The Ultimate Student สุดยอดนักเรียนสมองอัจฉริยะ - บทที่ 310 เครซี่คาร์
จี้เฟิงจัดการและรับฟังรายงานต่างๆภายในโรงงานอย่างคร่าวๆและรับกุญแจตู้เซฟจากหัวหน้าแผนกการเงินหยางจุน จนถึงตอนนี้ก็เป็นเวลาสี่โมงเย็นแล้ว
เนื่องจากวันนี้จี้เฟิงต้องไปเข้าร่วมงานเลี้ยงต้อนรับน้องใหม่ที่มหาวิทยาลัยเป็นเพื่อนถงเล่ยแต่เขาก็ไม่สามารถทิ้งเซียวหยูซวนไว้ที่บ้านเพียงคนเดียวได้ เขาจึงขับรถตรงไปที่วิลล่าก่อนเพื่อไปรับเซียวหยูซวน
จี้เฟิงยกมือขึ้นเพื่อดูเวลาเขารู้สึกกังวลอยู่พอสมควรเพราะระยะทางจากโรงงานยากลับไปที่วิลล่าน่าจะใช้เวลาอย่างน้อยก็หนึ่งชั่วโมง แล้วกว่าจะกินข้าวเย็นเสร็จ… ไม่รู้ว่างานเลี้ยงต้อนรับน้องใหม่จะเริ่มตอนกี่โมง แต่เขาก็ไม่อยากทำให้ถงเล่ยต้องรอนาน
จี้เฟิงลังเลอยู่ครู่หนึ่งหลังจากที่มองดูสภาพคล่องบนท้องถนนแล้วเห็นว่ามีรถไม่มากนัก เขาจึงเร่งความเร็วขึ้นทันที ในเวลาเดียวกันจี้เฟิงได้ตั้งสัญญาณเตือนในรถและตั้งความเร็วสูงสุดไว้ที่100 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ถ้าหากเขาขับรถเร็วเกินความเร็วที่ตั้งไว้ สัญญาณเตือนภัยจะดังขึ้นโดยอัตโนมัติ
หลังจากเปิดสัญญาณเตือนภัยเรียบร้อยแล้วจี้เฟิงก็เริ่มเร่งความเร็วด้วยความมั่นใจ ประสิทธิภาพของ BMWx6 นั้นไม่จำเป็นต้องพูดอะไรให้มากมาย เพียงระยะทางสั้นๆไม่กี่สิบเมตรความเร็วก็เพิ่มขึ้นทันที
“ดีดี่——!!”จู่ๆเสียงสัญญาณเตือนในรถก็ดังขึ้น จี้เฟิงขมวดคิ้วพร้อมกับเท้าของเขาที่ค่อยๆผ่อนคันเร่งลง จากนั้นเสียงเตือนก็เงียบลง แต่พอเขาแตะคันเร่งเพียงเล็กน้อย สัญญาณเตือนก็ส่งเสียงอีกครั้ง
“เจ้ารถคันนี้นี่…!!”จี้เฟิงถึงกับพูดไม่ออก ทำไมเขาถึงรู้สึกว่าความเร็ว 100 กิโลเมตรต่อชั่วโมงมันถึงช้าได้ขนาดนี้
เขาอดไม่ได้ที่จะบ่นพึมพำกับตัวเอง“หรือว่าจะปิดสัญญาณเตือนไปเลยดี…” ขณะที่จี้เฟิงกำลังพึมพำกับตัวเองอยู่นั้นก็มีรถคาดิลแลคสีดำที่มาด้วยความเร็ว มันพุ่งและหายเข้าไปที่ปลายถนนจนสุดสายตาการมองปกติของจี้เฟิงหลังจากผ่านไปเพียง 10 วินาที!
“บ้าไปแล้ว!”
ดวงตาของจี้เฟิงเบิกกว้างขึ้นทันทีความเร็วของเขาในตอนนี้มันมากกว่า 90 กิโลเมตรต่อชั่วโมง แต่รถคาดิลแลคสีดำคันนั้นกลับแซงหน้าเขาไปได้ภายในพริบตา คิดดูสิว่ารถคันนั้นจะวิ่งด้วยความเร็วเท่าไหร่
“ไอ้คนไม่ทำตามกฎจราจร!”จี้เฟิงบ่นอุบอิบ และยังคงขับรถต่อไปตามกฎจราจรอย่างซื่อสัตย์ แม้ว่าตอนนี้จะมีรถไม่มากนัก แต่จี้เฟิงก็ไม่ได้ขับรถเร็วเกินกว่ากำหนด เพราะถ้าเขาขับเร็วมากเกินไปไม่แน่ว่าคงจะได้ใบสั่งมาดูเล่นอีกสักสองสามใบ
จี้เฟิงไม่มีนิสัยฟุ่มเฟือยกับสิ่งที่ไม่ควรจะเสียโดยเฉพาะหากต้องเสียไปกับค่าปรับจากใบสั่งราคาใบละ 200 หยวน มันยิ่งทำให้เขารู้สึกเจ็บปวดใจ
หลังจากคิดเรื่องนี้แล้วจี้เฟิงตั้งใจว่าจะโทรหาถงเล่ยก่อน
“จี้เฟิงฉันยังอยู่ที่ห้องสมุด นายกำลังขับรถมาใช่มั้ย” ทันทีที่ถงเล่ยรับสาย จี้เฟิงยังไม่ทันจะได้พูดอะไร เสียงอันคมชัดของถงเล่ยก็ดังขึ้น “กว่างานเลี้ยงจะเริ่มก็ประมาณทุ่มนึงนู่นแหละ ไม่ต้องรีบนะ ขับรถช้าๆ”
ใบหน้าของจี้เฟิงปรากฏรอยยิ้มขึ้นมาทันใดถงเล่ยเป็นผู้หญิงที่ฉลาดมาก เขาหัวเราะและพูดว่า “รอก่อนนะ ฉันจะไปถึงก่อนที่งานเลี้ยงจะเริ่ม!”
เฟี้ยว~~!
ขณะที่จี้เฟิงกำลังคุยโทรศัพท์อยู่นั้นรถอีกคันก็แซงหน้าจี้เฟิงไป แถมยังเป็นการขับที่แกว่งไปแกว่งมาจนทำให้จี้เฟิงต้องเหยียบเบรกอย่างกะทันหัน
คิ้วของเขาขมวดเขาหากันทันทีแต่ก็ไม่ได้พูดอะไรเขาเพียงแค่ยิ้มและคุยโทรศัพท์ต่อ “เล่ยเล่ย ฉันจะแวะไปรับเซียวหยูซวนที่บ้านก่อนนะ เราจะได้ไปที่งานเลี้ยงพร้อมกันเลย”
“เข้าใจแล้ว!”ถงเล่ยตอบพร้อมกับรอยยิ้มหวานและตอบอย่างฉะฉาน
เมื่อได้ยินเสียงของถงเล่ยความไม่สบอารมณ์ที่ถูกรถคันอื่นแซงก็หายไป เขาหัวเราะอย่างอารมณ์ดี “เล่ยเล่ย เธออยู่ที่ห้องสมุดทั้งวันเลยเหรอ”
แม้ว่าถงเล่ยจะเป็นผู้หญิงที่ใจเย็นและมีความอดทนสูงแต่จี้เฟิงก็อดรู้สึกผิดไม่ได้อยู่ดีที่ต้องปล่อยให้เธออยู่ที่ห้องสมุดคนเดียวทั้งวัน
“ก็ไม่เชิงหรอก”ถงเล่ยกล่าวอย่างอ่อนหวาน “มีถิงถิงอยู่เป็นเพื่อน ฉันไม่เหงาเลย~!”
ทันทีที่จี้เฟิงถามถงเล่ยก็รู้ว่าเขาหมายถึงอะไรและอดไม่ได้ที่จะเม้มปากหัวเราะเบาๆ
“ถิงถิง”จี้เฟิงสงสัยเล็กน้อย
“เป็นหนึ่งในคนที่อยู่หอพักห้องเดียวกันฉันเราเป็นเพื่อนกัน!” ถงเล่ยตอบอย่างอารมณ์ดี
จี้เฟิงแอบตกใจอยู่เล็กน้อยด้วยลักษณะนิสัยที่เย็นชาของถงเล่ย คนที่ทำให้เธอเรียกว่าเพื่อนได้อย่างเต็มปากเต็มคำนั่นต้องเป็นคนที่เข้ากับเธอได้เป็นอย่างดีและน่าจะมีลักษณะนิสัยที่คล้ายกัน
หลังจากวางสายแล้วจี้เฟิงก็ยังคงอดหัวเราะไม่ได้เขาสงสัยจริงๆว่า ผู้หญิงคนนั้นที่เป็นเพื่อนถงเล่ยได้จะเป็นคนยังไง คงไม่ใช่คนที่เย็นชาเหมือนถงเล่ยหรอกนะ
สำหรับเพื่อนร่วมหอพักของถงเล่ยจี้เฟิงยังไม่เคยพบหรือแนะนำให้รู้จักอย่างเป็นทางการมาก่อน
จี้เฟิงเก็บโทรศัพท์กลับเข้าไปในกระเป๋าเสื้อและขับรถไปด้วยอารมณ์ที่ดีขึ้นอย่างมาก
บรึ้ม~!
เสียงคำรามของรถดังมาจากด้านหลังสายตาของจี้เฟิงจับจ้องไปที่กระจกมองหลังทันที ด้านหลังของเขามีรถ BMWx6 คันหนึ่งกำลังขับวิ่งไล่กับรถอีกคันมาอย่างรวดเร็ว และรถที่อยู่ด้านหลัง BMWx6 ดูเหมือนจะเป็นรถปอร์เช่ คาเยนน์ (Porsche Cayenne)
รถสองคันนั้นขับไล่กันมาด้วยความเร็วจี้เฟิงเหลือบมองเพียงแวบเดียว รถ BMWและรถปอร์เช่ ก็พุ่งขึ้นมา
บรึ้ม~~!
รถทั้งสองคันขับแซงขึ้นมาจากด้านข้างอย่างรวดเร็วเสียงคำรามของเครื่องยนต์แสดงให้เห็นถึงสมรรถนะที่ดีเยี่ยมของรถ พร้อมกับเสียงที่ดังกระหึ่มของเพลงเฮฟวีเมทัล ทำให้จี้เฟิงรู้สึกแสบแก้วหูมาก
ในขณะที่รถปอร์เช่กำลังจะแซงจี้เฟิงขึ้นไปหญิงสาวที่นั่งอยู่ข้างคนขับก็มองจี้เฟิงด้วยความประหลาดใจ จี้เฟิงก็เห็นผู้หญิงคนนั้นเหมือนกัน ความรู้สึกแวบแรกที่เห็น.. ช่างน่าอัศจรรย์!
แม้ว่ามันจะเป็นเพียงแบบเดียวแต่สายตาที่ดีเยี่ยมของจี้เฟิงก็ทำให้จี้เฟิงมองเห็นได้อย่างชัดเจน หญิงสาวสวมหมวกสีชมพู ผมยาวผูกเป็นหางม้าและเธอสวมชุดผ้าเดนิมรัดรูปด้วย! เธอดูเปรี้ยวจี๊ดเลยทีเดียว!
ในชั่วพริบตารถทั้งสองคนก็ขับแซงหน้าจี้เฟิงขึ้นไป จี้เฟิงส่ายหัวเล็กน้อยอย่างช่วยไม่ได้ เด็กสาวสมัยนี้นี่ช่าง… เขาอดไม่ได้ที่จะนึกถึงหวู่หลิงเอ๋อที่เขาเคยเจอเมื่อสองเดือนก่อน เธอเป็นผู้หญิงที่บ้ามากจริงๆ
“ตอนนี้สาวๆเป็นอะไรกันไปหมด!”จี้เฟิงพึมพำและค่อยๆลดความเร็วรถลงอีกครั้งอย่างมีสติ ใครจะรู้ว่าจะมีรถที่ขับมาด้วยความเร็วเกินกำหนดมาอีกเมื่อไหร่ ถ้าเกิดขับรถอย่างเหม่อลอยก็อาจจะทำให้เกิดอุบัติเหตุได้แม้ว่าเราจะไม่ได้เป็นฝ่ายที่ขับรถเร็ว!
หลังจากมาที่เจียงโจวนานกว่าสองเดือนจี้เฟิงไม่เคยคิดที่จะแข่งขันกับคนอื่น หลักๆแล้วเป็นเพราะเขามีความรับผิดชอบอยู่ในใจ
บรื้น~!
มีเสียงคำรามของเครื่องยนต์ดังขึ้นอีกครั้งจี้เฟิงถึงกับขมวดคิ้วอีกครั้ง “สงสัยวันนี้ฉันจะก้าวเท้าผิดข้างก่อนออกมาจากบ้าน ทำไมถึงได้เจอคนบ้าเยอะจัง!”
หลังจากนั้นไม่นานก็มีรถมอเตอร์ไซค์ตำรวจขับมาด้วยความเร็วอย่างบ้าคลั่ง“เฮ้ย!”จี้เฟิงถึงกับตะลึง “ตำรวจก็เป็นบ้าไปกับเขาด้วยเหรอวะเนี่ย!”
จี้เฟิงเริ่มสับสนหรือว่าเขาขับรถหลงเข้ามาในสนามแข่งรถโดยไม่รู้ตัว
ผ่านไปครู่หนึ่งมอเตอร์ไซค์ของตำรวจก็ขับตามจี้เฟิงทันบนรถมอเตอร์ไซค์มีตำรวจจราจรหญิงสุดเท่ที่สวมหมวกกันน็อคอยู่
“หยุด!เจ้าหน้าที่ตำรวจต้องการตรวจสอบรถของคุณ!” ตำรวจหญิงตะโกน
เมื่อจี้เฟิงเห็นใบหน้าของตำรวจจราจรหญิงผ่านกระจกด้านหน้าของหมวกกันน็อคเขาก็แทบจะปล่อยพวงมาลัยด้วยความตกใจ!
“หลี่..หลี่ลู่หนาน!” จี้เฟิงตะโกนออกมาโดยไม่รู้ตัว
ตำรวจจราจรหญิงก็ผงะไปครู่หนึ่งเช่นกัน“จี้เฟิง!”
จี้เฟิงเริ่มคิดว่าเรื่องนี้ชักจะมีอะไรแปลกๆเขาตีไฟเลี้ยวและจอดที่ข้างทาง หลี่ลู่หนานที่ขี่มอเตอร์ไซค์ตามมาติดๆก็ตามมาจอดด้วยเช่นกัน
“คุณตำรวจจราจรหลี่เกิดอะไรขึ้นกันล่ะเนี่ย ผมเพิ่งรู้ว่าคุณก็ชอบแข่งรถ!” จี้เฟิงก็ไม่รู้เหมือนกันว่าเพราะอะไร เวลาที่เขาเจอหลี่ลู่หนานทีไรเขาก็อดไม่ได้ที่จะหยอกล้อเธอ แต่จริงๆแล้วสำหรับตำรวจจราจรหญิงคนนี้จี้เฟิงนั้นรู้สึกชื่นชมเธออยู่ในใจ
“เร็วเข้า!”ภายในระยะเวลาไม่ถึง 10 วินาที หลี่ลู่หนานลงจากรถมอเตอร์ไซค์และล็อกรถของเธออย่างรวดเร็ว จากนั้นก็หยิบบางอย่างและเข้าไปในรถ BMW ของจี้เฟิงด้วยความรีบร้อน “รีบไปเร็วสิ ตามรถสองคันข้างหน้านั้นไป ฉันต้องจับพวกเขาให้ได้!”
จี้เฟิงหัวเราะแห้งๆ“คุณตำรวจจราจรหลี่ คุณก็เห็นว่ารถสองคันนั้นขับรถเกินความเร็วที่กฎหมายกำหนด แล้วคุณยังจะให้ผมขับรถไล่ตามพวกเขาไปอีกเหรอ”
“ค่าปรับของนายฉันจะเป็นคนจ่ายให้เอง! รีบๆไปเถอะหน่า! มัวแต่พูดไร้สาระอยู่ได้” หลี่ลู่หนานกัดฟันและพูดอย่างรีบร้อน
จี้เฟิงมองใบหน้าที่สวยงามของหลี่ลู่หนานในตอนนี้ดูเหมือนว่าเธอจะโกรธเล็กน้อย เขาได้แต่หัวเราะอย่างช่วยไม่ได้ “โอเค ถ้าในเมื่อคุณพูดแบบนี้ ไปก็ไป!”
เขาได้แต่พึมพำกับตัวเองว่ารถสองคันข้างหน้านั้นต้องดวงซวยขนาดไหนกันนะถึงได้ไปยั่วโมโหตำรวจจราจรหญิงอารมณ์ร้อนคนนี้ได้!
เหยียบคลัตซ์เข้าเกียร์ เหยียบคันเร่ง….
“เฟี้ยว~~~!!!”ทันทีที่เท้าของจี้เฟิงปล่อยคลัตซ์ไปเหยียบคันเร่ง รถBMWx6 ของจี้เฟิงก็พุ่งตัวออกไปทันทีราวกับจรวด!
อัตราเร่งที่สามารถเร่งความเร็วได้ในระยะทางสั้นๆทำให้เกิดแรงผลักจนร่างกายของหลี่ลู่หนานถูกกดเข้ากับเบาะรถอย่างแรงเธอขยับตัวแทบไม่ได้เลยด้วยซ้ำ แรงกดนี้แน่นกว่าคาดเข็มคัดนิรภัยเสียอีก!
หลี่ลู่หนานรู้สึกประหลาดใจในทันทีเป็นเรื่องธรรมดาที่รถดีๆมักจะเร่งความเร็วได้ไว และเธอก็เคยนั่งรถดีๆมาไม่รู้กี่คันต่อกี่คันแล้ว แต่ไม่เคยมีรถคันไหนทำให้เกิดแรงผลักดันได้ขนาดนี้มาก่อน เห็นได้ชัดว่าความเร็วในการออกตัวของจี้เฟิงนั้นเร็วมากแค่ไหน!
แค่นี้ก็เพียงพอแล้วที่จะทำให้หลี่ลู่หนานประหลาดใจ
ความเร็วในการสตาร์ทรถแบบนี้แม้แต่รถสปอร์ตชั้นยอดก็ทำไม่ได้ง่ายๆถ้าคนขับไม่มีฝีมือจริงๆ แค่นั้นก็เพียงพอที่จะแสดงให้เห็นถึงเทคนิคชั้นเลิศของจี้เฟิงได้!
“เจ้าเด็กเหลือขอนี่มีทักษะการขับรถแข่งด้วยเหรอเนี่ย”หลี่ลู่หนานรู้สึกประหลาดอย่างต่อเนื่อง และในไม่ช้าเธอก็ตระหนักได้ว่าเธอนั้นยังคงประเมินจี้เฟิงต่ำเกินไป
เร็วขึ้นเร็วขึ้นและเร็วขึ้น! จี้เฟิงยังคงเร่งความเร็วขึ้นอย่างต่อเนื่องตอนนี้ภาพด้านนอกหน้าต่างรถในสายตาของหลี่ลู่หนานเริ่มเบลอ และหลี่ลู่หนานยังคงรู้สึกได้ถึงแรงผลักอย่างแรง แม้เธอต้องการที่จะเอนตัวและชะโงกหน้าไปดูที่มาตรวัดความเร็วที่อยู่ด้านหน้า แต่เธอก็ไม่สามารถขยับตัวได้เลย!
“น่ะ..นาย จี้เฟิง นายบ้าไปแล้ว! คิดว่ากำลังขับเครื่องบินอยู่รึไง!” หลี่ลู่หนานเริ่มโวยวาย “ฉันแค่บอกให้นายขับรถไล่ตามรถสองคันที่อยู่ข้างหน้า แต่ฉันไม่ได้บอกให้นายขับรถไปลงนรก!”
“ขอโทษทีผมก็แค่ทำตามคำสั่งของคุณให้ ‘รีบ’ และ ‘เร็วๆ’ แค่นั้นเอง” ขณะที่พูดจี้เฟิงก็เร่งความเร็วอีกครั้ง
ฟันของหลี่ลู่หนานขบกันด้วยความคับแค้นใจจะโดนใบสั่งกี่ใบกันล่ะเนี่ย!
“เงินเดือนของฉันเดือนนี้…”หลี่ลู่หนานรู้สึกหัวเราะไม่ออกร้องไห้ไม่ได้
ในตอนนั้นเองรถสองคันที่พวกเขาตั้งใจที่จะไล่ตามก็ปรากฏให้เห็นอยู่ด้านหน้าพวกเขาแล้ว
รอยยิ้มชั่วร้ายปรากฏขึ้นที่มุมปากของจี้เฟิงทันทีถ้าทุกคนที่รู้จักเขาดีจะรู้ว่านี่คือรอยยิ้มที่แสดงให้รู้ว่าเขากำลังตื่นเต้นมากแค่ไหน
เร่งความเร็ว!เร็วขึ้น! เร็วขึ้น~!
มือขวาของจี้เฟิงเปลี่ยนตำแหน่งระหว่างพวงมาลัยและเกียร์รถอย่างต่อเนื่องความเร็วนั้นในการเคลื่อนไหวของจี้เฟิงนั้นเร็วมาก แต่น่าเสียดายที่หลี่ลู่หนานใจจดใจจ่ออยู่กับรถสองคันข้างหน้านั่น เห็นได้ชัดว่าเธอคิดว่าถ้าเธอไม่จ้องมันเอาไว้ รถสองคันนั้นอาจจะหายไปจากสายตาเธออีก!
เมื่อมองจากระยะไกลรถBMWx6 ที่ขับโดยจี้เฟิงเปรียบเสมือนสายฟ้าสีดำที่พุ่งเข้าหารถสองคันที่อยู่ข้างหน้าเขาอย่างรวดเร็ว และในเวลาเพียงไม่กี่วินาที รถทั้งสามคนก็ขับไปพร้อมๆกัน อย่างไรก็ตามเห็นได้ชัดว่าคนที่ขับรถสองคันข้างหน้านั้นฝีมือการขับรถด้อยกว่าจี้เฟิงมาก รถBMWx6 ของจี้เฟิงส่ายไปมาเล็กน้อยสองสามครั้ง มันทำให้รถสองคันนั้นต้องเบรกอย่างรวดเร็วจนทำให้รถลื่นไถลไปบนถนนไกลกว่าสิบเมตรก่อนที่รถทั้งสองคันนั้นจะหยุดลง
เนื่องจากวันนี้จี้เฟิงต้องไปเข้าร่วมงานเลี้ยงต้อนรับน้องใหม่ที่มหาวิทยาลัยเป็นเพื่อนถงเล่ยแต่เขาก็ไม่สามารถทิ้งเซียวหยูซวนไว้ที่บ้านเพียงคนเดียวได้ เขาจึงขับรถตรงไปที่วิลล่าก่อนเพื่อไปรับเซียวหยูซวน
จี้เฟิงยกมือขึ้นเพื่อดูเวลาเขารู้สึกกังวลอยู่พอสมควรเพราะระยะทางจากโรงงานยากลับไปที่วิลล่าน่าจะใช้เวลาอย่างน้อยก็หนึ่งชั่วโมง แล้วกว่าจะกินข้าวเย็นเสร็จ… ไม่รู้ว่างานเลี้ยงต้อนรับน้องใหม่จะเริ่มตอนกี่โมง แต่เขาก็ไม่อยากทำให้ถงเล่ยต้องรอนาน
จี้เฟิงลังเลอยู่ครู่หนึ่งหลังจากที่มองดูสภาพคล่องบนท้องถนนแล้วเห็นว่ามีรถไม่มากนัก เขาจึงเร่งความเร็วขึ้นทันที ในเวลาเดียวกันจี้เฟิงได้ตั้งสัญญาณเตือนในรถและตั้งความเร็วสูงสุดไว้ที่100 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ถ้าหากเขาขับรถเร็วเกินความเร็วที่ตั้งไว้ สัญญาณเตือนภัยจะดังขึ้นโดยอัตโนมัติ
หลังจากเปิดสัญญาณเตือนภัยเรียบร้อยแล้วจี้เฟิงก็เริ่มเร่งความเร็วด้วยความมั่นใจ ประสิทธิภาพของ BMWx6 นั้นไม่จำเป็นต้องพูดอะไรให้มากมาย เพียงระยะทางสั้นๆไม่กี่สิบเมตรความเร็วก็เพิ่มขึ้นทันที
“ดีดี่——!!”จู่ๆเสียงสัญญาณเตือนในรถก็ดังขึ้น จี้เฟิงขมวดคิ้วพร้อมกับเท้าของเขาที่ค่อยๆผ่อนคันเร่งลง จากนั้นเสียงเตือนก็เงียบลง แต่พอเขาแตะคันเร่งเพียงเล็กน้อย สัญญาณเตือนก็ส่งเสียงอีกครั้ง
“เจ้ารถคันนี้นี่…!!”จี้เฟิงถึงกับพูดไม่ออก ทำไมเขาถึงรู้สึกว่าความเร็ว 100 กิโลเมตรต่อชั่วโมงมันถึงช้าได้ขนาดนี้
เขาอดไม่ได้ที่จะบ่นพึมพำกับตัวเอง“หรือว่าจะปิดสัญญาณเตือนไปเลยดี…” ขณะที่จี้เฟิงกำลังพึมพำกับตัวเองอยู่นั้นก็มีรถคาดิลแลคสีดำที่มาด้วยความเร็ว มันพุ่งและหายเข้าไปที่ปลายถนนจนสุดสายตาการมองปกติของจี้เฟิงหลังจากผ่านไปเพียง 10 วินาที!
“บ้าไปแล้ว!”
ดวงตาของจี้เฟิงเบิกกว้างขึ้นทันทีความเร็วของเขาในตอนนี้มันมากกว่า 90 กิโลเมตรต่อชั่วโมง แต่รถคาดิลแลคสีดำคันนั้นกลับแซงหน้าเขาไปได้ภายในพริบตา คิดดูสิว่ารถคันนั้นจะวิ่งด้วยความเร็วเท่าไหร่
“ไอ้คนไม่ทำตามกฎจราจร!”จี้เฟิงบ่นอุบอิบ และยังคงขับรถต่อไปตามกฎจราจรอย่างซื่อสัตย์ แม้ว่าตอนนี้จะมีรถไม่มากนัก แต่จี้เฟิงก็ไม่ได้ขับรถเร็วเกินกว่ากำหนด เพราะถ้าเขาขับเร็วมากเกินไปไม่แน่ว่าคงจะได้ใบสั่งมาดูเล่นอีกสักสองสามใบ
จี้เฟิงไม่มีนิสัยฟุ่มเฟือยกับสิ่งที่ไม่ควรจะเสียโดยเฉพาะหากต้องเสียไปกับค่าปรับจากใบสั่งราคาใบละ 200 หยวน มันยิ่งทำให้เขารู้สึกเจ็บปวดใจ
หลังจากคิดเรื่องนี้แล้วจี้เฟิงตั้งใจว่าจะโทรหาถงเล่ยก่อน
“จี้เฟิงฉันยังอยู่ที่ห้องสมุด นายกำลังขับรถมาใช่มั้ย” ทันทีที่ถงเล่ยรับสาย จี้เฟิงยังไม่ทันจะได้พูดอะไร เสียงอันคมชัดของถงเล่ยก็ดังขึ้น “กว่างานเลี้ยงจะเริ่มก็ประมาณทุ่มนึงนู่นแหละ ไม่ต้องรีบนะ ขับรถช้าๆ”
ใบหน้าของจี้เฟิงปรากฏรอยยิ้มขึ้นมาทันใดถงเล่ยเป็นผู้หญิงที่ฉลาดมาก เขาหัวเราะและพูดว่า “รอก่อนนะ ฉันจะไปถึงก่อนที่งานเลี้ยงจะเริ่ม!”
เฟี้ยว~~!
ขณะที่จี้เฟิงกำลังคุยโทรศัพท์อยู่นั้นรถอีกคันก็แซงหน้าจี้เฟิงไป แถมยังเป็นการขับที่แกว่งไปแกว่งมาจนทำให้จี้เฟิงต้องเหยียบเบรกอย่างกะทันหัน
คิ้วของเขาขมวดเขาหากันทันทีแต่ก็ไม่ได้พูดอะไรเขาเพียงแค่ยิ้มและคุยโทรศัพท์ต่อ “เล่ยเล่ย ฉันจะแวะไปรับเซียวหยูซวนที่บ้านก่อนนะ เราจะได้ไปที่งานเลี้ยงพร้อมกันเลย”
“เข้าใจแล้ว!”ถงเล่ยตอบพร้อมกับรอยยิ้มหวานและตอบอย่างฉะฉาน
เมื่อได้ยินเสียงของถงเล่ยความไม่สบอารมณ์ที่ถูกรถคันอื่นแซงก็หายไป เขาหัวเราะอย่างอารมณ์ดี “เล่ยเล่ย เธออยู่ที่ห้องสมุดทั้งวันเลยเหรอ”
แม้ว่าถงเล่ยจะเป็นผู้หญิงที่ใจเย็นและมีความอดทนสูงแต่จี้เฟิงก็อดรู้สึกผิดไม่ได้อยู่ดีที่ต้องปล่อยให้เธออยู่ที่ห้องสมุดคนเดียวทั้งวัน
“ก็ไม่เชิงหรอก”ถงเล่ยกล่าวอย่างอ่อนหวาน “มีถิงถิงอยู่เป็นเพื่อน ฉันไม่เหงาเลย~!”
ทันทีที่จี้เฟิงถามถงเล่ยก็รู้ว่าเขาหมายถึงอะไรและอดไม่ได้ที่จะเม้มปากหัวเราะเบาๆ
“ถิงถิง”จี้เฟิงสงสัยเล็กน้อย
“เป็นหนึ่งในคนที่อยู่หอพักห้องเดียวกันฉันเราเป็นเพื่อนกัน!” ถงเล่ยตอบอย่างอารมณ์ดี
จี้เฟิงแอบตกใจอยู่เล็กน้อยด้วยลักษณะนิสัยที่เย็นชาของถงเล่ย คนที่ทำให้เธอเรียกว่าเพื่อนได้อย่างเต็มปากเต็มคำนั่นต้องเป็นคนที่เข้ากับเธอได้เป็นอย่างดีและน่าจะมีลักษณะนิสัยที่คล้ายกัน
หลังจากวางสายแล้วจี้เฟิงก็ยังคงอดหัวเราะไม่ได้เขาสงสัยจริงๆว่า ผู้หญิงคนนั้นที่เป็นเพื่อนถงเล่ยได้จะเป็นคนยังไง คงไม่ใช่คนที่เย็นชาเหมือนถงเล่ยหรอกนะ
สำหรับเพื่อนร่วมหอพักของถงเล่ยจี้เฟิงยังไม่เคยพบหรือแนะนำให้รู้จักอย่างเป็นทางการมาก่อน
จี้เฟิงเก็บโทรศัพท์กลับเข้าไปในกระเป๋าเสื้อและขับรถไปด้วยอารมณ์ที่ดีขึ้นอย่างมาก
บรึ้ม~!
เสียงคำรามของรถดังมาจากด้านหลังสายตาของจี้เฟิงจับจ้องไปที่กระจกมองหลังทันที ด้านหลังของเขามีรถ BMWx6 คันหนึ่งกำลังขับวิ่งไล่กับรถอีกคันมาอย่างรวดเร็ว และรถที่อยู่ด้านหลัง BMWx6 ดูเหมือนจะเป็นรถปอร์เช่ คาเยนน์ (Porsche Cayenne)
รถสองคันนั้นขับไล่กันมาด้วยความเร็วจี้เฟิงเหลือบมองเพียงแวบเดียว รถ BMWและรถปอร์เช่ ก็พุ่งขึ้นมา
บรึ้ม~~!
รถทั้งสองคันขับแซงขึ้นมาจากด้านข้างอย่างรวดเร็วเสียงคำรามของเครื่องยนต์แสดงให้เห็นถึงสมรรถนะที่ดีเยี่ยมของรถ พร้อมกับเสียงที่ดังกระหึ่มของเพลงเฮฟวีเมทัล ทำให้จี้เฟิงรู้สึกแสบแก้วหูมาก
ในขณะที่รถปอร์เช่กำลังจะแซงจี้เฟิงขึ้นไปหญิงสาวที่นั่งอยู่ข้างคนขับก็มองจี้เฟิงด้วยความประหลาดใจ จี้เฟิงก็เห็นผู้หญิงคนนั้นเหมือนกัน ความรู้สึกแวบแรกที่เห็น.. ช่างน่าอัศจรรย์!
แม้ว่ามันจะเป็นเพียงแบบเดียวแต่สายตาที่ดีเยี่ยมของจี้เฟิงก็ทำให้จี้เฟิงมองเห็นได้อย่างชัดเจน หญิงสาวสวมหมวกสีชมพู ผมยาวผูกเป็นหางม้าและเธอสวมชุดผ้าเดนิมรัดรูปด้วย! เธอดูเปรี้ยวจี๊ดเลยทีเดียว!
ในชั่วพริบตารถทั้งสองคนก็ขับแซงหน้าจี้เฟิงขึ้นไป จี้เฟิงส่ายหัวเล็กน้อยอย่างช่วยไม่ได้ เด็กสาวสมัยนี้นี่ช่าง… เขาอดไม่ได้ที่จะนึกถึงหวู่หลิงเอ๋อที่เขาเคยเจอเมื่อสองเดือนก่อน เธอเป็นผู้หญิงที่บ้ามากจริงๆ
“ตอนนี้สาวๆเป็นอะไรกันไปหมด!”จี้เฟิงพึมพำและค่อยๆลดความเร็วรถลงอีกครั้งอย่างมีสติ ใครจะรู้ว่าจะมีรถที่ขับมาด้วยความเร็วเกินกำหนดมาอีกเมื่อไหร่ ถ้าเกิดขับรถอย่างเหม่อลอยก็อาจจะทำให้เกิดอุบัติเหตุได้แม้ว่าเราจะไม่ได้เป็นฝ่ายที่ขับรถเร็ว!
หลังจากมาที่เจียงโจวนานกว่าสองเดือนจี้เฟิงไม่เคยคิดที่จะแข่งขันกับคนอื่น หลักๆแล้วเป็นเพราะเขามีความรับผิดชอบอยู่ในใจ
บรื้น~!
มีเสียงคำรามของเครื่องยนต์ดังขึ้นอีกครั้งจี้เฟิงถึงกับขมวดคิ้วอีกครั้ง “สงสัยวันนี้ฉันจะก้าวเท้าผิดข้างก่อนออกมาจากบ้าน ทำไมถึงได้เจอคนบ้าเยอะจัง!”
หลังจากนั้นไม่นานก็มีรถมอเตอร์ไซค์ตำรวจขับมาด้วยความเร็วอย่างบ้าคลั่ง“เฮ้ย!”จี้เฟิงถึงกับตะลึง “ตำรวจก็เป็นบ้าไปกับเขาด้วยเหรอวะเนี่ย!”
จี้เฟิงเริ่มสับสนหรือว่าเขาขับรถหลงเข้ามาในสนามแข่งรถโดยไม่รู้ตัว
ผ่านไปครู่หนึ่งมอเตอร์ไซค์ของตำรวจก็ขับตามจี้เฟิงทันบนรถมอเตอร์ไซค์มีตำรวจจราจรหญิงสุดเท่ที่สวมหมวกกันน็อคอยู่
“หยุด!เจ้าหน้าที่ตำรวจต้องการตรวจสอบรถของคุณ!” ตำรวจหญิงตะโกน
เมื่อจี้เฟิงเห็นใบหน้าของตำรวจจราจรหญิงผ่านกระจกด้านหน้าของหมวกกันน็อคเขาก็แทบจะปล่อยพวงมาลัยด้วยความตกใจ!
“หลี่..หลี่ลู่หนาน!” จี้เฟิงตะโกนออกมาโดยไม่รู้ตัว
ตำรวจจราจรหญิงก็ผงะไปครู่หนึ่งเช่นกัน“จี้เฟิง!”
จี้เฟิงเริ่มคิดว่าเรื่องนี้ชักจะมีอะไรแปลกๆเขาตีไฟเลี้ยวและจอดที่ข้างทาง หลี่ลู่หนานที่ขี่มอเตอร์ไซค์ตามมาติดๆก็ตามมาจอดด้วยเช่นกัน
“คุณตำรวจจราจรหลี่เกิดอะไรขึ้นกันล่ะเนี่ย ผมเพิ่งรู้ว่าคุณก็ชอบแข่งรถ!” จี้เฟิงก็ไม่รู้เหมือนกันว่าเพราะอะไร เวลาที่เขาเจอหลี่ลู่หนานทีไรเขาก็อดไม่ได้ที่จะหยอกล้อเธอ แต่จริงๆแล้วสำหรับตำรวจจราจรหญิงคนนี้จี้เฟิงนั้นรู้สึกชื่นชมเธออยู่ในใจ
“เร็วเข้า!”ภายในระยะเวลาไม่ถึง 10 วินาที หลี่ลู่หนานลงจากรถมอเตอร์ไซค์และล็อกรถของเธออย่างรวดเร็ว จากนั้นก็หยิบบางอย่างและเข้าไปในรถ BMW ของจี้เฟิงด้วยความรีบร้อน “รีบไปเร็วสิ ตามรถสองคันข้างหน้านั้นไป ฉันต้องจับพวกเขาให้ได้!”
จี้เฟิงหัวเราะแห้งๆ“คุณตำรวจจราจรหลี่ คุณก็เห็นว่ารถสองคันนั้นขับรถเกินความเร็วที่กฎหมายกำหนด แล้วคุณยังจะให้ผมขับรถไล่ตามพวกเขาไปอีกเหรอ”
“ค่าปรับของนายฉันจะเป็นคนจ่ายให้เอง! รีบๆไปเถอะหน่า! มัวแต่พูดไร้สาระอยู่ได้” หลี่ลู่หนานกัดฟันและพูดอย่างรีบร้อน
จี้เฟิงมองใบหน้าที่สวยงามของหลี่ลู่หนานในตอนนี้ดูเหมือนว่าเธอจะโกรธเล็กน้อย เขาได้แต่หัวเราะอย่างช่วยไม่ได้ “โอเค ถ้าในเมื่อคุณพูดแบบนี้ ไปก็ไป!”
เขาได้แต่พึมพำกับตัวเองว่ารถสองคันข้างหน้านั้นต้องดวงซวยขนาดไหนกันนะถึงได้ไปยั่วโมโหตำรวจจราจรหญิงอารมณ์ร้อนคนนี้ได้!
เหยียบคลัตซ์เข้าเกียร์ เหยียบคันเร่ง….
“เฟี้ยว~~~!!!”ทันทีที่เท้าของจี้เฟิงปล่อยคลัตซ์ไปเหยียบคันเร่ง รถBMWx6 ของจี้เฟิงก็พุ่งตัวออกไปทันทีราวกับจรวด!
อัตราเร่งที่สามารถเร่งความเร็วได้ในระยะทางสั้นๆทำให้เกิดแรงผลักจนร่างกายของหลี่ลู่หนานถูกกดเข้ากับเบาะรถอย่างแรงเธอขยับตัวแทบไม่ได้เลยด้วยซ้ำ แรงกดนี้แน่นกว่าคาดเข็มคัดนิรภัยเสียอีก!
หลี่ลู่หนานรู้สึกประหลาดใจในทันทีเป็นเรื่องธรรมดาที่รถดีๆมักจะเร่งความเร็วได้ไว และเธอก็เคยนั่งรถดีๆมาไม่รู้กี่คันต่อกี่คันแล้ว แต่ไม่เคยมีรถคันไหนทำให้เกิดแรงผลักดันได้ขนาดนี้มาก่อน เห็นได้ชัดว่าความเร็วในการออกตัวของจี้เฟิงนั้นเร็วมากแค่ไหน!
แค่นี้ก็เพียงพอแล้วที่จะทำให้หลี่ลู่หนานประหลาดใจ
ความเร็วในการสตาร์ทรถแบบนี้แม้แต่รถสปอร์ตชั้นยอดก็ทำไม่ได้ง่ายๆถ้าคนขับไม่มีฝีมือจริงๆ แค่นั้นก็เพียงพอที่จะแสดงให้เห็นถึงเทคนิคชั้นเลิศของจี้เฟิงได้!
“เจ้าเด็กเหลือขอนี่มีทักษะการขับรถแข่งด้วยเหรอเนี่ย”หลี่ลู่หนานรู้สึกประหลาดอย่างต่อเนื่อง และในไม่ช้าเธอก็ตระหนักได้ว่าเธอนั้นยังคงประเมินจี้เฟิงต่ำเกินไป
เร็วขึ้นเร็วขึ้นและเร็วขึ้น! จี้เฟิงยังคงเร่งความเร็วขึ้นอย่างต่อเนื่องตอนนี้ภาพด้านนอกหน้าต่างรถในสายตาของหลี่ลู่หนานเริ่มเบลอ และหลี่ลู่หนานยังคงรู้สึกได้ถึงแรงผลักอย่างแรง แม้เธอต้องการที่จะเอนตัวและชะโงกหน้าไปดูที่มาตรวัดความเร็วที่อยู่ด้านหน้า แต่เธอก็ไม่สามารถขยับตัวได้เลย!
“น่ะ..นาย จี้เฟิง นายบ้าไปแล้ว! คิดว่ากำลังขับเครื่องบินอยู่รึไง!” หลี่ลู่หนานเริ่มโวยวาย “ฉันแค่บอกให้นายขับรถไล่ตามรถสองคันที่อยู่ข้างหน้า แต่ฉันไม่ได้บอกให้นายขับรถไปลงนรก!”
“ขอโทษทีผมก็แค่ทำตามคำสั่งของคุณให้ ‘รีบ’ และ ‘เร็วๆ’ แค่นั้นเอง” ขณะที่พูดจี้เฟิงก็เร่งความเร็วอีกครั้ง
ฟันของหลี่ลู่หนานขบกันด้วยความคับแค้นใจจะโดนใบสั่งกี่ใบกันล่ะเนี่ย!
“เงินเดือนของฉันเดือนนี้…”หลี่ลู่หนานรู้สึกหัวเราะไม่ออกร้องไห้ไม่ได้
ในตอนนั้นเองรถสองคันที่พวกเขาตั้งใจที่จะไล่ตามก็ปรากฏให้เห็นอยู่ด้านหน้าพวกเขาแล้ว
รอยยิ้มชั่วร้ายปรากฏขึ้นที่มุมปากของจี้เฟิงทันทีถ้าทุกคนที่รู้จักเขาดีจะรู้ว่านี่คือรอยยิ้มที่แสดงให้รู้ว่าเขากำลังตื่นเต้นมากแค่ไหน
เร่งความเร็ว!เร็วขึ้น! เร็วขึ้น~!
มือขวาของจี้เฟิงเปลี่ยนตำแหน่งระหว่างพวงมาลัยและเกียร์รถอย่างต่อเนื่องความเร็วนั้นในการเคลื่อนไหวของจี้เฟิงนั้นเร็วมาก แต่น่าเสียดายที่หลี่ลู่หนานใจจดใจจ่ออยู่กับรถสองคันข้างหน้านั่น เห็นได้ชัดว่าเธอคิดว่าถ้าเธอไม่จ้องมันเอาไว้ รถสองคันนั้นอาจจะหายไปจากสายตาเธออีก!
เมื่อมองจากระยะไกลรถBMWx6 ที่ขับโดยจี้เฟิงเปรียบเสมือนสายฟ้าสีดำที่พุ่งเข้าหารถสองคันที่อยู่ข้างหน้าเขาอย่างรวดเร็ว และในเวลาเพียงไม่กี่วินาที รถทั้งสามคนก็ขับไปพร้อมๆกัน อย่างไรก็ตามเห็นได้ชัดว่าคนที่ขับรถสองคันข้างหน้านั้นฝีมือการขับรถด้อยกว่าจี้เฟิงมาก รถBMWx6 ของจี้เฟิงส่ายไปมาเล็กน้อยสองสามครั้ง มันทำให้รถสองคันนั้นต้องเบรกอย่างรวดเร็วจนทำให้รถลื่นไถลไปบนถนนไกลกว่าสิบเมตรก่อนที่รถทั้งสองคันนั้นจะหยุดลง