The Ultimate Student สุดยอดนักเรียนสมองอัจฉริยะ - บทที่ 204 ปลื้มใจ
“คุณจี้…เป็นเพราะฉันเป็นห่วงซวนซวนมากเกินไป จนทำให้ฉันพูดสิ่งที่น่ารังเกียจเหล่านั้นออกไป ฉันหวังว่าคุณจี้จะไม่เก็บเอาไปใส่ใจ”
“ใช่ๆซูหงก็เป็นแบบนี้แหละ ฉันก็มักจะโดนเธอพูดแบบนี้ใส่อยู่ประจำเวลาอยู่ที่บ้าน เธอเป็นคนพูดตรงเกินไป แต่เธอไม่ได้เป็นคนจิตใจไม่ดีอะไรหรอกนะ ดังนั้นคุณจี้อย่าได้ถือสาเธอเลย!”
เมื่อจี้เฟิงจัดการซุนกังและขับไล่ถังไห่เว่ยออกไปด้วยคำพูดเพียงไม่กี่คำออร่าและความสง่างามที่ไม่อาจปฏิเสธได้ก็ถูกเปิดเผยในทันใด ทำให้หลิวซูหงและซูชางหยวนรู้สึกไม่สบายใจอย่างมาก ยิ่งเมื่อเห็นความโหดร้ายของจี้เฟิง พวกเขาทั้งสองก็แทบจะน้ำตาคลอ จะไม่ให้พวกเขากลัวได้อย่างไร แม้ทีแรกพวกเขาจะคิดว่าจี้เฟิงเป็นเพียงเด็กหนุ่มที่ไม่ค่อยพูดและไม่น่ามีอะไรมากไปกว่านั้น แต่อันที่จริงแล้วเขาเป็นผู้ชายที่แม้ภายนอกจะดูสงบแต่ก็ไม่ยอมอ่อนข้อให้ใครหากมีใครมาระรานเขา!
เพราะความคิดนี้เมื่อจี้เฟิงนั่งลง หลิวซูหงและซูชางหยวนจึงรีบเอ่ยขอโทษ แต่เนื่องจากพวกเขาก็เป็นคนมีหน้ามีตา พวกเขาจึงไม่อาจเอ่ยขอโทษตรงๆได้ พวกเขาทำได้เพียงหาข้อแก้ตัวเพื่อปกปิดพฤติกรรมที่น่าอายของพวกเขา
จี้เฟิงเพียงแค่มีรอยยิ้มประดับอยู่บนใบหน้าเล็กน้อยแต่ไม่ได้พูดอะไรออกมา
ก่อนที่จะพูดจาเยาะเย้ยดูถูกฉันทำไมพวกเขาถึงไม่คิดบ้างว่าคนฟังจะรู้สึกอย่างไรแล้วพอสถานการณ์เป็นเช่นนี้ก็อยากจะให้เรื่องมันจบง่ายๆเพียงแค่คำว่าขอโทษส่งๆอย่างนั้นเหรอ?
เมื่อซูชางหยวนและหลิวซูหงเห็นปฏิกิริยาของจี้เฟิงพวกเขาก็รู้สึกอับอายมากขึ้นพวกเขาอุตส่าห์เอ่ยปากขอโทษ แต่จี้เฟิงกลับเมินเฉยไม่สนใจเลย มันทำให้พวกเขาไม่รู้จะพูดอะไรต่อไปดี แต่ด้วยตัวตนของจี้เฟิง หากจี้เฟิงต้องการจะจัดการพวกเขาจริงๆ ก็อย่าหวังว่าจะมีโอกาสได้เอ่ยปากขอโทษ ดังนั้นตอนนี้พวกเขาจึงไม่รู้ว่าควรทำอย่างไรต่อไปดี
ดวงตาของหลิวซูหงเปลี่ยนไปอย่างรวดเร็วเมื่อเธอคิดอะไรบางอย่างขึ้นมาได้เธอรีบหันไปมองแม่ของเซียวหยูซวนและพยายามส่งซิกส์ให้กับเธอ
เซียวฉางเหอและภรรยาแอบมีความสุขเมื่อก่อนซูชางหยวนและหลิวซูหงไม่เคยทำตัวสงบเสงี่ยมได้ขนาดนี้มาก่อน ด้วยความที่ซูชางหยวนทำงานธนาคาร พวกเขาจึงรู้สึกว่าตัวเองเหนือกว่าคนอื่นๆอยู่เสมอ แต่เพราะเซียวชางเหอคิดว่าอย่างน้อยคนพวกนี้ก็เป็นญาติของภรรยาเขา เขาจึงไม่เคยพูดหรือทำอะไรเพราะเห็นแก่หน้าภรรยา แต่ตอนนี้เขารู้สึกว่าเขาต้องการมีความสุขกับสถานการณ์ในตอนนี้ก่อนอีกสักพักหนึ่ง
เพราะสีหน้าท่าทางที่ดูหงอยและดูด้อยค่าของซูชางหยวนและภรรยาของเขาช่างหาดูได้ยาก!
แน่นอนว่าหลิวซูหงพอจะรู้ว่าสามีของลูกพี่ลูกน้องของเธอไม่ค่อยพอใจเธอและครอบครัวแต่เธอก็ไม่เคยเห็นเขาอยู่ในสายตาเดิมทีที่เธอต้องการแนะนำเซียวหยูซวนให้ถังไห่เว่ยเพราะความจริงแล้วเธอต้องการใช้โอกาสนี้เพื่อประจบถังไห่เว่ย จากนั้นก็ไปตีสนิทกับพ่อของถังไห่เว่ย เนื่องจากบริษัทเล็กๆของหลิวซูหงมันอยู่ภายในเขตที่พ่อของถังไห่เว่ยมีอำนาจ
อย่างไรก็ตามเธอก็ไม่คาดคิดว่าไม่เพียงแต่จะไม่ประสบความสำเร็จแล้วเธอและครอบครัวกลับทำให้คนที่ไม่ควรเข้าไปยุ่งต้องโกรธเคือง นั่นก็คือแฟนคนปัจจุบันของเซียวหยูซวน
แต่เรื่องที่ร้ายแรงที่สุดก็น่าจะเป็นเรื่องที่เธอพยายามสร้างความเกลียดชังโดยการพยายามแยกจี้เฟิงและเซียวหยูซวนแม้ว่ามันจะไม่ประสบความสำเร็จแต่เรื่องนี้ก็ไม่ใช่สิ่งที่คนธรรมดาจะทนได้
ในกรณีนี้หลิวซูหงรู้ดีว่าเธอต้องลดอีโก้ของตัวเธอลงและยอมรับสารภาพผิดเพื่อหวังว่าจะได้รับการอภัยจากจี้เฟิงไม่เช่นนั้น ก็อย่าหวังว่าหน้าที่การงานของเธอและสามีจะดำเนินการต่อได้อย่างราบรื่นและแม้แต่งานในอนาคตของซูถิงลูกสาวของเธอก็จะพบปัญหาด้วยเช่นกัน
บางทีเพียงคำพูดคำเดียวของจี้เฟิงก็อาจจะถึงขั้นทำให้ซูชางหยวนต้องติดคุกเพราะท้ายที่สุดแล้วไม่มีใครที่ทำงานธนาคารที่อยู่ภายใต้ระบบของทางการแล้วจะใสสะอาดร้อยเปอร์เซ็นต์ โดยเฉพาะซูชางหยวน
ด้วยเหตุนี้หลิวซูหงจึงรู้ดีว่าไม่ว่าอย่างไรวันนี้จะต้องทำให้จี้เฟิงปล่อยวางเรื่องนี้ไปให้ได้ อย่างน้อยเธอก็โล่งใจไปได้เปราะหนึ่ง ส่วนเรื่องที่ว่าในอนาคตเธอจะสามารถสร้างความสัมพันธ์อันดีกับจี้เฟิงได้หรือไม่นั้นไว้ค่อยว่ากันทีหลัง ไอลีนโนเวล
แต่คำขอโทษของพวกเขานั้นไร้ผลหลิวซูหงจึงพยายามคิดหาวิธีที่จะทำให้เธอรอดพ้นจากวิกฤตนี้ได้ และทางที่ดีทีสุดนั่นก็คือเข้าหาทางเซียวหยูซวน
อย่างไรก็ตามในฐานะผู้อาวุโสอีกทั้งยังมีคู่สามีภรรยาเซียวฉางเหออยู่ที่นี่ ดังนั้นพวกเขาจึงไม่สามารถขอร้องอ้อนวอนเซียวหยูซวนได้ พวกเขาจึงทำได้แค่เพียงส่งสายตาขอความช่วยเหลือไปยังคู่สามีภรรยาเซียวฉางเหอและเซียวมู่เท่านั้น
นี่เป็นครั้งแรกที่จี้เฟิงและเซียวฉางเหอได้พบหน้ากันไม่ว่ายังไงก็ตามเขาก็ต้องเห็นแก่หน้าของเซียวฉางเหอและภรรยาอยู่บ้าง และทางรอดที่หลิวซูหงพอจะคิดออกก็มีเพียงแต่ทางนี้เท่านั้น!
หลิวซูหงเข้าใจสิ่งนี้ดีแต่ไม่ใช่แค่เธอ จี้เฟิง เซียวฉางเหอและภรรยาต่างก็เข้าใจเช่นกัน
ดังนั้นแม้ว่าหลิวซูหงและซูชางหยวนจะไม่ได้เป็นที่น่าพอใจสักเท่าไหร่แต่เมื่อเห็นว่าตอนนี้พวกเขาน่าสงสารแค่ไหน ความใจดีของคู่สามีภรรยาเซียวก็กลับมาอีกครั้ง
เซียวฉางเหอส่งเสียงกระแอมไอเบาๆหลังจากพิจารณาอยู่ครู่หนึ่งเขาก็กล่าวว่า“เสี่ยวเฟิงเนื่องจากวันนี้พวกเราออกมาทานอาหารเย็นและได้เจอกับเธอเป็นครั้งแรก เรามาลืมเรื่องที่ทำให้เราไม่มีความสุขกันดีกว่า ส่วนป้าของซวนซวนเธอคงเมาน้ำเต้าหู้ถึงได้พูดจาร้ายกาจออกมาแบบนั้น”
เซียวหยูซวนอดไม่ได้ที่จะถอนหายใจกับความใจดีเกินไปของพ่อและแม่ของเธอไม่น่าแปลกใจเลยที่บริษัทของพ่อเธอจะไม่สามารถเติบโตได้อย่างรวดเร็ว เขาจะทำธุรกิจได้อย่างไรด้วยหัวใจที่อ่อนโยนเกินไปเช่นนี้
จี้เฟิงยิ้มเล็กน้อยเขาค่อนข้างพอใจกับปฏิกิริยาของเซียวฉางเหอและภรรยาของเขาในความคิดของจี้เฟิง จิตใจที่ดีของเซียวฉางเหอและภรรยานั้นเป็นสิ่งที่หาได้ยากและความกตัญญูของเซียวหยูซวนนั้นเห็นได้ชัดว่ามาจากการอบรมสั่งสอนจากครอบครัวที่ดี
ในความเป็นจริงสิ่งที่จี้เฟิงกลัวที่สุดก็คือหลังจากที่เซียวฉางเหอะและภรรยาของเขารู้จักตัวตนที่แท้จริงของจี้เฟิงแล้วพวกเขาจะพึ่งพาอำนาจและอิทธิพลของตระกูลจี้เพื่อทำสิ่งที่ไม่เหมาะสมบางอย่าง และคนใจกว้างอย่างจี้เฟิงก็คงจะไม่ปฏิเสธเพราะพวกเขาเป็นพ่อแม่ของเซียวหยูซวน อย่างไรก็ตามหากพวกเขาใช้เหตุผลนี้เพื่อผลประโยชน์ส่วนตน คงมีเรื่องให้ปวดหัวอีกมากสำหรับจี้เฟิง
แต่ตอนนี้ดูเหมือนว่าความกังวลของจี้เฟิงจะเป็นเพียงการคิดมากไปเองของเขาเท่านั้น
ดังนั้นใบหน้าของจี้เฟิงในตอนนี้จึงปรากฏรอยยิ้ม“คุณลุงพูดถูกแล้ว วันนี้ผมจะไม่พูดถึงเรื่องที่ไม่น่ายินดีอีก เพราะที่ผมมาในวันนี้เพียงเพื่อมาเยี่ยมคุณลุงคุณป้าในฐานะผู้อาวุโสและจะขออนุญาตคบหากับเซียวหยูซวนอย่างจริงจัง ผมขอรับรองว่าผมจะปฏิบัติต่อเซียวหยูซวนเป็นอย่างดี ส่วนเรื่องภายในครอบครัวของผมมันค่อนข้างจะซับซ้อน เอาไว้ในอนาคตถ้าผมมีเวลาผมจะให้พ่อกับแม่ของผมไปเยี่ยมคุณลุงคุณป้าทีหลังนะครับ” ทันทีที่จี้เฟิงพูดจบหลิวซูหงและซูชางหยวนก็อดไม่ได้ที่จะถอนหายใจยาวๆอย่างโล่งอก ในที่สุดจี้เฟิงก็ไม่คิดที่จะแก้แค้นหรือจัดการกับพวกเขาเกี่ยวกับเรื่องนี้ในภายหลัง มันเป็นโชคดีของพวกเขาจริงๆที่ลูกพี่ลูกน้องช่วยพูดให้ไม่อย่างนั้นวันนี้พวกเขาคงจะไม่หมดเคราะห์ง่ายๆ
แต่เมื่อเซียวหยูซวนได้ยินที่จี้เฟิงพูดร่างกายของเธอก็แข็งทื่อขึ้นมาทันที ความรู้สึกเจ็บจี๊ดปรากฏขึ้นในใจของเธอ
เพราะความสัมพันธ์ระหว่างเธอกับจี้เฟิงไม่ใช่ความสัมพันธ์แบบปกติระหว่างหญิงชายที่คบหากันเพราะยังมีถงเล่ยที่อยู่ตรงกลางระหว่างพวกเขาอีกคนหนึ่ง
และตอนนี้จี้เฟิงได้ให้สัญญาว่าจะพาพ่อแม่ของเขามาเยี่ยมพ่อแม่ของเซียวหยูซวนมันจึงทำให้คิดเป็นอย่างอื่นไม่ได้เลยว่าพ่อแม่ของเซียวหยูซวนจะมองเรื่องนี้ในแง่มุมไหน แล้วในเมื่อพ่อกับแม่คิดเช่นนั้นไปแล้วจะไม่ให้เซียวหยูซวนรู้สึกหัวใจสั่นไหวได้อย่างไร ตอนนี้เซียวฉางเหอและภรรยายังไม่รู้จักตัวตนพ่อแม่ของจี้เฟิงพวกเขารู้เพียงแค่ว่าจี้เฟิงเป็นหลานชายของเลขาธิการคณะกรรมการพรรคเทศบาล และแม้แต่เซียวหยูซวนก็ยังไม่แน่ใจว่าพ่อของจี้เฟิงเป็นคนที่ยิ่งใหญ่มากแค่ไหน
“ถ้าพ่อแม่ของเธอไม่ว่างหรือไม่สะดวกเดินทางพวกเราสามารถเป็นฝ่ายไปเยี่ยมพวกเขาได้ทุกเมื่อเลยนะ!” เซียวฉางเหอยิ้มอย่างสุภาพ
เซียวหยูซวนเม้มปากเล็กๆของเธอและแทบจะไม่มีรอยยิ้มบนใบหน้าเธอพยายามอดทนไม่เปิดเผยตัวตนพ่อของจี้เฟิงในตอนนี้ ไม่เช่นนั้นเธอกลัวว่าพ่อของเธอจะไม่ยอมให้พ่อของจี้เฟิงเป็นฝ่ายมาเยี่ยมเขา
“พ่ออย่าเพิ่งคุยอะไรเยอะแยะเลยตอนนี้จะสองทุ่มแล้วหนูหิวมากท้องร้องแล้วเนี่ย” เซียวหยูซวนขัดจังหวะและเปลี่ยนหัวข้อการคุย เธอตัดสินใจว่าหลังจากกลับไปที่บ้านเธอจะบอกพ่อของเธอทุกอย่าง แน่นอนว่าเซียวหยูซวนจะไม่พูดถึงความสัมพันธ์ที่แท้จริงระหว่างเธอกับจี้เฟิงอย่างแน่นอนไม่เช่นนั้นแม้ว่าสถานะพ่อของจี้เฟิงจะสำคัญและสูงส่งเพียงใด เซียวฉางเหอก็คงจะไม่ยอมให้ลูกสาวของตนต้องไปใช้ผู้ชายคนเดียวกันกับผู้หญิงคนอื่น
“ก๊อก!ก๊อก!”
ทันใดนั้นเสียงเคาะประตูก็ดังขึ้นจากนั้นประตูห้องก็ถูกผลักเปิดออกและผู้จัดการเซี่ยวก็เดินเข้ามาด้วยท่าทีนอบน้อม
เมื่อเห็นว่ามีคนหายไปจากห้องอาหารเหลือเพียงจี้เฟิงและคนอื่นๆผู้จัดการเซี่ยวก็ชะงักไปเล็กน้อย ชายหนุ่มสองคนที่ผู้จัดการทั่วไปให้ความสำคัญเป็นอย่างมากไม่อยู่แล้ว
อย่างไรก็ตามผู้จัดการเซี่ยวยังคงรักษาสีหน้าได้ดีไม่แสดงสิ่งผิดปกติอะไรออกมาเลยแม้แต่น้อยเขาจำได้อย่างชัดเจนว่าชายหนุ่มที่นั่งอยู่ในห้องนี้ถูกจี้ช่าวเหลยเรียกว่าน้องสามแน่นอนว่าคำเรียกนี้มันมีความหมายในตัวมันเองอย่างชัดเจนอยู่แล้ว “การทำให้ชายหนุ่มคนนี้พึงพอใจในบริการก็เป็นเรื่องสำคัญเช่นกัน!”ผู้จัดการเซี่ยวยังคงมีความเข้าใจในสิ่งที่ควรจะทำได้เป็นอย่างดี เขาบ่นพึมพำกับตัวเองและยิ้มในเวลาเดียวกัน “ทุกท่านก่อนหน้านี้เป็นความผิดพลาดของผมเอง ผมจึงหวังว่าทุกท่านจะไม่ถือโทษ และเพื่อเป็นการแสดงให้เห็นถึงความจริงใจในการขอโทษ ทางเราจึงขอมอบอาหารจานพิเศษที่เชฟของโรงแรมจัดทำขึ้นเป็นพิเศษให้กับทุกท่านในค่ำคืนนี้และหวังว่าทุกท่านจะพึงพอใจ!”
สายตาของเขาจับจ้องไปที่จี้เฟิงแต่จี้เฟิงหันไปยิ้มให้กับเซียวฉางหยวนด้วยความสุภาพ “คุณลุงเนื่องจากเป็นจานพิเศษอย่างจริงใจของทางโรงแรมเราจะยอมรับหรือไม่”
“หือผู้ชายวัยกลางคนที่ดูใจดีคนนี้เป็นบุคคลสำคัญที่สุดของที่นี่งั้นหรือ?” ผู้จัดการเซี่ยวแอบประหลาดใจ คนใหญ่คนโตในวันนี้มีเยอะมากจริงๆ
ผู้จัดการเซี่ยวจึงรีบหันไปทางเซียวฉางเหอและพูดว่า“ท่านสุภาพบุรุษท่านนี้จะโปรดอภัยให้กับทางเราได้หรือไม่…”
เซียวฉางเหอพยักหน้าเล็กน้อยและยิ้ม“ถ้าเป็นอย่างนี้แล้วฉันจะทำให้ผู้จัดการเซี่ยวต้องลำบากไปมากกว่านี้ได้อย่างไร และฉันต้องขอบคุณสำหรับการแสดงความใส่ใจเป็นอย่างดีของทางโรงแรมคุณด้วย”
ผู้จัดการเซี่ยวดีใจมากและรีบกล่าวว่า“การทำให้ลูกค้าพึงพอใจเป็นหน้าที่ของพวกเราอยู่แล้วครับ”
เมื่อพูดจบเขาก็หันไปโบกมือให้กับพนักงานที่อยู่หน้าประตู“เข้ามา!”
จากนั้นพนักงานสาวที่สวมชุดกี่เพ้าก็เดินเข้ามาพร้อมจานในมือ ส่วนพนักงานที่อยู่ด้านหลังสุดมีเครื่องดื่มแอลกอฮอลล์สองสามขวดอยู่ในมือ
“เหมาไถ!”
ดวงตาของเซียวฉางเหอหรี่ลงเล็กน้อยเพียงแวบเดียวเขาก็รู้ได้ทันทีว่าขวดเครื่องดื่มที่พนักงานถือมาไม่ใช่เครื่องดื่มธรรมดา แต่เป็นเหล้าเก่าแก่ที่เรียกว่าเหมาไถซึ่งหาซื้อได้ไม่ง่าย
เขาอดไม่ได้ที่จะแอบถอนหายใจอิทธิพลของคนเพียงคนเดียวก็พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่ามันสำคัญมากเพียงใด ก่อนหน้านี้พวกเขาสองสามคนแทบจะไม่สามารถจองห้องอาหารได้ แต่ตอนนี้พวกเขาสามารถดื่มเหล้าราคาแพงอาหารจานพิเศษโดยที่ไม่เสียเงินเลยแม้แต่หยวนเดียว มีเพียงผู้ที่เคยสัมผัสกับสิ่งเหล่านี้มาแล้วเท่านั้นถึงจะรู้สึกได้
เซียวฉางเหออดไม่ได้ที่จะรู้สึกพอใจมากในที่สุดลูกสาวก็ได้พบกับแฟนหนุ่มที่น่าเชื่อถือและสถานะทางสังคมก็ไม่ด้อยไปกว่าใคร แม้ว่าก่อนหน้านี้เขาจะไม่ได้ร้อนใจเรื่องคู่รักของลูกสาวมากนัก แต่ในฐานะคนเป็นพ่อเขาก็ยังหวังอยู่เสมอว่าลูกสาวของเขาจะพบกับคนที่ดีและมีความสุข และตอนนี้ดูเหมือนว่ากับผู้ชายคนนี้ที่ชื่อจี้เฟิงลูกสาวของเขาจะไม่ต้องพบกับความทุกข์ แต่แม่ของเซียวหยูซวนกลับรู้สึกเป็นกังวลเล็กน้อยแม้ว่าลูกสาวของเธอจะไม่ได้แย่ไปกว่าใครไม่ว่าจะหน้าตาหรือนิสัย แต่อย่างไรก็ตามสถานะของจี้เฟิงก็ไม่ธรรมดาเลยและเธอก็ยังไม่รู้ว่าพ่อแม่ของจี้เฟิงจะชอบลูกสาวของเธอหรือไม่
อย่างไรก็ตามเมื่อเซียวมู่เห็นว่าจี้เฟิงให้เกียรติสามีของเธอในการตัดสินใจจากการขอโทษของทางโรงแรมและให้เกียรติผู้อาวุโสโดยเป็นฝ่ายรินเหล้าให้ก่อนอย่างไม่ถือตัวรวมถึงสายตาของจี้เฟิงที่มองลูกสาวของเธอด้วยความรักมันก็ทำให้เซียวมู่คลายกังวลไปได้มาก ไม่ว่าคนเราจะพูดโกหกอย่างไรแต่สายตาเป็นสิ่งที่โกหกไม่ได้ และมันก็ทำให้เธอมั่นใจว่าจี้เฟิงนั้นชอบเซียวหยูซวนมากจริงๆ
เซียวมู่รู้สึกทั้งโล่งใจและมีความสุข
ในความรู้สึกที่คล้ายคลึงกันเซียวฉางเหอก็พอใจมากเช่นกันเมื่อเทียบกันแล้วจี้เฟิงนั้นดีกว่าเหอตงราวฟ้ากับเหว