องพูดถึงความสัมพันธ์ระหว่างถังไห่เว่ยและจี้เฟิง และถ้าเป็นอย่างนั้นถังไห่เว่ยก็จะได้ประโยชน์ในเรื่องนี้ไปเต็มๆ เพราะชื่อเสียงของถังไห่เว่ยในเจียงโจวจะต้องเพิ่มขึ้นอย่างแน่นอน
ความคิดของถังไห่เว่ยแสดงออกมาอย่างชัดเจนแต่ซุนกังที่กำลังตกใจกลัวไม่มีเวลามาสังเกต ร่างกายของเขาสั่นสะท้านและไร้เรี่ยวแรงจนไม่สามารถลุกขึ้นยืนได้
“น้องถังคุณต้องช่วยฉัน!”ซุนกังแทบจะร้องไห้เขาจับมือของถั่งไห่เว่ยเขย่า “น้องถังฉันเคยดีกับคุณมาตลอด ฉันยังไม่อยากตายตอนนี้!”
“ฮึ่ม!ดีกับฉัน ความสัมพันธ์ระหว่างเรามีอะไรที่ดีกับฉันบ้าง?” ถังไห่เว่ยตะคอกอย่าเย็นชา “ฉันต่างหากที่ดีกับคุณ อย่างวันนี้ฉันก็เชิญคุณมาเพื่อจะได้ทำให้คุณมีความสัมพันธ์อันดีกับคนใหญ่คนโต แต่ดูสิว่าสุดท้ายแล้วคุณทำจนผลมันเลวร้ายขนาดไหน?”
ซุนกังตบหัวตัวเองสองสามครั้งแล้วร้องไห้“ฉันมันมีตาแต่ไม่มีแววเอง น้องถังคุณต้องช่วยฉันคิดหาทางนะ ไม่อย่างนั้นพี่ชายคนนี้จะต้องถูกโยนลงแม่น้ำกลายเป็นอาหารปลาในวันพรุ่งนี้แน่!”
เมื่อมองไปที่ท่าทางที่น่าสมเพชของซุนกังถังไห่เว่ยก็รู้สึกดูถูกอยู่ในใจ แต่เขาไม่ได้คิดถึงการกระทำของตัวเองเลย เขาเคยทำตัวหยิ่งผยองกับจี้เฟิงมาก่อนและต่อมาหลังจากได้รู้ความจริงเกี่ยวกับตัวตนของจี้เฟิง เขาก็เปลี่ยนจากหน้ามือเป็นหลังมือในทันที และตอนนี้เขายังกล้าพูดถึงความสัมพันธ์ของเขากับจี้เฟิงเพื่อใช้เป็นข้ออ้างในการข่มขู่ซุนกัง หากเทียบกันแล้วถังไห่เว่ยนั้นหน้าด้านไร้ยางอายมากกว่าซุนกังหลายเท่า
อย่างไรก็ตามคนไร้ยางอายไม่เคยยอมรับว่าตัวเองไร้ยางอายและถังไห่เว่ยก็ไม่มีข้อยกเว้น
ถังไห่เว่ยถอนหายใจด้วยสีหน้าลำบากใจ“เฮ้อ! เหล่าซุง ถ้าฉันรู้ว่าวันนี้จะจบลงแบบนี้ ฉันไม่น่าโทรหาคุณเลยจริงๆ ฉันผิดเองแหละ”
“ไม่ๆๆ!น้องถังคุณเป็นคนดีมาก ฉันกล้าพูดได้เลยว่านี่ไม่ใช่ความผิดของน้องถังเลย!”ซุนกังพูดอย่างรีบร้อน “แต่ถ้าน้องถังพอจะช่วยฉันหาทางได้ ฉันจะขอบคุณมากๆ แต่ไม่ใช่แค่ขอบคุณเปล่าๆนะ พอดีมีบ้านเพิ่งปรับปรุงใหม่สองหลังอยู่แถวสหพันธ์ ถ้าน้องถังสนใจฉันจะมอบให้น้องถังทันทีเลย”
ถังไห่เว่ยดีใจมากราคาบ้านแถวสหพันธ์นั้นสูงมาก อย่างน้อยๆบ้านสองหลังนี้น่าจะมีราคามากกว่า 10 ล้านหยวน แม้ถังไห่เว่ยจะรู้ว่าสกุลซังร่ำรวยแต่ก็ไม่คาดคิดว่าเขาจะร่ำรวยมากขนาดนี้!
หลังจากแสร้งทำเป็นครุ่นคิดด้วยสีหน้าเคร่งเครียดอยู่ครู่หนึ่งถังไห่เว่ยก็กล่าวว่า “เหล่าซุน ฉันต้องบอกคุณก่อนว่า แม้ว่าฉันจะพอรู้จักกับจี้เฟิง แต่เรื่องนี้มันเกี่ยวข้องกับสมาชิกในครอบครัวของคนอื่นด้วย คุณก็น่าจะรู้ตัวว่าคุณทำอะไรลงไป ฉันอาจจะพอช่วยให้พวกเขาเมตตาคุณได้บ้าง แต่ฉันก็ไม่สามารถรับประกันความสำเร็จได้ ดังนั้นคุณต้องรีบกลับไปเสียตั้งแต่ตอนนี้แล้วลองไปหาคนที่พอจะมีเส้นสายใหญ่โตและขอร้องให้เขาช่วยอีกทาง ไม่เช่นนั้นหากคำพูดของฉันไม่ได้ผลมันจะกลายเป็นปัญหาใหญ่ได้!”
เมื่อซุนกังได้ยินดังนั้นเขาก็พยักหน้าด้วยท่าทางลนลาน“น้องถังคุณพูดถูกแล้ว ฉันจะรีบกลับไปและลองหาดูว่าจะมีใครที่พอจะช่วยพูดให้ฉันได้บ้าง ส่วนเรื่องบ้านสองหลังในเขตสหพันธ์ฉันจะให้คนส่งเอกสารกรรมสิทธิ์ไปให้คุณที่บ้านภายในคืนนี้”
“ถ้าอย่างนั้นฉันจะพยายามพูดให้อย่างสุดความสามารถ!”ถังไห่เว่ยพยายามปกปิดสีหน้าดีใจไว้และพูดอย่างจริงจัง
อย่างไรก็ตามความรู้สึกดีใจของเขาก็ไม่ได้อยู่กับเขานานเมื่อเขากลับไปที่ห้องอาหารสายตาทุกคนต่างจ้องมองมาที่เขาอย่างเย็นชา
“อ่า…คุณจี้ เรื่องทั้งหมดมันเป็นความผิดของฉันเอง เป็นเพราะฉันต้องการแนะนำหุ้นส่วนทางธุรกิจให้กับคุณลุง.. เอ่อคุณเซียว แต่ฉันก็คิดไม่ถึงจริงๆว่าซุนกังจะกลายเป็นคนแบบนี้ไปได้…” ถังไห่เว่ยถูกจี้เฟิงขัดจังหวะก่อนที่เขาจะพูดจบ
“ถังไห่เว่ยฉันได้ยินมาว่าพ่อของคุณเป็นหัวหน้าเขต”จี้เฟิงถามด้วยน้ำเสียงที่เย็นชา
“ใช่…”ถังไห่เว่ยพยักหน้าและตอบอย่างรวดเร็วแต่เมื่อเขามองไปที่สายตาอันเย็นชาของจี้เฟิงมันก็ทำให้เขารู้สึกตื่นตระหนก “คุณจี้! ฉันไม่รู้จริงๆว่ามันจะเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้น!”
“คุณออกไปจากที่นี่ได้แล้วไม่มีความจำเป็นอะไรที่คุณจะต้องอยู่ที่นี่ต่อ!” จี้เฟิงกล่าวเบาๆ แต่น้ำเสียงของเขาไม่ได้ทำให้คนฟังรู้สึกดีเลย
ถังไห่เว่ยหายใจไม่ออกแต่ก็ไม่กล้าที่จะพูดอะไรออกไปเขาทำได้แค่เพียงยืนตัวสั่น เขากำลังจะตายด้วยความโง่ของเขาเอง ทำไมฉันถึงได้ไปแบล็คเมล์ซุนกังแบบนั้น! ถ้าฉันอธิบายสถานการณ์ทุกอย่างให้จี้เฟิงฟังแต่แรกตามตรงบางทีสิ่งเลวร้ายที่เกิดขึ้นในวันนี้อาจกลายเป็นเรื่องดีแถมฉันยังสามารถสร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับจี้เฟิงได้ แต่ตอนนี้… ถังไห่เว่ยรู้ตัวแล้วว่าเขาได้ทำเรื่องที่ผิดพลาดอย่างมหันต์ ปัญหาในตอนนี้คือเขาส่งซุนกังออกไปร้องขอความช่วยเหลือนั่นหมายความว่าเขาและซุนกังจะต้องมีความผิดร่วมกัน
เมื่อนึกถึงเรื่องนี้สีหน้าของถังไห่เว่ยก็ซีดเซียวไร้ร่องรอยของเลือด!
เซียวฉางเหอมองด้านหลังของถังไห่เว่ยที่กำลังเดินออกจากห้องและพูดด้วยน้ำเสียงที่ผิดหวัง“ทำตัวเองแท้ๆ!”