The Ultimate Student สุดยอดนักเรียนสมองอัจฉริยะ - บทที่ 304 ในคืนหนึ่ง
จี้เฟิงใช้ปากของเขาประกบริมฝีปากสีแดงอวบอิ่มของเซียวหยูซวนลิ้นของเขาชอนไชไปยังช่องปากที่อุ่นชื้น เขาจับเอวที่เรียวบางของเธอด้วยมือข้างหนึ่ง และก้นที่อวบเด้งของเธอด้วยมืออีกข้าง เขาใช้ร่างกายบางส่วนกดเธอลงกับเตียงที่หนานุ่มและสบาย
“อ่า~”เซียวหยูซวนรู้สึกได้ว่ามือใหญ่ที่แข็งแรงของจี้เฟิงกำลังบีบสะโพกของเธออย่างแรงจนถึงกับทำให้เธอสั่นไปทั้งตัว ความรู้สึกร้อนวูบวาบไล่ขึ้นมาจากท้องน้อยทำให้ทั้งร่างกายของเธอเร่าร้อนขึ้นแต่กลับรู้สึกไร้เรี่ยวแรง
ดวงตาของเซียวหยูซวนพร่ามัวเธอไม่รู้ว่าจะวางมือเล็กๆของเธอไว้ตรงไหนดี สุดท้ายเธอจึงทำได้เพียงโอบรอบคอของจี้เฟิงเอาไว้และปล่อยให้เขาทำในสิ่งที่ต้องการ
เนื่องจากอากาศที่เริ่มเย็นเซียวหยูซวนจึงสวมชุดนอนผ้าฝ้าย จี้เฟิงพยายามที่จะถอดมันออกอยู่สองสามครั้งแต่ดูเหมือนจะไม่ทันใจ เขาคว้าชุดนอนของเซียวหยูซวนและกระชากมันออกทันที
ทันใดนั้นร่างกายที่บอบบางและสองเนินขาวเด่นก็ปรากฏขึ้นต่อหน้าจี้เฟิง!
เอื้อก!
จี้เฟิงเผลอกลืนน้ำลายอย่างแรงโดยไม่รู้ตัวเขาจับเนินอกที่นุ่มเด้งของเธอด้วยมือข้างหนึ่งและใช้มืออีกข้างหนึ่งบีบเคล้นสะโพกของเธออย่างแรง พร้อมกับก้มลงจูบริมฝีปากสีแดงของเธออีกครั้งอย่างคนที่หิวกระหายจากนั้นเขากลับมาจูบไซร้ที่คอของเซียวหยูซวนอย่างนุ่มนวลและค่อยๆไล่ลงต่ำมาเรื่อยๆ
“อ๊ะ!อ่า~” เซียวหยูซวนครวญครางโดยไม่รู้ตัว ร่างกายที่บอบบางเกร็งแน่น ขาที่เรียวยาวขาวเนียนราวกับหิมะบีบรัดหัวของจี้เฟิงอย่างแรง วินาทีต่อมาเธอรู้สึกได้ถึงกระแสความร้อนพวยพุ่งออกมา และในที่สุดทั้งห้องก็เงียบลง เหลือแค่เพียงเสียงหอบหายใจของพวกเขาสองคน ณห้องพักสำหรับแขกในเวลานี้ คุกรุ่นไปด้วยบรรยากาศที่วาบหวาม ใบหน้าของพวกเขาแดงระเรื่อและหัวใจที่เต้นรัว
ดวงตาของเซียวหยูซวนเต็มไปด้วยความมึนเมาเธอนอนแผ่อยู่บนเตียงอย่างอ่อนแรง นึกถึงความรู้สึกที่ยอดเยี่ยมที่เธอเพิ่งจะได้รับ มันรู้สึกเหมือนกับว่าเธอกำลังบินอยู่ โดยเฉพาะตอนที่จี้เฟิงจูบลงตรงจุดที่อ่อนไหวของเธอ มันทำให้เธอรู้สึกเคลิบเคลิ้มและหลงทาง
ความมัวเมาที่ทำให้เธอรู้สึกดีเช่นนี้เธอไม่เคยสัมผัสมันมาก่อนและมันก็วิเศษมาก!
จี้เฟิงกัดต้นขาเรียวของเซียวหยูซวนเบาๆและเสียงครวญครางราวกับลูกแมวตัวน้อยของเธอไม่ทำให้เขาผิดหวังเลยจริงๆ ไฟชั่วร้ายในใจของจี้เฟิงปรากฏขึ้นอีกครั้ง เขาพลิกร่างกายที่มีเสน่ห์ของเซียวหยูซวนและกำลังจะจับดาบเข้าฝัก
แต่ในขณะที่ดาบใกล้จะถึงฝักและขณะที่ทั้งสองสัมผัสกันเพียงเล็กน้อย ร่างกายที่อ่อนไหวของเซียวหยูซวนก็สั่นสะท้านทันทีและกระแสความร้อนก็ไหลออกมาอีกครั้ง
มาอีกแล้ว‘ความสุขที่แสนวิเศษ’ นั่น!
ร่างกายของเซียวหยูซวนอ่อนไหวมากจริงๆ
ความรู้สึกที่ลื่นไหลและอ่อนโยนทำให้จี้เฟิงอดใจไม่ไหวอีกต่อไปแต่ทันทีที่เขากำลังจะเคลื่อนไหวและทำอย่างที่ใจและร่างกายของเขาต้องการ เขาก็ได้ยินเสียงกระซิบของเซียวหยูซวน “จี้เฟิง อย่า…”
จี้เฟิงชะงักและตกตะลึงเขานึกถึงสิ่งที่เซียวหยูซวนเคยพูดไว้ก่อนหน้านี้ ครั้งแรกของเธอและเขา… เธอต้องการมันในคืนวันแต่งงาน จี้เฟิงอดไม่ได้ที่จะกัดฟันอย่างลับๆ
ตอนนี้ลูกธนูอยู่บนสายแล้วเหลือเพียงแค่ยิงมันออกไป เขายังจะต้องสนใจอะไรอีก
เมื่อสัมผัสได้ถึงความต้องการอันแรงกล้าของจี้เฟิงหัวใจของเซียวหยูซวนก็สั่นสะท้านขึ้นมาทันที อันที่จริงตอนนี้เธอไม่รังเกียจที่จะให้จี้เฟิงได้ทำตามความปรารถนา แต่เวลานี้เธออยู่ที่บ้าน เธอเคยได้ยินมาว่าครั้งแรกของผู้หญิงจะกรีดร้องด้วยความเจ็บปวด เธอกลัวว่าเสียงของเธอจะทำให้พ่อแม่ของเธอได้ยิน
เมื่อความคิดนี้แวบเข้ามาในหัวเธอเองก็ไม่รู้ว่าพลังมาจากไหน จู่ๆเธอก็หันกลับมานั่งตัวตรงและมองดูท่าทางที่ตะลึงงันของจี้เฟิง เธอพูดอย่างเขินอาย “จิ๊กโก๋น้อย ให้ฉันช่วยนายด้วยวิธีอื่น…”
ก่อนที่จี้เฟิงจะตอบริมฝีปากสีแดงอันอวบอิ่มของเซียวหยูซวนก็จูบลงที่หน้าออกของจี้เฟิง เธอแลบลิ้นเล็กๆอันอ่อนนุ่มของเธอออกมาวาดเป็นวงกลมบนร่างกายของจี้เฟิง ในใจนึกถึงคำพูดของเพื่อนร่วมห้องในสมัยก่อน เป็นทริคเล็กๆในเรื่องแบบนี้…
ปากของเซียวหยูซวนเลื่อนลงมาที่หน้าท้องของจี้เฟิงแต่เธอไม่หยุดแค่นั้นปากและลิ้นอุ่นๆของเธอยังคงไล่ต่ำลงไปเรื่อยๆและเธอก็อ้าปากน้อยๆของเธอ….
“ฟู่~”
จี้เฟิงผ่อนลมหายใจเย็นๆความรู้สึกสบายอย่างหาที่เปรียบไม่ได้แผ่กระจายไปทั่วร่างกาย!
………………
เซียวหยูซวนสำลักไอไม่หยุดเป็นเพราะมังกรของจี้เฟิงได้ปลดปล่อยน้ำอุ่นๆออกมาโดยที่เธอไม่ทันได้ตั้งตัว ในที่สุดจี้เฟิงก็สงบลง เขาถอนหายใจด้วยความสบายอย่างบอกไม่ถูก ความรู้สึกบางอย่างระเบิดไปทั่วร่างกายของเขา!
เซียวหยูซวนเงยหน้าขึ้นนัยน์ตาโตเป็นประกายของเธอทำให้จี้เฟิงรู้สึกหลงเสน่ห์ เธอกล่าวว่า “เจ้าหนูน้อย ฉันเกือบสำลักตายเพราะเธอ!”
จี้เฟิงยิ้มและหัวเราะเซียวหยูซวนรีบยกมือขึ้นปิดปากของเขาไว้ด้วยความกลัว “จิ๊กโก๋น้อย อย่าส่งเสียงดังสิ ถ้าพ่อแม่ของฉันได้ยินและรู้ว่าฉันอยู่ที่นี่ ฉันจะทำตัวยังไง!”
“ได้ยินก็ไม่เห็นเป็นไรเราก็อธิบายไปตามความจริงสิ!” จี้เฟิงจับมือเล็กๆของเซียวหยูซวนออกแล้วพูดด้วยรอยยิ้ม “ที่รัก ลิ้นเล็กๆของเธอมันยืดหยุ่นดีจัง…”
“อย่าพูด…นะ!”เซียวหยูซวนร้องห้ามด้วยความเขินอาย แม้จะอยู่ในความมืดแต่เธอก็รู้สึกได้ว่าใบหน้าของเธอในเวลานี้ต้องแดงก่ำอย่างแน่นอน
เจ้าบ้าคนนี้สบายตัวแล้วยังจะเอาเรื่องนี้มาพูดอีก!
แม้ว่าเซียวหยูซวนจะดูเหมือนผู้หญิงที่มีประสบการณ์และเต็มไปด้วยเสน่ห์ในด้านนี้แต่ความจริงแล้วเธอก็ไม่ต่างจากเด็กสาววัยแรกรุ่นที่ยังบริสุทธิ์ไร้เดียงสา แน่นอนว่าเรื่องที่เกิดขึ้นในคืนนี้เป็นครั้งแรกสำหรับเธอ แล้วจะให้เธอมานั่งฟังจี้เฟิงพูดเรื่องไร้สาระแบบนี้อีกงั้นหรือ
จี้เฟิงไม่ได้หยอกล้อเธออีกอย่างไรก็ตามนี่ก็เป็นครั้งแรกสำหรับจี้เฟิงเช่นกัน เมื่อนึกถึงฉากอันน่าหลงใหลเมื่อกี้ เขาก็รู้สึกดีใจขึ้นมาทันที
ว่ากันว่าถ้าผู้หญิงเต็มใจที่จะทำเช่นนี้เพื่อคุณนั่นก็แสดงว่าเธอรักคุณจริงๆ และการกระทำของเซียวหยูซวนได้อธิบายทุกอย่างแล้ว
“หยูซวนที่รักคืนนี้อยู่ที่นี่เถอะ ฉันสัญญาว่าจะไม่บังคับเธอ” จี้เฟิงกระซิบเบาๆและกอดเซียวหยูซวนไว้ในอ้อมแขนของเขาอย่างอ่อนโยน เขาสัมผัสได้ถึงผิวที่เนียนนุ่มของเธอ
เมื่อเซียวหยูซวนได้ยินเสียงกระซิบพร้อมกับสัมผัสจากจี้เฟิงหัวใจของเธอก็เต้นแรงทันที ทำไมเธอถึงไม่อยากจะซุกตัวนอนอยู่ในอ้อมแขนอันแข็งแกร่งของจี้เฟิงและหลับไปทั้งแบบนี้ล่ะ
แต่เมื่อคิดดูแล้วพ่อแม่ของเธอก็อยู่ข้างบน โดยเฉพาะแม่ของเธอที่มักจะตื่นตั้งแต่เช้ามืดอยู่เป็นประจำ เซียวหยูซวนก็ไม่กล้าที่จะอยู่ต่อ
“ไม่ดีกว่าทุกวันแม่ของฉันจะตื่นแต่เช้าเพื่อเตรียมอาหาร แล้วถ้าเธอรู้ว่าฉันอยู่ในห้องของนาย เมื่อถึงตอนนั้นฉันก็คงไม่มีหน้าที่จะอยู่ที่บ้านนี้จริงๆแล้วล่ะ!” เซียวหยูซวนพูดอย่างเขินอาย
จี้เฟิงรู้สึกผิดหวังทันทีการได้นอนกอดเซียวหยูซวนไว้ในอ้อมแขนของเขาจนพากันหลับไปเป็นเรื่องที่เขาอยากทำมาก แต่เขาก็ไม่ต้องการให้เซียวหยูซวนดูไม่ดี เพราะพวกเขาสองคนยังไม่ได้แต่งงานกันเลย แต่ถ้าอยู่ที่อื่นก็คงไม่เท่าไหร่ เพราะต่อให้พ่อแม่ของเธอรู้ก็คงจะแสร้งทำเป็นไม่รู้ แต่ตอนนี้พวกเขาอยู่ในบ้าน มันก็ออกจะแสร้งทำเป็นไม่รู้ยากหน่อย…
“จิ๊กโก๋น้อยอย่าทำหน้าแบบนั้นสิ ฉันจะอยู่ต่ออีกหน่อยแล้วค่อยกลับไปทีหลังก็แล้วกัน แบบนี้โอเคมั้ย” เซียวหยูซวนอดไม่ได้ที่จะกระซิบบอก เธอรู้สึกทนไม่ได้เมื่อเห็นสีหน้าที่ผิดหวังของจี้เฟิง
จี้เฟิงรู้สึกดีใจมากและยิ้มอย่างมีความสุขขึ้นมาทันทีเขาอุ้มเซียวหยูซวนขึ้นมาและวางเธอลงบนเตียงอย่างแผ่วเบา จากนั้นก็มุดเข้าไปในผ้าห่มและกอดเซียวหยูซวนเอาไว้แน่น
ทั้งสองคนพูดคุยกันอย่างช้าๆมันทำให้ความสัมพันธ์ของพวกเขาลึกซึ้งขึ้นอย่างรวดเร็ว
ในช่วงเวลานั้นจี้เฟิงผู้ซึ่งกำลังโอบกอดร่างกายที่บอบบางของเซียวหยูซวนไว้ในอ้อมแขนอดไม่ได้ที่จะรู้สึกร้อนวูบวาบขึ้นมาอีกครั้ง
แต่สุดท้ายจี้เฟิงก็ไม่ได้ขอเซียวหยูซวนเพื่อทำมันที่นี่เพราะสำหรับเขาแล้วแม้จะรู้สึกเสียใจและเสียดายแต่ก็ไม่ได้มากมายอะไร อย่างไรก็ตามเขายังมีโอกาสอีกมากในอนาคต เพราะเซียวหยูซวนเป็นผู้หญิงของเขาแล้วอย่างไม่ต้องสงสัย
ไม่รู้ว่าเวลาผ่านไปนานแค่ไหนเสียงของเซียวหยูซวนค่อยๆลดลงและในที่สุดเธอก็เงียบไป
เซียวหยูซวนได้สัมผัสถึงความสุขสุดยอดถึงสองครั้งและเธอก็รู้สึกเหนื่อยกับสองครั้งนั้น และในที่สุดเธอก็ผล็อยหลับไป
ในความมืดจี้เฟิงมองดูใบหน้าที่สวยงามของเซียวหยูซวน เขายิ้มเล็กน้อยและห่มผ้าห่มให้เธอเบาๆ จากนั้นก็นอนกอดเธอและผล็อยหลับไปอย่างช้าๆ
ในตอนที่ท้องฟ้าใกล้จะสว่างจี้เฟิงก็อุ้มเซียวหยูซวนขึ้นมาอย่างเบามือและพาเธอไปส่งที่ห้องนอนชั้นบนอย่างเงียบๆ กระบวนการทั้งหมดแทบจะไม่มีเสียงใดๆออกมาเลย
เรื่องแบบนี้เป็นเรื่องง่ายสำหรับจี้เฟิงที่ผ่านการฝึกฝนมาแล้วเขายังเคยคิดเล่นๆเลยว่าถ้าวันไหนที่ไม่รู้จะทำมาหากินอะไร การเป็นสายลับก็ไม่เลว…
เช้าวันรุ่งขึ้นจี้เฟิงตื่นแต่เช้าเขาเพิ่งจะเดินออกจากห้องพักไปก็ได้ยินเสียงมาจากในครัว เขามองดูเวลาและแอบยิ้มอยู่ในใจ เซียวหยูซวนพูดถูกแฮะ แม่ยายในอนาคตของฉันเป็นคนขยันจริงๆ!
ตอนนี้ยังไม่หกโมงด้วยซ้ำแต่แม่ของเซียวหยูซวนก็กำลังยุ่งอยู่ในครัวแล้ว เห็นได้ชัดว่าที่เซียวฉางเหอสามารถประสบผลสำเร็จมาได้ขนาดนี้ส่วนหนึ่งเป็นเพราะแรงสนับสนุนที่ดีจากภรรยาที่อยู่เบื้องหลังเขาอย่างเงียบๆแน่นอน! เมื่อได้ทานอาหารเช้าใบหน้าของเซียวหยูซวนยังคงแดงระเรื่อ เธอมองจี้เฟิงด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยคำถาม จี้เฟิงเข้าใจและส่งยิ้มให้เธอทันที
เซียวหยูซวนรู้สึกโล่งใจขึ้นเล็กน้อยซึ่งหมายความว่าจี้เฟิงได้อุ้มเธอเข้าไปในห้องนอนโดยที่ไม่ได้ส่งเสียงรบกวนพ่อแม่ของเธอ
หลังจากรับประทานอาหารเช้าเสร็จจี้เฟิงและเซียวฉางเหอนั่งในห้องนั่งเล่นเพื่อหารือเกี่ยวกับการดำเนินการเรื่องโรงงานผลิตยาภายในวันนี้กับหยางเต๋อจ้าว ในขณะที่เซียวหยูซวนตามแม่ของเธอเข้าไปในครัวเพื่อล้างจาน
“ซวนซวนบอกความจริงกับแม่ เมื่อคืนลูกได้ไปค้างคืนที่ห้องของเสี่ยวเฟิงหรือเปล่า!” ประโยคแรกของแม่ก็ทำให้เซียวหยูซวนต้องตกใจ จนเกือบจะทำชามที่อยู่ในมือหล่นลงบนพื้น
“แม่!แม่กำลังพูดเรื่องอะไร!” ใบหน้าของเซียวหยูซวนแดงขึ้น เธอไม่กล้าแม้แต่จะสบตาแม่ของเธอตรงๆ หัวใจของเธอเต้นแรง เป็นไปได้หรือเปล่าว่าในตอนที่จี้เฟิงอุ้มเธอกลับไปที่ห้องนอน เขาทำเสียงดังจนทำให้แม่รู้เรื่องนี้แล้ว?
แม่ของเซียวหยูซวนพ่นลมหายใจและกล่าวว่า“สาวน้อย ยังจะโกหกแม่อยู่อีกเหรอ ไม่รู้เหรอว่าแม่นอนดึกทุกคืน เมื่อวานตอนเที่ยงคืนแม่ได้ยินเสียงลูกเดินลงไปข้างล่าง แม่รอจนผล็อยหลับไปก็ไม่ได้ยินแม้แต่เสียงของลูกเดินกลับขึ้นไปข้างบน!”
“แม่คะหนูแค่ลงไปคุยกับเขา หนู.. หนูไม่ได้ทำอะไรอย่างอื่นเลย!” เซียวหยูซวนอธิบายอย่างตะกุกตะกัก เธอรู้สึกละอายใจมากจนไม่กล้าเงยหน้าขึ้น
แล้วจะให้เซียวมู่เชื่อได้อย่างไร
เซียวมู่ถอนหายใจเบาๆแล้วพูดว่า“ลูกรัก แม่รู้ว่าลูกก็โตแล้วสามารถตัดสินใจว่าจะทำหรือไม่ทำอะไรด้วยตัวเองได้แล้ว แต่แม่อยากให้ลูกระวังตัวและจำไว้ให้ดี ถ้ามีอะไรเกิดขึ้น ลูกผู้หญิงอย่างเรามักจะเป็นฝ่ายที่ต้องทนทุกข์ทรมานอยู่เสมอ ต่อจากนี้ถ้าลูกกับเสี่ยวเฟิงจะค้างคืนด้วยกัน ก็ให้ใส่ใจเรื่องการป้องกันมาเป็นอันดับแรก หรือถ้าให้ดีก็อย่าเพิ่งทำอะไรจะดีกว่า รู้มั้ย”
เซียวหยูซวนแทบจะวิ่งหนีไปด้วยความอับอายคำพูดของแม่มันตรงไปตรงมาเกินไปหรือเปล่า
เธออยากจะอธิบายให้แม่ของเธอฟังว่าเธอกับจี้เฟิงไม่ได้ทำอะไรเกินเลย… แต่เธอก็จำเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อคืนได้อย่างแม่นยำ จะให้เธออธิบายเรื่องพวกนั้นไปว่ายังไง ยกเว้นขั้นตอนสุดท้าย เธอและเขาก็แทบจะทำมันทุกอย่างด้วยกันแล้วไม่ใช่หรือ?
หลังจากนั้นไม่นานเซียวหยูซวนก็ทำได้แค่เพียงพยักหน้าอย่างเขินอาย“รู้แล้วค่ะแม่!”
บทที่ 305 เถ้าแก่จี้แห่งโรงงานเภสัชกรรมเถิงเฟย
ระหว่างทางไปโรงงานผลิตยาของหยางเต๋อจ้าวใบหน้าของเซียวหยูซวนยังคงแดงไม่หาย ดวงตาของเธอเต็มไปด้วยความเขินอาย
คำพูดของเซียวมู่แม่ของเธอทำให้เธอรู้สึกอายมากจริงๆ
โดยเฉพาะเมื่อนึกถึงคำพูดที่แม่บอกกับเธอว่า“ป้องกันให้ดี” มันทำให้เซียวหยูซวนรู้สึกอับอายอย่างมาก แต่เธอก็ไม่รู้ว่าจะพูดแก้ตัวยังไงดี เรื่องนี้จะโทษใครได้อีก ใครใช้ให้เธอใจร้อนรีบลงไปหาจี้เฟิงในตอนที่แม่ของเธอยังไม่หลับ
“หยูซวนเป็นอะไรรึเปล่าไม่สบายเหรอ” จี้เฟิงมองไปที่ใบหน้าที่แดงระเรื่ออย่างมีเสน่ห์ของเซียวหยูซวน โดยเฉพาะอย่างยิ่งดวงตาคู่งามของเธอซึ่งเต็มไปด้วยประกายที่น่าหลงใหลเป็นอย่างยิ่ง
อย่างไรก็ตามจี้เฟิงรู้สึกว่ามีบางอย่างผิด
“อ่า~”เซียวหยูซวนรู้สึกได้ว่ามือใหญ่ที่แข็งแรงของจี้เฟิงกำลังบีบสะโพกของเธออย่างแรงจนถึงกับทำให้เธอสั่นไปทั้งตัว ความรู้สึกร้อนวูบวาบไล่ขึ้นมาจากท้องน้อยทำให้ทั้งร่างกายของเธอเร่าร้อนขึ้นแต่กลับรู้สึกไร้เรี่ยวแรง
ดวงตาของเซียวหยูซวนพร่ามัวเธอไม่รู้ว่าจะวางมือเล็กๆของเธอไว้ตรงไหนดี สุดท้ายเธอจึงทำได้เพียงโอบรอบคอของจี้เฟิงเอาไว้และปล่อยให้เขาทำในสิ่งที่ต้องการ
เนื่องจากอากาศที่เริ่มเย็นเซียวหยูซวนจึงสวมชุดนอนผ้าฝ้าย จี้เฟิงพยายามที่จะถอดมันออกอยู่สองสามครั้งแต่ดูเหมือนจะไม่ทันใจ เขาคว้าชุดนอนของเซียวหยูซวนและกระชากมันออกทันที
ทันใดนั้นร่างกายที่บอบบางและสองเนินขาวเด่นก็ปรากฏขึ้นต่อหน้าจี้เฟิง!
เอื้อก!
จี้เฟิงเผลอกลืนน้ำลายอย่างแรงโดยไม่รู้ตัวเขาจับเนินอกที่นุ่มเด้งของเธอด้วยมือข้างหนึ่งและใช้มืออีกข้างหนึ่งบีบเคล้นสะโพกของเธออย่างแรง พร้อมกับก้มลงจูบริมฝีปากสีแดงของเธออีกครั้งอย่างคนที่หิวกระหายจากนั้นเขากลับมาจูบไซร้ที่คอของเซียวหยูซวนอย่างนุ่มนวลและค่อยๆไล่ลงต่ำมาเรื่อยๆ
“อ๊ะ!อ่า~” เซียวหยูซวนครวญครางโดยไม่รู้ตัว ร่างกายที่บอบบางเกร็งแน่น ขาที่เรียวยาวขาวเนียนราวกับหิมะบีบรัดหัวของจี้เฟิงอย่างแรง วินาทีต่อมาเธอรู้สึกได้ถึงกระแสความร้อนพวยพุ่งออกมา และในที่สุดทั้งห้องก็เงียบลง เหลือแค่เพียงเสียงหอบหายใจของพวกเขาสองคน ณห้องพักสำหรับแขกในเวลานี้ คุกรุ่นไปด้วยบรรยากาศที่วาบหวาม ใบหน้าของพวกเขาแดงระเรื่อและหัวใจที่เต้นรัว
ดวงตาของเซียวหยูซวนเต็มไปด้วยความมึนเมาเธอนอนแผ่อยู่บนเตียงอย่างอ่อนแรง นึกถึงความรู้สึกที่ยอดเยี่ยมที่เธอเพิ่งจะได้รับ มันรู้สึกเหมือนกับว่าเธอกำลังบินอยู่ โดยเฉพาะตอนที่จี้เฟิงจูบลงตรงจุดที่อ่อนไหวของเธอ มันทำให้เธอรู้สึกเคลิบเคลิ้มและหลงทาง
ความมัวเมาที่ทำให้เธอรู้สึกดีเช่นนี้เธอไม่เคยสัมผัสมันมาก่อนและมันก็วิเศษมาก!
จี้เฟิงกัดต้นขาเรียวของเซียวหยูซวนเบาๆและเสียงครวญครางราวกับลูกแมวตัวน้อยของเธอไม่ทำให้เขาผิดหวังเลยจริงๆ ไฟชั่วร้ายในใจของจี้เฟิงปรากฏขึ้นอีกครั้ง เขาพลิกร่างกายที่มีเสน่ห์ของเซียวหยูซวนและกำลังจะจับดาบเข้าฝัก
แต่ในขณะที่ดาบใกล้จะถึงฝักและขณะที่ทั้งสองสัมผัสกันเพียงเล็กน้อย ร่างกายที่อ่อนไหวของเซียวหยูซวนก็สั่นสะท้านทันทีและกระแสความร้อนก็ไหลออกมาอีกครั้ง
มาอีกแล้ว‘ความสุขที่แสนวิเศษ’ นั่น!
ร่างกายของเซียวหยูซวนอ่อนไหวมากจริงๆ
ความรู้สึกที่ลื่นไหลและอ่อนโยนทำให้จี้เฟิงอดใจไม่ไหวอีกต่อไปแต่ทันทีที่เขากำลังจะเคลื่อนไหวและทำอย่างที่ใจและร่างกายของเขาต้องการ เขาก็ได้ยินเสียงกระซิบของเซียวหยูซวน “จี้เฟิง อย่า…”
จี้เฟิงชะงักและตกตะลึงเขานึกถึงสิ่งที่เซียวหยูซวนเคยพูดไว้ก่อนหน้านี้ ครั้งแรกของเธอและเขา… เธอต้องการมันในคืนวันแต่งงาน จี้เฟิงอดไม่ได้ที่จะกัดฟันอย่างลับๆ
ตอนนี้ลูกธนูอยู่บนสายแล้วเหลือเพียงแค่ยิงมันออกไป เขายังจะต้องสนใจอะไรอีก
เมื่อสัมผัสได้ถึงความต้องการอันแรงกล้าของจี้เฟิงหัวใจของเซียวหยูซวนก็สั่นสะท้านขึ้นมาทันที อันที่จริงตอนนี้เธอไม่รังเกียจที่จะให้จี้เฟิงได้ทำตามความปรารถนา แต่เวลานี้เธออยู่ที่บ้าน เธอเคยได้ยินมาว่าครั้งแรกของผู้หญิงจะกรีดร้องด้วยความเจ็บปวด เธอกลัวว่าเสียงของเธอจะทำให้พ่อแม่ของเธอได้ยิน
เมื่อความคิดนี้แวบเข้ามาในหัวเธอเองก็ไม่รู้ว่าพลังมาจากไหน จู่ๆเธอก็หันกลับมานั่งตัวตรงและมองดูท่าทางที่ตะลึงงันของจี้เฟิง เธอพูดอย่างเขินอาย “จิ๊กโก๋น้อย ให้ฉันช่วยนายด้วยวิธีอื่น…”
ก่อนที่จี้เฟิงจะตอบริมฝีปากสีแดงอันอวบอิ่มของเซียวหยูซวนก็จูบลงที่หน้าออกของจี้เฟิง เธอแลบลิ้นเล็กๆอันอ่อนนุ่มของเธอออกมาวาดเป็นวงกลมบนร่างกายของจี้เฟิง ในใจนึกถึงคำพูดของเพื่อนร่วมห้องในสมัยก่อน เป็นทริคเล็กๆในเรื่องแบบนี้…
ปากของเซียวหยูซวนเลื่อนลงมาที่หน้าท้องของจี้เฟิงแต่เธอไม่หยุดแค่นั้นปากและลิ้นอุ่นๆของเธอยังคงไล่ต่ำลงไปเรื่อยๆและเธอก็อ้าปากน้อยๆของเธอ….
“ฟู่~”
จี้เฟิงผ่อนลมหายใจเย็นๆความรู้สึกสบายอย่างหาที่เปรียบไม่ได้แผ่กระจายไปทั่วร่างกาย!
………………
เซียวหยูซวนสำลักไอไม่หยุดเป็นเพราะมังกรของจี้เฟิงได้ปลดปล่อยน้ำอุ่นๆออกมาโดยที่เธอไม่ทันได้ตั้งตัว ในที่สุดจี้เฟิงก็สงบลง เขาถอนหายใจด้วยความสบายอย่างบอกไม่ถูก ความรู้สึกบางอย่างระเบิดไปทั่วร่างกายของเขา!
เซียวหยูซวนเงยหน้าขึ้นนัยน์ตาโตเป็นประกายของเธอทำให้จี้เฟิงรู้สึกหลงเสน่ห์ เธอกล่าวว่า “เจ้าหนูน้อย ฉันเกือบสำลักตายเพราะเธอ!”
จี้เฟิงยิ้มและหัวเราะเซียวหยูซวนรีบยกมือขึ้นปิดปากของเขาไว้ด้วยความกลัว “จิ๊กโก๋น้อย อย่าส่งเสียงดังสิ ถ้าพ่อแม่ของฉันได้ยินและรู้ว่าฉันอยู่ที่นี่ ฉันจะทำตัวยังไง!”
“ได้ยินก็ไม่เห็นเป็นไรเราก็อธิบายไปตามความจริงสิ!” จี้เฟิงจับมือเล็กๆของเซียวหยูซวนออกแล้วพูดด้วยรอยยิ้ม “ที่รัก ลิ้นเล็กๆของเธอมันยืดหยุ่นดีจัง…”
“อย่าพูด…นะ!”เซียวหยูซวนร้องห้ามด้วยความเขินอาย แม้จะอยู่ในความมืดแต่เธอก็รู้สึกได้ว่าใบหน้าของเธอในเวลานี้ต้องแดงก่ำอย่างแน่นอน
เจ้าบ้าคนนี้สบายตัวแล้วยังจะเอาเรื่องนี้มาพูดอีก!
แม้ว่าเซียวหยูซวนจะดูเหมือนผู้หญิงที่มีประสบการณ์และเต็มไปด้วยเสน่ห์ในด้านนี้แต่ความจริงแล้วเธอก็ไม่ต่างจากเด็กสาววัยแรกรุ่นที่ยังบริสุทธิ์ไร้เดียงสา แน่นอนว่าเรื่องที่เกิดขึ้นในคืนนี้เป็นครั้งแรกสำหรับเธอ แล้วจะให้เธอมานั่งฟังจี้เฟิงพูดเรื่องไร้สาระแบบนี้อีกงั้นหรือ
จี้เฟิงไม่ได้หยอกล้อเธออีกอย่างไรก็ตามนี่ก็เป็นครั้งแรกสำหรับจี้เฟิงเช่นกัน เมื่อนึกถึงฉากอันน่าหลงใหลเมื่อกี้ เขาก็รู้สึกดีใจขึ้นมาทันที
ว่ากันว่าถ้าผู้หญิงเต็มใจที่จะทำเช่นนี้เพื่อคุณนั่นก็แสดงว่าเธอรักคุณจริงๆ และการกระทำของเซียวหยูซวนได้อธิบายทุกอย่างแล้ว
“หยูซวนที่รักคืนนี้อยู่ที่นี่เถอะ ฉันสัญญาว่าจะไม่บังคับเธอ” จี้เฟิงกระซิบเบาๆและกอดเซียวหยูซวนไว้ในอ้อมแขนของเขาอย่างอ่อนโยน เขาสัมผัสได้ถึงผิวที่เนียนนุ่มของเธอ
เมื่อเซียวหยูซวนได้ยินเสียงกระซิบพร้อมกับสัมผัสจากจี้เฟิงหัวใจของเธอก็เต้นแรงทันที ทำไมเธอถึงไม่อยากจะซุกตัวนอนอยู่ในอ้อมแขนอันแข็งแกร่งของจี้เฟิงและหลับไปทั้งแบบนี้ล่ะ
แต่เมื่อคิดดูแล้วพ่อแม่ของเธอก็อยู่ข้างบน โดยเฉพาะแม่ของเธอที่มักจะตื่นตั้งแต่เช้ามืดอยู่เป็นประจำ เซียวหยูซวนก็ไม่กล้าที่จะอยู่ต่อ
“ไม่ดีกว่าทุกวันแม่ของฉันจะตื่นแต่เช้าเพื่อเตรียมอาหาร แล้วถ้าเธอรู้ว่าฉันอยู่ในห้องของนาย เมื่อถึงตอนนั้นฉันก็คงไม่มีหน้าที่จะอยู่ที่บ้านนี้จริงๆแล้วล่ะ!” เซียวหยูซวนพูดอย่างเขินอาย
จี้เฟิงรู้สึกผิดหวังทันทีการได้นอนกอดเซียวหยูซวนไว้ในอ้อมแขนของเขาจนพากันหลับไปเป็นเรื่องที่เขาอยากทำมาก แต่เขาก็ไม่ต้องการให้เซียวหยูซวนดูไม่ดี เพราะพวกเขาสองคนยังไม่ได้แต่งงานกันเลย แต่ถ้าอยู่ที่อื่นก็คงไม่เท่าไหร่ เพราะต่อให้พ่อแม่ของเธอรู้ก็คงจะแสร้งทำเป็นไม่รู้ แต่ตอนนี้พวกเขาอยู่ในบ้าน มันก็ออกจะแสร้งทำเป็นไม่รู้ยากหน่อย…
“จิ๊กโก๋น้อยอย่าทำหน้าแบบนั้นสิ ฉันจะอยู่ต่ออีกหน่อยแล้วค่อยกลับไปทีหลังก็แล้วกัน แบบนี้โอเคมั้ย” เซียวหยูซวนอดไม่ได้ที่จะกระซิบบอก เธอรู้สึกทนไม่ได้เมื่อเห็นสีหน้าที่ผิดหวังของจี้เฟิง
จี้เฟิงรู้สึกดีใจมากและยิ้มอย่างมีความสุขขึ้นมาทันทีเขาอุ้มเซียวหยูซวนขึ้นมาและวางเธอลงบนเตียงอย่างแผ่วเบา จากนั้นก็มุดเข้าไปในผ้าห่มและกอดเซียวหยูซวนเอาไว้แน่น
ทั้งสองคนพูดคุยกันอย่างช้าๆมันทำให้ความสัมพันธ์ของพวกเขาลึกซึ้งขึ้นอย่างรวดเร็ว
ในช่วงเวลานั้นจี้เฟิงผู้ซึ่งกำลังโอบกอดร่างกายที่บอบบางของเซียวหยูซวนไว้ในอ้อมแขนอดไม่ได้ที่จะรู้สึกร้อนวูบวาบขึ้นมาอีกครั้ง
แต่สุดท้ายจี้เฟิงก็ไม่ได้ขอเซียวหยูซวนเพื่อทำมันที่นี่เพราะสำหรับเขาแล้วแม้จะรู้สึกเสียใจและเสียดายแต่ก็ไม่ได้มากมายอะไร อย่างไรก็ตามเขายังมีโอกาสอีกมากในอนาคต เพราะเซียวหยูซวนเป็นผู้หญิงของเขาแล้วอย่างไม่ต้องสงสัย
ไม่รู้ว่าเวลาผ่านไปนานแค่ไหนเสียงของเซียวหยูซวนค่อยๆลดลงและในที่สุดเธอก็เงียบไป
เซียวหยูซวนได้สัมผัสถึงความสุขสุดยอดถึงสองครั้งและเธอก็รู้สึกเหนื่อยกับสองครั้งนั้น และในที่สุดเธอก็ผล็อยหลับไป
ในความมืดจี้เฟิงมองดูใบหน้าที่สวยงามของเซียวหยูซวน เขายิ้มเล็กน้อยและห่มผ้าห่มให้เธอเบาๆ จากนั้นก็นอนกอดเธอและผล็อยหลับไปอย่างช้าๆ
ในตอนที่ท้องฟ้าใกล้จะสว่างจี้เฟิงก็อุ้มเซียวหยูซวนขึ้นมาอย่างเบามือและพาเธอไปส่งที่ห้องนอนชั้นบนอย่างเงียบๆ กระบวนการทั้งหมดแทบจะไม่มีเสียงใดๆออกมาเลย
เรื่องแบบนี้เป็นเรื่องง่ายสำหรับจี้เฟิงที่ผ่านการฝึกฝนมาแล้วเขายังเคยคิดเล่นๆเลยว่าถ้าวันไหนที่ไม่รู้จะทำมาหากินอะไร การเป็นสายลับก็ไม่เลว…
เช้าวันรุ่งขึ้นจี้เฟิงตื่นแต่เช้าเขาเพิ่งจะเดินออกจากห้องพักไปก็ได้ยินเสียงมาจากในครัว เขามองดูเวลาและแอบยิ้มอยู่ในใจ เซียวหยูซวนพูดถูกแฮะ แม่ยายในอนาคตของฉันเป็นคนขยันจริงๆ!
ตอนนี้ยังไม่หกโมงด้วยซ้ำแต่แม่ของเซียวหยูซวนก็กำลังยุ่งอยู่ในครัวแล้ว เห็นได้ชัดว่าที่เซียวฉางเหอสามารถประสบผลสำเร็จมาได้ขนาดนี้ส่วนหนึ่งเป็นเพราะแรงสนับสนุนที่ดีจากภรรยาที่อยู่เบื้องหลังเขาอย่างเงียบๆแน่นอน! เมื่อได้ทานอาหารเช้าใบหน้าของเซียวหยูซวนยังคงแดงระเรื่อ เธอมองจี้เฟิงด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยคำถาม จี้เฟิงเข้าใจและส่งยิ้มให้เธอทันที
เซียวหยูซวนรู้สึกโล่งใจขึ้นเล็กน้อยซึ่งหมายความว่าจี้เฟิงได้อุ้มเธอเข้าไปในห้องนอนโดยที่ไม่ได้ส่งเสียงรบกวนพ่อแม่ของเธอ
หลังจากรับประทานอาหารเช้าเสร็จจี้เฟิงและเซียวฉางเหอนั่งในห้องนั่งเล่นเพื่อหารือเกี่ยวกับการดำเนินการเรื่องโรงงานผลิตยาภายในวันนี้กับหยางเต๋อจ้าว ในขณะที่เซียวหยูซวนตามแม่ของเธอเข้าไปในครัวเพื่อล้างจาน
“ซวนซวนบอกความจริงกับแม่ เมื่อคืนลูกได้ไปค้างคืนที่ห้องของเสี่ยวเฟิงหรือเปล่า!” ประโยคแรกของแม่ก็ทำให้เซียวหยูซวนต้องตกใจ จนเกือบจะทำชามที่อยู่ในมือหล่นลงบนพื้น
“แม่!แม่กำลังพูดเรื่องอะไร!” ใบหน้าของเซียวหยูซวนแดงขึ้น เธอไม่กล้าแม้แต่จะสบตาแม่ของเธอตรงๆ หัวใจของเธอเต้นแรง เป็นไปได้หรือเปล่าว่าในตอนที่จี้เฟิงอุ้มเธอกลับไปที่ห้องนอน เขาทำเสียงดังจนทำให้แม่รู้เรื่องนี้แล้ว?
แม่ของเซียวหยูซวนพ่นลมหายใจและกล่าวว่า“สาวน้อย ยังจะโกหกแม่อยู่อีกเหรอ ไม่รู้เหรอว่าแม่นอนดึกทุกคืน เมื่อวานตอนเที่ยงคืนแม่ได้ยินเสียงลูกเดินลงไปข้างล่าง แม่รอจนผล็อยหลับไปก็ไม่ได้ยินแม้แต่เสียงของลูกเดินกลับขึ้นไปข้างบน!”
“แม่คะหนูแค่ลงไปคุยกับเขา หนู.. หนูไม่ได้ทำอะไรอย่างอื่นเลย!” เซียวหยูซวนอธิบายอย่างตะกุกตะกัก เธอรู้สึกละอายใจมากจนไม่กล้าเงยหน้าขึ้น
แล้วจะให้เซียวมู่เชื่อได้อย่างไร
เซียวมู่ถอนหายใจเบาๆแล้วพูดว่า“ลูกรัก แม่รู้ว่าลูกก็โตแล้วสามารถตัดสินใจว่าจะทำหรือไม่ทำอะไรด้วยตัวเองได้แล้ว แต่แม่อยากให้ลูกระวังตัวและจำไว้ให้ดี ถ้ามีอะไรเกิดขึ้น ลูกผู้หญิงอย่างเรามักจะเป็นฝ่ายที่ต้องทนทุกข์ทรมานอยู่เสมอ ต่อจากนี้ถ้าลูกกับเสี่ยวเฟิงจะค้างคืนด้วยกัน ก็ให้ใส่ใจเรื่องการป้องกันมาเป็นอันดับแรก หรือถ้าให้ดีก็อย่าเพิ่งทำอะไรจะดีกว่า รู้มั้ย”
เซียวหยูซวนแทบจะวิ่งหนีไปด้วยความอับอายคำพูดของแม่มันตรงไปตรงมาเกินไปหรือเปล่า
เธออยากจะอธิบายให้แม่ของเธอฟังว่าเธอกับจี้เฟิงไม่ได้ทำอะไรเกินเลย… แต่เธอก็จำเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อคืนได้อย่างแม่นยำ จะให้เธออธิบายเรื่องพวกนั้นไปว่ายังไง ยกเว้นขั้นตอนสุดท้าย เธอและเขาก็แทบจะทำมันทุกอย่างด้วยกันแล้วไม่ใช่หรือ?
หลังจากนั้นไม่นานเซียวหยูซวนก็ทำได้แค่เพียงพยักหน้าอย่างเขินอาย“รู้แล้วค่ะแม่!”
บทที่ 305 เถ้าแก่จี้แห่งโรงงานเภสัชกรรมเถิงเฟย
ระหว่างทางไปโรงงานผลิตยาของหยางเต๋อจ้าวใบหน้าของเซียวหยูซวนยังคงแดงไม่หาย ดวงตาของเธอเต็มไปด้วยความเขินอาย
คำพูดของเซียวมู่แม่ของเธอทำให้เธอรู้สึกอายมากจริงๆ
โดยเฉพาะเมื่อนึกถึงคำพูดที่แม่บอกกับเธอว่า“ป้องกันให้ดี” มันทำให้เซียวหยูซวนรู้สึกอับอายอย่างมาก แต่เธอก็ไม่รู้ว่าจะพูดแก้ตัวยังไงดี เรื่องนี้จะโทษใครได้อีก ใครใช้ให้เธอใจร้อนรีบลงไปหาจี้เฟิงในตอนที่แม่ของเธอยังไม่หลับ
“หยูซวนเป็นอะไรรึเปล่าไม่สบายเหรอ” จี้เฟิงมองไปที่ใบหน้าที่แดงระเรื่ออย่างมีเสน่ห์ของเซียวหยูซวน โดยเฉพาะอย่างยิ่งดวงตาคู่งามของเธอซึ่งเต็มไปด้วยประกายที่น่าหลงใหลเป็นอย่างยิ่ง
อย่างไรก็ตามจี้เฟิงรู้สึกว่ามีบางอย่างผิด