The Ultimate Student สุดยอดนักเรียนสมองอัจฉริยะ - บทที่ 306 จี้เฟิงจะไม่ทน!
หลังจากกลับมาถึงบ้านพวกเขาก็เห็นถงเล่ยที่ยังไม่นอนกำลังนั่งดูทีวีอยู่ในห้องนั่งเล่น เธอสวมชุดนอนผ้าฝ้ายสีขาวพิมพ์ลายการ์ตูน นั่งไขว่ห้างบนโซฟา มีเพียงเท้าเล็กๆอันขาวเนียนสองเท้าเท่านั้นที่โผล่พ้นออกมานอกร่มผ้า ผมยาวของเธอยังคงเปียกหมาดๆพาดอยู่ข้างหลัง ดูเหมือนว่าเธอเพิ่งจะอาบน้ำเสร็จ
ถงเล่ยในตอนนี้ดูน่ารักมาก
ดวงตาของจี้เฟิงเป็นประกายและทันใดนั้นจี้เฟิงกับเซียวหยูซวนก็ยิ้มให้กัน
‘น้องสาวของฉันคนนี้น่ารักมากจริงๆ’
เซียวหยูซวนขยิบตาให้จี้เฟิงและฝ่ายหลังก็เข้าใจในทันที จี้เฟิงก้าวไปข้างหน้าอย่างรวดเร็วและคว้าตัวถงเล่ยไว้ในอ้อมแขนของเขา “เล่ยเล่ย ทำไมถึงยังไม่นอนอีก หืม”
“กำลังจะนอนแล้ว”ถงเล่ยยิ้มหวานใบหน้าที่สวยงามเมื่อประกอบกับรอยยิ้มที่สดใสราวกับนางฟ้าตัวน้อยๆยิ่งช่วยเติมเต็มความงดงามของเธอให้มากยิ่งขึ้นอย่างหาที่เปรียบไม่ได้
จี้เฟิงหัวเราะอย่างเซ่อๆ“ดูเหมือนว่าพวกเราจะกลับมาทันแบบฉิวเฉียด ไม่อย่างนั้นคงไม่มีใครเปิดประตูทิ้งไว้ให้เรา!”
ถงเล่ยหน้าแดงทันทีแน่นอนว่าเธอรู้ว่าจี้เฟิงกำลังหยอกล้อเธอเกี่ยวกับข้อความที่เธอส่งไปเมื่อวานนี้ แม้เธอจะรู้สึกเขินอายนิดหน่อยแต่ในใจก็สัมผัสได้ถึงรสหวาน
ถงเล่ยมีความสุขมากเมื่อเห็นจี้เฟิงกลับมาเธอรู้ว่าจี้เฟิงจะไม่ทิ้งเธอไว้ที่บ้านคนเดียวอีกคืนอย่างแน่นอน!
เมื่อคืนจี้เฟิงพักที่บ้านของเซียวหยูซวนแล้วดังนั้นคืนนี้เขาจะต้องกลับมาหาถงเล่ยอย่างแน่นอน ถงเล่ยรู้ว่าจี้เฟิงจะต้องมีความยุติธรรมระหว่างตัวเองกับเซียวหยูซวนและไม่ปฏิบัติต่อใครอย่างผิดๆ
แล้วก็อย่างที่เห็นจี้เฟิงกลับมาแล้วจริงๆ ไม่แปลกที่ถงเล่ยจะดีใจถึงแม้เธอไม่ได้ตั้งใจที่จะอิจฉา แต่ก็ไม่มีผู้หญิงคนไหนที่ไม่ต้องการให้คนที่เธอรักให้ความสำคัญ ถึงแม้โดยปกติแล้วถงเล่ยจะเป็นคนเย็นชาแต่นั่นก็เฉพาะเวลาที่ต้องเผชิญหน้ากับคนนอกเท่านั้น แต่เมื่ออยู่ต่อหน้าจี้เฟิงความเย็นชาและความเฉยเมยทั้งหมดของเธอจะหายไปในพริบตา และยิ่งหวังว่าจะได้รับความรักจากจี้เฟิง
ตอนนี้พฤติกรรมของจี้เฟิงแสดงให้เห็นว่าเขายังรักและห่วงใยเธอมากซึ่งเท่านี้ก็เพียงพอแล้ว
จะไม่หึงไม่อิจฉา ไม่สร้างปัญหาเพื่อแสวงหาความโปรดปรานไว้คนเดียว แต่อย่างน้อยหัวใจของจี้เฟิงจะต้องมีเธออยู่ในนั้น นี่คือสิ่งที่ถงเล่ยคิดและตั้งใจไว้
ความจริงแล้วหากถงเล่ยจะแข่งขันกับเซียวหยูซวนเพื่อแย่งจี้เฟิงมาครอบครองเพียงคนเดียวจริงๆมันจะทำให้เซียวหยูซวนต้องเศร้าใจมาก ดังนั้นถงเล่ยจึงไม่คิดที่จะทำเช่นนั้น เพราะตอนนี้ความสัมพันธ์ระหว่างเธอกับเซียวหยูซวนไม่ต่างจากพี่น้องกันจริงๆแล้วเธอจะทนทำร้ายพี่สาวของตัวเองได้อย่างไร
อย่างไรก็ตามเมื่อถงเล่ยเห็นเซียวหยูซวนที่นั่งดูทีวีที่โซฟาอยู่ข้างๆเธอแสร้งทำเป็นไม่เห็นว่าจี้เฟิงกำลังกอดเธออยู่ถงเล่ยก็หน้าแดงทันทีและพยายามจะดิ้นให้หลุดจากอ้อมแขนของจี้เฟิง แต่ไม่ว่าจะพละกำลังหรือความแข็งแกร่ง ถงเล่ยหรือจะสู้จี้เฟิงได้ หลังจากที่พยามดิ้นรนให้หลุดจากอ้อมกอดของจี้เฟิงอยู่สองสามครั้งเธอก็ยอมแพ้ เธอจึงทำได้เพียงแค่อยู่ในอ้อมแขนของจี้เฟิงอย่างช่วยไม่ได้ด้วยความเขินอายและค่อยๆรู้สึกสบายใจขึ้น
“จุ๊บ!”จี้เฟิงมองท่าทางที่น่ารักของถงเล่ยแล้วอดใจไม่ได้ที่จะจูบลงบนแก้มที่ขาวเนียนของเธอ
คราวนี้ใบหน้าสวยของถงเล่ยกลับมาแดงขึ้นอีกครั้งเธอกระซิบ “นายทำอะไรของนายเนี่ย! เดี๋ยวพี่สาวต้องหัวเราะฉันแน่ๆ!”
จี้เฟิงหัวเราะและพูดว่า“ฉันจะทำให้หยูซวนไม่กล้าหัวเราะเยาะเธอเอง!”
จี้เฟิงตบอีกด้านหนึ่งของโซฟา“หยูซวนมานี่สิ เธอเป็นพี่สาวต้องทำเป็นตัวอย่างให้น้องสาวดูสิ!”
เซียวหยูซวนนึกถึงฉากที่วาบหวามเมื่อคืนใบหน้าของเธอก็แดงขึ้นมาเล็กน้อย แต่เธอไม่ได้ปฏิเสธ เธอขยับตัวเข้าไปนั่งข้างๆจี้เฟิงอย่างว่าง่าย “จิ๊กโก๋น้อย นายต้องการจะทำอะไร”
“ทำอะไรน่ะเหรอ”
จี้เฟิงมองใบหน้าที่ขาวนวลมีสีแดงระเรื่อของเลือดฝาดเล็กน้อยที่แก้มของเซียวหยูซวนเขาใช้มืออีกข้างหนึ่งที่ว่างอยู่โอบเธอให้กระชับแน่นขึ้น แล้วจูบเธออย่างหนัก “เธอว่าฉันกำลังทำอะไร”
สาวงามคนหนึ่งอยู่ในอ้อมแขนของเขาก้นอันนุ่มเด้งของเธอถูกไถที่ท้องของเขาอย่างต่อเนื่อง ข้างๆก็มีหญิงสาวที่เอ่อล้นไปด้วยเสน่ห์ที่ยั่วยวน แรงกระตุ้นอันแรงกล้าก็ผุดขึ้นมาในหัวใจของเขาทันที การแสดงออกและแววตาของเขาค่อยๆเปลี่ยนไป
ถงเล่ยเป็นคนแรกที่รู้ตัวว่ามีบางอย่างผิดปกติเธอที่กำลังนั่งอยู่บนตักของจี้เฟิงรู้สึกได้ว่ามีบางอย่างกำลังดันก้นของเธอ เธออดไม่ได้ที่จะสัมผัสมัน
“อ๊ะ!”
ใบหน้าที่น่ารักของถงเล่ยแดงก่ำไปจนถึงติ่งหู
อย่างไรก็ตามเธอยังไม่ปล่อยมือทันทีแต่กลับบีบมันสองครั้งโดยไม่รู้ตัว
“เฮือก!”
จี้เฟิงสูดลมหายใจเข้าทันทีและมีความรู้สึกที่ไม่อาจบรรยายได้เกิดขึ้น มันได้แผ่ซ่านไปทั่วร่างกายของเขา
ถงเล่ยคิดว่าการบีบของเธอทำให้จี้เฟิงรู้สึกเจ็บปวดเธอรีบปล่อยมือออกทันที เธอถามด้วยความเป็นห่วงทั้งๆที่ใบหน้าของเธอยังคงแดงก่ำ “จี้เฟิง นายโอเคมั้ย”
ถงเล่ยอยากจะมุดแผ่นดินหนีซะเดี๋ยวนี้เลยเธอเองก็ไม่รู้ตัวเหมือนกันว่าทำไมถึงได้ไปบีบมันแบบนั้น เธอรู้สึกเหมือนไม่เป็นตัวเองเลย
แต่ก็ไม่ใช่ว่าจะไม่เคยสัมผัสกับมันมาก่อน…
ก่อนที่จะมาเรียนมหาวิทยาลัยในช่วงปิดเทอมฤดูร้อน จี้เฟิงเคยทำน้ำอุ่นๆพุ่งใส่หน้าเธอจนเลอะเทอะไปหมด…
‘ยัยบ้า!’
ถงเล่ยก่นด่าตัวเองอยู่ในใจ‘ทำไมเธอถึงไม่รู้จักละอายบ้าง! จะคิดถึงเรื่องนี้ขึ้นมาทำไม!’
ในขณะนั้นเองถงเล่ยไม่ได้รู้เลยว่าอารมณ์ของจี้เฟิงนั้นคุกรุ่นสุดๆ ไฟชั่วร้ายที่อยู่ในใจของเขาระเบิดออกมาอย่างไม่สามารถควบคุมได้อีกต่อไป!
เซียวหยูซวนต้องการจะถามว่าเกิดอะไรขึ้นแต่เมื่อเห็นสีหน้าท่าทางของจี้เฟิงเธอก็จำบางสิ่งบางอย่างได้ในทันที ใบหน้าที่สวยงามของเธอแดงจัด เธอรีบลุกหนีทันที
“ฉัน..ฉันจะไปอาบน้ำ!” เมื่อเซียวหยูซวนตระหนักได้ว่ามีบางอย่างผิดปกติเธอจึงต้องการจะหนี แต่มันก็สายเกินไป
จี้เฟิงจะยอมปล่อยให้เธอหนีไปได้อย่างไรเขาคว้าเอวที่เรียวบางและยืดหยุ่นของเซียวหยูซวนมาไว้บนตักด้วยขาอีกข้าง ตอนนี้มือทั้งสองข้างของจี้เฟิงโอบกอดหญิงสาวทั้งสองไว้แน่น
ถงเล่ยสวมชุดนอนหลวมๆจี้เฟิงจึงเอนตัวไปสัมผัสผิวที่บอบบางและเรียบเนียนของเธอได้อย่างง่ายดาย ในเวลาเดียวกันอีกมือของจี้เฟิงก็ไต่ไปที่ก้นอันอวบอัดของเซียวหยูซวนและนวดมันอย่างรุนแรง
“โอ้ว~!”หญิงสาวทั้งสองร้องครางออกมาพร้อมกัน ร่างกายของพวกเธอสั่นไหวเล็กน้อย พร้อมกับมีปฏิกิริยาตอบสนองขึ้นมาเองอย่างช่วยไม่ได้ แต่เนื่องจากเธอมองเห็นกันและกันพวกเธอจึงยิ่งรู้สึกเขินอายมากขึ้นไปกว่าเดิม แต่จี้เฟิงกลับรู้สึกเร่าร้อนมากขึ้นจนยากที่จะหยุดไว้แค่เพียงเท่านี้
“เล่ยเล่ยหยูซวน ฉันต้องการพวกเธอ!” หลายครั้งแล้วที่จี้เฟิงต้องพบกับความล้มเหลว และตอนนี้แรงกระตุ้นของจี้เฟิงได้ทำให้ความอดทนของเขามาถึงขีดจำกัดแล้ว วันนี้เขาจะไม่ทนมันอีกต่อไป เขาอุ้มทั้งสองสาวขึ้นมาพาดบ่าและเดินขึ้นไปข้างบน
“อ๊ะ!”
ถงเล่ยตกใจและรีบพูดทันทีด้วยใบหน้าแดงก่ำ“จี้เฟิง! ไม่ใช่วันนี้! ฉัน.. ฉัน..!”
ก่อนที่เธอจะพูดจบจี้เฟิงก็จูบริมฝีปากที่สวยหวานของเธอเสียก่อน ทำให้เธอไม่สามารถพูดอะไรออกมาได้อีก นอกเสียจากส่งเสียงขึ้นจมูกพร้อมกับดวงตาคู่สวยที่พร่ามัว
หลังจากที่จูบกับถงเล่ยอย่างดูดดื่มจี้เฟิงก็หันหัวของเขาไปจูบริมฝีปากสีแดงของเซียวหยูซวนร่างกายของเซียวหยูซวนอ่อนไหวมากอยู่แล้ว เมื่อถูกจี้เฟิงบีบก้นอันอวบแน่นของเธออย่างรุนแรงสองสามครั้งร่างกายของเธอก็สั่นสะท้านดวงตาคู่งามของเธอก็พร่ามัวและลืมที่จะขัดขืนไปจนหมดสิ้น
จี้เฟิงกอดแฟนสาวทั้งสองของเขาและเดินขึ้นไปบนชั้นสองอย่างรวดเร็วเขาวางพวกเธอลงบนเตียงอย่างไม่รีรอ
อย่างไรก็ตามในตอนที่เขาลูบสะโพกของถงเล่ยมีความยืดหยุ่นสู้มือที่น่าทึ่งทำให้เขาอดใจไม่ได้ที่จะบีบมันอีกสองครั้ง แต่มือของเขาก็บังเอิญไปสัมผัสกับวัตถุแปลกปลอมบางอย่าง
“นี่คือ…”
จี้เฟิงถึงกับตกตะลึงไปชั่วครู่ทันใดนั้นสีหน้าของเขาก็เปลี่ยนเป็นประหลาดใจ “เล่ยเล่ย ไม่ใช่ว่า เธอเป็นวันนั้นของเดือนหรอกใช่มั้ย”
ถงเล่ยอ้าปากน้อยๆต้องการจะพูดบางอย่าง แต่สุดท้ายเธอก็พ่นลมหายใจกลิ่นกล้วยไม้ออกมาเบาๆ ดวงตาคู่งามของเธอฉายแววความเขินอายและพยักหน้าเล็กน้อย “เมื่อกี้ฉันกำลังจะบอกนายแล้ว แต่ว่านาย…” เมื่อกี้เธอไม่มีโอกาสที่จะได้พูดจนจบก็ถูกจี้เฟิงใช้ปากของเขามาปิดปากของเธอไว้
“เอาจริงดิ!”จี้เฟิงแอบสบถอยู่ในใจ เขาแทบจะบ้าคลั่งแล้วตอนนี้ “ทำไมฉันถึงได้ดวงซวยขนาดนี้? วันตั้งเยอะตั้งแยะก็ไม่มา ดันมาวันนี้…?!”
ถงเล่ยรีบลุกพรวดจากเตียงอย่างเขินอายเธอจัดแจงเสื้อผ้าเล็กน้อยและรีบวิ่งออกไป ทิ้งไว้เพียงคำพูดไว้แต่ไกลว่า “จี้เฟิง ถ้ายังไงให้พี่สาวช่วยนายไปก่อนได้เลย ฉันจะไปเตรียมน้ำไว้ให้นายอาบ!”
ความจริงแล้วถ้าไม่ใช่เพราะวันนี้ร่างกายเธอไม่พร้อมเธอก็อยากจะมอบร่างกายของเธอให้จี้เฟิงพร้อมกับเซียวหยูซวนแม้ว่าการทำอะไรแบบนี้ร่วมกันสามคนจะรู้สึกอับอายมากแต่นี่ก็เป็นสิ่งที่ยุติธรรมกับหญิงสาวทั้งสองคนมากที่สุดและไม่มีใครต้องรู้สึกอึดอัดในภายหลัง
มาถึงจุดนี้คงต้องบอกว่าถงเล่ยนั้นรักจี้เฟิงมากจริงๆเกรงว่ามันเป็นเรื่องยากที่จะยอมรับจริงๆไม่ว่าจะเป็นผู้หญิงคนไหนก็ตาม
แน่นอนว่ายกเว้นพวกผู้หญิงที่เห็นเรื่องนี้เป็นเพียงแค่ความสนุกแบบไม่ซีเรียส
จี้เฟิงยืนมองถงเล่ยที่หายวับไปจากประตูอย่างอึ้งๆเธอยอมให้ฉันมีอะไรกับเซียวหยูซวนก่อนจริงๆเหรอ…. เธอไม่หึงเหรอ
ไฟชั่วร้ายในใจของเขาลุกโชนขึ้นจนยากที่จะดับมันได้แล้วทำให้เขาไม่อยากจะสนใจอะไรทั้งสิ้น แต่ลึกๆเขานั้นรู้ดีว่าถงเล่ยจะไม่แสร้งทำเพราะเกรงใจอย่างเด็ดขาด ถ้าเธอรู้สึกลำบากใจจริงๆเธอจะไม่พูดออกมาแบบนี้อย่างแน่นอน
จี้เฟิงหันหลังกลับทันทีและพบว่าเซียวหยูซวนที่ไม่รู้ว่าลุกขึ้นมาจากเตียงตอนไหนกำลังจะย่องหนีไป
“จะหนีเหรอ”จี้เฟิงยิ้มอย่างชั่วร้ายและกอดเซียวหยูซวนไว้ “สาวน้อย จะหนีไปไหนเหรอ?”
เซียวหยูซวนรู้สึกอ่อนยวบและเขินอาย“จิ๊กโก๋น้อย ฉันต้องขอโทษจริงๆ เพราะถ้าพรุ่งนี้เล่ยเล่ยรู้เขาเธอต้องหัวเราะเยาะฉันตายเลย”
จี้เฟิงพูดด้วยรอยยิ้ม“สบายใจได้ เล่ยเล่ยจะหัวเราะเยาะเธอได้ไม่นานหรอก เพราะอีกไม่กี่วันก็ถึงตาของเธอแล้ว”
ขณะที่พูดจี้เฟิงก็กดร่างเซียวหยูซวนลงบนที่นอนให้อยู่ภายใต้ร่างกายอันแข็งแกร่งของเขา
เสียงที่ดังสนั่นออกมาเป็นเสียงร้องด้วยความเจ็บปวดของเซียวหยูซวนผ่านไปครู่หนึ่งก็มีเสียงที่เป็นจังหวะเหมือนกับเสียงหัวใจที่เต้นรัวดังออกมาจากในห้อง และห้องทั้งห้องก็เต็มไปด้วยความสุขที่เปี่ยมล้น
เสียงนั้นทำให้ถงเล่ยที่ยืนฟังอยู่หน้าห้องนอนใบหน้าแดงก่ำหัวใจเต้นเร็ว เธอยืนฟังอยู่ครู่หนึ่งก็รีบวิ่งหนีไปเพราะกลัวว่าถ้ายังยืนฟังอยู่แบบนี้คงจะไม่เหลือเรี่ยวแรงแม้แต่จะก้าวเดิน
ในคืนนั้นเซียวหยูซวนได้เปลี่ยนแปลงตัวเองจากผู้หญิงเป็นหญิงสาวเต็มตัวส่วนถงเล่ยไม่มีความหึงหวงใดๆเลยแม้แต่น้อย มีแค่เพียงความเขินอายเท่านั้น
เธอคิดว่าสักวันเธออาจจะทำเสียงที่น่าเขินอายแบบนั้นได้เมื่อคิดแบบนี้เธอก็ยิ่งรู้สึกเขินอายและสลัดความคิดนี้ทิ้งไปแล้วรีบไปอาบน้ำ
เนื่องจากตอนนี้ห้องนอนของเธอถูกจี้เฟิงและเซียวหยูซวนยึดไว้เป็นที่เรียบร้อยเธอจึงต้องไปนอนที่ห้องนอนของจี้เฟิง เธอปิดประตูแน่นและล้มตัวลงนอนบนเตียง เธอรู้สึกถึงวัตถุแข็งๆบางอย่างที่อยู่ใต้หมอน
เธอรีบลุกนั่งและเปิดใต้หมอนออกดูทันทีและเธอก็ต้องตกใจเมื่อเห็นว่าวัตถุแข็งๆนั่นมันคือปืนพก! มันน่าจะเป็นกระบอกเดียวกันกับที่จี้เฟิงเคยมอบให้เธอและเซียวหยูซวนไว้ป้องกันตัว
“ตาบ้านี่!ทำไมถึงได้วางของอันตรายไว้ใต้หมอนแบบนี้!” ถงเล่ยแลบลิ้นน้อยๆน่ารักๆของเธอออกมา จากนั้นก็มองไปรอบๆแล้ววางปืนพกไว้ที่โต๊ะข้างเตียง พรุ่งนี้ต้องเกลี้ยกล่อมจี้เฟิงว่าอย่าวางของอันตรายแบบนี้ไว้ใกล้ตัว ไม่อย่างนั้นใครจะรู้ว่าจะมีเรื่องพลาดพลั้งอะไรเกิดขึ้น!
ถงเล่ยในตอนนี้ดูน่ารักมาก
ดวงตาของจี้เฟิงเป็นประกายและทันใดนั้นจี้เฟิงกับเซียวหยูซวนก็ยิ้มให้กัน
‘น้องสาวของฉันคนนี้น่ารักมากจริงๆ’
เซียวหยูซวนขยิบตาให้จี้เฟิงและฝ่ายหลังก็เข้าใจในทันที จี้เฟิงก้าวไปข้างหน้าอย่างรวดเร็วและคว้าตัวถงเล่ยไว้ในอ้อมแขนของเขา “เล่ยเล่ย ทำไมถึงยังไม่นอนอีก หืม”
“กำลังจะนอนแล้ว”ถงเล่ยยิ้มหวานใบหน้าที่สวยงามเมื่อประกอบกับรอยยิ้มที่สดใสราวกับนางฟ้าตัวน้อยๆยิ่งช่วยเติมเต็มความงดงามของเธอให้มากยิ่งขึ้นอย่างหาที่เปรียบไม่ได้
จี้เฟิงหัวเราะอย่างเซ่อๆ“ดูเหมือนว่าพวกเราจะกลับมาทันแบบฉิวเฉียด ไม่อย่างนั้นคงไม่มีใครเปิดประตูทิ้งไว้ให้เรา!”
ถงเล่ยหน้าแดงทันทีแน่นอนว่าเธอรู้ว่าจี้เฟิงกำลังหยอกล้อเธอเกี่ยวกับข้อความที่เธอส่งไปเมื่อวานนี้ แม้เธอจะรู้สึกเขินอายนิดหน่อยแต่ในใจก็สัมผัสได้ถึงรสหวาน
ถงเล่ยมีความสุขมากเมื่อเห็นจี้เฟิงกลับมาเธอรู้ว่าจี้เฟิงจะไม่ทิ้งเธอไว้ที่บ้านคนเดียวอีกคืนอย่างแน่นอน!
เมื่อคืนจี้เฟิงพักที่บ้านของเซียวหยูซวนแล้วดังนั้นคืนนี้เขาจะต้องกลับมาหาถงเล่ยอย่างแน่นอน ถงเล่ยรู้ว่าจี้เฟิงจะต้องมีความยุติธรรมระหว่างตัวเองกับเซียวหยูซวนและไม่ปฏิบัติต่อใครอย่างผิดๆ
แล้วก็อย่างที่เห็นจี้เฟิงกลับมาแล้วจริงๆ ไม่แปลกที่ถงเล่ยจะดีใจถึงแม้เธอไม่ได้ตั้งใจที่จะอิจฉา แต่ก็ไม่มีผู้หญิงคนไหนที่ไม่ต้องการให้คนที่เธอรักให้ความสำคัญ ถึงแม้โดยปกติแล้วถงเล่ยจะเป็นคนเย็นชาแต่นั่นก็เฉพาะเวลาที่ต้องเผชิญหน้ากับคนนอกเท่านั้น แต่เมื่ออยู่ต่อหน้าจี้เฟิงความเย็นชาและความเฉยเมยทั้งหมดของเธอจะหายไปในพริบตา และยิ่งหวังว่าจะได้รับความรักจากจี้เฟิง
ตอนนี้พฤติกรรมของจี้เฟิงแสดงให้เห็นว่าเขายังรักและห่วงใยเธอมากซึ่งเท่านี้ก็เพียงพอแล้ว
จะไม่หึงไม่อิจฉา ไม่สร้างปัญหาเพื่อแสวงหาความโปรดปรานไว้คนเดียว แต่อย่างน้อยหัวใจของจี้เฟิงจะต้องมีเธออยู่ในนั้น นี่คือสิ่งที่ถงเล่ยคิดและตั้งใจไว้
ความจริงแล้วหากถงเล่ยจะแข่งขันกับเซียวหยูซวนเพื่อแย่งจี้เฟิงมาครอบครองเพียงคนเดียวจริงๆมันจะทำให้เซียวหยูซวนต้องเศร้าใจมาก ดังนั้นถงเล่ยจึงไม่คิดที่จะทำเช่นนั้น เพราะตอนนี้ความสัมพันธ์ระหว่างเธอกับเซียวหยูซวนไม่ต่างจากพี่น้องกันจริงๆแล้วเธอจะทนทำร้ายพี่สาวของตัวเองได้อย่างไร
อย่างไรก็ตามเมื่อถงเล่ยเห็นเซียวหยูซวนที่นั่งดูทีวีที่โซฟาอยู่ข้างๆเธอแสร้งทำเป็นไม่เห็นว่าจี้เฟิงกำลังกอดเธออยู่ถงเล่ยก็หน้าแดงทันทีและพยายามจะดิ้นให้หลุดจากอ้อมแขนของจี้เฟิง แต่ไม่ว่าจะพละกำลังหรือความแข็งแกร่ง ถงเล่ยหรือจะสู้จี้เฟิงได้ หลังจากที่พยามดิ้นรนให้หลุดจากอ้อมกอดของจี้เฟิงอยู่สองสามครั้งเธอก็ยอมแพ้ เธอจึงทำได้เพียงแค่อยู่ในอ้อมแขนของจี้เฟิงอย่างช่วยไม่ได้ด้วยความเขินอายและค่อยๆรู้สึกสบายใจขึ้น
“จุ๊บ!”จี้เฟิงมองท่าทางที่น่ารักของถงเล่ยแล้วอดใจไม่ได้ที่จะจูบลงบนแก้มที่ขาวเนียนของเธอ
คราวนี้ใบหน้าสวยของถงเล่ยกลับมาแดงขึ้นอีกครั้งเธอกระซิบ “นายทำอะไรของนายเนี่ย! เดี๋ยวพี่สาวต้องหัวเราะฉันแน่ๆ!”
จี้เฟิงหัวเราะและพูดว่า“ฉันจะทำให้หยูซวนไม่กล้าหัวเราะเยาะเธอเอง!”
จี้เฟิงตบอีกด้านหนึ่งของโซฟา“หยูซวนมานี่สิ เธอเป็นพี่สาวต้องทำเป็นตัวอย่างให้น้องสาวดูสิ!”
เซียวหยูซวนนึกถึงฉากที่วาบหวามเมื่อคืนใบหน้าของเธอก็แดงขึ้นมาเล็กน้อย แต่เธอไม่ได้ปฏิเสธ เธอขยับตัวเข้าไปนั่งข้างๆจี้เฟิงอย่างว่าง่าย “จิ๊กโก๋น้อย นายต้องการจะทำอะไร”
“ทำอะไรน่ะเหรอ”
จี้เฟิงมองใบหน้าที่ขาวนวลมีสีแดงระเรื่อของเลือดฝาดเล็กน้อยที่แก้มของเซียวหยูซวนเขาใช้มืออีกข้างหนึ่งที่ว่างอยู่โอบเธอให้กระชับแน่นขึ้น แล้วจูบเธออย่างหนัก “เธอว่าฉันกำลังทำอะไร”
สาวงามคนหนึ่งอยู่ในอ้อมแขนของเขาก้นอันนุ่มเด้งของเธอถูกไถที่ท้องของเขาอย่างต่อเนื่อง ข้างๆก็มีหญิงสาวที่เอ่อล้นไปด้วยเสน่ห์ที่ยั่วยวน แรงกระตุ้นอันแรงกล้าก็ผุดขึ้นมาในหัวใจของเขาทันที การแสดงออกและแววตาของเขาค่อยๆเปลี่ยนไป
ถงเล่ยเป็นคนแรกที่รู้ตัวว่ามีบางอย่างผิดปกติเธอที่กำลังนั่งอยู่บนตักของจี้เฟิงรู้สึกได้ว่ามีบางอย่างกำลังดันก้นของเธอ เธออดไม่ได้ที่จะสัมผัสมัน
“อ๊ะ!”
ใบหน้าที่น่ารักของถงเล่ยแดงก่ำไปจนถึงติ่งหู
อย่างไรก็ตามเธอยังไม่ปล่อยมือทันทีแต่กลับบีบมันสองครั้งโดยไม่รู้ตัว
“เฮือก!”
จี้เฟิงสูดลมหายใจเข้าทันทีและมีความรู้สึกที่ไม่อาจบรรยายได้เกิดขึ้น มันได้แผ่ซ่านไปทั่วร่างกายของเขา
ถงเล่ยคิดว่าการบีบของเธอทำให้จี้เฟิงรู้สึกเจ็บปวดเธอรีบปล่อยมือออกทันที เธอถามด้วยความเป็นห่วงทั้งๆที่ใบหน้าของเธอยังคงแดงก่ำ “จี้เฟิง นายโอเคมั้ย”
ถงเล่ยอยากจะมุดแผ่นดินหนีซะเดี๋ยวนี้เลยเธอเองก็ไม่รู้ตัวเหมือนกันว่าทำไมถึงได้ไปบีบมันแบบนั้น เธอรู้สึกเหมือนไม่เป็นตัวเองเลย
แต่ก็ไม่ใช่ว่าจะไม่เคยสัมผัสกับมันมาก่อน…
ก่อนที่จะมาเรียนมหาวิทยาลัยในช่วงปิดเทอมฤดูร้อน จี้เฟิงเคยทำน้ำอุ่นๆพุ่งใส่หน้าเธอจนเลอะเทอะไปหมด…
‘ยัยบ้า!’
ถงเล่ยก่นด่าตัวเองอยู่ในใจ‘ทำไมเธอถึงไม่รู้จักละอายบ้าง! จะคิดถึงเรื่องนี้ขึ้นมาทำไม!’
ในขณะนั้นเองถงเล่ยไม่ได้รู้เลยว่าอารมณ์ของจี้เฟิงนั้นคุกรุ่นสุดๆ ไฟชั่วร้ายที่อยู่ในใจของเขาระเบิดออกมาอย่างไม่สามารถควบคุมได้อีกต่อไป!
เซียวหยูซวนต้องการจะถามว่าเกิดอะไรขึ้นแต่เมื่อเห็นสีหน้าท่าทางของจี้เฟิงเธอก็จำบางสิ่งบางอย่างได้ในทันที ใบหน้าที่สวยงามของเธอแดงจัด เธอรีบลุกหนีทันที
“ฉัน..ฉันจะไปอาบน้ำ!” เมื่อเซียวหยูซวนตระหนักได้ว่ามีบางอย่างผิดปกติเธอจึงต้องการจะหนี แต่มันก็สายเกินไป
จี้เฟิงจะยอมปล่อยให้เธอหนีไปได้อย่างไรเขาคว้าเอวที่เรียวบางและยืดหยุ่นของเซียวหยูซวนมาไว้บนตักด้วยขาอีกข้าง ตอนนี้มือทั้งสองข้างของจี้เฟิงโอบกอดหญิงสาวทั้งสองไว้แน่น
ถงเล่ยสวมชุดนอนหลวมๆจี้เฟิงจึงเอนตัวไปสัมผัสผิวที่บอบบางและเรียบเนียนของเธอได้อย่างง่ายดาย ในเวลาเดียวกันอีกมือของจี้เฟิงก็ไต่ไปที่ก้นอันอวบอัดของเซียวหยูซวนและนวดมันอย่างรุนแรง
“โอ้ว~!”หญิงสาวทั้งสองร้องครางออกมาพร้อมกัน ร่างกายของพวกเธอสั่นไหวเล็กน้อย พร้อมกับมีปฏิกิริยาตอบสนองขึ้นมาเองอย่างช่วยไม่ได้ แต่เนื่องจากเธอมองเห็นกันและกันพวกเธอจึงยิ่งรู้สึกเขินอายมากขึ้นไปกว่าเดิม แต่จี้เฟิงกลับรู้สึกเร่าร้อนมากขึ้นจนยากที่จะหยุดไว้แค่เพียงเท่านี้
“เล่ยเล่ยหยูซวน ฉันต้องการพวกเธอ!” หลายครั้งแล้วที่จี้เฟิงต้องพบกับความล้มเหลว และตอนนี้แรงกระตุ้นของจี้เฟิงได้ทำให้ความอดทนของเขามาถึงขีดจำกัดแล้ว วันนี้เขาจะไม่ทนมันอีกต่อไป เขาอุ้มทั้งสองสาวขึ้นมาพาดบ่าและเดินขึ้นไปข้างบน
“อ๊ะ!”
ถงเล่ยตกใจและรีบพูดทันทีด้วยใบหน้าแดงก่ำ“จี้เฟิง! ไม่ใช่วันนี้! ฉัน.. ฉัน..!”
ก่อนที่เธอจะพูดจบจี้เฟิงก็จูบริมฝีปากที่สวยหวานของเธอเสียก่อน ทำให้เธอไม่สามารถพูดอะไรออกมาได้อีก นอกเสียจากส่งเสียงขึ้นจมูกพร้อมกับดวงตาคู่สวยที่พร่ามัว
หลังจากที่จูบกับถงเล่ยอย่างดูดดื่มจี้เฟิงก็หันหัวของเขาไปจูบริมฝีปากสีแดงของเซียวหยูซวนร่างกายของเซียวหยูซวนอ่อนไหวมากอยู่แล้ว เมื่อถูกจี้เฟิงบีบก้นอันอวบแน่นของเธออย่างรุนแรงสองสามครั้งร่างกายของเธอก็สั่นสะท้านดวงตาคู่งามของเธอก็พร่ามัวและลืมที่จะขัดขืนไปจนหมดสิ้น
จี้เฟิงกอดแฟนสาวทั้งสองของเขาและเดินขึ้นไปบนชั้นสองอย่างรวดเร็วเขาวางพวกเธอลงบนเตียงอย่างไม่รีรอ
อย่างไรก็ตามในตอนที่เขาลูบสะโพกของถงเล่ยมีความยืดหยุ่นสู้มือที่น่าทึ่งทำให้เขาอดใจไม่ได้ที่จะบีบมันอีกสองครั้ง แต่มือของเขาก็บังเอิญไปสัมผัสกับวัตถุแปลกปลอมบางอย่าง
“นี่คือ…”
จี้เฟิงถึงกับตกตะลึงไปชั่วครู่ทันใดนั้นสีหน้าของเขาก็เปลี่ยนเป็นประหลาดใจ “เล่ยเล่ย ไม่ใช่ว่า เธอเป็นวันนั้นของเดือนหรอกใช่มั้ย”
ถงเล่ยอ้าปากน้อยๆต้องการจะพูดบางอย่าง แต่สุดท้ายเธอก็พ่นลมหายใจกลิ่นกล้วยไม้ออกมาเบาๆ ดวงตาคู่งามของเธอฉายแววความเขินอายและพยักหน้าเล็กน้อย “เมื่อกี้ฉันกำลังจะบอกนายแล้ว แต่ว่านาย…” เมื่อกี้เธอไม่มีโอกาสที่จะได้พูดจนจบก็ถูกจี้เฟิงใช้ปากของเขามาปิดปากของเธอไว้
“เอาจริงดิ!”จี้เฟิงแอบสบถอยู่ในใจ เขาแทบจะบ้าคลั่งแล้วตอนนี้ “ทำไมฉันถึงได้ดวงซวยขนาดนี้? วันตั้งเยอะตั้งแยะก็ไม่มา ดันมาวันนี้…?!”
ถงเล่ยรีบลุกพรวดจากเตียงอย่างเขินอายเธอจัดแจงเสื้อผ้าเล็กน้อยและรีบวิ่งออกไป ทิ้งไว้เพียงคำพูดไว้แต่ไกลว่า “จี้เฟิง ถ้ายังไงให้พี่สาวช่วยนายไปก่อนได้เลย ฉันจะไปเตรียมน้ำไว้ให้นายอาบ!”
ความจริงแล้วถ้าไม่ใช่เพราะวันนี้ร่างกายเธอไม่พร้อมเธอก็อยากจะมอบร่างกายของเธอให้จี้เฟิงพร้อมกับเซียวหยูซวนแม้ว่าการทำอะไรแบบนี้ร่วมกันสามคนจะรู้สึกอับอายมากแต่นี่ก็เป็นสิ่งที่ยุติธรรมกับหญิงสาวทั้งสองคนมากที่สุดและไม่มีใครต้องรู้สึกอึดอัดในภายหลัง
มาถึงจุดนี้คงต้องบอกว่าถงเล่ยนั้นรักจี้เฟิงมากจริงๆเกรงว่ามันเป็นเรื่องยากที่จะยอมรับจริงๆไม่ว่าจะเป็นผู้หญิงคนไหนก็ตาม
แน่นอนว่ายกเว้นพวกผู้หญิงที่เห็นเรื่องนี้เป็นเพียงแค่ความสนุกแบบไม่ซีเรียส
จี้เฟิงยืนมองถงเล่ยที่หายวับไปจากประตูอย่างอึ้งๆเธอยอมให้ฉันมีอะไรกับเซียวหยูซวนก่อนจริงๆเหรอ…. เธอไม่หึงเหรอ
ไฟชั่วร้ายในใจของเขาลุกโชนขึ้นจนยากที่จะดับมันได้แล้วทำให้เขาไม่อยากจะสนใจอะไรทั้งสิ้น แต่ลึกๆเขานั้นรู้ดีว่าถงเล่ยจะไม่แสร้งทำเพราะเกรงใจอย่างเด็ดขาด ถ้าเธอรู้สึกลำบากใจจริงๆเธอจะไม่พูดออกมาแบบนี้อย่างแน่นอน
จี้เฟิงหันหลังกลับทันทีและพบว่าเซียวหยูซวนที่ไม่รู้ว่าลุกขึ้นมาจากเตียงตอนไหนกำลังจะย่องหนีไป
“จะหนีเหรอ”จี้เฟิงยิ้มอย่างชั่วร้ายและกอดเซียวหยูซวนไว้ “สาวน้อย จะหนีไปไหนเหรอ?”
เซียวหยูซวนรู้สึกอ่อนยวบและเขินอาย“จิ๊กโก๋น้อย ฉันต้องขอโทษจริงๆ เพราะถ้าพรุ่งนี้เล่ยเล่ยรู้เขาเธอต้องหัวเราะเยาะฉันตายเลย”
จี้เฟิงพูดด้วยรอยยิ้ม“สบายใจได้ เล่ยเล่ยจะหัวเราะเยาะเธอได้ไม่นานหรอก เพราะอีกไม่กี่วันก็ถึงตาของเธอแล้ว”
ขณะที่พูดจี้เฟิงก็กดร่างเซียวหยูซวนลงบนที่นอนให้อยู่ภายใต้ร่างกายอันแข็งแกร่งของเขา
เสียงที่ดังสนั่นออกมาเป็นเสียงร้องด้วยความเจ็บปวดของเซียวหยูซวนผ่านไปครู่หนึ่งก็มีเสียงที่เป็นจังหวะเหมือนกับเสียงหัวใจที่เต้นรัวดังออกมาจากในห้อง และห้องทั้งห้องก็เต็มไปด้วยความสุขที่เปี่ยมล้น
เสียงนั้นทำให้ถงเล่ยที่ยืนฟังอยู่หน้าห้องนอนใบหน้าแดงก่ำหัวใจเต้นเร็ว เธอยืนฟังอยู่ครู่หนึ่งก็รีบวิ่งหนีไปเพราะกลัวว่าถ้ายังยืนฟังอยู่แบบนี้คงจะไม่เหลือเรี่ยวแรงแม้แต่จะก้าวเดิน
ในคืนนั้นเซียวหยูซวนได้เปลี่ยนแปลงตัวเองจากผู้หญิงเป็นหญิงสาวเต็มตัวส่วนถงเล่ยไม่มีความหึงหวงใดๆเลยแม้แต่น้อย มีแค่เพียงความเขินอายเท่านั้น
เธอคิดว่าสักวันเธออาจจะทำเสียงที่น่าเขินอายแบบนั้นได้เมื่อคิดแบบนี้เธอก็ยิ่งรู้สึกเขินอายและสลัดความคิดนี้ทิ้งไปแล้วรีบไปอาบน้ำ
เนื่องจากตอนนี้ห้องนอนของเธอถูกจี้เฟิงและเซียวหยูซวนยึดไว้เป็นที่เรียบร้อยเธอจึงต้องไปนอนที่ห้องนอนของจี้เฟิง เธอปิดประตูแน่นและล้มตัวลงนอนบนเตียง เธอรู้สึกถึงวัตถุแข็งๆบางอย่างที่อยู่ใต้หมอน
เธอรีบลุกนั่งและเปิดใต้หมอนออกดูทันทีและเธอก็ต้องตกใจเมื่อเห็นว่าวัตถุแข็งๆนั่นมันคือปืนพก! มันน่าจะเป็นกระบอกเดียวกันกับที่จี้เฟิงเคยมอบให้เธอและเซียวหยูซวนไว้ป้องกันตัว
“ตาบ้านี่!ทำไมถึงได้วางของอันตรายไว้ใต้หมอนแบบนี้!” ถงเล่ยแลบลิ้นน้อยๆน่ารักๆของเธอออกมา จากนั้นก็มองไปรอบๆแล้ววางปืนพกไว้ที่โต๊ะข้างเตียง พรุ่งนี้ต้องเกลี้ยกล่อมจี้เฟิงว่าอย่าวางของอันตรายแบบนี้ไว้ใกล้ตัว ไม่อย่างนั้นใครจะรู้ว่าจะมีเรื่องพลาดพลั้งอะไรเกิดขึ้น!