The Ultimate Student สุดยอดนักเรียนสมองอัจฉริยะ - บทที่ 236 กุญแจ!
จิตใจของจี้เฟิงในเวลานี้เต็มไปด้วยความต้องการฆ่า!เป้าหมายเดิมที่เขามาที่นี่ในครั้งนี้เพียงแค่ต้องการแสดงให้หยุนเฟยหยางเห็นถึงความแข็งแกร่งของเขา เพื่อให้หยุนเฟยหยางได้รู้ซึ้งว่าไม่ว่าใครก็ไม่อาจมาทำร้ายหรือแตะต้องพวกเขาได้ ไม่เช่นนั้นต่อให้ฟ้าจะถล่มดินจะทลายเรื่องระหว่างเขาและหยุนเฟยหยางก็จะไม่มีวันจบลงด้วยดี
เว้นเสียแต่ว่าก่อนที่เขาจะได้ทำเช่นนั้นหยุนเฟยหยางจะมีความสามารถมากพอที่จะกำจัดเขาได้เสียก่อน
แต่ตอนนี้จี้เฟิงเปลี่ยนใจแล้ว
บทสนทนาระหว่างหยุนเฟยหยางและหยุนปิงพ่อและลูกสาวที่ชั่วร้ายยันสายเลือดดังเข้าหูของจี้เฟิงและมันก็ทำให้จี้เฟิงตัดสินใจได้ในทันทีว่าเขาจะไม่มีวันยอมให้สองพ่อลูกที่เลวทรามคู่นี้มีชีวิตรอดพ้นผ่านคืนนี้ไปได้อย่างแน่นอน!
ยากที่จะจินตนาการได้ว่าหยุนเฟยหยางนั้นชั่วร้ายมากเพียงใด!ถ้าฉันไม่ยืนกรานที่จะให้ถงเล่ยย้ายมาอยู่ที่วิลล่าบ้านพักของฉันในวันนี้ จากที่ได้ยินสิ่งที่สองพ่อลูกพูดคุยกันนั้นฉันคิดว่าถงเล่ยจะถูกคนของพวกเขาจับในอีกไม่กี่ชั่วโมงก่อนเขาจะมาถึงที่นี่!
ส่วนจุดจบ…จะเป็นอย่างไรถ้าผู้หญิงที่สวยงามราวกับนางฟ้าถูกอันธพาลสามสี่คนจับตัวมา
“ฮึ่ม!”จี้เฟิงคำรามด้วยความโกรธ!
เขาไม่เคยคิดมาก่อนว่าจะมีคนที่มองไม่เห็นคุณค่าของชีวิตคนอื่นอย่างจริงจังได้ขนาดนี้ด้วยความอิจฉาริษยาปัญญาอ่อนและคำพูดเพียงไม่กี่คำก็สามารถกำหนดชะตาชีวิตและความเป็นความตายของคนคนหนึ่งได้!
“หยุนเฟยหยางหยุนปิงพวกแกสองคนพ่อลูกนี่ชั่วช้าเกินมนุษย์มนาจริงๆ!” จี้เฟิงอดไม่ได้ที่จะส่ายหัวและถอนหายใจเล็กน้อย “ในตอนแรกฉันก็ยังคิดไม่ออกหรอกนะว่าจะจัดการกับพวกแกยังไงดี แต่หลังจากที่ได้ยินบทสนทนาระหว่างพ่อและลูกสาวแล้วมันทำให้… ฮ่าฮ่า! ฉันอยากจะขอบคุณพวกแกจริงๆที่ทำให้ฉันตัดสินใจได้ทันเวลา!”
หยุนเฟยหยางและหยุนปิงหน้าเปลี่ยนสีในทันทีโดยเฉพาะกับหยุนเฟยหยางดวงตาของเขาฉายแววเย็นเยียบของเจ้าพ่อมาเฟียและจ้องมองไปยังจี้เฟิงอย่างดุดัน
“แกเข้ามาที่นี่ได้ยังไง”
จี้เฟิงไม่สนใจที่จะตอบคำถามเขาเพียงแค่ยิ้มเล็กน้อยและพูดอย่างแผ่วเบา “ถ้าแกคิดที่จะไปหยิบปืน ฉันขอแนะนำให้แกยอมแพ้อย่าไปเลยจะดีกว่า เพราะกว่าแกจะไปเปิดตู้แล้วหยิบปืนออกมาฉันคงฆ่าแกได้เป็นร้อยครั้งแล้วล่ะมั้ง!”
เมื่อได้ยินน้ำเสียงที่ราบเรียบของจี้เฟิงด้วยเหตุผลบางอย่างที่ไม่สามารถอธิบายได้หยุนเฟยหยางก็รู้สึกหนาวสั่นไปถึงขั้วหัวใจ เขาใช้ชีวิตเป็นมาเฟียมานานกว่าสิบปี ตั้งแต่เป็นแค่อันธพาลข้างถนนจนกลายเป็นมาเฟียที่อยู่เบื้องหลังคอยทำเรื่องใต้ดินให้คนใหญ่คนโต ไม่ว่าจะเป็นนักฆ่าที่เลือดเย็นหรือศัตรูที่มีฝีมือร้ายกาจ แม้แต่เขาเองก็จำไม่ได้ด้วยซ้ำว่าเคยเจอมามากมายขนาดไหน โดยเฉพาะบางคนที่ดูเหมือนจะไม่มีอะไรแต่ภายในนั้นร้ายกาจยิ่งกว่างูพิษ คนทุกประเภทเคยผ่านหูผ่านตาเขามาหมด
แต่เขาไม่เคยเจอใครที่สงบนิ่งเต็มไปด้วยความมั่นใจและกลับสร้างความกดดันได้มากขนาดนี้มาก่อน
เป็นความเชื่อมั่นอย่างเต็มที่ในการควบคุมชีวิตและกำหนดความเป็นความตายของผู้อื่นคุณต้องมีชีวิตอยู่โดยไม่สามารถตายได้แม้ว่าคุณอยากจะตายก็ตาม และคุณจะต้องตายหากคุณต้องการที่จะมีชีวิตอยู่!
หยุนเฟยหยางหยุดชะงักทันทีเขาหันไปมองจี้เฟิงด้วยใบหน้าที่สงบนิ่งและถามว่า “น้องชายคนนี้ ฉันเชื่อว่านายต้องมีความต้องการอะไรบางอย่างถึงได้มาที่นี่ดึกๆดื่นๆแบบนี้ น้องชายต้องการอะไรก็สามารถพูดออกมาได้เลย ถ้าไม่เหลือบ่ากว่าแรงฉันจะทำให้อย่างไม่ต้องสงสัย!”
“ความต้องการ!”จี้เฟิงแสยะยิ้ม “จะว่าไปฉันก็มีอยู่นะ สิ่งที่ต้องการน่ะแต่ฉันกลัวว่าแกจะทำให้ฉันไม่ได้!”
เมื่อได้ยินเช่นนั้นหยุนเฟยหยางก็รู้สึกสงบลงเล็กน้อย ตราบใดที่คนเรามีความต้องการบางสิ่งเรื่องต่างๆก็จะคลี่คลายได้ไม่ยาก เพราะสิ่งที่เขากลัวมากที่สุดก็คืออีกฝ่ายจะโจมตีโดยไม่พูดไม่จา มีเจตนามาเพื่อสังหารโดยเฉพาะ ถ้าหากเป็นเช่นนั้นไม่ว่าจะใช้การชักจูงในรูปแบบใดก็เกรงว่าจะไม่ทันได้งัดออกมาใช้
“น้องชายได้โปรดลองบอกมาก่อน ถ้าตราบใดที่ฉันทำให้ได้ฉันจะทำมันอย่างแน่นอน!” หยุนเฟยหยางพูดพร้อมกับผายมือด้วยท่าทีโออ่า “พี่น้องคนไหนได้รับความเดือดร้อน หยุนเฟยหยางคนนี้ก็ยินดีให้ความช่วยเหลือเสมอ!”
“อ้อ!เกือบลืม!” จี้เฟิงก้าวลงมาจากบันไดชั้นสอง บนใบหน้าของเขาปรากฏรอยยิ้มจางๆ “ก่อนที่จะพูดถึงเรื่องอื่น ช่วยบอกตำแหน่งของห้องควบคุมทั้งหมดภายในวิลล่ากับฉันหน่อยสิ!”
“ห้องใต้หลังคาที่ชั้นสาม”หยุนเฟยหยางตอบโดยไม่ลังเล จากประสบการณ์ของเขานั้นบอกได้เลยว่าบุคคลตรงหน้าของเขานั้นโหดเหี้ยมและคนประเภทนี้จะไม่เสียเวลาไปกับการยืดเยื้อที่ไร้สาระ ใจของเขามันเตือนว่าให้เชื่อฟังและร่วมมืออย่างเต็มที่ มันเป็นวิธีที่ดีที่สุดในการรับมือกับคนประเภทนี้
“ดีมาก!”จี้เฟิงแสยะยิ้ม
“ฉะ..ฉันจำเขาได้!”
ในเวลานี้หยุนปิงได้เห็นใบหน้าของจี้เฟิงอย่างชัดเจนและดวงตาของเธอก็เบิกกว้างขึ้นทันทีราวกับว่าเธอกำลังเห็นผี เธอตัวสั่นและชี้ไปที่จี้เฟิง แต่ก็ไม่รู้ว่าเป็นเพราะความกลัวหรือด้วยเหตุผลอื่น มันทำให้เธอพูดไม่ออกอยู่พักใหญ่ๆ
หยุนเฟยหยางเห็นอาการที่แปลกประหลาดของลูกสาวเขาจึงถามทันทีด้วยเสียงเบา “ปิงเอ๋อ มีอะไรหรือ ไม่ต้องกลัวหรอก น้องชายคนนี้เขาไม่ได้มีเจตนาร้ายอะไร ที่เขามาที่นี่เพราะน่าจะต้องการอะไรบางอย่างเท่านั้น!”
“เขา..เขา เขาคือ…” หยุนปิงพูดตะกุกตะกักเมื่อเห็นผู้ชายที่เคยตบเธอจนกระเด็นอย่างโหดร้ายอีกครั้ง ทั้งปากและตัวของเธอสั่นไปด้วยความหวาดกลัว
เมื่อเห็นว่าลูกสาวของเขาตกใจมากหยุนเฟยหยางก็รู้สึกไม่พอใจอย่างมากที่การปรากฏตัวอย่างกะทันหันของจี้เฟิงทำให้หยุนปิงลูกสาวของเขาต้องหวาดผวาขนาดนี้ แต่ใบหน้าของเขาไม่ได้แสดงอาการใดๆออกมาเลย สำหรับผู้ชายอย่างเขา ไม่ว่าความสุขหรือความโกรธ คุณจะไม่ได้เห็นมันอย่างชัดเจนบนใบหน้าของเขาง่ายๆ มันได้กลายเป็นสัญชาตญาณในการเอาตัวรอดของเขาไปแล้ว
สายตาของจี้เฟิงจ้องเขม็งไปที่หยุนปิงและที่มุมปากของเขาก็โค้งงอขึ้นเล็กน้อยแม้ปากเขาจะยิ้มแต่ดวงตาของเขากลับเต็มไปด้วยแสงเย็น“หยุนปิง ผู้หญิงที่ใจคอโหดเหี้ยม ไม่เคยเห็นชีวิตของผู้อื่นอยู่ในสายตา คิดไม่ถึงใช่มั้ยว่าคนที่ทำให้เธอต้องมาตกอยู่ในสถานการณ์อันตรายแบบนี้ก็คือตัวของเธอเอง รู้สึกเสียใจบ้างหรือยังล่ะ?”
ฟันของหยุนปิงสั่นกระทบกันไม่หยุดในดวงตาของเธอเต็มไปด้วยความหวาดกลัวเธอได้แต่ส่งเสียงพึมพำเบาๆในลำคอแต่ไม่สามารถพูดอะไรออกมาได้เลย และในเวลาไม่นานเธอก็กรีดร้องออกมา
“กรี๊ดดดด–!”
จี้เฟิงมองเธออย่างเย็นชาแต่ก็ไม่ได้คิดที่จะห้ามให้เธอหยุดกรีดร้อง ในชุมชนแห่งนี้ที่ไม่มีแม้แต่รปภ. แล้วนับประสาอะไรที่เขาจะต้องกลัวว่าจะมีใครได้ยินและเข้ามาขัดขวางเป้าหมายของเขาในครั้งนี้
“ปิงเอ๋อเป็นอะไรไป!” หยุนเฟยหยางรู้สึกทุกข์ใจเป็นอย่างมากเมื่อเห็นลูกสาวสุดที่รักของเขาต้องรู้สึกหวาดกลัวเช่นนี้ เขาหันศีรษะและมองไปที่จี้เฟิง “นายเป็นใครกันแน่ แล้วรู้จักลูกสาวของฉันได้ยังไง นายไม่ได้มาที่นี่เพื่อมาหาฉันเพียงคนเดียวใช่มั้ย?”
“ใช่หรือไม่ใช่ดีล่ะ”จี้เฟิงหัวเราะเบาะๆ “หยุนเฟยหยาง ฉันมาที่นี่ทำไมน่ะเหรอ? แกควรจะถามลูกสาวแกก่อนดีกว่า ไม่ใช่ว่าพวกแกเพิ่งคุยกันว่าจะจับตัวแฟนของฉันไปให้พวกนักเลงหรอกเหรอ? ถ้าอยากจะทำอย่างนั้นอย่างน้อยพวกแกก็ต้องผ่านฉันไปให้ได้ก่อนแล้วล่ะ!”
หยุนเฟยหยางรู้สึกราวกับว่าเขาถูกฟ้าผ่าและตัวของเขาก็แข็งทื่อตอนนี้เขาเริ่มเข้าใจทุกอย่างแล้ว ไม่แปลกใจเลยว่าทำไมลูกสาวของเขาถึงได้แสดงอาการหวาดกลัวออกมาขนาดนั้น ปรากฏว่าชายหนุ่มคนที่เขาเพิ่งพูดถึงกับลูกสาวก็คือชายหนุ่มที่อยู่ตรงหน้าเขาในตอนนี้!
ไม่น่าแปลกใจเลยว่าทำไมชายหนุ่มคนนี้ถึงเต็มไปด้วยจิตสังหารมากขนาดนี้จากเรื่องทั้งหมดตอนนี้มันทำให้เขาตระหนักได้ในทันที
เมื่อรู้ถึงตัวตนของจี้เฟิงแล้วหยุนเฟยหยางไม่ได้รู้สึกดีขึ้นมาเลยแม้แต่น้อย หัวใจของเขายังคงจมดิ่ง ทำไมชายหนุ่มคนนี้ถึงได้มาปรากฏตัวอยู่ที่นี่ คำตอบมันก็ชัดเจนโดยไม่ต้องพูดออกมา เนื่องจากฉันวางแผนที่จะไปจัดการตัวเขาและแฟนสาวของเขา มันจึงไม่ใช่เรื่องแปลกที่เขาจะมาถึงที่นี่เพื่อต่อสู้!
จะทำยังไงต่อไปดี Aileen-novel
ในหัวของหยุนเฟยหยางเต็มไปด้วยความคิดมากมายที่พยายามจะหาทางออกตั้งแต่ที่ชายหนุ่มคนนี้ย่างก้าวเข้ามาที่นี่เขาคงไม่ได้ตั้งใจที่จะมาเพื่อขอยอมแพ้อย่างแน่นอน โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่ออีกฝ่ายเข้ามาแล้วได้ยินบทสนทนาระหว่างเขาและลูกสาว
แต่ฉันจะไม่มีวันนั่งรอความตายไม่ว่าจะด้วยวิธีไหนฉันก็จะสู้!
ความโหดร้ายของโลกใต้ดินที่เขาได้เผชิญมาเป็นเวลานานมันหล่อหลอมให้เขากลายเป็นคนที่ไม่ยอมแพ้อะไรง่ายๆและดวงตาที่คมชัดก็ฉายออกมาจากดวงตาของหยุนเฟยหยางในทันที
ท่าทีที่เปลี่ยนไปของหยุนเฟยหยางตกอยู่ในสายตาของจี้เฟิงแต่จี้เฟิงก็ไม่หวั่นเขาเพียงแค่ยิ้มบางๆ “ทำไมถึงคิดว่าการต่อสู้ดิ้นรนมันจะช่วยอะไรพวกแกได้ล่ะ”
“ยังไม่ได้ลองแล้วจะรู้ได้ยังไงว่าทำไม่ได้!”หยุนเฟยหยางผู้ไม่เคยนั่งรอความตาย ไม่เช่นนั้นเขาคงจะไม่มีชีวิตอยู่มาจนถึงตอนนี้ “น้องชายทำไมเราไม่มาคุยกันดีๆล่ะว่าเราจะหยุดเรื่องนี้ได้อย่างไร ฉันขอสัญญาว่าจะไม่เกิดเรื่องแบบนี้และจะไม่ยุ่งเกี่ยวกับน้องชายอีกหรือถ้านายต้องการค่าตอบแทนใดๆก็เสนอมาได้เลย ตราบใดที่ฉันทำได้ฉันจะไม่บิดพลิ้วอย่างแน่นอน!”
จี้เฟิงหัวเราะเยาะ“แกคิดว่าฉันจะเชื่อแกง่ายๆอย่างนั้นเหรอ!”
“ฉันคือหยุนเฟยหยางฉันคลุกคลีกับเรื่องนี้พวกนี้มาเกือบ 20 ปี ถ้าฉันไม่มีความน่าเชื่อถือก็คงไม่อาจอยู่มาได้จนถึงทุกวันนี้!” หยุนเฟยหยางกล่าวอย่างเคร่งขรึม
“แล้วลูกสาวของแกล่ะ”จี้เฟิงชี้ไปที่หยุนปิง “ลูกสาวของแกมันจิตไม่ปกติแกรับประกันได้มั้ยว่าเธอจะหยุดอยู่แค่นี้”
หยุนเฟยหยางสะอึกไปเล็กน้อยเขารู้ดีว่าลูกสาวของเขาโกรธแค้นเรื่องนี้มากและไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะห้ามเธอไม่ให้แก้แค้นเรื่องนี้ในอนาคต!
เรื่องในวันนี้มันน่าจะจบลงด้วยดีแน่ๆหยุนเฟยหยางค่อยพาลูกสาวของเขาก้าวถอยหลังไปช้าๆ และกล่าวว่า “แน่นอน! ฉันรับประกันได้! ถ้าน้องชายไม่เชื่อ พวกเราจะออกจากเจียงโจวในวันพรุ่งนี้และจะไม่กลับมาที่นี่อีกเลย เพียงแค่นี้ก็น่าจะพอทำให้น้องชายมั่นใจได้บ้างแล้วใช่มั้ย”
หากจี้เฟิงไม่รู้มาก่อนว่าหยุนเฟยหยางมีส่วนเกี่ยวข้องกับบุคคลสำคัญทั้งหลายในเจียงโจวรวมถึงเครือข่ายบริษัทของเขาก็ตั้งรกรากอยู่ที่เจียงโจวด้วยเช่นกันจี้เฟิงก็อาจจะเชื่อคำพูดของหยุนเฟยหยางจริงๆ แต่ในเขาเมื่อรู้เช่นนี้แล้ว เขาจะเชื่อได้อย่างไร
แม้ว่าหยุนเฟยหยางต้องการที่จะจากไปจริงๆแต่บุคคลสำคัญที่อยู่เบื้องหลังเหล่านั้นจะไม่มีวันปล่อยเขาไปง่ายๆ และที่สำคัญตัวหยุนเฟยหยางเองก็ไม่ได้อยากจะไปจริงๆ กลยุทธ์เพื่อยื้อเวลาแบบนี้ไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะใช้กับจี้เฟิง
“เท่าที่ฉันรู้หลักฐานความสัมพันธ์และความลับต่างๆของแกกับคนใหญ่คนโตในเจียงโจวบางคนนั้นอยู่ในมือแกสินะ!”ในที่สุดจี้เฟิงก็พูดจุดประสงค์ของเขาออกมา “มอบหลักฐานพวกนั้นมา แล้วฉันจะปล่อยแกไป!”
“แล้วฉันจะเชื่อใจได้ยังไง”หัวใจของหยุนเฟยหยางดิ่งวูบลง ในเมื่ออีกฝ่ายรู้เรื่องนี้ก็หมายความว่าอีกฝ่ายรู้เรื่องรากฐานที่เขามีในเจียงโจวแล้วเช่นกัน ดูเหมือนว่าวันนี้เขาจะโชคร้ายมาก
“แกสามารถเลือกที่จะเชื่อได้เท่านั้นเพราะไม่เช่นนั้นแกก็ไม่มีทางเลือกอื่น!”จี้เฟิงพูดอย่างเย็นชา “อย่าทดสอบความอดทนของฉัน ตัวแกเองอาจจะไม่กลัวความตาย แต่ลูกสาวของแก…”
เมื่อจี้เฟิงเอ่ยถึงลูกสาวของเขาดวงตาของหยุนเฟยหยางก็หรี่ลงอย่างดุร้ายเขากล่าวอย่างเคร่งขรึม “ถ้าแกกล้าแตะต้องลูกสาวฉัน ฉันจะไม่มีวันปล่อยแกไป!”
“ฮ่าฮ่า..!แกคิดว่าคำขู่ของแกจะทำอะไรฉันได้งั้นเหรอ” หลังจากที่จี้เฟิงหัวเราะเยาะใบหน้าของเขาก็เปลี่ยนเป็นดุดันขึ้นทันที “ส่งหลักฐานมาซะ!”
“สิ่งเหล่านั้นไม่ได้อยู่ในมือฉันต่อให้แกฆ่าฉันมันก็ไม่มีประโยชน์!” ขณะที่พูดหยุนเฟยหยางยังคงเดินถอยหลังไปเรื่อยๆ จนในที่สุดเขาก็วิ่งเข้าไปที่ตู้วางทีวีเมื่อเขาไปถึงเขาก็พูดขึ้นว่า “ปล่อยฉันกับลูกสาวของฉันไป และฉันจะบอกกับแกว่าหลักฐานพวกนั้นอยู่ที่ไหนเมื่อพวกฉันออกไปจากเจียงโจวแล้ว!”
“ดูเหมือนว่าแกยังไม่รับรู้สถานการณ์ในตอนนี้สินะ!”จี้เฟิงส่ายหัวเล็กน้อยและเดินเข้าไปหาสองพ่อลูกทีละก้าวอย่างช้าๆ “ฉันบอกแกตั้งแต่แรกแล้วไม่ใช่เหรอว่าอย่าพยายามไปหยิบปืน เพราะก่อนที่แกจะได้ปืนมาฉันสามารถฆ่าแกได้ทุกเมื่อ!”
ฟ้าว!ฉึก!
ทันใดนั้นเสียงแหวกอากาศของวัตถุบางอย่างก็ดังขึ้นและในช่วงเวลาต่อมาหยุนเฟยหยางก็รู้สึกถึงความเจ็บปวดที่ข้อมือของเขาและทันใดนั้นปืนพกในมือของเขาก็ตกลงไปที่พื้น
หยุนเฟยหยางจับข้อมือของเขาด้วยใบหน้าที่ซีดเซียวความหวาดกลัวปรากฏขึ้นในดวงตาของเขา มีกุญแจทะลุผ่านข้อมือของเขาและมันดูน่ากลัวมาก!