The Ultimate Student สุดยอดนักเรียนสมองอัจฉริยะ - บทที่ 209 วิลล่า
จี้เฟิงรู้สึกว่าต้องออกไปหาบ้าน
หลังจากที่เขากลับมาที่หอพักจี้เฟิงก็ได้ยินข่าวที่ทำให้เขาค่อนข้างแปลกใจตู้เส้าเฟิงก็วางแผนที่จะย้ายออกไปเช่นกัน!
“เหล่าตู้พวกเราเพิ่งจะอยู่ร่วมหอพักกันได้ไม่ถึงสองเดือน ทำไมนายถึงต้องรีบย้ายออกไปขนาดนี้ด้วยล่ะ” ฮั่นจงถามด้วยความประหลาดใจ
“นั่นน่ะสิเหล่าตู้ ไม่ใช่ว่าคุณแอบมีผู้หญิงอยู่ข้างนอกเลยคิดจะย้ายไปหาบ้านส่วนตัวหรอกนะ” คำพูดของจ้าวไคยังคงตรงไปตรงมากระแทกใจเหมือนเดิมและมันก็ทำให้คนอื่นอดไม่ได้ที่จะหัวเราะ “ด้วยร่างกายของคุณ คุณจะคบหาผู้หญิงแบบไหนถึงจะสามารถทนต่อการทำลายล้างของคุณได้”
ตู้เส้าเฟิงที่กำลังดื่มน้ำอยู่เขาแทบจะสำลักน้ำออกมาเขาจ้องกลับไปที่จ้าวไค“จ้าวไค ฉันก็อยากรู้เหมือนกันว่าในปากของคุณมันมีอะไรอยู่กันแน่!”
จ้าวไคกระพริบตาของเขาอย่างเชื่องช้าและพูดอย่างชัดถ้อยชัดคำด้วยน้ำเสียงราบเรียบ“คำพูดของผมก็ไม่ได้หยาบคายอะไรนี่นา ผมแค่กลัวว่าผู้หญิงธรรมดาจะไม่สามารถแบกรับร่างกายของคุณได้… ใช่มั้ย”
ตู้เส้าเฟิงพูดไม่ออกและเขาก็ไม่มีอะไรจะพูดกับผู้ชายที่กวนโอ๊ยโดยไม่ได้ตั้งใจคนนี้มากนัก
จี้เฟิงยืนหัวเราะอยู่ข้างๆและเขาก็อดไม่ได้ที่จะถาม“เหล่าตู้แล้วเหตุผลอะไรที่ทำให้นายอยากจะย้ายออก”
ตู้เส้าเฟิงเกาหัวของเขาและพูดว่า“มันจะเรียกว่าเหตุผลได้หรือเปล่าฉันก็ไม่แน่ใจ ฉันแค่คิดว่าหอพักมันคงจะไม่สะดวกมากนักถ้าฉันต้องการจะฝึกฝนร่างกายและถ้าไม่ฝึกฝนบ่อยๆเข้ามันจะทำให้ฉันกลายเป็นคนขี้เกียจ”
จี้เฟิงพยักหน้าอย่างเห็นด้วยและกล่าวว่า“ที่นายพูดมามันก็จริงที่หอพักของมหาลัยมีความไม่สะดวกมากมาย แต่ทำไมนายไม่ฝึกที่สนามของมหาลัยล่ะ พวกอุปกรณ์และสิ่งอำนวยความสะดวกในมหาลัยดีสู้ข้างนอกไม่ได้เหรอ”
ตู้เส้าเฟิงส่ายหัวและกล่าวว่า“พี่จี้ ฉันไม่ถนัดใช้อุปกรณ์อำนวยความสะดวกเหล่านั้น ฉันชอบที่จะตื่นแต่เช้ามืดเพื่อมาออกกำลังกายและฝึกซ้อมด้วยตัวเองมากกว่า และหากฉันต้องตื่นแต่เช้ามืดขนาดนั้นฉันกลัวว่ามันจะเป็นการรบกวนเพื่อนร่วมหอพักและมันจะเป็นการดีกว่าที่จะย้ายออกไปอยู่ข้างนอก แต่ไม่ต้องห่วงฉันจะแวะมาหาเรื่อยๆ และไม่ว่ายังไงเราก็ได้เจอกันในชั้นเรียนอยู่แล้ว!”
“ชุมชนที่เงียบสงบและฝึกซ้อมได้…”จี้เฟิงคิดเกี่ยวกับเรื่องนี้และเสนอขึ้นมาว่า “ฉันว่าไม่น่ายาก ถ้านายอยากจะออกกำลังกายตอนเช้ามืดนายก็ลองหาบ้านที่อยู่ใกล้กับสวนสาธารณะสิ นายจะได้ไปฝึกที่สวนเมื่อไหร่ก็ได้ที่ต้องการด้วย นายคิดว่าไง!”
“เป็นความคิดที่ดี!”ดวงตาของตู้เส้าเฟิงสว่างขึ้นมาทันที “มีหลายคนที่ไปฝึกซ้อมในสวนสาธารณะตอนเช้ามืดซึ่งไม่เป็นที่สะดุดตาเลยหากฉันไปฝึกซ้อมที่นั่น แต่ถ้าฉันฝึกซ้อมในสนามของมหาลัย เว้นแต่ว่าฉันจะต้องเข้าร่วมกับชมรมศิลปะการต่อสู้ ไม่เช่นนั้นคงจะถูกมองด้วยสายตาแปลกๆอย่างแน่นอน!”
“ฉันจะไปหาบ้าน!”ตู้เส้าเฟิงเป็นคนที่มีบุคลิกนิสัยที่เด็ดเดี่ยว เพราะเมื่อไหร่ที่เขาตัดสินใจได้เขาจะลงมือทำทันที”
จ้าวไคหัวเราะเบาๆ“เหล่าตู้ คุณจะออกไปหาบ้านยังไงล่ะตอนนี้ ไปไล่ถามหาทีละคนอย่างนั้นเหรอ?”
ตู้เส้าเฟิงผงะ“แล้วฉันจะทำยังไงดี”
“แน่นอนว่ามันต้องใช้สิ่งนี้!”จ้าวไคตบโต๊ะคอมพิวเตอร์ “ยังไงก็ลองหาข้อมูลบ้านเช่าในอินเทอร์เน็ตดูก่อนฉันว่าน่าจะมีนะ”
ตู้เส้าเฟิงยิ้มทันที“ทำไมฉันคิดไม่ได้นะ!”
“เฮ้อ~!”จ้าวไคและฮั่นตงมองตู้เส้าเฟิงด้วยหางตา “มันก็ไม่แปลกที่นายจะนึกไม่ถึงเรื่องการหาข้อมูลในอินเทอร์เน็ต เพราะในหัวของคงนายมีแต่เรื่องศิลปะการต่อสู้ มันคงจะไม่มีอย่างอื่นนอกเหนือจากนี้แล้วล่ะ!”
ตู้เส้าเฟิงไม่ได้โมโหที่ถูกเหน็บแนมแต่กลับยิ้ม“งั้นฉันยกหน้าที่นี้ให้พวกนายสองคนก็แล้วกัน!”
เนื่องจากตู้เส้าเฟิงยืนกรานที่จะย้ายออกไปฮั่นจงและจ้าวไคก็ทำได้เพียงแค่ยอมรับการตัดสินใจและช่วยหาบ้านให้เขาเท่านั้น ความจริงแล้วพวกเขาทั้งสองคนก็ไม่ชินกับการอยู่หอพักเช่นกัน แม้ว่าจะอยู่ด้วยกันไม่กี่คนแต่มันก็ไม่ค่อยจะสะดวกสบายนักในหลายๆอย่าง โดยเฉพาะตอนนี้ยังมีตู้เส้าเฟิงที่กำลังมองหาบ้าน มันก็อดไม่ได้ที่จะทำให้พวกเขามีความคิดที่อยากจะหาบ้านข้างนอกอยู่ดูบ้าง
ยิ่งไปกว่านั้นกฎระเบียบของหอพักในมหาวิทยาลัยยังมีรายละเอียดยิบย่อยซึ่งมันทำให้พวกเขาอึดอัดมากกับกฎต่างๆเหล่านี้เช่นการปิดไฟและไม่สามารถใช้เครื่องใช้ไฟฟ้ากำลังสูงได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งพัดลมไฟฟ้าที่เสียในหอพักมันทำให้พวกเขาได้แต่หัวเราะเยาะ
ในเมืองเจียงโจวที่ตอนนี้อากาศร้อนระอุห้องของหอพักที่ต้องอาศัยอยู่ร่วมกันถึงสี่คน ด้วยพัดลมไฟฟ้าแค่นี้มันไม่เพียงพอจริงๆ
ทั้งฮั่นจงและจ้าวไคไม่เคยมีประสบการณ์การใช้ชีวิตที่ต้องมาอดทนกับเรื่องเหล่านี้มาก่อนดังนั้นตอนนี้พวกเขาจึงรู้สึกไม่สบายใจเป็นอย่างมาก ไอรีนโนเวล
เมื่อเห็นคนทั้งสามคนสุมหัวกันอยู่รอบๆคอมพิวเตอร์เพื่อดูข้อมูลการหาเช่าบ้านจี้เฟิงก็อดไม่ได้ที่จะรู้สึกสะเทือนใจ คำแนะนำที่เขามอบให้กับตู้เส้าเฟิงดูเหมือนว่าตัวเขาก็ต้องการแบบนั้นเช่นกันในตอนนี้
ในเมืองที่เต็มไปด้วยตึกและปูนเช่นนี้หากคุณต้องการจะหาสถานที่ที่เหมาะสมในการฝึกซ้อมหรือออกกำลังกายนอกเหนือจากสวนสาธารณะแล้ว เกรงว่าจะต้องเป็นห้องไว้ใช้ออกกำลังกายโดยเฉพาะเท่านั้น อย่างไรก็ตามสถานที่อย่างเช่นห้องออกกำลังกายนั้นไม่เหมาะสำหรับจี้เฟิงโดยเฉพาะอย่างยิ่งวิธีการฝึกซ้อมบางอย่างของเขาซึ่งมันเป็นเรื่องที่ไม่น่าเชื่อซักเท่าไหร่ อย่างเช่นการเคลื่อนไหวยิมนาสติกชุดที่สองที่เขากำลังฝึกอยู่ตอนนี้ เมื่อจี้เฟิงเข้าสู่การฝึก เขาที่สามารถเข้าถึงมันได้อย่างลึกซึ้งถึงการไหลเวียนของพลังงานภายนอกที่เข้าสู่ร่างกายอย่างมหาศาล ในกรณีเช่นนี้จึงเป็นไปไม่ได้เลยที่จะไม่เป็นที่สังเกตของผู้อื่น
จี้เฟิงอดไม่ได้ที่จะคิดเรื่องนี้อย่างจริงจังดูเหมือนว่าตัวเขาเองก็ต้องการเช่าบ้านที่ใกล้กับสวนสาธารณะเช่นกัน
ด้วยวิธีนี้เมื่อจี้เฟิงต้องการจะฝึกยิมนาสติกเขาก็จะสามารถฝึกอยู่ในบ้านได้โดยไม่ต้องกลัวว่าจะมีใครมาเห็นและถ้าต้องการออกกำลังกายหรือฝึกควบคุมความแข็งแกร่งของพลังเขาก็สามารถไปฝึกที่สวนสาธารณะใกล้บ้านได้อย่างไรก็ตามคงไม่มีใครให้ความสนใจกับจี้เฟิงเป็นพิเศษ เพราะผู้คนมากมายที่มาใช้งานสวนสาธารณะต่างก็มีสิ่งที่ตัวเองต้องการจะทำเช่นกัน
สำหรับชมรมศิลปะการต่อสู้ในมหาวิทยาลัยที่ตู้เส้าเฟิงกล่าวถึงนั้นจี้เฟิงไม่ได้ให้ความสนใจเลยแม้แต่น้อยอาจกล่าวได้ว่าความประทับใจเกี่ยวกับผู้ฝึกสอนศิลปะการต่อสู้ในมหาวิทยาลัยที่ถูกเรียกว่าผู้เชี่ยวชาญที่มักจะได้ไปแสดงโชว์ทางทีวีมันก็เป็นเพียงแค่การแสดงท่าทางที่สวยงามเท่านั้น
ยกตัวอย่างเช่นจี้เฟิงเคยได้ยินข่าวว่าปรมาจารย์ศิลปะการต่อสู้ชื่อดังที่เคยออกทีวีได้ถูกรับเชิญไปชกกับปรมาจารย์ชาวไทย
หลังจากสองนาทีที่ปรมาจารย์ศิลปะการต่อสู้อยู่บนเวทีกับนักชกชาวไทยเขาถูกนักชกชาวไทยเตะที่ต้นขาหลายสิบครั้งอย่างรวดเร็วจนกระดูกต้นขาของเขาที่ถูกเตะอย่างรุนแรงนั้นหัก และเขาก็ไม่สามารถที่จะต่อสู้กลับได้เลยด้วยซ้ำ
จากเหตุการณ์นั้นไม่เพียงแต่ปรมาจารย์คนนั้นต้องอับอายและโดนหามลงจากเวทีแต่เขายังทำให้วิชาวูซูของชาวจีนต้องเสียหน้าไปด้วย
ดังนั้นจี้เฟิงจึงไม่ต้องการได้ยินเกี่ยวกับกิจกรรมประเภทนี้ด้วยซ้ำแล้วนับประสาอะไรกับการที่เขาจะเข้าร่วม
“ถ้าเจอบ้านที่โอเคก็หาเผื่อฉันด้วยนะ” หลังจากที่จี้เฟิงตัดสินใจได้แล้วเขาก็พูดขึ้นทันที
“นายก็อยากย้ายออกด้วยเหรอ”ฮั่นจงและจ้าวไคอดไม่ได้ที่จะหัวเราะ “อืม.. ก็พอจะเข้าใจได้อยู่นะ มีแฟนสวยขนาดนั้นใครจะอยากอาศัยอยู่หอพักกัน!”
หลังจากนั้นพวกเขาก็มองจี้เฟิงและยิ้มกรุ้มกริ่มอย่างบอกไม่ถูกเมื่อเห็นใบหน้าของพวกเขาจี้เฟิงก็อดไม่ได้ที่จะส่ายหัวและยิ้มโดยไม่ได้คิดที่จะโต้แย้งหรืออธิบายอะไร นอกจากนี้ถ้าหากอธิบายไปแล้วไม่ชัดเจนเพียงพอมันกลับจะยิ่งทำให้พวกเขาเข้าใจผิดไปกันใหญ่
แต่ถ้าถงเล่ยได้มาอาศัยอยู่ร่วมกับเขาได้จริงๆล่ะก็….
“ให้ตายเถอะ!บ้านหลังนี้มันสร้างจากทองคำหรือไง!” ในขณะที่จี้เฟิงกำลังวาดฝันภาพที่เขาได้อาศัยอยู่บ้านเดียวกันกับถงเล่ย จู่ๆเสียงโวยวายของตู้เส้าเฟิงก็ทำให้เขารู้สึกเหมือนตื่นจากฝัน “บ้านพักหลังเดียวราคามากกว่า 18 ล้านหยวน! คนพวกนี้กะว่าชีวิตนี้จะไม่ทำมาหากินอย่างอื่นกันอีกแล้วเหรอ?!”
“บ้านพักราคา 18 ล้าน..!” จี้เฟิงขยับตัวเข้าไปใกล้เพื่อนร่วมหอพักสามคนที่กำลังมุงอยู่เล็กน้อยและถามด้วยรอยยิ้ม “เป็นบ้านพักที่ราคาแพงมากจริงๆ”
“ดูสินี่ไง!” ตู้เส้าเฟิงชี้ไปที่หน้าจอคอมพิวเตอร์ ด้วยสีหน้าและท่าทางที่ไม่ค่อยพอใจของเขา
จี้เฟิงเดินเข้าไปและดูข้อมูลบ้านพักหลังนี้อย่างละเอียด
ปรากฏว่าสิ่งที่ตู้เส้าเฟิงพูดถึงเป็นบ้านพักหรือวิลล่าที่อยู่ไม่ไกลจากมหาวิทยาลัยมากนักมันเป็นวิลล่าที่มีขนาดกว้างถึง 600 ตารางเมตรและมี 3 ชั้น สภาพแวดล้อมก็สวยงามมาก ที่ลานด้านหน้ามีสระว่ายน้ำกึ่งกลางแจ้ง มีโรงจอดรถส่วนตัวและมีสิ่งอำนวยความสะดวกเพื่อความบันเทิงอื่นๆอีก
จี้เฟิงอดไม่ได้ที่จะสนใจรอบๆวิลล่าเดี่ยวนี้ส่วนใหญ่ก็เป็นวิลล่าประเภทเดียวกันยิ่งไปกว่านั้นมันตั้งอยู่ในเขตชานเมืองที่มักจะเงียบสงบมากนอกจากนี้ยังมีสวนสาธารณะอยู่ใกล้ๆและมีสนามกีฬาขนาดเล็กอยู่ในพื้นที่ของวิลล่า
ดูเหมือนวิลล่าหลังนี้เพิ่งจะสร้างได้ไม่นานและข้อมูลตรงส่วนนี้ไม่ได้ถูกเผยแพร่จากบริษัทส่วนกลางแต่เป็นการเผยแพร่ข้อมูลโดยส่วนตัว
“นี่มันไม่เลวเลย!”จี้เฟิงอุทานขึ้น “ถ้าคำนวณราคาจากที่อยู่อาศัยส่วนใหญ่ในเจียงโจว วิลล่าที่เพียบพร้อมและเหมาะสมขนาดนี้จะเรียกว่าแพงได้ยังไง”
“โอ้พระเจ้าพี่จี้นายพูดเล่นใช่มั้ย ถ้าไปสร้างบ้านแบบนี้ในชนบท ฉันกล้าพูดได้เลยว่าใช้เงินไม่ถึงสองสามแสนด้วยซ้ำ แต่นี่มันบ้านพักบ้าอะไรกัน ราคามันมากกว่า 10 ล้านซะอีก!” สำหรับบ้านหลังนี้ที่ราคาแพงกว่า 10 ล้านหยวนตู้เส้าเฟิงเกลียดมันไปแล้วเรียบร้อย
จี้เฟิงยิ้มสิ่งที่ตู้เส้าเฟิงพูดนั้นเป็นความจริงที่ไม่อาจเถียงได้
นอกจากนี้ดูเหมือนว่าพื้นที่ใกล้เคียงยังอยู่ในระหว่างการพัฒนาหลังจากนี้อีกซักสองสามปีคาดว่าราคาของบ้านพักหลังนี้จะสูงขึ้นแน่นอน
จี้เฟิงได้แอบคำนวณถึงความคุ้มค่าว่าเขาควรจะซื้อวิลล่าหลังนี้ดีหรือไม่อย่างไรก็ตามด้วยคุณสมบัติต่างๆที่ตรงตามความต้องการของเขาในปัจจุบันและเป็นบ้านที่อยู่ในเจียงโจวด้วยราคาเท่านี้ถือว่าไม่แพงเลย
จี้เฟิงจดบันทึกข้อมูลการติดต่อซื้อขายของวิลล่าหลังนี้ไว้และตัดสินใจว่าจะนำเรื่องนี้ไปปรึกษากับเซียวหยูซวนก่อนเพราะเธอคุ้นเคยกับเจียงโจวเป็นอย่างดีจึงน่าจะมีคำปรึกษาที่ดีให้กับเขาได้
เมื่อนึกถึงเซียวหยูซวนจี้เฟิงก็ตกใจและเพิ่งนึกขึ้นได้ว่าตอนนี้เซียวหยูซวนน่าจะกำลังอยู่กับถงเล่ยและเขาก็ไม่รู้เลยว่าผู้หญิงทั้งสองคนกำลังพูดคุยเรื่องอะไรกันบ้างในช่วงเวลานี้
เมื่อคิดว่าเซียวหยูซวนและถงเล่ยกำลังคุยกันอย่างสนิทสนมเสมือนเป็นพี่สาวและน้องสาวจี้เฟิงก็รู้สึกอึดอัดใจราวกับว่าเขาเป็นคนบาปที่ชั่วร้าย
ผู้หญิงที่สวยจนน่าทึ่งทั้งสองคนนี้หากเขาได้เป็นเจ้าของหนึ่งในนั้นก็เป็นความสุขที่ยิ่งใหญ่มากอยู่แล้ว แต่เขายังอยากมีทั้งสองคนพร้อมๆกัน การละโมบแบบนี้จะไม่ให้เขารู้สึกผิดบาปได้อย่างไร
จี้เฟิงอดไม่ได้ที่จะถอนหายใจหลังจากคิดได้แบบนี้เขาจึงตัดสินใจที่จะยังไม่โทรหาเซียวหยูซวน อย่างน้อยก็ในตอนที่เธอยังอยู่กับถงเล่ย เพราะไม่รู้ว่าถ้าหากเขาโทรหาเซียวหยูซวนในตอนนี้ถงเล่ยจะคิดยังไง ทำไมฉันถึงได้เป็นคนที่ละโมบและเลวร้ายได้ขนาดนี้!
จี้เฟิงเกาหัวของเขาอย่างช่วยไม่ได้เขาควรจะแก้ไขเรื่องนี้อย่างไรดี
“เฮ้อ!เรื่องนั้นไว้ค่อยคิดทีหลังก็แล้วกัน! ฉันจะลองติดต่อกับเจ้าของวิลล่าหลังนั้นดูก่อนแล้วค่อยไปปรึกษากับหยูซวน!” จี้เฟิงคิดอยู่ในใจจากนั้นก็ออกจากหอพักและติดต่อไปตามข้อมูลที่เจ้าของวิลล่าได้ลงไว้บนอินเทอร์เน็ต
ในไม่ช้าจี้เฟิงก็ได้รู้ข้อมูลเกี่ยวกับที่มาที่ไปของการขายวิลล่าแห่งนี้จากตัวเจ้าของวิลล่าเองเขามีนามสกุลว่าหลี่ สำเนียงการพูดของเขาเป็นคนหยานจิง ว่ากันว่าเขาต้องการย้ายถิ่นฐานไปยังสหรัฐอเมริกาเพื่อไปอยู่กับลูกสาวของเขา เขาจึงต้องการจะขายวิลล่าแห่งนี้
เนื่องจากผู้ชายเป็นคนที่ลงข้อมูลการขายโดยตรงจึงไม่จำเป็นต้องมีค่าธรรมเนียมส่วนกลางหรืออื่นๆ ตราบใดที่มีการชำระภาษีและพิธีการเสร็จสิ้นตามข้อตกลง การโอนกรรมสิทธิ์ในทรัพย์สินก็จะสามารถโอนเป็นชื่อของจี้เฟิงได้ในทันที
“คุณหลี่ผมขอไปปรึกษากับครอบครัวของผมดูก่อนถ้ายังไงไว้ผมจะติดต่อคุณไปอีกที!” จี้เฟิงพูดอย่างสุภาพและวางสายโทรศัพท์
เขาไตร่ตรองอยู่ในใจเงิน 18 ล้านสำหรับเขาในตอนนี้เขาสามารถจ่ายได้เพราะเขายังเหลือเงินมากกว่า 40 ล้าน อย่างไรก็ตามจี้เฟิงก็ยังไม่ตัดสินใจว่าจะซื้อวิลล่าแห่งนี้ดีหรือไม่