The Ultimate Student สุดยอดนักเรียนสมองอัจฉริยะ - บทที่ 311 ขยะ!
“เอี๊ยดดดด!!”
“ปึง!”
ทันทีที่รถสองคันนั้นจอดสนิทประตูรถก็ถูกเปิดออก ชายหนุ่มและหญิงสาวสี่คนเดินลงมาจากรถปอร์เช่ สีหน้าเต็มไปด้วยความไม่พอใจและจ้องไปที่ BMWx6 ของจี้เฟิงอย่างไม่สบอารมณ์
ส่วนทางด้านรถBMWx6 อีกคันมีชายฉกรรจ์สี่คนลงมาจากรถเช่นกัน ผู้ชายสี่คนนี้สวมชุดเครื่องแบบสีดำล้วน มีเครื่องรับส่งวิทยุเหน็บอยู่ที่เอว ภาพลักษณ์โดยรวมเหมือนบอดี้การ์ด
อย่างไรก็ตามสิ่งที่ดึงดูดความสนใจของจี้เฟิงก็คือแม้ว่าเขาจะมองผ่านกระจกมองหลังเขายังรู้สึกได้ว่าผู้ชายร่างกำยำทั้ง4 คนมีบรรยากาศรอบตัวที่พิเศษมาก 4 คนนี้จึงไม่น่าจะใช่บอดี้การ์ดธรรมดาอย่างแน่นอน พวกเขาเป็นเหมือน…ทหาร! แต่ก็ไม่เหมือนทหารทั่วไป เอาเป็นว่านี่เป็นครั้งแรกที่จี้เฟิงได้เห็นทหารที่มีอารมณ์พิเศษเฉพาะตัวแบบนี้
ทั้งแปดคนที่ลงมาจากรถอย่างกะทันหันพวกเขาดูอารมณ์ไม่ดีอย่างยิ่งอย่างน้อยพวกเขาก็คงไม่ได้ลงมาเพื่อขอเป็นเพื่อนกับจี้เฟิง
“ไอ้เวรเอ๊ย!ไอ้บ้าที่อยู่ในรถบีเอ็มคันนั้นน่ะ ลงมาคุยกันหน่อยดิ๊!” ชายหนุ่มผมสีแดงและเจาะรูอยู่ที่หูทั้งสองข้างหยิบท่อนเหล็กออกมาจากรถและเดินตรงไปที่รถของจี้เฟิงด้วยใบหน้าบึ้งตึงและตะโกนลั่นอย่างไม่พอใจ
ชายหญิงที่เหลือยังคงยืนอยู่ที่รถโดยไม่ได้เดินตามมาด้วยแต่เมื่อพวกเขาเห็นผู้ชายผมแดงเดินถือท่อนเหล็กตรงไปยังรถของจี้เฟิง พวกเขาก็ส่งเสียงเชียร์ด้วยท่าทางที่ดูตื่นเต้นมาก
โดยเฉพาะหญิงสาวที่สวมหมวกสีชมพูกรีดร้องออกมาอย่างร่าเริงเธอสวมชุดยีนผ้าเดนิมรัดรูป และสวมหมวกแก๊ปสีชมพู ดูน่ารักสดใสและมีชีวิตชีวา แต่ตอนนี้เธอทำตัวเหมือนเด็กผู้หญิงก๋ากั่นที่กำลังตื่นเต้นและรู้สึกสนุกไปกับสิ่งเร้าที่ผิดปกติ
แต่ผู้หญิงอีกคนกลับดูเงียบขรึมและไม่ได้มีท่าทีสนุกไปกับสถานการณ์ในตอนนี้
และเมื่อเธอเริ่มรู้สึกว่าเรื่องตอนนี้ชักไม่ดีเธอจึงอดไม่ได้ที่จะกระซิบว่า “ซินซิน ฉันว่าเราทำแบบนี้มันไม่ค่อยดีเท่าไหร่เลยนะ เราลืมๆมันไปดีกว่านะ!”
เด็กสาวสวมหมวกยิ้มอย่างร่าเริง“ไม่ดีตรงไหนกัน อย่างกังวลไปเลยหน่าเสี่ยวหยู เธอขี้กลัวเกินไปแล้ว วางใจเถอะหน่า ไม่เกิดเรื่องอะไรร้ายแรงขึ้นหรอก อ้อ! อีกอย่างนะ ไอ้รถคันนั้นมันกล้ามาปาดหน้ารถพวกเราแบบนี้ มันก็เป็นการกระทำที่ไม่ดีเหมือนกันไม่ใช่เหรอ แล้วถ้าไม่สั่งสอนบทเรียนให้หลาบจำซักหน่อย เขาจะคิดว่าเขาสามารถทำแบบนี้กับใครก็ได้ในเจียงโจว!”
เด็กสาวที่ชื่อเสี่ยวหยูอ้าปากเหมือนต้องการจะพูดอะไรบางอย่างกับสาวสวมหมวกแต่สุดท้ายเธอก็ได้แต่หันไปทางผู้ชายสี่คนที่สวมชุดสีดำและพูดอะไรบางอย่างออกไปเท่านั้น
เธอมีท่าทีลังเลอยู่ครู่หนึ่งแล้วกล่าวออกมาเบาๆว่า“ช่วยดูแลความสงบให้หน่อยนะคะ อย่าปล่อยให้พวกเขาทะเลาะกัน”
“ครับคุณหนูจี้!” ชายร่างใหญ่ทั้งสี่คนตอบรับด้วยเสียงหนักแน่นทันที
“เอาล่ะ!ผมว่าตอนนี้พวกเรากำลังจะมีปัญหาแล้วล่ะ” จี้เฟิงยังคงนั่งอยู่ในรถและมองไปที่กระจกมองหลังเพื่อดูสถานการณ์ภายนอก “แต่ผมขอพูดไว้ก่อนเลยนะว่า คนที่บอกให้ผมทำแบบนี้ก็คือคุณ และคุณจะต้องเป็นคนจ่ายค่าปรับทั้งหมด!”
“ไอ้คนขี้เหนียว!”หลี่ลู่หนานรู้สึกโกรธจนพูดไม่ออก ในเวลาเช่นนี้สิ่งแรกที่เขาคิดไม่ใช่เรื่องความปลอดภัยของพวกเขา แต่ใครจะเป็นคนจ่ายค่าปรับเนี่ยนะ หมอนี่เคยคิดอย่างอื่นนอกจากเรื่อง เงิน กับผู้หญิงหรือเปล่าเนี่ย?! ขนาดตัวเองขับ BMW แท้ๆ ยังจะงกอีก!
หลี่ลู่หนานได้แต่บ่นจี้เฟิงอยู่ในใจจากนั้นเธอก็เปิดประตูรถและกระโดดลงไปอย่างกะทันหันพร้อมกับตะโกนเสียงดังว่า “ฉันคือเจ้าหน้าที่ตำรวจหลี่ลู่หนาน!”
ผู้ชายสวมชุดดำสี่คนรวมถึงคนที่ถือท่อนเหล็กและคนที่เชียร์อย่างตื่นเต้นต่างพากันตัวแข็งทื่อ
ทำไมจู่ๆถึงมีตำรวจโผล่มาได้ล่ะเนี่ย
อย่างไรก็ตามเมื่อพวกเขาเห็นว่าชุดที่หลี่ลู่หนานสวมอยู่คือเครื่องแบบของตำรวจจราจรพวกเขาก็ถึงกับหัวเราะคิกคัก
“ฮ่าฮ่าฮ่า~!”ชายผมแดงกุมท้องตัวเองและหัวเราะด้วยท่าทางที่เกินจริง “โธ่เอ้ย ก็แค่ตำรวจจราจรคนนึง ถุย! ตำรงตำรวจอะไรกัน ถ้าว่างมากก็ไปยืนโบกรถนู่นไป๊!”
แต่พอชายผมแดงมองเห็นรูปร่างหน้าตาของหลี่ลู่หนานชัดๆเขาก็ถึงกับอึ้งไปทันที หลี่ลู่หนานสวมเครื่องแบบตำรวจจราจรรูปร่างสูงโปร่งไม่น่าเชื่อว่าเครื่องแบบของตำรวจจราจรเมื่อถูกสวมอยู่บนร่างกายของเธอมันจะทำให้ดูดีสมบูรณ์แบบน่าเกรงขามได้ถึงขนาดนี้ ทุกอย่างนี้เมื่อรวมกันแล้วชายผมแดงไม่แม้แต่จะสามารถละสายตาจากเธอไปได้เลย
“เยสเข้!ใครจะเชื่อว่าตำรวจจราจรจะสวยเซ็กซี่ขนาดนี้!” ชายผมแดงบ่นพึมพำโดยไม่รู้ตัว แต่สายตาของเขายังคงจับจ้องไปที่รูปร่างสูงสง่าของหลี่ลู่หนานอย่างไม่วางตา
หลี่ลู่หนานในตอนนี้มีสีหน้าเย็นชาและพูดด้วยน้ำเสียงที่ไม่สบอารมณ์“หุบปาก! พวกคุณทุกคนมายืนข้างถนนเดี๋ยวนี้! พวกคุณทำความผิดข้อหาขับรถเร็วเกินกว่าที่กฎหมายกำหนด กรุณานำใบขับขี่และบัตรประจำตัวประชาชนมาให้ฉันด้วย!”
“ว้าว!”ชายหนุ่มผมสีแดงพูดขึ้นอย่างมีความสุข “ดอกกุหลาบสวยๆย่อมมีหนามที่แหลมคมเป็นเรื่องธรรมดาสินะ ฮ่าฮ่า! ตรงสเปคฉันสุดๆ ผู้หญิงแบบนี้แหละ ถึงจะทำให้ฉันรู้สึกตื่นเต้น!”
จี้เฟิงที่นั่งฟังอยู่ในรถถึงกับขมวดคิ้วเขาลังเลอยู่ครู่หนึ่งก่อนที่จะลงจากรถและยืนอยู่ไม่ไกลจากหลี่ลู่หนาน เขาคอยมองสถานการณ์ที่เกิดขึ้นอย่างใจเย็น ในใจก็รู้สึกรังเกียจชายหนุ่มคนนี้มาก
เห็นได้ชัดว่านี่คือตัวอย่างไอ้พวกลูกคุณหนูว่างงานของจริงเดิมทีนอกจากจะไร้สมองแล้วยังดีแต่พูดจาหยาบคายไม่ก็แทะโลมหญิงสาวคนอื่นๆไปเรื่อย เป็นลูกคนรวยแท้ๆ แต่ไม่รู้จักเอาเงินแลกการศึกษามาใส่สมองไว้บ้าง แต่ไม่ว่าจะไร้การศึกษายังไง ก็ควรจะเคารพทหารหรือตำรวจบ้าง เพราะทุกครั้งที่เกิดภัยพิบัติหรือปัญหาภายในประเทศ พวกเขาก็จะเป็นด่านหน้าที่คอยจัดการเรื่องพวกนี้
ไม่ต้องพูดถึงว่าหลี่ลู่หนานนั้นเป็นผู้หญิงและการพูดจาเช่นนี้นับว่าเป็นการไม่ให้เกียรติผู้หญิงอย่างมาก ไม่ว่าจะเป็นการพูดล้อเล่นหรือไม่ก็ตาม มันก็เป็นเรื่องที่มากเกินไป! หลี่ลู่หนานเดินตรงไปที่ชายหนุ่มผมสีแดงด้วยใบหน้าที่สวยงามและสงบนิ่งไม่ใช่ว่าเธอไม่โกรธที่ถูกพูดจาหยาบคายใส่ แต่เป็นเพราะเธอนั้นต้องระงับความโกรธไว้
ไม่ต้องพูดถึงตัวตนอื่นๆของเธอแค่ในฐานะตำรวจ เธอจะต้องอดทน ไม่ว่าอย่างไรก็ตามด้วยอาชีพของเธอ เธอไม่สามารถทำอะไรตามใจกับคนทั่วไปได้
หลี่ลู่หนานสูดลมหายใจเข้าลึกๆและพูดอย่างใจเย็น “คุณเป็นคนขับรถใช่มั้ย กรุณานำใบขับขี่และบัตรประจำตัวประชาชนออกมาด้วย คุณได้ละเมิดกฎจราจรฉันต้องการ….”
เธอยังพูดไม่ทันจบผู้ชายผมแดงก็หัวเราะออกมาทันที “เธอต้องการอะไรนะ อันที่จริงไม่ว่าเธอต้องการอะไร ฉันก็หาให้เธอได้นะ เพียงแค่เธอต้องมีอะไรมาแลกเปลี่ยนนิดๆหน่อยเท่านั้นเอง ฉันว่าเธอกับฉันเราต้องเข้ากันได้ดีสุดๆไปเลย หุ่นแบบนี้ถ้าได้เจอกับพี่ใหญ่ของฉัน รับรองได้เลยว่าเธอจะต้องมีความสุขจนตัวลอยเลยล่ะ ฮ่าฮ่า~!”
“กรุณาอย่าพูดจาหยาบคายโปรดให้ความร่วมมือกับฉันด้วย!” ใบหน้าของหลี่ลู่หนานเย็นชา เธอแอบกัดฟันกรอด เห็นได้ชัดว่าเธอกำลังพยายามระงับความโกรธอยู่
จี้เฟิงที่ยืนอยู่ไม่ไกลนักขมวดคิ้วแล้วขมวดคิ้วอีกแต่เขายังคงไม่ได้พูดอะไร เขาต้องการดูว่าหลี่ลู่หนานจะทำอย่างไรต่อไป หากสุดท้ายแล้วหลี่ลู่หนานยังพยายามจะอดทนกับมัน จี้เฟิงจะเป็นคนเข้าไปสั่งสอนบทเรียนให้กับไอ้หมอนี่ด้วยตัวเอง เนื่องจากเรื่องนี้มันอยู่ตรงหน้าเขาแบบนี้ การเมินเฉยไม่ใช่นิสัยของเขา
“คนสวยทำไมเราไม่ทำแบบนี้ล่ะไปหาโรงแรมใกล้ๆเปิดห้องสวีท แล้วตอนนั้นฉันจะให้เธอตรวจสอบทุกซอกทุกมุม รวมถึงความยาวของฉันด้วย เธอจะได้รู้ทุกอย่าง…” ชายผมแดงทำหน้าตาหื่นกระหายพร้อมรอยยิ้มชั่วร้าย สายตาของเขาจ้องมองเรือนร่างที่เพรียวบางของหลี่ลู่หนานอยู่ตลอดเวลา ดวงตาของเขาเป็นประกาย “อันที่จริง ถ้าเธอรีบจะทำที่นี่ก็ได้นะ รถอาจจะสั่นนิดหน่อย แต่ฉันก็ไม่ติดขัดอะไร!”
ใบหน้าของหลี่ลู่หนานเย็นยะเยือกจนแทบจะเป็นน้ำแข็งอยู่แล้วในตอนนี้ดวงตาของเธอเต็มไปด้วยความโกรธเกรี้ยวอย่างเปิดเผย “โปรด! ให้! ความ! ร่วม! มือ!” หลี่ลู่หนานกัดฟันพูดอย่างยากลำบากเพราะต้องสกัดกั้นความโกรธอย่างที่สุด
“เหอๆให้ความร่วมมือ แน่นอน! ฉันต้องให้ความร่วมมืออยู่แล้ว!” ชายผมแดงยื่นมือออกไปทันทีและพยายามจะสัมผัสใบหน้าอันงดงามของหลี่ลู่หนาน
“เพี๊ยะ!”หลี่ลู่หนานตบปัดมือของชายผมแดงออกไปอย่างแรง “ทำตัวดีๆหน่อย!”
“โอ๊ะ!”ชายผมแดงหัวเราะเสียงดังและตบหน้าของหลี่ลู่หนานอย่างกะทันหัน “ถ้าไม่ทำ แล้วจะทำไม?!”
ก่อนที่เขาจะทันได้ตบหน้าหลี่ลู่หนานเธอก็คว้าข้อมือของชายผมแดงไว้พร้อมกับก้าวไปข้างหน้าบิดข้อมือของชายผมแดงไว้ข้างหลังและกดเขาให้คุกเข่าลง
“ปั้ก!”
หลี่ลู่หนานกระแทกไปที่ไหล่ของชายผมแดงอย่างแรงจนเขาทรุดลงไปที่พื้นและกรีดร้องออกมาทันที
หลี่ลู่หนานปัดฝุ่นที่มือราวกับว่าเธอเพิ่งสัมผัสกับสิ่งสกปรกและยังคงพูดอย่างเย็นชาว่า“โปรดนำใบขับขี่และบัตรประจำตัวประชาชนของคุณออกมา และให้ความร่วมมือกับฉัน!”
จี้เฟิงที่เฝ้าดูเหตุการณ์อยู่ไม่ไกลก็ถึงกับยิ้มออกมาทันทีใช่คุณตำรวจจราจรหลี่ที่ใจร้อนจริงๆหรือเนี่ย คราวนี้ใจเย็นแฮะ ฉลาดไม่เบารอให้ผู้ชายคนนั้นเป็นฝ่ายลงมือก่อนจะได้ปฏิบัติหน้าที่ได้อย่างไร้ข้อกังขา
เมื่อเห็นว่าชายผมแดงถูกหลี่ลู่หนานทุบตีคนอื่นๆที่เหลือก็พากันสีหน้าเปลี่ยน ผู้ชายคนหนึ่งรีบตะโกนขึ้นมาทันที “หยุด! คุณทำอะไร คุณรู้หรือเปล่าว่าคุณกำลังทำร้ายใคร!” หลี่ลู่หนานเหลือบมองด้วยหางตาและพูดเบาๆ“ฉันกำลังปฏิบัติหน้าที่อย่างถูกต้องตามกฎหมาย กรุณานำใบขับขี่และบัตรประจำตัวประชาชนออกมาด้วย ฉันจะทำการตรวจสอบ!”
เธอไม่สนใจว่าคนเหล่านี้เป็นใครหรือลูกหลานของใครเนื่องจากพวกเขาละเมิดกฎจราจร หลี่ลู่หนานจึงต้องปฏิบัติตามกฎ และก็เป็นเพราะนิสัยแบบนี้ของเธอนี่เองที่ทำให้เธอต้องถูกไล่ออกจากทีมตำรวจในแผนกตำรวจอาชญากรมาเป็นตำรวจจราจร
แต่หลี่ลู่หนานไม่เสียใจยิ่งไปกว่านั้น เธอไม่คิดที่จะใช้อิทธิพลของครอบครัวเธอด้วยซ้ำ ไม่เช่นนั้นอย่าว่าแต่ทีมตำรวจอาชญากรจะไล่เธอออกเลย แค่เธอไม่ไล่คนอื่นออกไปก็ถือว่าไม่เลวแล้ว!
“เพ้อเจ้ออะไร!”หญิงสาวที่สวมหมวกสบถออกมาทันที “เป็นแค่ตำรวจจราจรกระจอกๆ กล้ามาพูดกับพวกฉันแบบนี้เหรอ? เธอรู้หรือเปล่าว่าคนที่เธอทำร้ายเขาเป็นใคร? ฉันจะบอกอะไรให้นะ วันนี้เธอซวยแล้วล่ะ!”
เมื่อสาวสวยได้พบกับสาวสวยความรู้สึกแข่งขันก็เกิดขึ้นมาเองโดยอัตโนมัติ เมื่อเห็นรูปร่างที่สูงโปร่งราวกับนางแบบแถมยังดูกล้าหาญของหลี่ลู่หนาน หญิงสาวที่สวมหมวกก็อดไม่ได้ที่จะรู้สึกไม่ถูกชะตา
หลี่ลู่หนานพูดด้วยเสียงเข้ม“ฉันไม่รู้หรอกนะว่าพวกคุณเป็นใคร ฉันรู้แค่ว่าพวกคุณไม่ปฏิบัติตามกฎ!”
หญิงสาวสวมหมวกโกรธจัดเธอหันไปหาผู้ชายร่างใหญ่สี่คนและพูดว่า “พวกนายน่ะ! ไปพาตำรวจจราจรอวดดีนั่นมาหาฉัน ฉันตบมันจนกว่าฟันจะร่วงหมดปากเลยคอยดู!”
ชายร่างใหญ่ทั้งสี่คนไม่ขยับเลยแม้แต่น้อยพวกเขาไม่แม้แต่จะหันมามองเธอเลยด้วยซ้ำ
อย่างไรก็ตามสายตาของจี้เฟิงนั้นจ้องมองไปยังผู้ชายมาดขรึมทั้งสี่คนนั้นพวกเขาไม่ธรรมดาจริงๆ ดูท่าแล้ววันนี้คงไม่จบไม่สวยเท่าไหร่ แต่หญิงสาวสวมหมวกคนนั้นทำตัวราวกับกลัวว่าโลกนี้มันจะไม่วุ่นวายมากไปกว่านี้!
เมื่อหญิงสาวสวมหมวกเห็นว่าเธอไม่สามารถสั่งชายร่างใหญ่ทั้งสี่คนได้เธอจึงหันไปทางหญิงสาวที่ยืนอยู่เงียบๆข้างๆเธอแล้วพูดว่า “เสี่ยวหยู เธอไม่เห็นเหรอว่าผู้หญิงคนนั้นรังแกพวกเราอยู่ รีบบอกให้บอดี้การ์ดของเธอไปจัดการมันสิ!”
หญิงสาวที่ชื่อเสี่ยวหยูส่ายหน้าทันทีและพูดเบาๆว่า“ซินซิน อย่าทำให้ปัญหามันลุกลามใหญ่โตไปมากกว่านี้เลย พวกเราเป็นฝ่ายทำผิดกฎหมาย เอาใบขับขี่กับบัตรประชาชนให้คุณตำรวจเถอะ!”
คำพูดของเธอทำให้จี้เฟิงและหลี่ลู่หนานรู้สึกดีขึ้นมากอย่างน้อยหญิงสาวที่สงบนิ่งคนนี้กับหญิงสาวที่สวมหมวกแก๊ปก็ไม่ใช่คนประเภทเดียวกัน
“เวรเอ้ย!กล้าดียังไงมาตีฉัน!” ชายผมแดงที่ถูกตีจนลงไปกองกับพื้นก็โวยวายทันทีหลังจากที่ฟื้นคืนสติขึ้นมาได้ แม้ว่าเขาจะยังคงกรีดร้องเพราะความเจ็บไปด้วยก็ตามที แต่ก็ไม่ลืมที่จะก่นด่าสาปแช่ง “แม่งเอ๊ย วันไหนที่เธอตกเป็นของฉัน ฉันจะจัดให้ทุกท่าอย่างสาแก่ใจเลย!”
หลี่ลู่หนานจ้องชายผมแดงด้วยสายตาที่เย็นยะเยือกความโกรธทำให้เธอสั่นไปทั้งตัวแต่ไม่สามารถลงมือทำอะไรไปได้มากกว่านี้
จี้เฟิงเดินมาข้างๆหลี่ลู่หนานด้วยรอยยิ้มเย็น“ไม่ต้องไปให้ค่ากับคำพูดของมันหรอก ขยะสังคมแบบนี้เราจะใช้เหตุผลกับมันไม่ได้ แต่คุณต้องทำแบบนี้…!”
เท้าของจี้เฟิงยกสูงขึ้นเขาแสยะยิ้มอีกครั้ง “ดูชัดๆ!”
“กร๊อบ!”
ทันใดนั้นเสียงแตกหักของกระดูกก็ดังขึ้นทุกคนที่อยู่ในเหตุการณ์ถึงกับเงียบกริบในทันที จากนั้นก็ได้ยินเสียงกรีดร้องโหยหวนมาแต่ไกล
“อ๊ากกกกกกกกกก!!!” คุณพอจะเดากันได้ไหมว่าผู้หญิงสองคนนี้เป็นใคร
“ปึง!”
ทันทีที่รถสองคันนั้นจอดสนิทประตูรถก็ถูกเปิดออก ชายหนุ่มและหญิงสาวสี่คนเดินลงมาจากรถปอร์เช่ สีหน้าเต็มไปด้วยความไม่พอใจและจ้องไปที่ BMWx6 ของจี้เฟิงอย่างไม่สบอารมณ์
ส่วนทางด้านรถBMWx6 อีกคันมีชายฉกรรจ์สี่คนลงมาจากรถเช่นกัน ผู้ชายสี่คนนี้สวมชุดเครื่องแบบสีดำล้วน มีเครื่องรับส่งวิทยุเหน็บอยู่ที่เอว ภาพลักษณ์โดยรวมเหมือนบอดี้การ์ด
อย่างไรก็ตามสิ่งที่ดึงดูดความสนใจของจี้เฟิงก็คือแม้ว่าเขาจะมองผ่านกระจกมองหลังเขายังรู้สึกได้ว่าผู้ชายร่างกำยำทั้ง4 คนมีบรรยากาศรอบตัวที่พิเศษมาก 4 คนนี้จึงไม่น่าจะใช่บอดี้การ์ดธรรมดาอย่างแน่นอน พวกเขาเป็นเหมือน…ทหาร! แต่ก็ไม่เหมือนทหารทั่วไป เอาเป็นว่านี่เป็นครั้งแรกที่จี้เฟิงได้เห็นทหารที่มีอารมณ์พิเศษเฉพาะตัวแบบนี้
ทั้งแปดคนที่ลงมาจากรถอย่างกะทันหันพวกเขาดูอารมณ์ไม่ดีอย่างยิ่งอย่างน้อยพวกเขาก็คงไม่ได้ลงมาเพื่อขอเป็นเพื่อนกับจี้เฟิง
“ไอ้เวรเอ๊ย!ไอ้บ้าที่อยู่ในรถบีเอ็มคันนั้นน่ะ ลงมาคุยกันหน่อยดิ๊!” ชายหนุ่มผมสีแดงและเจาะรูอยู่ที่หูทั้งสองข้างหยิบท่อนเหล็กออกมาจากรถและเดินตรงไปที่รถของจี้เฟิงด้วยใบหน้าบึ้งตึงและตะโกนลั่นอย่างไม่พอใจ
ชายหญิงที่เหลือยังคงยืนอยู่ที่รถโดยไม่ได้เดินตามมาด้วยแต่เมื่อพวกเขาเห็นผู้ชายผมแดงเดินถือท่อนเหล็กตรงไปยังรถของจี้เฟิง พวกเขาก็ส่งเสียงเชียร์ด้วยท่าทางที่ดูตื่นเต้นมาก
โดยเฉพาะหญิงสาวที่สวมหมวกสีชมพูกรีดร้องออกมาอย่างร่าเริงเธอสวมชุดยีนผ้าเดนิมรัดรูป และสวมหมวกแก๊ปสีชมพู ดูน่ารักสดใสและมีชีวิตชีวา แต่ตอนนี้เธอทำตัวเหมือนเด็กผู้หญิงก๋ากั่นที่กำลังตื่นเต้นและรู้สึกสนุกไปกับสิ่งเร้าที่ผิดปกติ
แต่ผู้หญิงอีกคนกลับดูเงียบขรึมและไม่ได้มีท่าทีสนุกไปกับสถานการณ์ในตอนนี้
และเมื่อเธอเริ่มรู้สึกว่าเรื่องตอนนี้ชักไม่ดีเธอจึงอดไม่ได้ที่จะกระซิบว่า “ซินซิน ฉันว่าเราทำแบบนี้มันไม่ค่อยดีเท่าไหร่เลยนะ เราลืมๆมันไปดีกว่านะ!”
เด็กสาวสวมหมวกยิ้มอย่างร่าเริง“ไม่ดีตรงไหนกัน อย่างกังวลไปเลยหน่าเสี่ยวหยู เธอขี้กลัวเกินไปแล้ว วางใจเถอะหน่า ไม่เกิดเรื่องอะไรร้ายแรงขึ้นหรอก อ้อ! อีกอย่างนะ ไอ้รถคันนั้นมันกล้ามาปาดหน้ารถพวกเราแบบนี้ มันก็เป็นการกระทำที่ไม่ดีเหมือนกันไม่ใช่เหรอ แล้วถ้าไม่สั่งสอนบทเรียนให้หลาบจำซักหน่อย เขาจะคิดว่าเขาสามารถทำแบบนี้กับใครก็ได้ในเจียงโจว!”
เด็กสาวที่ชื่อเสี่ยวหยูอ้าปากเหมือนต้องการจะพูดอะไรบางอย่างกับสาวสวมหมวกแต่สุดท้ายเธอก็ได้แต่หันไปทางผู้ชายสี่คนที่สวมชุดสีดำและพูดอะไรบางอย่างออกไปเท่านั้น
เธอมีท่าทีลังเลอยู่ครู่หนึ่งแล้วกล่าวออกมาเบาๆว่า“ช่วยดูแลความสงบให้หน่อยนะคะ อย่าปล่อยให้พวกเขาทะเลาะกัน”
“ครับคุณหนูจี้!” ชายร่างใหญ่ทั้งสี่คนตอบรับด้วยเสียงหนักแน่นทันที
“เอาล่ะ!ผมว่าตอนนี้พวกเรากำลังจะมีปัญหาแล้วล่ะ” จี้เฟิงยังคงนั่งอยู่ในรถและมองไปที่กระจกมองหลังเพื่อดูสถานการณ์ภายนอก “แต่ผมขอพูดไว้ก่อนเลยนะว่า คนที่บอกให้ผมทำแบบนี้ก็คือคุณ และคุณจะต้องเป็นคนจ่ายค่าปรับทั้งหมด!”
“ไอ้คนขี้เหนียว!”หลี่ลู่หนานรู้สึกโกรธจนพูดไม่ออก ในเวลาเช่นนี้สิ่งแรกที่เขาคิดไม่ใช่เรื่องความปลอดภัยของพวกเขา แต่ใครจะเป็นคนจ่ายค่าปรับเนี่ยนะ หมอนี่เคยคิดอย่างอื่นนอกจากเรื่อง เงิน กับผู้หญิงหรือเปล่าเนี่ย?! ขนาดตัวเองขับ BMW แท้ๆ ยังจะงกอีก!
หลี่ลู่หนานได้แต่บ่นจี้เฟิงอยู่ในใจจากนั้นเธอก็เปิดประตูรถและกระโดดลงไปอย่างกะทันหันพร้อมกับตะโกนเสียงดังว่า “ฉันคือเจ้าหน้าที่ตำรวจหลี่ลู่หนาน!”
ผู้ชายสวมชุดดำสี่คนรวมถึงคนที่ถือท่อนเหล็กและคนที่เชียร์อย่างตื่นเต้นต่างพากันตัวแข็งทื่อ
ทำไมจู่ๆถึงมีตำรวจโผล่มาได้ล่ะเนี่ย
อย่างไรก็ตามเมื่อพวกเขาเห็นว่าชุดที่หลี่ลู่หนานสวมอยู่คือเครื่องแบบของตำรวจจราจรพวกเขาก็ถึงกับหัวเราะคิกคัก
“ฮ่าฮ่าฮ่า~!”ชายผมแดงกุมท้องตัวเองและหัวเราะด้วยท่าทางที่เกินจริง “โธ่เอ้ย ก็แค่ตำรวจจราจรคนนึง ถุย! ตำรงตำรวจอะไรกัน ถ้าว่างมากก็ไปยืนโบกรถนู่นไป๊!”
แต่พอชายผมแดงมองเห็นรูปร่างหน้าตาของหลี่ลู่หนานชัดๆเขาก็ถึงกับอึ้งไปทันที หลี่ลู่หนานสวมเครื่องแบบตำรวจจราจรรูปร่างสูงโปร่งไม่น่าเชื่อว่าเครื่องแบบของตำรวจจราจรเมื่อถูกสวมอยู่บนร่างกายของเธอมันจะทำให้ดูดีสมบูรณ์แบบน่าเกรงขามได้ถึงขนาดนี้ ทุกอย่างนี้เมื่อรวมกันแล้วชายผมแดงไม่แม้แต่จะสามารถละสายตาจากเธอไปได้เลย
“เยสเข้!ใครจะเชื่อว่าตำรวจจราจรจะสวยเซ็กซี่ขนาดนี้!” ชายผมแดงบ่นพึมพำโดยไม่รู้ตัว แต่สายตาของเขายังคงจับจ้องไปที่รูปร่างสูงสง่าของหลี่ลู่หนานอย่างไม่วางตา
หลี่ลู่หนานในตอนนี้มีสีหน้าเย็นชาและพูดด้วยน้ำเสียงที่ไม่สบอารมณ์“หุบปาก! พวกคุณทุกคนมายืนข้างถนนเดี๋ยวนี้! พวกคุณทำความผิดข้อหาขับรถเร็วเกินกว่าที่กฎหมายกำหนด กรุณานำใบขับขี่และบัตรประจำตัวประชาชนมาให้ฉันด้วย!”
“ว้าว!”ชายหนุ่มผมสีแดงพูดขึ้นอย่างมีความสุข “ดอกกุหลาบสวยๆย่อมมีหนามที่แหลมคมเป็นเรื่องธรรมดาสินะ ฮ่าฮ่า! ตรงสเปคฉันสุดๆ ผู้หญิงแบบนี้แหละ ถึงจะทำให้ฉันรู้สึกตื่นเต้น!”
จี้เฟิงที่นั่งฟังอยู่ในรถถึงกับขมวดคิ้วเขาลังเลอยู่ครู่หนึ่งก่อนที่จะลงจากรถและยืนอยู่ไม่ไกลจากหลี่ลู่หนาน เขาคอยมองสถานการณ์ที่เกิดขึ้นอย่างใจเย็น ในใจก็รู้สึกรังเกียจชายหนุ่มคนนี้มาก
เห็นได้ชัดว่านี่คือตัวอย่างไอ้พวกลูกคุณหนูว่างงานของจริงเดิมทีนอกจากจะไร้สมองแล้วยังดีแต่พูดจาหยาบคายไม่ก็แทะโลมหญิงสาวคนอื่นๆไปเรื่อย เป็นลูกคนรวยแท้ๆ แต่ไม่รู้จักเอาเงินแลกการศึกษามาใส่สมองไว้บ้าง แต่ไม่ว่าจะไร้การศึกษายังไง ก็ควรจะเคารพทหารหรือตำรวจบ้าง เพราะทุกครั้งที่เกิดภัยพิบัติหรือปัญหาภายในประเทศ พวกเขาก็จะเป็นด่านหน้าที่คอยจัดการเรื่องพวกนี้
ไม่ต้องพูดถึงว่าหลี่ลู่หนานนั้นเป็นผู้หญิงและการพูดจาเช่นนี้นับว่าเป็นการไม่ให้เกียรติผู้หญิงอย่างมาก ไม่ว่าจะเป็นการพูดล้อเล่นหรือไม่ก็ตาม มันก็เป็นเรื่องที่มากเกินไป! หลี่ลู่หนานเดินตรงไปที่ชายหนุ่มผมสีแดงด้วยใบหน้าที่สวยงามและสงบนิ่งไม่ใช่ว่าเธอไม่โกรธที่ถูกพูดจาหยาบคายใส่ แต่เป็นเพราะเธอนั้นต้องระงับความโกรธไว้
ไม่ต้องพูดถึงตัวตนอื่นๆของเธอแค่ในฐานะตำรวจ เธอจะต้องอดทน ไม่ว่าอย่างไรก็ตามด้วยอาชีพของเธอ เธอไม่สามารถทำอะไรตามใจกับคนทั่วไปได้
หลี่ลู่หนานสูดลมหายใจเข้าลึกๆและพูดอย่างใจเย็น “คุณเป็นคนขับรถใช่มั้ย กรุณานำใบขับขี่และบัตรประจำตัวประชาชนออกมาด้วย คุณได้ละเมิดกฎจราจรฉันต้องการ….”
เธอยังพูดไม่ทันจบผู้ชายผมแดงก็หัวเราะออกมาทันที “เธอต้องการอะไรนะ อันที่จริงไม่ว่าเธอต้องการอะไร ฉันก็หาให้เธอได้นะ เพียงแค่เธอต้องมีอะไรมาแลกเปลี่ยนนิดๆหน่อยเท่านั้นเอง ฉันว่าเธอกับฉันเราต้องเข้ากันได้ดีสุดๆไปเลย หุ่นแบบนี้ถ้าได้เจอกับพี่ใหญ่ของฉัน รับรองได้เลยว่าเธอจะต้องมีความสุขจนตัวลอยเลยล่ะ ฮ่าฮ่า~!”
“กรุณาอย่าพูดจาหยาบคายโปรดให้ความร่วมมือกับฉันด้วย!” ใบหน้าของหลี่ลู่หนานเย็นชา เธอแอบกัดฟันกรอด เห็นได้ชัดว่าเธอกำลังพยายามระงับความโกรธอยู่
จี้เฟิงที่ยืนอยู่ไม่ไกลนักขมวดคิ้วแล้วขมวดคิ้วอีกแต่เขายังคงไม่ได้พูดอะไร เขาต้องการดูว่าหลี่ลู่หนานจะทำอย่างไรต่อไป หากสุดท้ายแล้วหลี่ลู่หนานยังพยายามจะอดทนกับมัน จี้เฟิงจะเป็นคนเข้าไปสั่งสอนบทเรียนให้กับไอ้หมอนี่ด้วยตัวเอง เนื่องจากเรื่องนี้มันอยู่ตรงหน้าเขาแบบนี้ การเมินเฉยไม่ใช่นิสัยของเขา
“คนสวยทำไมเราไม่ทำแบบนี้ล่ะไปหาโรงแรมใกล้ๆเปิดห้องสวีท แล้วตอนนั้นฉันจะให้เธอตรวจสอบทุกซอกทุกมุม รวมถึงความยาวของฉันด้วย เธอจะได้รู้ทุกอย่าง…” ชายผมแดงทำหน้าตาหื่นกระหายพร้อมรอยยิ้มชั่วร้าย สายตาของเขาจ้องมองเรือนร่างที่เพรียวบางของหลี่ลู่หนานอยู่ตลอดเวลา ดวงตาของเขาเป็นประกาย “อันที่จริง ถ้าเธอรีบจะทำที่นี่ก็ได้นะ รถอาจจะสั่นนิดหน่อย แต่ฉันก็ไม่ติดขัดอะไร!”
ใบหน้าของหลี่ลู่หนานเย็นยะเยือกจนแทบจะเป็นน้ำแข็งอยู่แล้วในตอนนี้ดวงตาของเธอเต็มไปด้วยความโกรธเกรี้ยวอย่างเปิดเผย “โปรด! ให้! ความ! ร่วม! มือ!” หลี่ลู่หนานกัดฟันพูดอย่างยากลำบากเพราะต้องสกัดกั้นความโกรธอย่างที่สุด
“เหอๆให้ความร่วมมือ แน่นอน! ฉันต้องให้ความร่วมมืออยู่แล้ว!” ชายผมแดงยื่นมือออกไปทันทีและพยายามจะสัมผัสใบหน้าอันงดงามของหลี่ลู่หนาน
“เพี๊ยะ!”หลี่ลู่หนานตบปัดมือของชายผมแดงออกไปอย่างแรง “ทำตัวดีๆหน่อย!”
“โอ๊ะ!”ชายผมแดงหัวเราะเสียงดังและตบหน้าของหลี่ลู่หนานอย่างกะทันหัน “ถ้าไม่ทำ แล้วจะทำไม?!”
ก่อนที่เขาจะทันได้ตบหน้าหลี่ลู่หนานเธอก็คว้าข้อมือของชายผมแดงไว้พร้อมกับก้าวไปข้างหน้าบิดข้อมือของชายผมแดงไว้ข้างหลังและกดเขาให้คุกเข่าลง
“ปั้ก!”
หลี่ลู่หนานกระแทกไปที่ไหล่ของชายผมแดงอย่างแรงจนเขาทรุดลงไปที่พื้นและกรีดร้องออกมาทันที
หลี่ลู่หนานปัดฝุ่นที่มือราวกับว่าเธอเพิ่งสัมผัสกับสิ่งสกปรกและยังคงพูดอย่างเย็นชาว่า“โปรดนำใบขับขี่และบัตรประจำตัวประชาชนของคุณออกมา และให้ความร่วมมือกับฉัน!”
จี้เฟิงที่เฝ้าดูเหตุการณ์อยู่ไม่ไกลก็ถึงกับยิ้มออกมาทันทีใช่คุณตำรวจจราจรหลี่ที่ใจร้อนจริงๆหรือเนี่ย คราวนี้ใจเย็นแฮะ ฉลาดไม่เบารอให้ผู้ชายคนนั้นเป็นฝ่ายลงมือก่อนจะได้ปฏิบัติหน้าที่ได้อย่างไร้ข้อกังขา
เมื่อเห็นว่าชายผมแดงถูกหลี่ลู่หนานทุบตีคนอื่นๆที่เหลือก็พากันสีหน้าเปลี่ยน ผู้ชายคนหนึ่งรีบตะโกนขึ้นมาทันที “หยุด! คุณทำอะไร คุณรู้หรือเปล่าว่าคุณกำลังทำร้ายใคร!” หลี่ลู่หนานเหลือบมองด้วยหางตาและพูดเบาๆ“ฉันกำลังปฏิบัติหน้าที่อย่างถูกต้องตามกฎหมาย กรุณานำใบขับขี่และบัตรประจำตัวประชาชนออกมาด้วย ฉันจะทำการตรวจสอบ!”
เธอไม่สนใจว่าคนเหล่านี้เป็นใครหรือลูกหลานของใครเนื่องจากพวกเขาละเมิดกฎจราจร หลี่ลู่หนานจึงต้องปฏิบัติตามกฎ และก็เป็นเพราะนิสัยแบบนี้ของเธอนี่เองที่ทำให้เธอต้องถูกไล่ออกจากทีมตำรวจในแผนกตำรวจอาชญากรมาเป็นตำรวจจราจร
แต่หลี่ลู่หนานไม่เสียใจยิ่งไปกว่านั้น เธอไม่คิดที่จะใช้อิทธิพลของครอบครัวเธอด้วยซ้ำ ไม่เช่นนั้นอย่าว่าแต่ทีมตำรวจอาชญากรจะไล่เธอออกเลย แค่เธอไม่ไล่คนอื่นออกไปก็ถือว่าไม่เลวแล้ว!
“เพ้อเจ้ออะไร!”หญิงสาวที่สวมหมวกสบถออกมาทันที “เป็นแค่ตำรวจจราจรกระจอกๆ กล้ามาพูดกับพวกฉันแบบนี้เหรอ? เธอรู้หรือเปล่าว่าคนที่เธอทำร้ายเขาเป็นใคร? ฉันจะบอกอะไรให้นะ วันนี้เธอซวยแล้วล่ะ!”
เมื่อสาวสวยได้พบกับสาวสวยความรู้สึกแข่งขันก็เกิดขึ้นมาเองโดยอัตโนมัติ เมื่อเห็นรูปร่างที่สูงโปร่งราวกับนางแบบแถมยังดูกล้าหาญของหลี่ลู่หนาน หญิงสาวที่สวมหมวกก็อดไม่ได้ที่จะรู้สึกไม่ถูกชะตา
หลี่ลู่หนานพูดด้วยเสียงเข้ม“ฉันไม่รู้หรอกนะว่าพวกคุณเป็นใคร ฉันรู้แค่ว่าพวกคุณไม่ปฏิบัติตามกฎ!”
หญิงสาวสวมหมวกโกรธจัดเธอหันไปหาผู้ชายร่างใหญ่สี่คนและพูดว่า “พวกนายน่ะ! ไปพาตำรวจจราจรอวดดีนั่นมาหาฉัน ฉันตบมันจนกว่าฟันจะร่วงหมดปากเลยคอยดู!”
ชายร่างใหญ่ทั้งสี่คนไม่ขยับเลยแม้แต่น้อยพวกเขาไม่แม้แต่จะหันมามองเธอเลยด้วยซ้ำ
อย่างไรก็ตามสายตาของจี้เฟิงนั้นจ้องมองไปยังผู้ชายมาดขรึมทั้งสี่คนนั้นพวกเขาไม่ธรรมดาจริงๆ ดูท่าแล้ววันนี้คงไม่จบไม่สวยเท่าไหร่ แต่หญิงสาวสวมหมวกคนนั้นทำตัวราวกับกลัวว่าโลกนี้มันจะไม่วุ่นวายมากไปกว่านี้!
เมื่อหญิงสาวสวมหมวกเห็นว่าเธอไม่สามารถสั่งชายร่างใหญ่ทั้งสี่คนได้เธอจึงหันไปทางหญิงสาวที่ยืนอยู่เงียบๆข้างๆเธอแล้วพูดว่า “เสี่ยวหยู เธอไม่เห็นเหรอว่าผู้หญิงคนนั้นรังแกพวกเราอยู่ รีบบอกให้บอดี้การ์ดของเธอไปจัดการมันสิ!”
หญิงสาวที่ชื่อเสี่ยวหยูส่ายหน้าทันทีและพูดเบาๆว่า“ซินซิน อย่าทำให้ปัญหามันลุกลามใหญ่โตไปมากกว่านี้เลย พวกเราเป็นฝ่ายทำผิดกฎหมาย เอาใบขับขี่กับบัตรประชาชนให้คุณตำรวจเถอะ!”
คำพูดของเธอทำให้จี้เฟิงและหลี่ลู่หนานรู้สึกดีขึ้นมากอย่างน้อยหญิงสาวที่สงบนิ่งคนนี้กับหญิงสาวที่สวมหมวกแก๊ปก็ไม่ใช่คนประเภทเดียวกัน
“เวรเอ้ย!กล้าดียังไงมาตีฉัน!” ชายผมแดงที่ถูกตีจนลงไปกองกับพื้นก็โวยวายทันทีหลังจากที่ฟื้นคืนสติขึ้นมาได้ แม้ว่าเขาจะยังคงกรีดร้องเพราะความเจ็บไปด้วยก็ตามที แต่ก็ไม่ลืมที่จะก่นด่าสาปแช่ง “แม่งเอ๊ย วันไหนที่เธอตกเป็นของฉัน ฉันจะจัดให้ทุกท่าอย่างสาแก่ใจเลย!”
หลี่ลู่หนานจ้องชายผมแดงด้วยสายตาที่เย็นยะเยือกความโกรธทำให้เธอสั่นไปทั้งตัวแต่ไม่สามารถลงมือทำอะไรไปได้มากกว่านี้
จี้เฟิงเดินมาข้างๆหลี่ลู่หนานด้วยรอยยิ้มเย็น“ไม่ต้องไปให้ค่ากับคำพูดของมันหรอก ขยะสังคมแบบนี้เราจะใช้เหตุผลกับมันไม่ได้ แต่คุณต้องทำแบบนี้…!”
เท้าของจี้เฟิงยกสูงขึ้นเขาแสยะยิ้มอีกครั้ง “ดูชัดๆ!”
“กร๊อบ!”
ทันใดนั้นเสียงแตกหักของกระดูกก็ดังขึ้นทุกคนที่อยู่ในเหตุการณ์ถึงกับเงียบกริบในทันที จากนั้นก็ได้ยินเสียงกรีดร้องโหยหวนมาแต่ไกล
“อ๊ากกกกกกกกกก!!!” คุณพอจะเดากันได้ไหมว่าผู้หญิงสองคนนี้เป็นใคร