The Ultimate Student สุดยอดนักเรียนสมองอัจฉริยะ - บทที่ 388 เมา
เมื่อจี้เฟิงจอดรถเสร็จและกลับมาที่คฤหาสน์อีกครั้งเขาก็ต้องตกตะลึงเมื่อพบว่าฉินซูเจี๋ยเปลี่ยนเสื้อผ้าเรียบร้อยแล้ว เธอไปเปลี่ยนตอนไหนกัน ชุดที่ฉินซูเจี๋ยสวมอยู่เป็นชุดนอนผ้าฝ้ายเปิดเผยให้เป็นคอ เว้าลึกไปจนถึงเนินอกที่เนียนขาวราวกับหิมะ ผมยาวเป็นลอนของเธอปลิวไสวอยู่ด้านหลัง ท่าทางการเคลื่อนไหวที่ดูสบายๆเป็นธรรมชาติเต็มไปด้วยเสน่ห์เย้ายวน มันทำให้หัวใจของจี้เฟิงที่สงบลงไปแล้วเต้นแรงขึ้นมาอีกครั้ง
เมื่อเห็นจี้เฟิงยืนอยู่หน้าประตูฉินซูเจี๋ยก็ยิ้มหวานดวงตาคู่งามของเธอเป็นประกายและพูดว่า ไปจอดรถเสร็จแล้วเหรอ เข้ามาสิ มานั่งเร็วๆเข้า อาหารมาส่งเรียบร้อยแล้ว!
จี้เฟิงสูดลมหายใจเข้าลึกๆและแอบเตือนตัวเองว่า เพราะวันนี้เกิดเหตุการณ์ที่ทำให้ฉินซูเจี๋ยรู้สึกสะเทือนใจ จึงทำให้เธอมีอารมณ์ที่ค่อนข้างผิดปกติ แต่นาย จี้เฟิง! นายห้ามฉวยโอกาสที่ผิดปกตินี้ ทำเรื่องไม่ดีโดยเด็ดขาด!
โอเค! จี้เฟิงหัวเราะและรีบเดินเข้าไปหา เขาพึมพำกับตัวเองว่าร้านอาหารร้านนี้รวดเร็วดีจริงๆ ฉินซูเจี๋ยเพิ่งกลับมาถึงบ้าน แต่อาหารได้ถูกจัดส่งมาเรียบร้อยแล้ว
ไปที่ห้องครัวกันเถอะ! ฉินซูเจี๋ยเดินกลับมาแล้วคว้ามือของจี้เฟิงเพื่อจูงเขาให้เดินเร็วๆ
จี้เฟิงยิ้มอย่างช่วยไม่ได้เขาทำได้เพียงฝืนใจเดินตามไป ในความเป็นจริงจี้เฟิงนั้นไม่รู้จริงๆว่าจะปลอบใจคนอื่นได้อย่างไร เพราะถ้าเป็นตัวเขา เวลาที่เขาได้รับความเจ็บปวดทางใจ อย่างมากเขาก็จะซ่อนตัวอยู่ในที่ไหนสักแห่งคนเดียวเงียบๆ และเมื่ออารมณ์ของเขาสงบลงแล้วเขาถึงค่อยกลับบ้าน ตอนนั้นจี้เฟิงเป็นเหมือนหมาป่าที่ได้รับบาดเจ็บ เขาจะเก็บซ่อนบาดแผลเอาไว้เพียงคนเดียว โดยที่ไม่ต้องการให้ใครมาสงสาร และโดยเฉพาะอย่างยิ่งคำปลอบใจ เขาก็ไม่ต้องการ
แต่สำหรับผู้หญิงเห็นได้ชัดว่ามันไม่ง่ายขนาดนั้น
จี้เฟิงอดไม่ได้ที่จะเกาหัวเรื่องแบบนี้ถ้ายิ่งพูดอะไรที่ไม่เข้าท่า มันอาจจะยิ่งทำให้คนฟังรู้สึกแย่เข้าไปใหญ่ บางทีเขาอาจจะทำได้แค่ดื่มเป็นเพื่อนเธอเท่านั้น….
เมื่อมาถึงห้องครัวเขาก็พบบนโต๊ะเต็มไปด้วยอาหาร…. แต่ไม่มีข้าว!
อย่างไรก็ตามเมื่อจี้เฟิงเห็นวอดก้าและไวน์ที่วางอยู่บนโต๊ะเขาก็อดไม่ได้ที่จะตกตะลึง ร้านอาหารบ้านๆนั่นเอาวอดก้าและไวน์แดงมากมายมาส่งตามที่ฉินซูเจี๋ยบอกจริงๆด้วย! พวกเขากลัวจะขายไม่ได้อย่างนั้นเหรอ
เป็นอะไรมัวยืนอยู่ตรงนั้นทำไม? กลัวว่าฉันจะกินนาย? ฉินซูเจี๋ยมองจี้เฟิงที่กำลังอึ้ง เธอทำหน้าเหมือนจะยิ้มแต่ก็ไม่ยิ้ม และพูดหยอกล้อ
แค่กแค่ก!!
จี้เฟิงกระแอมไอออกมาสองสามทีคำพูดเหล่านี้ค่อนข้างคลุมเครือทำให้ความคิดของเขาเตลิด หัวใจของเขาเต้นแรงขึ้นอย่างช่วยไม่ได้ เขารีบเบนสายตาหนีไปจากใบหน้าอันยั่วยวนของฉินซูเจี๋ยและแอบสูดลมหายใจเข้าลึกๆเพื่อสงบสติอารมณ์ลง
เมื่อดูอย่างผิวเผินแล้วแทบมองไม่ออกเลยว่ามีอะไรผิดปกติจี้เฟิงดึงเก้าอี้อีกด้านของโต๊ะออกแล้วนั่งลงด้วยรอยยิ้ม พี่ฉิน โรงแรมนี้มาส่งอาหารเร็วดีนะครับ พอพูดถึงอาหาร ท้องก็ร้อง…
ก่อนที่เขาจะพูดจบฉินซูเจี๋ยก็ขัดจังหวะเขา
จี้เฟิงที่วันนี้ฉันชวนเธอมา ไม่ใช่แค่มากินข้าวเท่านั้น… ฉินซูเจี๋ยยิ้มเล็กน้อย เธอหยิบวอดก้าที่เปิดอยู่นำมารินให้จี้เฟิงเต็มแก้ว แล้วรินให้ตัวเองอีกแก้ว พวกเราดื่มกันก่อน ถ้ามีอะไรจะพูด อีกเดี๋ยวค่อยว่ากันทีหลัง
เกรงว่าทีหลังก็อาจจะไม่ได้พูด!
จี้เฟิงได้แต่ยิ้มเจื่อนๆอยู่ในใจแต่ปากของเขาก็พยายามพูดปลอบด้วยความหวังดี พี่ฉิน ค่อยๆดื่มดีกว่านะครับ ถ้าดื่มมากไป อาจทำร้ายร่างกาย…
ฉันเป็นผู้หญิงแท้ๆยังไม่กลัวแต่ผู้ชายตัวโตอย่างนายกลับกลัวว่า เหล้าจะทำร้ายร่างกายอย่างนั้นเหรอ ฉินซูเจี๋ยกลอกตาใส่เขา และพูดยิ้มๆ อ้อ จริงสิ นายยังเป็นแค่เด็กผู้ชาย เด็กน้อยอนามัยจัดแบบนี้ยังเรียกว่าเป็นผู้ชายเต็มตัวไม่ได้สินะ!
แค่กแค่ก! จี้เฟิงแทบสำลัก แม้ฉินซูเจี๋ยจะพูดจาหยอกล้อแต่แววตาของเธอที่จ้องมองมาช่างมีเสน่ห์เกินจะต้านทานจริงๆ เขาถึงกับคิดในใจว่า ฉันเด็กน้อยหรือเปล่า มีแต่ผู้หญิงของฉันเท่านั้นที่รู้ ถ้าเธออยากจะรู้ก็คงต้องลองดู…
แน่นอนว่าเขาไม่กล้าพูดประโยคนี้ออกมาแต่ไม่ว่าจะเป็นผู้ชายคนไหน เมื่อถูกมองว่าตัวเองเป็นเด็กน้อย ก็มักจะไม่พอใจเป็นธรรมดา
มาๆพี่ฉิน ดื่มเหล้ากันเถอะ! จี้เฟิงเข้าใจแล้วว่าถ้าเขาไม่ดื่มเหล้าตามใจเธอ วันนี้เขาคงไม่มีทางได้กลับบ้านง่ายๆอย่างแน่นอน นอกจากนี้ถ้าทิ้งฉินซูเจี๋ยไว้คนเดียวในคฤหาสน์ที่ใหญ่โตและเงียบเหงาเช่นนี้ ด้วยอารมณ์ของฉินซูเจี๋ยที่ไม่ปกติ แล้วถ้าเกิดเธอคิดทำอะไรบ้าๆขึ้นมา เขาคงจะรู้สึกผิดไปตลอดชีวิต
‘ดื่มก็ดื่มวะคิดซะว่ายอมสละร่างกายเพื่อแสดงความเป็นสุภาพบุรุษก็แล้วกัน!’ จี้เฟิงแอบตัดสินใจในใจว่า ถ้าต้องดื่มเหล้าในปริมาณที่เยอะจริงๆ เขาจะใช้กระแสไฟฟ้าชีวภาพเพื่อขับแอลกอฮอล์ออกไปทั้งหมด อย่างน้อยเขาจะต้องไม่เมาและมีสติอยู่ตลอดเวลา
นั่นแหละดีมาก!ดื่มๆ! ดวงตาคู่งามของฉินซูเจี๋ยส่องประกายแวววาว มันเหมือนกับหยดน้ำค้างในฤดูใบไม้ร่วง มันเป็นความงดงามที่เต็มไปด้วยเสน่ห์อันเย้ายวนใจ เมื่อจ้องมองเธอมากไปจี้เฟิงก็กลัวว่าเขาจะทนไม่ได้
จี้เฟิงทำได้เพียงฝืนใจยกแก้วขึ้นชนกับฉินซูเจี๋ยและค่อยๆดื่มมันลงไป ทันใดนั้นความรู้สึกแสบร้อนก็ไหลลงสู่ลำคอของเขาอย่างรวดเร็วจนมาถึงกระเพาะของเขาจี้เฟิงรู้สึกปั่นป่วนที่กระเพาะขึ้นมาทันที
วอดก้าเพียวๆนี่แรงสมคำร่ำลือจริงๆ!
จี้เฟิงสูดหายใจเข้าลึกๆก่อนจะได้สติกลับมาแต่ความรู้สึกร้อนผ่าวในหลอดอาหารและกระเพาะยังคงรู้สึกได้อย่างชัดเจน
เขาตัดสินใจว่าจะทำการขับแอลกอฮอล์ออกไปทันทีเลยก่อนที่มันจะทำให้เขาเมาเสียก่อน จี้เฟิงค่อยๆกระตุ้นกระแสไฟฟ้าชีวภาพอย่างช้าๆ เพื่อกำจัดแอลกอฮอล์ในกระเพาะทั้งหมด แต่ก่อนที่เขาจะทำสำเร็จ ฉินซูเจี๋ยก็เทเหล้าใส่แก้วของจี้เฟิง และเทใส่แก้วของตัวเองและยกขึ้นดื่มอีกครั้ง
จี้เฟิง!มาๆ อีกแก้ว! หลังจากพูดจบ ฉินซูเจี๋ยก็เงยหน้าขึ้นและกระดกหมดแก้วอย่างรวดเร็ว แต่เพราะว่าเธอดื่มเร็วเกินไป จึงทำให้เธอสำลักและไอออกมา จนน้ำตาแทบจะไหล ใบหน้าที่งดงามของเธอในเวลานี้เริ่มเป็นสีแดงระเรื่อเพราะฤทธิ์แอลกอฮอล์ และมันยิ่งเพิ่มเสน่ห์ให้กับตัวเธอมากยิ่งขึ้นไปอีก
พี่ฉิน… จี้เฟิงยิ้มอย่างขมขื่น ขณะที่เขากำลังจะพูดอะไรบางอย่าง ฉินซูเจี๋ยก็ขัดจังหวะเขาอีกครั้ง
อย่าพูดมากฉันบอกแล้วไงว่าถ้ามีอะไรจะพูดก็ดื่มให้เสร็จก่อนแล้วค่อยว่ากัน! ฉินซูเจี๋ยรินเหล้าอีกครั้ง เธอยกแก้วขึ้นเพื่อชนกับจี้เฟิง จากนั้นก็เงยหน้าดื่มรวดเดียวหมดแก้ว
จี้เฟิงได้แต่มองอย่างเซ่อๆ…
เมื่อวอดก้าขวดหนึ่งหมดหลงฉินซูเจี๋ยก็แทบจะประคองสติไม่อยู่แล้ว
ในเวลานี้เธอเริ่มพูดจาไร้สาระไปเรื่อยเปื่อยบางทีก็ฟังไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเธอกำลังพูดคำว่าอะไร แต่ในขณะเดียวกันจี้เฟิงยังคงพูดจารู้เรื่องและมีสติชัดเจน เพราะในขณะที่ฉินซูเจี๋ยกำลังมึนเมา จี้เฟิงก็ใช้กระแสไฟฟ้าชีวภาพสลายวอดก้าออกจากร่างกายไป
จี้เฟิง…นายรู้มั้ยว่าทำไมฉันถึงได้พานายมาที่นี่ ฉินซูเจี๋ยถามด้วยดวงตาที่พร่ามัว ทำไมน่ะเหรออืม… เป็นเพราะที่นี่เงียบสงบ แล้วถ้าเกิดเหยาเหยามาเห็นพวกเราดื่มเหล้ามันจะไม่ดี… จี้เฟิงครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะตอบออกไป
ในตอนนี้จี้เฟิงเริ่มกินอาหารอย่างเอร็ดอร่อยหลังจากที่ทานอาหารเช้ากับหยูซวนและเล่ยเล่ยเมื่อเช้า เขาก็จิบกาแฟไปแค่หนึ่งอึก แล้วก็ไม่ได้กินอะไรอีกเลย ตอนนี้เขาหิวจนไส้จะกิ่วแล้ว
บวกกับก่อนหน้านี้ดื่มเหล้าที่มีฤทธิ์แรงมันยิ่งทำให้เขารู้สึกไม่สบายท้องจึงต้องหาของอร่อยๆมาใส่ท้องไว้ก่อน
นายตอบผิด!
ฉินซูเจี๋ยส่ายหัวอย่างเมามายและพูดว่า ฉัน ฉันเคยบอกนายว่า… บ้านหลังนี้ถูกชดเชยโดยผู้ชายคนหนึ่ง… ที่อยากจะให้ฉันเป็นเมียน้อย! และมันทำให้ฉันรู้ซึ้งเลยว่าผู้ชายบางคนมันน่าขยะแขยงมากขนาดไหน…
จี้เฟิงพยักหน้าเล็กน้อยและยิ้ม ป่าใหญ่ล้วนมีนกหลายชนิด… เช่นเดียวกันกับทั้งชายและหญิงล้วนมีทั้งดีและไม่ดี
ฉินซูเจี๋ยพยักหน้าและพูดว่า ใช่! ทุกสิ่งทุกอย่างล้วนมีทั้งดีและไม่ดี แต่! คนในครอบครัวก็ไม่ควรจะเลวใส่คนในครอบครัวใช่มั้ย ทำไม… สามีฉัน ไม่สิ สามีเก่าของฉัน เพียงเพื่อธุรกิจ เขาถึงกับส่งฉันให้กับผู้ชายคนอื่น ให้ผู้ชายคนอื่นมาเล่นสนุกกับภรรยาของตัวเองได้ตามใจชอบ! ถ้า.. ถ้าตอนนั้นไม่ใช่เพราะมีคนเตือนฉันให้รู้แผนการของเขาล่วงหน้า บางทีตอนนี้ฉันก็อาจจะฆ่าตัวตายไปแล้ว…
เมื่อได้ยินแบบนี้จี้เฟิงก็เงียบไปเขาไม่รู้จะพูดอะไรดี ผู้ชายที่ทำเรื่องแบบนี้ได้ไม่สมควรเรียกมันว่าคนด้วยซ้ำ!
ต่อมาพอจี้ช่าวเหลยรู้เรื่องนี้เข้า และเห็นแก่หน้าเพื่อนร่วมชั้น เขาเลยช่วยฉันพูดกับผู้ชายที่คิดจะรังแกฉัน พอเจอจี้ช่าวเหลย เขาตกใจจนแทบช็อก … ฮ่าๆๆๆ เขากลัวมากเลยนะตอนนั้นน่ะ! แม้ฉินซูเจี๋ยจะหัวเราะ แต่สีหน้าและแววตาของเธอดูเศร้ามาก
บางทีอาจจะเป็นเพราะเธอดื่มเหล้าจนร่างกายร้อนเธอจึงดึงชุดนอนของเธอออกเล็กน้อยจนเผยให้เห็นผิวสีขาวราวหิมะตรงเนินอกของเธอ ภาพตรงหน้ามันทำให้จี้เฟิงเกือบจะเป็นลม
และคฤหาสน์หลังนี้ก็คือบ้านหลังนั้น…ฉันยอมรับค่าชดเชยจากผู้ชายคนนั้น! ฉินซูเจี๋ยเอามือเท้าตรงหน้าผากด้วยมือข้างหนึ่ง ไหล่ของเธอสั่นเล็กน้อย ไม่ใช่เพราะฉันโลภมากอยากจะได้ของของคนอื่น… แต่ฉันต้องการให้เจิ้งฮ่าวหยูรู้… ให้เขารู้ว่าต่อให้เขาพยายามสุดความสามารถ แต่สุดท้ายเขาก็ไม่สามารถทำเงินได้มากมายเท่าฉัน…. คิกคิก…
จี้เฟิงอดพยักหน้าไม่ได้ พี่ฉิน คุณเมามากแล้ว ให้ผมช่วยพยุงคุณขึ้นไปพักผ่อนดีกว่า!
เมื่อคำพูดนี้หลุดออกมาร่างกายของฉินซูเจี๋ยก็แข็งทื่อ ดวงตาของเธอเต็มไปด้วยความผิดหวัง แต่ความผิดหวังก็เปลี่ยนเป็นความบ้าคลั่งอีกครั้ง
เมื่อเห็นว่าฉินซูเจี๋ยไม่ได้คัดค้านอะไรจี้เฟิงก็ลุกขึ้นยืนและเข้าไปช่วยพยุงฉินซูเจี๋ยขึ้นมา ให้เธอเอนตัวพิงเขาและเดินขึ้นไปชั้นบนอย่างช้าๆ
บนร่างกายของหญิงงามในอ้อมแขนของจี้เฟิงเธอมีกลิ่นหอมอ่อนๆทำให้หัวใจของเขาเต้นแรง จี้เฟิงอดไม่ได้ที่จะสูดลมหายใจเข้าลึกๆ และมันก็ยิ่งทำให้หัวใจของเขาสั่นไหว
ฉินซูเจี๋ยเป็นหญิงสาวที่เกิดและเติบโตมาอย่างงดงามเธอเป็นแม่คนแล้ว เป็นหญิงสาวที่มีความเป็นผู้ใหญ่เต็มที่แล้ว ตราบใดที่เป็นผู้ชายธรรมดา ก็คงไม่มีใครอดใจไหวที่จะกลืนกินเธอภายในคำเดียว
ในห้องนอนชั้นบนไม่มีผ้าห่มอยู่บนเตียง จี้เฟิงส่ายหัวเล็กน้อย ไม่มีใครอยู่ที่นี่จริงๆด้วย..
เขารีบเปิดตู้เสื้อผ้าและนำผ้าห่มและสิ่งของอื่นๆออกมาปูแต่เมื่อเขาหันกลับไปก็เห็นว่าฉินซูเจี๋ยล้มลงไปนอนกับพื้นแล้ว จี้เฟิงอดไม่ได้ที่จะส่ายหัวและยิ้มเขาอุ้มเธอขึ้นมาและวางไว้บนเตียงอย่างแผ่วเบา
ฉินซูเจี๋ยพลิกตัวด้วยความเมามายจนไม่รู้ว่าชุดนอนของเธอนั้นถูกเปิดออกตั้งแต่เมื่อไหร่ ในเวลานี้บนร่างกายของหญิงสาวที่สวยงามเหลือเพียงแค่กางเกงขาสั้นเท่านั้น นอกเหนือจากนั้นร่างกายส่วนอื่นๆของเธอแทบจะถูกเปิดเผยต่อสายตาของจี้เฟิง!
ฟืดดดดด——!!
ลมหายใจของจี้เฟิงเริ่มถี่ขึ้นเขาไม่รู้ว่าเป็นเพราะแอลกอฮอล์ในร่างกายของเขายังไม่สลายหายไปทั้งหมดหรือเปล่า แต่ในใจของเขาเกิดแรงกระตุ้นขึ้น
จี้เฟิงค่อยๆเอื้อมมือออกไปและกำลังจะสัมผัสกับหน้าอกคู่งามของฉินซูเจี๋ย…
แต่ทันใดนั้นเองใบหน้าที่น่ารักของถงเล่ยกับเสน่ห์อันอ่อนโยนของเซียวหยูซวนก็ปรากฏขึ้นในหัวของเขา…
เฮ้อออ~! จี้เฟิงถอนหายใจยาวเขาส่ายหัวและยิ้ม จากนั้นก็ยื่นมือเลยไปหยิบผ้าห่มมาคลุมตัวของฉินซูเจี๋ยแล้วเดินลงบันไดไป
หลังจากนั้นไม่นานจี้เฟิงก็กลับมาพร้อมกับผ้าขนหนูชุบน้ำหมาดๆ เขาเช็ดหน้าให้ฉินซูเจี๋ย จากนั้นก็เทน้ำดื่มใส่แก้วไว้ให้เธอแก้วหนึ่งและวางมันลงบนโต๊ะข้างเตียง ก่อนจะจากไปจริงๆ
เมื่อได้ยินเสียงรถด้านนอกสตาร์ทและจากไปฉินซูเจี๋ยที่นอนอยู่บนที่นอนก็ลืมตาขึ้น..