The Ultimate Student สุดยอดนักเรียนสมองอัจฉริยะ - บทที่ 268 สามหมัด
ในที่สุดก็หมดซักทีคราวนี้ก็เหลือแต่ตัวหัวหน้าแล้วสินะ! เมื่อมองไปที่ชายสองคนที่นอนกรีดร้องโหยหวนอยู่ที่ปลายเท้าของเขา จี้เฟิงก็อดไม่ได้ที่จะแสดงรอยยิ้มอันเย็นชาที่มุมปากของเขา ตำแหน่งที่ทั้งสองคนนี้ซุ่มโจมตีทำให้จี้เฟิงถึงกับพยักหน้าให้ด้วยความชื่นชม พวกเขาซุ่มอยู่ตรงเครื่องจักรที่ไม่เด่นสะดุดตาทางด้านใต้สุดของโรงงานเคมี
ถ้าจี้เฟิงรีบตรงไปที่สำนักงานทางด้านทิศใต้ของชั้นสองทันทีเขาจะต้องผ่านจุดที่สองคนนี้ซุ่มโจมตีอยู่และไม่สามารถหลบหนีได้อย่างแน่นอนถ้าเขาเป็นเพียงคนธรรมดา
คงต้องบอกได้แค่เพียงว่าสองคนนี้โชคไม่ดีจี้เฟิงไม่ได้เลือกที่จะไปที่สำนักงานที่ชั้นสองก่อน แต่เลือกไปทางด้านทิศเหนือ เพื่อที่จะไปหาคนที่เรียกเขา อย่างไรก็ตามแม้ว่าจี้เฟิงจะไม่พบกับคนที่เรียกเขาที่ทางเดินทางด้านเหนือ แต่เขาก็มองเห็นทั้งสองคนที่ซ่อนตัวอยู่ทางทิศใต้
ผลสุดท้ายอันธพาลสองคนนั้นที่วางแผนจะซุ่มโจมตีจี้เฟิงกลับเป็นฝ่ายถูกจี้เฟิงซุ่มโจมตี!
จี้เฟิงทิ้งมีดลงกับพื้นและจมหายเข้าไปในความมืดอีกครั้ง แทนที่จะใช้อาวุธที่ไร้ประโยชน์เช่นนี้เขาสู้ใช้กำปั้นของตัวเองเสียดีกว่า
ในห้องสำนักงานที่ชั้นสองคุณเหวินและเจ้านายตัวน้อยไม่ได้พูดอะไรกันอีกส่วนจี้เฟิงในเวลานี้กำลังไล่นับจำนวนคน พวกเขาสองคนก็กำลังนับอยู่เช่นกัน ยกเว้นคนที่อยู่บนดาดฟ้า คนอื่นๆที่เหลือก็ถูกจี้เฟิงฆ่าไปหมดแล้ว หรือต่อให้พวกเขาไม่ตายก็ไม่มีประสิทธิภาพในการต่อสู้อยู่ดีเทียบไม่ได้กับคนธรรมดาทั่วไปด้วยซ้ำ
พวกเขาไม่รู้ว่าทุกครั้งที่จี้เฟิงจัดการกับอันธพาลเหล่านั้นจี้เฟิงจะค้นตัวพวกเขาเพื่อหาอาวุธ เขาพบทั้งมีดพร้า มีดทำครัวและแน่นอนว่าเขาไม่ได้สนใจจะใช้มันเขาเพียงแต่ยึดมันมาเพื่อป้องกันไม่ให้อาวุธเหล่านี้กลับมาเป็นภัยต่อเขาได้อีกเพราะแม้แต่อาวุธอย่างเช่นปืนพก เขาก็ถอดส่วนประกอบออกมาเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อยและโยนมันไว้ที่พื้นรวมถึงกระสุนปืนด้วย
ด้วยวิธีนี้แม้ว่าคนเหล่านี้จะไม่ได้รับบาดเจ็บแต่ก็เป็นการปิดโอกาสไม่ให้พวกเขากลับมาใช้อาวุธได้อีก แม้ความจริงแล้วต่อให้พวกเขาจะมีอาวุธจี้เฟิงก็ไม่ได้รู้สึกกลัวมันเลยแม้แต่น้อย
คุณเหวินเราจะทำยังไงกันดี! เจ้านายตัวน้อยอดไม่ได้ที่จะกระซิบถาม ตอนนี้เหลือแค่เราสองคนแล้ว ฉันว่าเราออกไปจัดการกับมันพร้อมกันเลยดีมั้ย!
นายเหวินตะคอกอย่างเย็นชา ถ้าฉันออกไปได้ฉันคงออกไปสู้เองตั้งนานแล้วไม่คิดบ้างหรือว่าฉันจะต้องการคุณไปเพื่ออะไร ฉันไม่สามารถให้จี้เฟิงรู้ถึงตัวตนของฉันได้! คุณและลูกน้องของคุณมันไร้ประโยชน์สิ้นดี! แค่ให้คนมานอนรอเพื่อซุ่มโจมตียังทำไม่สำเร็จ มีคนเตือนฉันไว้แล้วแท้ๆ แต่ฉันก็ไม่เชื่อ!
เจ้านายตัวน้อยอดไม่ได้ที่จะทำหน้าเจื่อนๆและรู้สึกอับอายในทีแรกเขาไม่คิดว่างานนี้จะต้องเอาจริงเอาจังอะไรมากมาย ลำพังแค่เขาและมืออาชีพแค่สี่ห้าคนก็น่าจะเพียงพอแล้ว แต่เมื่อตอนที่เขาได้เห็นทักษะการต่อสู้ของคุณเหวิน เขาก็ตระหนักได้ในทันทีว่าเขาก็เป็นเพียงกบที่อยู่ในกะลา ทักษะการต่อสู้ของคุณเหวินไม่ต้องใช้คำจำกัดความอะไรมากนอกจากคำว่าน่ากลัว
เพราะก่อนที่จะดำเนินการในค่ำคืนนี้เจ้านายตัวน้อยไม่เชื่อมั่นในฝีมือของคุณเหวินเป็นผลให้เขาล้มลงหลังจากที่เผชิญหน้ากันได้ไม่ถึงหนึ่งนาที จากนั้นเจ้านายตัวน้อยก็เชื่อในทันทีบวกกับคำสั่งของนายใหญ่จากเบื้องบนด้วย เขาจึงต้องเชื่อฟังคำพูดของคุณเหวิน
แต่สิ่งต่างๆมันได้เลยเถิดจนมาถึงจุดนี้เห็นได้ชัดว่าคุณเหวินพูดถูก ทุกอย่างมันเป็นความรับผิดชอบของฉันและผู้ใต้บังคับบัญชาของฉันเอง ตั้งแต่ที่อีกฝ่ายย่างก้าวเข้ามาในโรงงาน ถ้าไม่ได้เป็นเพราะคุณเหวินยิงช่วยไว้ในตอนนั้น พวกเขาก็คงจะตายไปพร้อมกับความโง่งมงาย
ท้ายที่สุดฉันและลูกน้องของฉันไม่เพียงแต่จะไม่ได้เป็นผู้ช่วยเหลือนายเหวินเท่านั้นแต่ยังเป็นภาระอีกด้วย!
ลืมไปเถอะมันไม่มีประโยชน์อะไรที่จะพูดตอนนี้! นายเหวินอดไม่ได้ที่จะส่ายหัวเล็กน้อยและกล่าวว่า อย่าลืมไปบอกคนอื่นๆให้หนีออกไปจากที่นี่ให้เร็วที่สุด เรื่องมันมาถึงจุดนี้แล้วคงไม่มีประโยชน์อะไรที่จะสู้ต่อ
เขาวางแผนทั้งหมดนี้เพื่อที่จะซุ่มโจมตีจี้เฟิงและจับเขาทั้งเป็นแต่ตอนนี้มันกลายเป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้แล้วที่จะจับจี้เฟิงที่ยังมีชีวิตอยู่
จากสิ่งที่เกิดขึ้นทั้งหมดในวันนี้จะเห็นได้ว่าการต่อสู้บนท้องถนนเมื่อสามวันก่อนจี้เฟิงไม่ได้ใช้พลังออกมาทั้งหมดเขายังคงปิดบังพลังที่แท้จริงเอาไว้อยู่ จากการคาดการณ์ของนายเหวินหากเขาและจี้เฟิงต่อสู้กันด้วยความสามารถทั้งหมดที่มี เขามั่นใจว่าคนที่จะมีชีวิตรอดเหลือเป็นคนสุดท้ายก็คือตัวของเขาเอง แต่เขาก็ไม่สามารถรับประกันได้ว่าเขาจะสามารถจับจี้เฟิงได้แบบที่มีชีวิตอยู่
แน่นอนว่าเขาคงไม่คิดที่จะทำเรื่องที่โง่เขลาเช่นนี้การทำให้ตระกูลจี้โกรธเกรี้ยวไม่ใช่เรื่องที่ฉลาดเลย เมื่อถึงตอนนั้นอย่าว่าแต่จะไปช่วยศิษย์พี่ศิษย์น้องคนอื่นๆเลย ฉันกลัวว่าแม้แต่ท่านอาจารย์เองก็ต้องพลอยได้ประสบกับการแก้แค้นที่บ้าคลั่งของตระกูลจี้ไปด้วย ดังนั้นเรื่องที่โง่เขลาเช่นนี้ไม่ใช่สิ่งที่คนฉลาดควรทำ
หนี..หนีไปให้เร็วที่สุด เจ้านายตัวน้อยสะดุ้งและพูดอย่างรีบร้อน แต่คุณเหวินคนอื่นๆต่างได้รับบาดเจ็บแล้วจะให้ฉันหนีออกไปได้ยังไง?
ไม่ต้องห่วงฉันได้บอกคนของฉันแล้วว่าให้มาช่วยพาพวกเขาทั้งหมดกลับไปหรือคุณคิดจะแบกพวกเขากลับไปทั้งหมดด้วยตัวคนเดียวจริงๆ นายเหวินตะคอกอย่างเย็นชา
แล้วถ้าไอ้เด็กนั่นมันไล่ตามพวกเราไปล่ะจะทำยังไง เจ้านายตัวน้อยถามอย่างงงๆ
ฉันจะหยุดเขาเอาไว้เองคุณก็รีบไปได้แล้ว นายเหวินเริ่มหมดความอดทน ออกไป!
เจ้านายตัวน้อยดีใจมากเมื่อได้ยินดังนั้นจึงรีบวิ่งออกไปอย่างเร่งรีบและในขณะที่กำลังวิ่งจากไปเขาก็กล่าวว่า ขอบคุณ ขอบคุณมากคุณเหวิน…อั่ก!
ก่อนที่เขาจะพูดจบเขาก็รู้สึกว่าคอของเขาถูกบีบรัดแน่นและเขาก็ไม่สามารถช่วยเหลือตัวเองได้เลยเขาตกใจมาก
ความหนาวเย็นที่น่าขนลุกเกิดขึ้นพร้อมกับความหวาดกลัวได้พุ่งเข้าไปในหัวใจของเจ้านายตัวน้อยอย่างทันทีเขามาที่นี่ตั้งแต่เมื่อไหร่ ทำไมฉันไม่ได้ยินเสียงฝีเท้าของเขาเลย!
จี้เฟิงบีบคอของเจ้านายตัวน้อยด้วยมือข้างเดียวและยิ้มเหี้ยม ยังไงกันล่ะเนี่ย เชิญฉันมาที่นี่ทั้งที แต่คุณกลับไม่ต้อนรับฉันดีๆ แล้วจะหนีกลับไปทั้งแบบนี้เนี่ยนะ มันไม่เสียมารยาทเกินไปหน่อยเหรอ?
แม้ว่าจะเป็นเสียงหัวเราะแต่เสียงที่ดังเข้าไปในโสตประสาทของเจ้านายตัวน้อยมันเหมือนกับเป็นสัญญาณเตือนถึงอันตรายเขาแทบจะกรีดร้องออกมา ลูกน้องของฉันทั้งหมดถูกเขาจัดการจนเรียบ แต่ยังมาพูดว่าไม่ได้รับการต้อนรับอีกงั้นเหรอ เขาต้องการจะไล่ต้อนเราจนกว่าพวกเราทั้งหมดจะตายเลยหรือยังไง?!
อย่างไรก็ตามแม้ว่าเจ้านายตัวน้อยจะหวาดกลัวและอยากกรีดร้องออกมาแค่ไหนเขาก็ไม่สามารถพูดอะไรออกมาได้เลย เพราะลำพังแค่การหายใจก็เป็นเรื่องที่ลำบากมากพอแล้ว
นายเหวินที่นั่งอยู่ในสำนักงานยืนขึ้นทันทีดวงตาของเขาสว่างวาบแม้จะอยู่ในความมืด เขาจ้องไปที่จี้เฟิงอย่างไม่วางตา ในแววตาของเขามีการสั่นไหวบ้างเป็นบางครั้ง Aileen-novel
เก่ง!คุณเก่งมาก! ดูเหมือนนายเหวินจะไม่เห็นเจ้านายตัวน้อยที่ถูกบีบคออยู่ เขาเพียงแต่จ้องมองตรงไปที่จี้เฟิง ตั้งแต่ครั้งแรกที่ฉันเห็นคุณจนถึงตอนนี้ คุณทำลายสิ่งที่ฉันได้รู้เกี่ยวกับตัวคุณอย่างหมดสิ้น ความแข็งแกร่งของคุณทำให้ฉันรู้สึกประทับใจจริงๆ!
น่าเสียดายที่ฉันไม่รู้สึกแบบนั้นกับคุณแต่กลับรู้สึกผิดหวังเล็กน้อย จี้เฟิงพูดเบาๆ ถ้าฉันเข้าใจไม่ผิดคุณและจูหยงเต๋ามาจากสถานที่เดียวกันใช่มั้ย
ถูกต้อง! นายเหวินพยักหน้าเล็กน้อย พวกเรามาจากสถานที่เดียวกัน แต่บอกฉันหน่อยได้หรือไม่ว่าทำไมฉันถึงทำให้คุณรู้สึกผิดหวัง
โอ้~! จี้เฟิงยกมือซ้ายที่ยังว่างอยู่ขึ้นพร้อมกับชูนิ้วและส่ายอยู่ตรงหน้า พวกคุณต่างก็หยิ่งผยองและทระนงตัว คิดว่าตัวเองจะอยู่ยงคงกระพันในโลกใบนี้และไม่มีใครสามารถอยู่เหนือพวกคุณได้ แต่ก็น่าเสียดายที่ความจริงแล้วพวกคุณก็แค่คนที่พอจะมีความสามารถพิเศษกว่าคนอื่นอยู่เล็กน้อยเท่านั้น หากไม่ใช่เพราะฉันต้องการรู้ที่มาของคุณ ฉันก็คงจะไม่มาที่นี่ในวันนี้ เพราะคนอย่างคุณมันไม่คู่ควร!
สีหน้าของนายเหวินเปลี่ยนไปอย่างกะทันหันเขามองไปที่จี้เฟิงด้วยสายตาที่เย็นชาและยิ้มอย่างเยาะเย้ย โอเค! ดีๆ คุณเป็นคนแรกที่กล้าพูดแบบนี้ต่อหน้าหวังเหวินเหลียง ทีแรกฉันตั้งใจที่จะปล่อยนายกลับไป แต่ตอนนี้ดูเหมือนว่าถ้าไม่สั่งสอนบทเรียนให้คุณสักหน่อยคุณก็คงจะไม่รู้ว่าเหนือฟ้ายังมีฟ้าสินะ!
ปรากฏว่าคนที่ชื่อนายเหวินไม่ใช่ใครอื่นแต่เขาคือหวังเหวินเหลียง ชายหนุ่มที่เดินทางมาที่เจียงโจวพร้อมกับเฉียวหรง
จี้เฟิงเยาะเย้ย คุณไม่ได้พูดเรื่องตลกให้ฉันฟังอยู่ใช่มั้ย
เขาโยนเจ้านายตัวน้อยออกไปเจ้านายตัวน้อยเหมือนกับเห็นอากงโบกมือลาอยู่ไกลๆเขารีบสูดอากาศเข้าปอดอย่างตะกละตะกลาม เขาไม่เคยรู้สึกมาก่อนเลยว่าการได้หายใจมันช่างเป็นพรอันประเสริฐมากขนาดนี้ เขาไม่อาจทราบซึ้งถึงการได้สูดลมหายใจได้มากไปกว่านี้อีกแล้ว!
ฉันจะให้โอกาสคุณได้พิสูจน์ว่าสิ่งที่คุณพูดมันผิดหรือถูกกันแน่! จี้เฟิงขยับข้อมือเล็กน้อยพร้อมกับรอยยิ้มชั่วร้ายที่มุมปาก หรือถ้าคิดจะหนี ตอนนี้ก็เป็นโอกาสที่ดีนะ!
มั่นใจมากขนาดนั้นเลย หวังเหวินเหลียงขมวดคิ้ว ในการมองจี้เฟิงที่อยู่ในความมืด เขาไม่ได้มีความสามารถพิเศษแบบจี้เฟิงที่จะสามารถมองเห็นในที่มืดได้อย่างชัดเจน เขาแค่อาศัยการไหลเวียนของอากาศโดยรอบและการเพ่งมองที่ให้ผลลัพธ์อย่างไม่ชัดเจนนักเพื่อรู้ถึงตำแหน่งของจี้เฟิง
จี้เฟิงไม่ต้องการพูดต่อความยาวสาวความยืดอีกต่อไปเขาเพียงแค่หันหลังและเดินออกจากสำนักงานหลังจากเดินออกไปไม่กี่ก้าวเขาก็หันกลับมามอง ฉันจะไปรอคุณที่ห้องปฏิบัติงานด้านล่าง อย่าทำให้ฉันผิดหวัง!
เมื่อพูดจบร่างของเขาก็จมหายไปในความมืดอย่างเงียบๆ
สีหน้าของหวังเหวินเหลียงเริ่มที่จะจริงจังขึ้นด้วยความช่วยเหลือของความมืดที่ปกคลุมไปทั่วโรงงานเคมีจี้เฟิงสามารถลงไปข้างล่างได้อย่างเงียบเชียบ หวังเหวินเหลียงมั่นใจมากว่าเขาก็ทำเช่นนั้นได้ แต่จะให้ทำเหมือนกับมันเป็นเรื่องง่ายอย่างจี้เฟิงนั้นเขาไม่สามารถทำได้!
และทันใดนั้นเองหวังเหวินเหลียงก็ตระหนักได้ว่าเขาได้พบกับคนจริงและคนคนนี้ยังเป็นคู่ต่อสู้ที่แข็งแกร่ง!
แม้ว่าจี้เฟิงจะจัดการผู้คนที่แอบซุ่มโจมตีอยู่ก่อนหน้านี้ได้ทั้งหมดในความมืดแต่นั่นก็เป็นเพราะคนเหล่านั้นฝีมือแย่มาก ดังนั้นแม้ว่าหวังเหวินเหลียงจะรู้สึกว่าจี้เฟิงแข็งแกร่ง แต่เขาก็ไม่คิดอยู่ดีว่าจี้เฟิงจะสามารถเอาชนะเขาได้
แต่ตอนนี้หวังเหวินเหลียงไม่ได้คิดอีกต่อไปว่าเขาจะจับจี้เฟิงทั้งที่ยังมีชีวิตอยู่ได้หรือไม่แต่กำลังคิดว่าคืนนี้ตัวเขาเองนั้นจะสามารถออกไปจากที่นี่ทั้งๆที่ยังมีชีวิตอยู่ได้หรือเปล่า!
ด้วยทักษะที่แปลกประหลาดและน่าสะพรึงกลัวของจี้เฟิงถ้าจี้เฟิงต้องการจะแอบโจมตีหวังเหวินเหลียงโดยอาศัยความมืดมิด มันก็คงไม่มีอะไรง่ายไปกว่านี้อีกแล้ว และเขาก็คงจะหนีไม่พ้นอย่างแน่นอน!
เป็นครั้งแรกที่หวังเหวินเหลียงมีความคิดที่จะหาทางออกทางอื่นนอกเหนือจากการต่อสู้ด้วยทักษะที่เขามั่นใจแต่ในขณะนั้นเองเสียงของจี้เฟิงก็ดังขึ้นมาจากชั้นล่าง ถ้าคุณไม่กล้าลงมา คุณก็เลือกที่จะวิ่งหนีไปก็ได้นะ ถ้าคุณสามารถวิ่งหนีพ้นเขตโรงงานไปได้ ฉันสัญญาว่าฉันจะไม่ไล่ตามคุณ!
เลือดที่ร้อนระอุไหลขึ้นมาที่หัวและดวงตาของหวังเหวินเหลียงทันทีดวงตาของเขาแดงก่ำเป็นสีเลือด คนอย่างเขาไม่เคยถูกดูหมิ่นเช่นนี้มาก่อน!
การมีชีวิตยืนยาวมันไม่ใช่เรื่องดีสำหรับแกสินะ! หวังเหวินเหลียงพูดอย่างเย็นชาและก้าวออกไป
จี้เฟิงยืนรออยู่แล้วที่ห้องปฏิบัติงานของโรงงานเคมีชั้นหนึ่งเมื่อเห็นหวังเหวินเหลียงเดินลงมาเขาก็อดยิ้มไม่ได้ วันนี้คุณยิงฉันสามครั้งดังนั้นฉันจะชกคุณแค่สามหมัดเท่านั้น และตราบใดที่คุณสามารถหลบมันได้ ฉันจะไม่ติดตามเอาความเรื่องในวันนี้อีกต่อไป!
อวดดี! หวังเหวินเหลียงตะคอกอย่างโกรธแค้น ฝึกฝนมวยมาไม่กี่วัน คุณคิดว่ามันจะช่วยให้คุณอยู่ยงคงกระพันได้จริงๆหรือ วันนี้ฉันจะทำให้คุณได้รู้ว่าศิลปะการต่อสู้ด้วยกำลังภายในที่แท้จริงเป็นยังไง!
กำลังภายใน
หัวใจของจี้เฟิงกระตุกเล็กน้อยแต่นี่ไม่ใช่เวลาจะมาสนใจอย่างอื่น เขาเอ่ยขึ้นมาเบาๆ หมัดแรก!
มา! จี้เฟิงเปลี่ยนจากท่วงท่าที่สงบนิ่งเป็นเคลื่อนไหวอย่างรวดเร็วการเปลี่ยนแปลงที่แตกต่างกันอย่างสิ้นเชิงเกิดขึ้นในเสี้ยววินาที แต่วินาทีต่อมาหมัดอันรุนแรงของจี้เฟิงก็ได้ไปถึงร่างของหวังเหวินเหลียงอย่างรวดเร็วราวกับสายฟ้า!
ทันใดนั้นใบหน้าของหวังเหวินเหลียงก็เปลี่ยนไปอย่างมากความตื่นตะลึงและไม่อยากจะเชื่อปรากฏขึ้นอยู่ในแววตาของเขา!