The Ultimate Student สุดยอดนักเรียนสมองอัจฉริยะ - บทที่ 371 สืบหาข้อมูล
สิ่งที่ทำให้เว่ยเฉียงหงุดหงิดมากก็คือแม้ว่าเขาจะขอให้ลูกพี่ลูกน้องของเขาไปข่มขู่ถงเล่ยว่าจะให้เธอเขียนรายงานการสารภาพผิด จากนั้นเขาก็จะทำตัวเป็นพระเอกขี่ม้าขาวเข้าไปช่วยเหลือเธอแก้ ‘ปัญหา’ แต่ถงเล่ยยังคงเย็นชา แค่สีหน้าของเธอที่แสดงออกมาก็เพียงพอแล้วที่จะทำให้ผู้คนพากันถอยหนี มันทำให้เว่ยเฉียงไม่มีโอกาสได้เข้าใกล้เธอเลย
แต่เว่ยเฉียงก็ไม่ท้อถอยแม้ว่าถงเล่ยจะเป็นผู้หญิงที่สวยและเย็นชา แต่เธอก็ยังไม่ถึงกับเป็นภูเขาน้ำแข็ง แต่ยังไงเธอก็ได้ชื่อว่าเป็นผู้หญิงที่เข้าถึงยากอยู่ดี แม้ว่าผู้หญิงแบบนี้จะไม่ทำให้รู้สึกอยากได้ตั้งแต่แรกเห็น แต่ก็มากพอที่จะทำให้ผู้ชายธรรมดาๆ มีความปรารถนาที่จะพิชิตเธอมาให้ได้
พิชิตเธอ!ครอบครองเธอ!
การทำให้หญิงสาวที่ดูเย็นชาคนนี้กลายเป็นแมวน้อยเชื่องๆที่ร้องครวญครางอยู่ภายใต้ร่างกายของเขานี่แหละคือความปรารถนาของเว่ยเฉียง!
ดังนั้นหลังจากวิธีแรกที่เขาใช้เพื่อเข้าใกล้ถงเล่ยเกิดความล้มเหลวเว่ยเฉียงก็ขอให้ลูกพี่ลูกน้องของเขาช่วยอีกครั้งและเริ่มแผนการครั้งที่สอง แต่กลับมีสิ่งที่คาดไม่ถึงเกิดขึ้นนั่นก็คือในตอนที่ลูกพี่ลูกน้องของเขาส่งคนไปตรวจสอบหอพัก ถงเล่ยก็แสดงบัตรรับรองที่พัก!
เว่ยเฉียงถึงกับเลือดขึ้นหน้าเขาโกรธจัดทันทีเพราะเห็นได้ชัดว่าถงเล่ยจงใจทำบัตรรับรองที่พักมาก็เพื่อเตรียมไว้ป้องกันเขา
เว่ยเฉียงรีบไปหาลูกพี่ลูกน้องของเขาทันทีและขอให้ช่วยแก้ปัญหาเรื่องที่ถงเล่ยมีบัตรรับรองที่พัก
และสิ่งที่เกิดขึ้นต่อจากนี้ก็คือเว่ยเฉียงได้แจกบัตรเครดิตให้กับพนักงานของสำนักงานทั่วไปทุกคนและแน่นอนว่าพวกเขาไม่อาจต้านทานผลประโยชน์ดีๆแบบนี้ได้ พวกเขากลายเป็นผู้ช่วยที่ซื่อสัตย์ที่สุดของเว่ยเฉียง!
คราวนี้เว่ยเฉียงรู้สึกได้ว่าเขาจะต้องประสบความสำเร็จอย่างแน่นอน!
ไม่เพียงแต่ต้องถูกลงโทษเท่านั้นแต่ยังต้องโพสต์ประกาศทางวินัยในบอร์ดข่าวของทางมหาวิทยาลัยอีกด้วย สิ่งเหล่านี้ต่อให้เป็นผู้ชายตัวโตๆก็เกรงว่าจะไม่อยากเผชิญ แล้วนับประสาอะไรกับผู้หญิงตัวเล็กๆอย่าถงเล่ย!
สำหรับผู้ที่สำเร็จการศึกษาจากสหพันธ์มหาวิทยาลัยแล้วออกไปหางานทำแม้ว่าสหพันธ์มหาวิทยาลัยจะเป็นมหาวิทยาลัยที่มีชื่อเสียง แต่ก็ไม่ได้เป็นเครื่องการันตีว่าการหางานทำของคุณจะสำเร็จราบรื่นเสมอไป ดังนั้นหากต้องการหางานที่มีค่าตอบแทนสูงในบริษัทที่ดี คำแนะนำและผลการประเมินจากทางมหาวิทยาลัยจึงเป็นสิ่งที่สำคัญมาก โดยเฉพาะกับบริษัทใหญ่ๆที่มีชื่อเสียงหรือการทำงานในเส้นทางของทางการ ยิ่งสถาบันเหล่านี้มีชื่อเสียงมากเท่าไหร่ ก็ยิ่งให้ความสำคัญกับเรื่องนี้มากขึ้นเท่านั้น และการประเมินผลของมหาวิทยาลัยจะถูกใส่ไว้ในโปรไฟล์ของนักศึกษา
นอกจากนี้ยังหมายความว่าเมื่อนักศึกษาคนใดมีความผิดทางวินัยหรือถูกลงโทษในมหาวิทยาลัยเรื่องนี้จะถูกนำเสนออย่างชัดเจนในสายตาของผู้สัมภาษณ์เหล่านั้น และไม่มีทางที่จะซ่อนเร้นเรื่องนี้ได้เลยแม้แต่น้อย
ภายใต้สถานการณ์ที่เลวร้ายเช่นนี้เว้นแต่ว่านักศึกษาจะมีพื้นฐานทางบ้านที่ดีพอ ไม่เช่นนั้นการหางานที่เหมาะสมและได้ค่าตอบแทนสูง คงเป็นเพียงแค่เรื่องเพ้อฝัน!
เว่ยเฉียงได้ทำการสืบข้อมูลมาเรียบร้อยแล้วถงเล่ยและแฟนหนุ่มโง่ๆของเธอมาจากหมู่บ้านในชนบทที่ห่างไกลในเขตหมางซือ การจะมีพื้นฐานครอบครัวที่ดีก็คงเป็นเรื่องที่แปลกแล้ว!
ใช่แล้ว!มันคือผู้ชายที่โง่เขลา!
คนที่รู้ภูมิหลังของหยุนปิงแล้วยังกล้าที่จะทำร้ายเธอจะให้เรียกว่าอะไรได้อีกถ้าไม่ใช่พวกสมองไร้รอยหยัก
เว่ยเฉียงรู้ว่าแม้แต่ตระกูลของเขาก็ยังไม่กล้าที่จะแหยมกับฮุ่ยหวงกรุ๊ปและหยุนเฟยหยางแต่แฟนถงเล่ยกล้าทำแบบนั้นได้ยังไง!
ถ้าไม่ใช่เพราะตระกูลของหยุนปิงแข็งแกร่งและน่ากลัวเกินไปเว่ยเฉียงจะปฏิเสธหยุนปิงอย่างแน่นอน แต่เหตุผลก็คือตระกูลของเขาไม่กล้าแม้แต่จะเผชิญหน้าตรงๆกับตระกูลหยุนด้วยซ้ำ! ภาพชีวิตการแต่งงานของเขากับหยุนปิงในอนาคตก็ลอยมาให้เห็นรางๆแล้ว แล้วเรื่องอะไรที่คนอย่างเว่ยเฉียงจะยอมเป็นเบี้ยล่างกันล่ะ แบบนี้ก็มีเมียน้อยไม่ได้น่ะสิ!
ดังนั้นเว่ยเฉียงจึงพยายามทำท่าทางไร้เดียงสาทำเป็นไม่รู้ว่าหยุนปิงหลงรักเขาและพยายามเบี่ยงเบนความสนใจของหยุนปิงไปที่ถงเล่ย ด้วยนิสัยอย่างหยุนปิง เธอจะต้องไม่พอใจและมีปัญหากับถงเล่ยอย่างแน่นอน และเมื่อถึงตอนนั้นแฟนของถงเล่ยจะต้องยื่นมือเข้ามาช่วยเหลือเธอ และนั่นก็เท่ากับว่า…แฟนของถงเล่ยได้ล่วงเกินหยุนปิง!
ในเจียงโจวหากคุณทำให้ผู้หญิงอย่างหยุนปิงขุ่นเคือง คนที่ไม่ยอมคนและไร้ความเมตตาอย่างเธอ ต่อให้คุณไม่มีสมองก็สามารถใช้ส้นเท้าคิดได้ทันทีว่าจุดจบของคนคนนั้นจะเป็นยังไง!
แต่ถ้าไอ้บ้านนอกนั่นไม่กล้าลงมือก็เท่ากับว่ามันปล่อยให้ถงเล่ยได้รับบาดเจ็บ และจะเป็นการทำร้ายหัวใจของถงเล่ยอย่างไม่ต้องสงสัย จากนั้นเว่ยเฉียงก็จะใช้ประโยชน์จากเรื่องนี้ เข้าไปเป็นตัวกลางไกล่เกลี่ยไม่ให้หยุนปิงมีความผิดทางวินัย เท่ากับได้ใจของหยุนเฟยหยางและขอร้องให้คนในครอบครัวช่วยกันขอร้องหยุนเฟยหยางให้ปล่อยถงเล่ยไป แล้วทีนี้เขาก็จะสามารถคว้าใจถงเล่ยมาไว้ในกำมือได้อย่างง่ายดาย!
แต่สิ่งที่เหนือความคาดหมายของเว่ยเฉียงคือเขาไม่รู้ว่าไอ้บ้านนอกนั่นไปทำบุญวัดไหนมาถึงได้โชคดีขนาดนี้ จนแล้วจนรอดการแก้แค้นของตระกูลหยุนก็ยังไม่เกิดขึ้น ไอ้บ้านนอกนั่นยังมีชีวิตอยู่ แต่ตระกูลหยุนกลับถูกทำลาย!
เมื่อเหตุการณ์เป็นแบบนี้เว่ยเฉียงจึงต้องวางแผนขั้นต่อไปของเขา!
และตอนนี้ดูเหมือนว่ามันจะได้ผลลัพธ์ที่ดีเว่ยเฉียงอารมณ์ดีและมีความสุขมาก เขาบอกให้เว่ยเฉินหลิงลูกพี่ลูกน้องของเขากับพนักงานทุกคนในแผนกการจัดการทั่วไป ไปที่ภัตตาคารแห่งหนึ่งใกล้ๆกับมหาวิทยาลัย เพื่อเฉลิมฉลองกับแผนการที่เป็นไปได้ด้วยดี
ห่างจากสหพันธ์มหาวิทยาลัยไปประมาณ3-4 กิโลเมตร มีภัตตาคารที่ชื่อว่าเจียงหนานซีฟู้ด เว่ยเฉียงกับเว่ยเฉินหลิงลูกพี่ลูกน้องของเขาและพนักงานแผนกการจัดการทั่วไปของมหาวิทยาลัย กำลังเพลิดเพลินกับปลาแม่น้ำสดๆ
บนโต๊ะอาหารตรงหน้าพวกเขามีบรั่นดีระดับไฮเอนด์ชั้นดีสองสามขวด พวกเขาหลายคนดื่มกันจนหน้าแดงก่ำ และการพูดคุยของพวกเขาก็เริ่มเปลี่ยนไป
แม้แต่พนักงานของสำนักงานทั่วไปสามคนที่ปกติจะดูสุภาพเรียบร้อยก็ยังพูดคุยและส่งเสียงดังมากในเวลานี้ ขนาดอยู่ในห้องอาหารส่วนตัวแต่เสียงของพวกเขาก็ยังดังไปจนถึงทางเดิน
……………
ภัตตาคารเจียงหนานซีฟู้ด จี้เฟิงมองป้ายไฟนีออนที่กะพริบอยู่ด้านหน้า เขาอดไม่ได้ที่จะยิ้มและถามว่า เล่ยซือ นายรู้จักที่นี่ได้ยังไง? มันไม่ได้ใกล้กับมหาลัยเท่าไหร่เลยนะ!
ก็พวกในหอพักนั่นแหละบอกมีคนเคยมากินที่นี่แล้วบอกว่าปลาแม่น้ำที่นี่พิเศษมาก มันเป็นปลาแม่น้ำแท้ๆและนำเข้ามาใหม่ๆสดๆทุกวัน ส่วนฝีมือของเชฟที่นี่ก็ไม่ธรรมดา อร่อยอย่าบอกใครเลยล่ะ! จางเล่ยพูดพลางกลืนน้ำลายอย่างตะกละตะกลาม ปลาแม่น้ำ.. ฮี่ฮี่~
จี้เฟิงยิ้มและส่ายหัวอย่างช่วยไม่ได้ในแง่ของอาหารจางเล่ยไม่ได้เป็นคนกินยากหรือเรื่องมากอะไร แต่ถ้าจะพูดถึงอาหารโปรดของเขาก็คงจะเป็นปลานี่ล่ะ!
งั้นก็เข้าไปกันเลยมั้ย จี้เฟิงยิ้ม
ทันทีที่กลุ่มของจี้เฟิงเข้ามาในร้านพนักงานต้อนรับก็แจ้งว่าที่นั่งในห้องโถงรวมนั้นเต็มหมดแล้ว
งั้นก็ไปห้องส่วนตัวกันเถอะ!จริงๆแล้วฉันก็ไม่ได้กะจะมานั่งกินในห้องโถงรวมแต่แรกอยู่แล้ว! จางเล่ยพูดตรงๆว่า ที่ห้องโถงรวมเสียงดังเกินไป ฉันไม่ชอบ เอาห้องส่วนตัวนั่นแหละ เงียบสงบดี จะได้พูดคุยอะไรกันสะดวกๆหน่อย!
เชิญทุกท่านทางนี้! เมื่อพนักงานต้อนรับเห็นว่ากลุ่มของจี้เฟิงตัดสินใจได้แล้วก็ทำท่าเชิญและนำทางไปยังด้านใน
อย่างไรก็ตามจี้เฟิงสังเกตเห็นพนักงานแอบเหลือบมองมาแวบหนึ่ง จากนั้นสายตาของเธอก็ดูประหลาดใจและอับอาย เป็นแววตาที่ซับซ้อน จี้เฟิงอดไม่ได้ที่จะโค้งมุมปากของเขาขึ้นเล็กน้อย เขาคิดว่าพนักงานต้อนรับคงเห็นความสวยที่โดดเด่นของเซียวหยูซวนและถงเล่ย เธอจึงมีปฏิกิริยาเช่นนี้
อันที่จริงด้วยความงามของเซียวหยูซวนและถงเล่ยเกรงว่าหญิงสาวธรรมดาทั่วไปเมื่อได้เห็นพวกเธอเข้าก็คงอดไม่ได้ที่จะรู้สึกละอาย
จี้เฟิงจำได้อย่างแม่นยำในตอนแรกถงเล่ยในสายตาของเขาเธอเปรียบเสมือนนางฟ้าผู้สูงส่งและไม่มีวันที่คนอย่างเขาจะเอื้อมถึง
โลกนี้ช่างไม่มีอะไรที่คาดเดาได้เลยจริงๆใครจะไปคาดคิดว่านางฟ้าที่แสนงดงามในดวงใจของเขาเมื่อตอนนั้น จะกลายมาเป็นแฟนสาวของเขาในตอนนี้!
จริงๆแล้วชีวิตก็เหมือนความฝันโอกาสก็เหมือนมายา!
ขณะที่จี้เฟิงกำลังคิดฟุ้งซ่านไปเรื่อยเปื่อยพนักงานต้อนรับก็พาพวกเขามายังห้องส่วนตัวที่อยู่บนชั้นสาม ห้องนี้มีชื่อว่า ‘หงอจิ้นโถว’ พนักงานต้อนรับเปิดประตูให้กับทุกคนและเปิดเครื่องปรับอากาศ จากนั้นก็เตรียมอุปกรณ์ทานอาหารบนโต๊ะตามจำนวนคนอย่างชำนาญ
หน้าที่สั่งอาหารถูกมอบหมายให้จางเล่ยอย่างไม่ต้องสงสัยในเมื่อเขาชอบกินปลามากขนาดนี้ ก็ให้เขาสั่งมาให้สาสมใจไปเลยก็แล้วกัน
Rrrrrrr~~!!
ในขณะที่จางเล่ยกำลังสั่งอาหารอยู่ๆโทรศัพท์ของจี้เฟิงก็ดังขึ้น เขาหยิบโทรศัพท์ออกมาดูและพบว่าโจวหลี่โทรมา
จี้เฟิงเผยยิ้มออกมาทันทีผู้ชายคนนี้ทำงานดีแฮะ เห็นบอกว่าจะติดต่อมาประมาณ 4 ทุ่ม แต่ตอนนี้เพิ่งจะ 1 ทุ่ม ก็โทรมาแล้ว
จี้เฟิงรับสาย ว่าไงหัวหน้าโจว ได้ข้อมูลอะไรมาบ้างมั้ยครับ
น้องจี้เฟิงเรื่องมันค่อนข้างจะจัดการยากกว่าที่คิด! ประโยคแรกของโจวหลี่ก็ทำให้จี้เฟิงต้องขมวดคิ้วทันที
ประวัติคร่าวๆของเว่ยเฉินหลิงกับเว่ยเฉียงพอจะหาได้บ้างแต่รายละเอียดอื่นๆนั้นกลับหาไม่เจอเลย!
บอกมาสิ! จี้เฟิงยิ้ม
โอเค!ฉันเจอข้อมูลบางอย่างในทะเบียนของแผนกรักษาความปลอดภัยของมหาลัย เดิมทีเว่ยเฉียงไม่ใช่คนท้องถิ่นในเจียงโจว เขามาจากเขตเป๋าต่าของจังหวัดเจ้อเจียงในมณฑลเจียงซู พ่อของเขาชื่อเว่ยฮั่นเซิง ในช่องอาชีพเขากรอกข้อมูลไว้ว่าเป็นหัวหน้าของรัฐวิสาหกิจ แม่ของเขาชื่อ ซูหยิง ไม่ได้กรอกข้อมูลเกี่ยวกับอาชีพไว้ ส่วนข้อมูลอื่นๆนอกจากนี้ก็ไม่มีแล้ว
จี้เฟิงขมวดคิ้วเล็กน้อยอาศัยข้อมูลเพียงเท่านี้น่าจะยังไม่เพียงพอที่จะให้พี่รองตรวจสอบเขาได้ ที่สำคัญฉันก็ไม่มีคนรู้จักอยู่ในเจ้อเจียงหรือเจียงซูเลย เขาอดไม่ได้ที่จะถามว่า หัวหน้าโจว นายสามารถเข้าถึงแฟ้มประวัติของมหาลัยได้หรือเปล่า
โจวหลี่ยิ้มเจื่อนๆ ฉันเป็นแค่รองหัวหน้าแผนกรักษาความปลอดภัยเล็กๆ จะมีสิทธิ์ไปดูแฟ้มประวัติของมหาลัยได้ยังไง… อ้อ! นอกจากข้อมูลที่เพิ่งบอกไปเมื่อกี้ ฉันให้คนไปสอบถามข้อมูลมา แต่ก็ได้มาเป็นข่าวๆเล็กๆน้อยๆ แถมไม่รู้ด้วยว่าเป็นเรื่องจริงรึเปล่า!
หัวใจของจี้เฟิงเต้นเร็วขึ้นทันทีและรีบพูดว่า บอกมาเลย!
เขารู้ดีว่าบางครั้งข่าวซุบซิบที่ดูเหมือนจะเป็นแค่ข่าวๆเล็กๆน้อยใช่ว่าจะไม่สำคัญ ส่วนใหญ่ล้วนมีมูลมาจากความจริงทั้งนั้น
โจวหลี่กล่าวว่า เพื่อนของฉันคนนี้เป็นหนึ่งในสมาชิกทีมบาสเกตบอลเดียวกันกับเว่ยเฉียง เขาเคยไปดื่มกับเว่ยเฉียงอยู่สองสามครั้ง ตามที่เขาได้ยินมา เขาบอกว่าพ่อของเว่ยเฉียงเป็นหุ้นส่วนใหญ่ในเครือบริษัทก่อสร้างของรัฐ ดูเหมือนว่าเมื่อปีที่แล้วบริษัทได้ประมูลงานใหญ่ในเจียงโจวมา พ่อของเว่ยเฉียงเป็นผู้รับผิดชอบงานนี้ และบังเอิญเว่ยเฉียงก็สอบติดมหาลัยที่นี่พอดี ดังนั้นพวกเขาก็เลยย้ายครอบครัวมาที่เจียงโจว
แน่นอนว่าข่าวเล็กๆน้อยๆนี้เป็นประโยชน์มากกว่าข้อมูลที่ถูกบันทึกไว้อย่างเป็นทางการเสียอีก!
จี้เฟิงอดหัวเราะไม่ได้ ที่แท้ก็เป็นแบบนี้นี่เอง แล้วนายพอจะรู้หรือเปล่าว่าบริษัทของพ่อเว่ยเฉียงมีชื่อบริษัทว่าอะไร
เมื่อได้ยินจี้เฟิงเอ่ยถึงชื่อของเว่ยเฉียงเสียงพูดคุยในห้องอาหารส่วนตัวก็เงียบลงทันที ทุกคนหันไปมองจี้เฟิงและไม่มีใครพูดอะไรอีกเพราะกลัวว่าจะเป็นการรบกวนการคุยโทรศัพท์ของเขา
เอ่อ… โจวหลี่อ้ำๆ อึ้งๆ และกล่าวอย่างลังเล เพื่อนคนนั้นเขาแค่ฟังเว่ยเฉียงคุยโม้ที่วงเหล้าเท่านั้น ส่วนรายละเอียดอื่นๆเขาก็ไม่ค่อยรู้อะไรเท่าไหร่ น้องจี้เฟิง ฉันต้องขอโทษจริงๆ ที่ฉันสืบมาได้ก็มีแค่นี้ เฮ้อ…
จี้เฟิงยิ้ม ข้อมูลพวกนี้สำคัญมาก ขอบใจมากหัวหน้าโจว วันหลังฉันจะไปเลี้ยงข้าวเป็นการขอบคุณ!
ขอฉันเป็นเจ้ามือแล้วกันฮ่าๆๆ! โจวหลี่ยิ้ม การได้มีความสัมพันธ์ที่ดีกับจี้เฟิงเป็นเรื่องที่ดีมาก แน่นอนว่าเขาจะไม่ปล่อยให้จี้เฟิงเป็นฝ่ายเลี้ยงข้าวเขา
จี้เฟิงไม่ได้ยืนกรานเขาหัวเราะและตอบตกลงอย่างง่ายๆ ก่อนจะวางสายไป
เจ้าบ้าได้เรื่องว่าไงบ้าง จางเล่ยถามทันที
ได้ข้อมูลมาไม่มากนักรู้แค่ว่าพ่อของเว่ยเฉียงชื่อเว่ยฮั่นเซิง เป็นหุ้นส่วนใหญ่ในบริษัทก่อสร้างแห่งหนึ่งในมณฑลเจียงซู เริ่มลงทุนทำธุรกิจในเจียงโจวมาตั้งแต่ปีที่แล้ว….
ก่อนที่จี้เฟิงจะพูดจบเขาก็ถูกขัดจังหวะโดยฮั่นจง
เว่ยฮั่นเซิง! ฮั่นจงประหลาดใจเล็กน้อย เว่ยฮั่นเซิงจากบริษัทก่อสร้างเป๋าต่าหรือเปล่า?
หัวใจของจี้เฟิงเต้นระรัวเขาพยักหน้าอย่างรวดเร็วและพูดว่า ใช่! บ้านของเว่ยฮั่นเซิงอยู่ที่เขตเป๋าต่า นายรู้จักผู้ชายคนนี้ด้วยเหรอ