The Winner is king ผู้ชนะเลศคือราชา - ตอนที่ 113
บทที่ 113 เฉินตงผู้แปลกประหลาด
เห็นอยู่ชัดๆ ว่าเป็นเวลาบ่ายสามโมง
แต่ท้องฟ้ากลับมืดครึ้มอย่างมาก
เมฆดำก้อนใหญ่ลอยปกคลุมอยู่ทั่วท้องฟ้าของเมือง
เดิมทีสามารถมองเห็นทัศนียภาพของเขาเทียนซานอันสวยงามได้ แต่ด้วยสภาพอากาศเช่นนี้ ทำให้ยิ่งดูมืดครึ้ม
ลมและฝนกระหน่ำลงมา
เอี๊ยด !
รถโรลส์-รอยซ์คันสีดำจอดอยู่ด้านนอกเขตวิลล่าเขาเทียนซาน
ภายใต้บรรยากาศอึมครึม รถโรลส์-รอยซ์จอดขวางประตูใหญ่ของเขตวิลล่าเอาไว้ ดูไปแล้วเหมือนกับสัตว์ร้ายที่นอนนิ่งอยู่
เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยที่ประจำอยู่ตรงประตูทางเข้าต่างขมวดคิ้วด้วยความสงสัย
แต่กลับไม่มีใครกล้าเดินเข้าไป
ในฐานะเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย พวกเขามีสิทธิ์ที่จะไม่ให้ความสนใจกับหวางเห้าซึ่งขับรถอาวดี้ เอ4ได้
แต่ไม่กล้าที่จะละเลยรถโรลส์-รอยซ์
ใครๆ ก็รู้ดีว่า เจ้าของที่นั่งอยู่ในรถที่มีมูลค่าเช่นนี้ คงจะต้องเป็นคนที่มีฐานะมั่งคั่งอย่างแน่นอน !
หากประมาทเพียงเล็กน้อย เขตวิลล่าเขาเทียนซานอาจจะไม่ได้รับความเดือดร้อนอะไร
แต่พวกเขาซึ่งทำหน้าที่เป็นเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย จะต้องได้รับความเดือดร้อนอย่างแน่นอน
ภายในรถ เฉินตงเงยหน้าขึ้นมองท้องฟ้า
เขาแสยะยิ้มออกมา : “เมฆดำลอยปกคลอมอยู่ ลมและฝนเทกระหน่ำลงมา ช่างเป็นฉากที่ดูเหมาะสมจริงๆ”
คุนหลุนสีหน้าเคร่งขรึม กำลังจ้องมองไปที่ประตูใหญ่ของเขตวิลล่าเขาเทียนซานอยู่ในขณะนี้ แววตาดูเกรี้ยวกราดเหมือนกับสัตว์ร้ายที่กำลังจ้องตะครุบเหยื่อ
ในฐานะที่เป็นทหารรับจ้าง สนามรบได้เปลี่ยนความกระหายเลือดในการฆ่าคนของเขาให้กลายเป็นเรื่องธรรมดาไปเสียแล้ว
ถ้าไม่ทำก็คือไม่ทำ แต่ถ้าคิดจะทำแล้วก็ต้องทำอย่างเต็มที่ที่สุด !
“คุณชาย ถ้าหากจะต้องฆ่าจริงๆ คุณไม่ต้องแสดงตัว คุนหลุนจะเป็นคนลงมือด้วยตัวเอง”
จู่ๆ คุนหลุนก็พูดขึ้นมาอย่างเคร่งขรึมว่า : “หากได้รับพรจากนายท่านเช่นนี้ ไม่แน่ว่าอาจจะดึงคุณชายออกมาจากเรื่องนี้ได้ อย่างมากก็แค่เสียสละชีวิตที่ไร้ค่าของคุนหลุนเพียงแค่ชีวิตเดียว”
“พูดอะไรโง่ๆ ?” เฉินตงเลิกคิ้ว
“ชีวิตนี้ของคุนหลุน ในตอนนั้นนายท่านอาศัยความเด็ดเดี่ยวเข้าไปช่วยออกมาจากสนามรบ ผมจึงนับถือเพียงแค่นายท่าน ไม่ได้นับถือตระกูลเฉิน”
เสียงของคุนหลุนฟังดูเคร่งขรึมและเด็ดเดี่ยว ราวกับว่ามีการตัดสินใจอยู่ภายในใจมานานแล้ว : “คุณเป็นลูกชายของนายท่าน และเป็นผู้สืบทอดมรดกของตระกูลเฉินในอนาคต คุนหลุนยินดีที่จะสละชีวิตให้”
เผียะ !
เฉินตงใช้ฝ่ามือตบเข้าไปที่หัวของคุนหลุน
“ฉันไม่ชอบเห็นพี่น้องไปตายแทนหรอกนะ”
“แต่ว่า……” คุนหลุนรู้สึกซาบซึ้งใจ คิดที่จะพูดแย้งขึ้นมา
เผียะ !
“หุบปาก !”
เฉินตงใช้ฝ่ามือตบเข้าไปที่หัวของเขาอีกครั้ง : “คนที่ล่วงเกินแม่ของฉัน ฉันจะเป็นคนแก้แค้นด้วยตัวเอง ไม่จำเป็นจะต้องให้นายไปตายแทน !”
น้ำเสียงที่ดังก้องกังวาน ยากที่จะโต้แย้งได้
ตอนนี้เอง มีแสงจากรถยนต์สาดส่องมาจากที่ไกลๆ
มีรถบีเอ็มดับเบิลยูคันหนึ่งวิ่งตรงเข้ามาจอดอยู่ข้างๆรถโรลส์-รอยซ์
กระจกรถเลื่อนลง ใบหน้าที่มีรอยแผลเป็นของกูหลังยื่นออกมาจากด้านใน ปรากฏให้เห็นถึงความโหดเหี้ยมเล็กน้อย
“คุณเฉิน……ผมสามารถลงมือโดยลำพังได้”
ถึงจะเป็นคำพูดที่ฟังดูไม่เหมือนกัน แต่กลับเป็นความคิดแบบเดียวกันกับคุนหลุน
ในฐานะผู้ติดตามของเฉินตง บางครั้งการออกรับแทนก็ถือเป็นเรื่องจำเป็น
ถึงแม้จะต้องแลกด้วยชีวิตก็ไม่เสียดาย
ตอนที่กูหลังตัดสินใจแล้วว่าจะคอยติดตามเฉินตง ในใจก็มีความคิดเช่นนี้เรียบร้อยแล้ว
กูหลังสูดหายใจเข้าเต็มปอด แล้วหันไปมองเฉินตงด้วยแววตาที่แน่วแน่ : “ในมือของผมมีอยู่หลายชีวิต การจะฆ่าเขาคงไม่ใช่เรื่องยาก”
อย่างไรก็ตาม
เฉินตงที่นั่งอยู่ในรถโรลส์-รอยซ์ กลับหันไปมองกูหลังอย่างไม่แยแส
จากนั้นจึงหันกลับไปมองด้านหน้า แล้วพูดออกมาอย่างสงบว่า : ออกรถ !”
รถโรลส์-รอยซ์สตาร์ทเครื่อง แล้วขับตรงเข้าไปในเขตวิลล่า
กูหลังขมวดคิ้ว แต่ก็ยังคงขับรถตามไปติดๆ
เปรี้ยง !
เมฆดำลอยสะสมอยู่บนท้องฟ้ากว่าครึ่งวัน มีสายฟ้าฟาดผ่ากลางท้องฟ้ายามค่ำคืนลงมา
ลมเริ่มพัดแรง
ใบไม้กำลังปลิวไปมาอยู่เต็มพื้นด้านหน้าเขตวิลล่า
ฟิ้ว ฟิ้ว……
ฝนห่าใหญ่เทลงมา
ด้านหน้าวิลล่า
รถโรลส์-รอยซ์และรถบีเอ็มดับเบิลยูเคลื่อนเข้ามาจอดพร้อมกัน
เฉินตงลงจากรถ ปล่อยให้ทั้งตัวเปียกปอนไปด้วยฝน แล้วเดินตรงเข้าไปยังด้านหน้าประตูใหญ่ของวิลล่าด้วยความเย็นชา
ปัง !
เขาใช้เท้าข้างหนึ่งถีบประตูใหญ่ให้เปิดออก
แล้วเฉินตงก็เดินนำเข้าไปในวิลล่า
คุนหลุนและกูหลังรีบเดินตามไปด้วยสีหน้าเคร่งขรึม
ปัง !
เฉินตงออกแรงใช้เท้าถีบประตูวิลล่าต่อโดยไม่คิดที่จะหยุดพัก
เปรี้ยง !
แสงของฟ้าผ่าที่ปรากฏขึ้นด้านหลัง
ทำให้ภายในวิลล่าสว่างวาบขึ้นมา
“เฉินเทียนเซิง ออกมา !” เฉินตงตะโกนด้วยความโมโห
ทั่วทั้งวิลล่าเงียบสงบ
ผ่านไปสักครู่ จึงมีเสียงที่สงบดังขึ้นมาจากห้องรับแขก
“มีธุระอะไรหรือ ?”
พรึบ !
แสงไฟส่องสว่างทั่วห้องรับแขก
เฉินเทียนเซิงนั่งอยู่บนโซฟาด้วยท่าทีเกียจคร้าน เขาหันมองฝนฟ้าฟ้าคะนองนองด้านนอก แล้วส่ายหัวด้วยความเบื่อหน่าย : “อากาศแบบนี้ สมควรตายจริงๆ !”
“แกนั่นแหละที่สมควรตาย !”
“คุณชาย !”
“คุณเฉิน !”
คุนหลุนและกูหลังหน้าถอดสีพร้อมกันทันที
คุนหลุนยิ่งใจเต้นรัว
สมควรตาย !
ทำไมจู่ๆ คุณชายถึงได้ลงมือ ?
เขาทำเช่นนี้ไม่เท่ากับว่าตั้งใจทำผิดกฎของตระกูลหรอกหรือ ?
แต่ถ้าจะให้เฉินตงจัดการกับเฉินเทียนเซิงตามลำพัง เฉินตงเองก็ไม่มีทางเป็นคู่ต่อสู้ของเขาได้ !
ขณะที่ทุกอย่างเกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว ในสมองของคุนหลุนราวกับมีเสียงของท่านหลงดังขึ้นอยู่ตลอดเวลา
“กูหลัง โจมตีพร้อมกัน !”
คุนหลุนและกูหลังตรงเข้าโจมตีเฉินเทียนเซิงแทบจะพร้อมกัน
“เหอะๆ สามรุมหนึ่ง ไร้ยางอายขนาดนี้เชียวหรือ ?”
เฉินเทียนเซิงที่กำลังเผชิญหน้ากับคนทั้งสามคนอย่างเฉินตง กูหลัง และคุนหลุน กลับขยับแว่นที่อยู่บนดั้งจมูกด้วยท่าทีเรียบเฉย มุมปากเผยรอยยิ้มที่มีนัยยะออกมา
ตุบ !
ยังไม่ทันจะพูดจบ เฉินตงก็พุ่งตรงเข้าไปด้านหน้าแล้วปล่อยหมัดเข้าใส่เฉินเทียนเซิง
เฉินเทียนเซิงตัวลอยขึ้นในทันที แต่กลับยืนนิ่งไม่ป้องกันตัว
ตุบ !
ถูกชกเข้าไปอีกหมัด สีหน้าของเฉินเทียนเซิงเริ่มซีดเผือดทันที จากนั้นจึงเริ่มเปลี่ยนเป็นสีแดง ลูกกระเดือกเริ่มมีการเคลื่อนไหว
หลบได้ แต่ไม่ยอมหลบ ถึงขนาดไม่แม้แต่จะป้องกันตัว
เหตุการณ์แปลกประหลาดเช่นนี้ ในสายตาของคนปกติอาจเป็นเรื่องที่ยากจะเข้าใจได้
แต่สำหรับคุนหลุนที่มองทุกสิ่งออกได้อย่างชัดเจน ในหัวของเขากลับมีเสียงหนึ่งดังขึ้นมา——จบเห่แล้ว !
“เหอะๆ……หมัดแรกเป็นฝีมือของแก แกทำผิดกฎของตระกูลแล้ว” เฉินเทียนเซิงพยายามสกัดกั้นไม่ให้กระอักเลือดออกมา แล้วหันไปหัวเราะด้วยน้ำเสียงอันเกรี้ยวกราด
การแก้ไขปัญหาของเขาไม่มีทางเหมือนกับเฉินเทียนหย่างผู้เป็นน้องชายของเขาอย่างแน่นอน ที่รู้จักเพียงแค่การฆ่าโดยไม่พูดพร่ำทำเพลง
ถึงแม้เขาจะรู้ดีว่า ในตอนนั้นเฉินเทียนหย่างน้องชายของเขาเดินทางมาเมืองนี้ ก็เพื่อจะยอมทำผิดกฎตระกูล จัดการฆ่าเฉินตง เพื่อสนับสนุนเขาซึ่งเป็นพี่ชาย
แต่สำหรับเขาแล้ว การกระทำเช่นนี้ของน้องชาย ก็ยังคงไม่ต่างกับพวกไร้สมองอยู่ดี
เขาไม่รู้สึกซาบซึ้งเท่าไหร่นัก หากจะมีก็คงเป็นความรู้สึกสมเพชในความโง่เขลาของเฉินเทียนหย่างก็เท่านั้น
อย่างไรก็ตาม
จู่ๆ ก็มีรอยยิ้มเผยขึ้นที่มุมปากของเฉินตง แววตาที่เต็มไปด้วยเจตนาฆ่าเป็นประกาย : “ฉันรู้ดีว่าหมัดแรกแกต้องไม่หลบแน่นอน”
อะไร ? !
เฉินเทียนเซิงหรี่ตาของเขา จากนั้นเส้นเลือดที่หางตาของเขาก็กระตุก
ยังไม่ทันที่เขาจะมีปฏิกิริยาตอบสนอง เฉินตงก็หันหลังกลับทันที จากนั้นจึงใช้แส้ฟาดเข้าไปที่หัวของเขาพร้อมเสียงที่แหลมเสียดทางเข้าไปในหู
หลังจากทนต่อหมัดแรก เขาก็ได้ขึ้นชื่อว่าเป็นผู้ที่ละเมิดกฎของตระกูลแล้ว
เฉินเทียนเซิงไม่คิดที่จะทนอีกต่อไป เพียงแวบเดียว เขากระโดดขึ้นไปบนโซฟา แส้นั้นฟาดเข้าไปที่เข่าของเฉินตง
เผียะ !
มีเสียงแตกดังขึ้น
สีหน้าของเฉินตงเปลี่ยนไปอย่างชัดเจน เผยให้เห็นสีหน้าของความเจ็บปวด จากนั้นจึงส่งเสียงครวญครางออกมา พร้อมกับเดินโซเซถอยหลังไป
“คุณชาย”
คุนหลุนและเฉินตงที่คอยติดตามอยู่ไม่ห่างรีบเข้ามาประคองโดยพร้อมกันทันที
กูหลังสีหน้าซีดเผือด มองดูเฉินตงด้วยความรู้สึกที่ไม่อยากจะเชื่อสายตา
โครงสร้างกระดูกของมนุษย์นั้น กระดูกหัวเข่าถือว่าเป็นกระดูกส่วนที่แข็งที่สุด การที่กระดูกขาแตก ถือเป็นการบาดเจ็บของกระดูกขาที่ร้ายแรงเป็นอย่างมาก
เหตุผลง่ายๆ เช่นนี้ ทำไมคุณเฉินถึงไม่รู้ ?
“ได้ลิ้มรสชาติของการที่กระดูกแตกดู คงจะสบายมากใช้ไหมล่ะ ?” เฉินเทียนเซิงพูดพลางแสยะยิ้ม
“ฮู้……”
เฉินตงหายใจออกหนึ่งครั้ง กระดูกขาที่แตกสร้างความเจ็บปวดเป็นอย่างมาก ทำให้เหงื่อกาฬไหลอาบบนหน้าผากของเขา
เขาผละตัวออกมาจากการประคองของคุนหลุนและกูหลัง เดินโซเซถอยหลังไป แล้วนั่งลงบนโซฟา
เขาหายใจเหนื่อยหอบไปพลาง แล้วแสยะยิ้มออกมาเหมือนกับสัตว์ที่ดุร้ายไปพลาง
จากนั้นจึงค่อยๆ ยกมือขวาขึ้นแล้วชี้ไปที่เฉินเทียนเซิง
“จัดการมัน !”