The Ultimate Student สุดยอดนักเรียนสมองอัจฉริยะ - บทที่ 267 ตอบโต้
ปัง!
ในขณะที่เสียงปืนดังขึ้นจี้เฟิงก็ถอยหลังกลับอย่างรวดเร็ว ร่างกายของเขาเหมือนกับลูกศรที่ดีดตัวออกจากคันธนูแหวกอากาศจนเกิดลมกระโชกแรงขึ้นมาวูบหนึ่งภายในโรงงานเคมีอันมืดมิดเกิดเป็นเงาร่างของจี้เฟิงทิ้งไว้ตามระยะทางสองสามร่าง
ปัง!ปัง!
ในตอนนี้มีเสียงปืนดังขึ้นติดต่อกันอีกสองนัดแต่จี้เฟิงได้หายไปจากจุดนั้นนานแล้ว
หลังจากสิ้นเสียงปืนบรรยากาศในโรงงานก็ตกอยู่ในความเงียบ และมือปืนที่แอบซ่อนอยู่ในความมืดก็ไม่มีทางที่จะเปิดเผยตัวออกมาง่ายๆจนกว่าพวกเขาจะแน่ใจว่าจี้เฟิงนั้นถูกยิง ภายในโรงงานเคมีที่มืดมิดช่างเป็นสถานที่หลบซ่อนอย่างดีเยี่ยม
อย่างไรก็ตามไม่มีใครคาดคิดว่าไม่ว่าพวกเขาจะเปิดเผยตัวออกมาหรือไม่ความมืดมิดก็ไม่ได้มีส่วนช่วยพวกเขาเลย ตราบใดที่จี้เฟิงต้องการเขาก็สามารถมองเห็นตำแหน่งที่หลบซ่อนของมือปืนได้ตลอดเวลา
แต่ทางจี้เฟิงก็ยังคงหลบซ่อนโดยไม่ขยับตัวเช่นกันเขาหลบอยู่ข้างหลังเครื่องจักรใหญ่เครื่องหนึ่งด้วยรอยยิ้มเยาะเย้ยที่มุมปากและดวงตาของเขาก็เป็นประกายด้วยแสงอันเย็นเยียบ สถานการณ์เมื่อครู่นี้เป็นสถานการณ์ที่อันตรายถึงชีวิต ถ้าไม่ใช่เพราะสัญชาตญาณของเขาที่สัมผัสได้ถึงวิกฤตเขาคงจะล้มลงกับพื้นและกลายเป็นศพไปแล้วในตอนนี้
คู่ต่อสู้ในครั้งนี้ไม่ใช่ง่ายๆ
นี่เป็นความคิดแวบแรกของจี้เฟิงเพราะความมืดมิดไม่มีผลใดๆกับจี้เฟิงเลยแต่ฝ่ายตรงข้ามสามารถหลบซ่อนตัวจากสายตาของเขาได้ และก่อนที่ลูกกระสุนปืนจะถูกปล่อยออกมามันเงียบเสียจนแม้แต่จี้เฟิงก็ยังไม่ได้ยินเสียงเหนี่ยวไกของฝ่ายตรงข้ามด้วยซ้ำ สิ่งนี้แสดงให้เห็นว่าคู่ต่อสู้เป็นมืออาชีพอย่างไม่ต้องสงสัย ความเร็วในการยิงนั้นเร็วมากและเป็นไปได้ว่าคู่ต่อสู้ของจี้เฟิงน่าจะซุ่มโจมตีอยู่แถวๆนี้เป็นเวลานานแล้วเพื่อรอการมาถึงของจี้เฟิง
ไปหามืออาชีพมาจากที่ไหนกันนักหนา!
จี้เฟิงอดไม่ได้ที่จะขมวดคิ้วมียอดฝีมือหลบซ่อนตัวอยู่ในเงามืดแบบนี้เกรงว่าเรื่องในวันนี้จะยุ่งยากกว่าที่คิด
อย่างไรก็ตามจี้เฟิงไม่ได้รีบร้อนเขาเคยประสบกับสถานการณ์เช่นนี้ในระบบฝึกอบรมมาแล้วแถมคู่ต่อสู้คือปรมาจารย์ด้านมืดและแข็งแกร่งว่าคู่ต่อสู้คนปัจจุบันแน่นอน!
ในเวลานี้จี้เฟิงเหมือนเสือที่กำลังจะล่าเหยื่อเหมือนงูที่กำลังจะจู่โจม ไม่เพียงแต่ดูอันตรายเท่านั้นแต่เขายังเต็มไปด้วยความสงบนิ่ง
ในความเป็นจริงมีอีกเหตุผลหนึ่งที่จี้เฟิงไม่ได้รู้สึกกังวลเลยแม้แต่น้อย
นั่นเป็นเพราะว่าในสายตาของจี้เฟิงแม้ว่าคู่ต่อสู้คนนี้จะรวดเร็วแต่ฝีมือด้านการแม่นปืนยังไม่เป็นที่น่าพอใจเท่าไหร่นับตั้งแต่จังหวะแรกจนถึงตอนที่จี้เฟิงถอยหนี ฝ่ายตรงข้ามที่นอนซุ่มยิงอยู่ ยิงไปทั้งหมดสามนัด แต่ไม่โดนจี้เฟิงแม้แต่นัดเดียว
เป็นที่น่าเสียดายที่คู่ต่อสู้คนนี้ใช้ปืนเป็นอาวุธ
หากเขาเป็นมือปืนที่เก่งกาจและมีประสบการณ์มากพอแม้แต่ในความมืดเขาจะต้องสามารถยิงถูกจี้เฟิงได้บ้างโดยใช้เพียงความรู้สึกแต่ตอนนี้คู่ต่อสู้ของจี้เฟิงคนนี้แม้ว่าการตัดสินใจจะรวดเร็ว แต่เพียงแค่ประสบการณ์ที่ไม่มากพอในการยิงปืนของเขาก็เพียงพอแล้วที่จะกลายเป็นอุปสรรคร้ายแรงของเขา
หากคู่ต่อสู้คนนี้ใช้อาวุธชนิดอื่นที่เขาถนัดมากกว่านี้จี้เฟิงเชื่อว่าตัวเขาในตอนนี้อาจจะได้รับบาดเจ็บไปแล้วไม่มากก็น้อย แม้ตัวจี้เฟิงเองจะมีความมั่นใจในทักษะของตัวเองเต็มที่ แต่ก็ไม่มีอะไรที่จะมารับประกันได้ว่าอีกฝ่ายจะไม่แข็งแกร่งกว่าเขา
อย่างไรก็ตามในแง่ของการใช้ปืนจี้เฟิงมั่นใจได้ว่าคนคนนี้ไม่ใช่คู่ต่อสู้ของเขาอย่างแน่นอน
ดังนั้นจี้เฟิงสามารถอดทนรอได้โดยที่เชื่อว่าอีกฝ่ายคงไม่สามารถอดทนได้ดีไปกว่าเขาและคงเป็นไปไม่ได้ที่อีกเจ็ดคนที่เหลือจะเป็นผู้เชี่ยวชาญทั้งหมดและตราบใดที่พวกเขายังมีข้อบกพร่องมันก็จะเป็นอันตรายกับตัวพวกเขาเอง
แน่นอนว่าครู่ต่อมาที่ทางเดินชั้นสองฝั่งตรงข้ามมีเสียงหัวเราะอย่างมีชัยดังขึ้น จี้เฟิง… ฉันรู้นะว่าเป็นคุณ หลบซ่อนไปก็เปล่าประโยชน์ ตั้งแต่คุณตัดสินใจที่จะมาที่นี่ คุณก็น่าจะรู้อยู่แล้วไม่ใช่เหรอว่าคุณคงไม่สามารถออกไปจากที่นี่ได้ง่ายๆ
จี้เฟิงไม่พูดเขายังคงนั่งหลบอยู่ในเงามืดอย่างเงียบๆ แต่ในมือของเขามีหินก้อนเล็กๆอยู่สองสามก้อน
กล้ามาถึงที่นี่ทำไมยังจะต้องซ่อนหัวและโผล่แต่หางแบบนั้นล่ะ ออกมาเจอหน้ากันหน่อยเป็นไง ฉันสัญญาว่าฉันจะไม่ยิงคุณ! เมื่อเห็นว่าจี้เฟิงไม่ตอบ เสียงพูดก็ดังขึ้นอีกครั้ง
นอกจากนี้ยังมีหินก้อนเล็กๆสองสามก้อนในมืออีกข้างของจี้เฟิงเขาโยนหินก้อนหนึ่งขึ้นไปและในขณะที่มันกำลังจะตกเขาก็ดีดนิ้วของเขา
ฟึ่บ!
ทันใดเสียงแหลมของการแหวกอากาศก็ดังขึ้นและทันใดนั้นหินก้อนเล็กๆก้อนนั้นก็ถูกยิงออกไปเหมือนกระสุนพุ่งตรงไปยังทางเดินฝั่งตรงข้ามราวกับสายฟ้า
ตุ้บ!ตุ้บ! ~~ แก๊ง!
เสียงฝีเท้าที่เร่งรีบปะปนกับเสียงอื่นดังมาจากทางเดินบนชั้นสองฝั่งตรงข้ามและเสียงสุดท้ายคือเสียงของก้อนหินก้อนเล็กๆที่กระทบกับผนังฝั่งตรงข้ามโรงงานเคมีที่ถูกทิ้งร้างนี้ ตั้งแต่ตัวอาคารโรงงานไปจนถึงบันไดและห้องสำนักงานที่อยู่ภายในถูกสร้างด้วยวัสดุก่อสร้างที่เรียบง่ายและผนังก็ถูกปิดด้วยแผ่นเหล็ก
เสียงที่ดังเป็นเสียงสุดท้ายในตอนนี้คือเสียงหินกระทบกับแผ่นเหล็ก!
และเห็นได้ชัดว่าเสียงฝีเท้าที่วุ่นวายนั้นเป็นเสียงของมือปืนที่หลบเลี่ยงก้อนหิน
มุมปากของจี้เฟิงกระตุกและเสียงอันเย็นชาของเขาก็ดังขึ้น ความสามารถมีกันแค่นี้ จะมาสู้กันฉันเนี่ยนะ
อีกฝ่ายไม่ตอบแต่กลับเงียบ
หลังจากนั้นไม่นานอีกฝ่ายก็ตอบมาด้วยเสียงที่แผ่วเบา จี้เฟิงฉันต้องยอมรับว่าก่อนหน้านี้ฉันประเมินคุณต่ำไป แต่จากสิ่งที่คุณเพิ่งพูดก็พอจะบอกได้ว่าคุณก็เป็นผู้ที่มีฝีมือระดับปรมาจารย์อยู่เหมือนกัน เอาเป็นว่าลืมสิ่งที่ฉันพูดไปก่อนหน้านี้ซะ ตอนนี้ถ้าคุณอยากจะหลบซ่อนก็ซ่อนให้มิด เพราะถ้าคุณออกมาเมื่อไหร่ฉันจะยิงคุณทันที!
หืม..ต่อให้คุณใช้ปืนยิงฉัน คุณคิดหรือว่าจะหยุดฉันได้? จี้เฟิงหัวเราะ ตอนนี้เขาแน่ใจแล้วว่าอีกฝ่ายที่พูดอยู่ตอนนี้เป็นคนคนเดียวกับที่โทรหาเขาเมื่อสามวันก่อนและเป็นคนที่น่าจะให้อันธพาลพวกนี้มาซุ่มโจมตีเขา
ดูเหมือนว่าถ้ามันเป็นคำพูดจากศัตรูมันก็ไม่มีอะไรที่เชื่อถือได้แม้แต่คำเดียว!จี้เฟิงกัดฟันครุ่นคิดอยู่ในใจ
ไม่มีเสียงตอบรับจากฝ่ายตรงข้ามอย่างไรก็ตามเสียงปืนเพียงไม่กี่นัดที่เกิดขึ้นก่อนหน้านี้ได้สร้างความตื่นตระหนกให้กับคนที่เหลืออีกแปดคน ทันใดนั้นเสียงฝีเท้าที่วุ่นวายก็ดังขึ้นในโรงงาน แม้ว่าคนเหล่านี้จะพยายามเดินย่องหรือใช้แรงให้น้อยที่สุดในการเดิน แต่คิดจริงๆหรือว่าจะสามารถซ่อนไปจากการได้ยินของจี้เฟิงได้
มีสองคนซ่อนตัวอยู่ที่ประตูมีสามคนอยู่ที่ชั้นสองและมีอีกคนหนึ่งอยู่ในสำนักงานทางทิศใต้ การหายใจของบุคคลนี้หนักกว่าคนอื่นๆ แต่เสียงหายใจของเขาไม่ได้แสดงถึงความเร่งรีบเหมือนของคนอื่น ดูเหมือนว่าชายคนนี้จะเป็นเจ้านายของอันธพาลเหล่านี้!จี้เฟิงคิดกับตัวเอง มีคนชั้นบนยังไม่ลงมานั่นหมายความว่ายังมีอีกสองคนที่ยังไม่ปรากฏตัว!
จี้เฟิงมองไปที่ก้อนหินในมือของเขาที่เหลืออยู่เพียงหกก้อน
เขาถอดเสื้อแจ็คเก็ตออกหลังจากที่มองซ้ายมองขวาเสร็จแล้วเขาก็โยนมันขึ้นไป
ปัง!ปัง! ปัง! ไอลีนโนเวล
ทันใดนั้นเสียงปืนก็ดังกระหึ่มขึ้นทันทีและเสื้อแจ็คเก็ตของจี้เฟิงก็ถูกยิงกลางอากาศจนบินว่อนไปอย่างไร้ทิศทางในขณะเดียวกันจี้เฟิงก็ลุกขึ้นพุ่งตามเสื้อแจ็คเก็ตของเขาไป ก้อนหินที่อยู่ในมือของเขาดูเหมือนมันจะกลายเป็นอาวุธที่น่าหวั่นเกรงที่ฝังลึกอยู่ในใจของคนเหล่านั้น
มือของเขาพลิ้วไหวเหมือนกำลังเล่นเปียโนแต่นิ้วของเขานั้นรวดเร็วเหมือนสายฟ้า
เฟี้ยว! เห้ย!หินมาอีกแล้ว!!
ปึ้ก!
อั่ก—!อ๊ากกก!!
เสียงกรีดร้องดังขึ้นมาทันทีที่หินก้อนเล็กๆทั้งหกก้อนกระแทกโดนคู่ต่อสู้ที่หลบอยู่ในที่มืดอย่างแม่นยำหากมีคนสามารถมองเห็นฉากที่เกิดขึ้นในโรงงานเคมีในเวลานี้ได้อย่างชัดเจน พวกเขาจะต้องตกใจเมื่อพบว่าก้อนหินก้อนเล็กๆพุ่งเข้าไปกระทบกับอันธพาลเหล่านั้นเหมือนกับเป็นกระสุนจริงๆ แถมยังทะลุผิวหนังเข้าไปสร้างความเจ็บปวดได้แทบไม่ต่างจากกระสุนปืนของจริงเลยและถ้ามันทะลุไปจนถึงกระดูกมันก็รุนแรงพอที่จะสามารถทำให้กระดูกหักได้!
พลังดังกล่าวช่างน่าเหลือเชื่อจริงๆ!
แต่สำหรับจี้เฟิงนี่เป็นเพียงแค่การกระตุ้นให้เกิดกระแสไฟฟ้าชีวภาพและผลกระทบที่เกิดจากพลังงานกระแสไฟฟ้าชีวภาพนั้นเรื่องแค่นี้ไม่ได้เป็นเรื่องที่เหนือความคาดหมายเลย! เมื่อก้อนหินทั้งหมดพุ่งเป้าไปที่ศัตรูทุกคนอย่างที่ต้องการก่อนที่จี้เฟิงจะกลับมายืนสงบนิ่งเขาบิดตัวเล็กน้อยและกลืนหายเข้าไปในความมืดอีกครั้ง
หยุดแหกปาก! เสียงคำรามอย่างโกรธเกรี้ยวดังขึ้นจากสำนักงานทางทิศใต้ หุบปากให้สนิทอย่าให้ฉันได้ยินใครร้องคร่ำครวญออกมาแม้แต่คำเดียว!
ไม่มีใครกล้าร้องออกมาอีกเลยแต่ยังคงมีเสียงครางต่ำด้วยความเจ็บปวดอยู่ในลำคอ มันทำให้ผู้คนที่ได้ยินรู้สึกขนลุกมากไปกว่าเดิมเสียอีก
ออกมา!ออกมาเจอกับฉันเดี๋ยวนี้!
มีเสียงตะโกนดังก้องมาจากสำนักงานทางทิศใต้อีกครั้ง ฉันไม่สนว่าแกจะเป็นใคร แต่ในเมื่อแกกล้าทำร้ายพี่น้องของฉัน ไม่ว่าแกจะมีสามหัวหรือหกแขนแกก็จะไม่ได้ออกไปจากที่นี่โดยสวัสดิภาพอย่างเด็ดขาด ถ้าแกยอมโผล่หัวออกมาตั้งแต่ตอนนี้ แกจะไม่ต้องตายอย่างเจ็บปวดทรมาน แต่ถ้ารอให้ฉันเป็นฝ่ายเข้าไปลากคอแกออกมาแกจะต้องเสียใจและร่ำร้องหาความตายด้วยตัวเอง!
ที่บนชั้นสองมีชายร่างกายกำยำคำรามออกมาอย่างต่อเนื่อง แต่ใบหน้าของเขากลับแฝงไว้ด้วยความหวาดกลัว ทักษะอันน่าหวาดผวาประกอบกับก้อนหินที่ไม่รู้ว่าจะพุ่งมาโจมตีเขาเมื่อไหร่ทำให้เขารู้สึกหวาดระแวงด้วยความตกใจมาก
ในฐานะเจ้านายตัวน้อยเขาไม่เคยเจออะไรที่แปลกประหลาดเช่นนี้มาก่อนโดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมาแม้แต่บนท้องถนนที่มีการต่อสู้กันเขาก็ไม่เคยเห็นใครน่ากลัวไปกว่าคู่ต่อสู้คนปัจจุบันของเขาอีกแล้ว
แต่ในขณะนั้นเองเขาก็รู้สึกถึงพลังงานบางอย่างที่พุ่งมาจากข้างหลังเขาเอื้อมมือไปหยิบปืนและกำลังจะหันไปยิง แต่เขาก็ถูกคว้าข้อมือเอาไว้และมีเสียงดังขึ้นในหูของเขา ฉันเอง!
เจ้านายตัวน้อยประหลาดใจทันที คุณเหวิน!
เสียงก่อนหน้านี้กระซิบ ไม่ต้องพูด มากับฉัน!
เจ้านายตัวน้อยพยักหน้าทันทีและตามชายคนที่เขาเรียกว่าคุณเหวินไปที่สำนักงานอย่างเงียบๆทั้งสองใช้เสียงที่เบามากไม่รู้ว่าพวกเขากำลังพูดคุยกันเรื่องอะไร
ในโรงงานเคมีชั้นหนึ่งพวกอันธพาลที่ถูกจัดการส่งเสียงครวญครางอย่างน่าสังเวชเพื่อช่วยกลบเสียงของคุณเหวินและเจ้านายตัวน้อย
ไม่มีใครสังเกตเห็นตรงทางเดินตรงข้ามสำนักงานบนชั้นสองมีเงาสีดำจางๆยืนอยู่ที่นั่นในมือของเขาถือมีดอยู่
เงาดำนี้ไม่ใช่ใครอื่นแต่เป็นจี้เฟิงที่เพิ่งหายตัวไปหลังจากการโจมตีด้วยหินครั้งล่าสุด เขายืนอยู่บนที่สูงมองลงไปที่โรงงานทั้งหมดด้วยสายตาและการได้ยินที่ไม่ธรรมดา และเขาก็พบสองคนสุดท้ายที่ยังไม่ปรากฏตัว เขาจับราวบันไดแล้วเดินลงไปชั้นล่างอย่างเงียบๆ
คุณเหวินอีกฝ่ายทำไมถึงได้แข็งแกร่งมากขนาดนี้ ทันทีที่เขาเข้ามาในห้องทำงานเจ้านายตัวน้อยก็ปาดเหงื่อเย็นๆ เราไม่ได้แตะต้องแม้แต่เส้นผมของมันเลยด้วยซ้ำ แถมกำลังคนเกือบทั้งหมดของเขาก็หายไปโดยที่เราแทบจะไม่รู้ตัวเลย!
ใบหน้าของนายเหวินดูมืดมนเต็มไปด้วยความเคร่งเครียดอยู่ไม่น้อยเช่นกันแต่เนื่องจากภายในโรงงานมืดมากเจ้านายตัวน้อยจึงไม่ทันสังเกตเห็น
ฉันเคยบอกคุณไปตั้งนานแล้วว่าคนของเราที่เตรียมมาซุ่มโจมตีจะต้องเป็นผู้เชี่ยวชาญระดับปรมาจารย์แต่คุณก็ยังไม่สนใจ! นายเหวินบ่นอุบ แล้วพอมาถึงจุดนี้ คุณยังจะมาโทษใครได้อีก
เจ้านายตัวน้อยไม่รู้จะพูดอะไรต่อจึงได้แต่เงียบ
เฮ้ย!อ๊ากกกกกกกกก!! จู่ๆเสียงกรีดร้องสองเสียงก็ดังขึ้นมาจากทางทิศใต้สุดของโรงงานเคมี ทุกคนอดไม่ได้ที่จะตกใจ เจ้านายตัวน้อยก็ถึงกับสะดุ้งราวกับถูกเหยียบหาง
นายเหวินถึงกับส่งเสียงฟึดฟัดสองคนนั้นเป็นสองคนสุดท้ายที่เขาสั่งให้หลบซ่อนตัวเพื่อซุ่มโจมตี แต่เขาก็ไม่คาดคิดว่าจี้เฟิงจะทำลายแผนการของเขาได้ง่ายดายขนาดนี้
อย่างไรก็ตามจนถึงตอนนี้พวกเขาก็ยังไม่พบแม้แต่เงาของจี้เฟิงเลยและบรรยากาศที่แปลกประหลาดและน่ากลัวก็เริ่มแพร่กระจายไปทั่วโรงงานเคมีร้างแห่งนี้!