The Winner is king ผู้ชนะเลศคือราชา - ตอนที่ 130
บทที่ 130 ปีนสูงแล้ว!
เจิ้งโก๋โส่วตัวสั่น มีท่าทีสับสน
เขาเป็นปรมาจารย์ด้านจิตรกรรมจีน เขาที่อยู่ในสาขาอาชีพของตัวเองที่อยู่ในระดับที่สูงสุด
ก็ต้องมีความหยิ่งผยองและศักดิ์ศรีของตัวเอง
ไม่ว่าจะเป็นต่างประเทศ ก็เป็นแขกที่เจ้าภาพเคารพนับถือ
คนที่อยู่ในฐานะอย่างเขา คำว่าขอโทษได้หายไปจากพจนานุกรมของเขาแล้ว ยิ่งไปกว่านั้น ยังต้องไปขอโทษคนที่มีอายุน้อยกว่า
เห็นเจิ้งโก๋โส่วยืนอึ้งไม่ขยับ
ผู้อำนวยการหลิวที่คันไม้คันมือ “ไอ้แก่หัวรั้น นายไม่เชื่อฉันหรือว่าไม่เชื่อเหล่าเมิ่ง?”
ท่านเมิ่งถอนหายใจอีกครั้ง “ไปเถอะ ไม่ถือว่าเสียหน้าหรอก”
ในฐานะที่เป็นลูกชายแท้ๆของเจ้าบ้านตระกูลเฉิน สามารถทำให้เจ้าบ้านตระกูลเฉินอกตัญญูต่อผู้ใหญ่ จะรับคำขอโทษของปรมาจารย์ด้านภาพวาดจีนไม่ได้เลยเหรอ?
ดวงตาของเจิ้งกั๋วโส่วมืดลงในทันที
คำพูดของผู้อำนวยการหลิวเขาจะไม่เชื่อก็ไม่เป็นไร แต่ตอนนี้แม้แต่ท่านเมิ่งก็พูดเช่นนี้แล้ว
ต่อให้เขาจะรั้นแค่ไหน ก็รู้ว่าเรื่องนี้ไม่ปกติแล้ว!
สูดลมหายใจเข้าลึกๆ เจิ้งโก๋โส่วก็ก้าวเท้าออกไปอย่างรวดเร็ว
ความเข้าใจผิดถูกไขความกระจ่างแล้ว สำหรับเธอ ก็คือวินาทีหนึ่งคือนรกอีกวินาทีหนึ่งก็กลายเป็นสวรรค์
ในฐานะที่เป็นลูกสาว ใครจะไม่อยากจะให้พ่อแม่ของตัวเอง ชอบคนที่เราชอบล่ะ?
เจิ้งโก๋โส่วอดไม่ได้ที่จะเร่งฝีเท้าในการเดิน
ในห้องโถง เงียบจนแม้แต่เข็มตกลงพื้นยังสามารถได้ยิน
กู้โก๋ฮั้วสองสามีภรรยายังมึนงงอยู่เล็กน้อย
เรื่องทั้งหมดของคืนนี้ เปลี่ยนแปลงได้เร็วมาก
จากความยินดี มาถึงความโกรธ จนมาถึงความหวาดกลัว
สองสามีภรรยาแค่อยากชวนเพื่อนเก่ามาสังสรรค์ ในเวลาเดียวกันก็ช่วยลูกสาวดูว่าพี่ลูกเขย ใครจะไปรู้ว่ามันจะเกิดเรื่องเข้าใจผิดแบบนี้ได้?
คิดถึงท่าทีเมื่อกี้ของเฉินตง แก้มของสองสามีภรรยารู้สึกร้อนขึ้นเล็กน้อย
กู้โก๋ฮั้วสายตามองลอยไปทางท่านเมิ่งกับผู้อำนวยการหลิว
“เป็นเพื่อนกันมากี่ปีแล้ว พวกนายยังจะปิดบังเรื่องนี้อีก?”
เห็นได้ชัด ว่าหมายถึงเฉินตง!
“พูดไม่ได้”
ท่านเมิ่งส่ายหัว พูดด้วยสายตาที่ลึกๆ “เหล่ากู้ นายรู้สึกใช่มั้ยว่าวันนี้ตัวนาย ร่ำรวยมั่งคั่ง อยู่ต่างประเทศธุรกิจก็ไปได้ดีมาก?”
กู้โก๋ฮั้วนิ่งไปสักพัก จึงพยักหน้า
เขาไม่ใช่คนที่ดูถูกตัวเอง ความมั่งคั่งของตัวเองในต่างประเทศ เป็นดั่งที่ท่านเมิ่งพูดจริงๆ ไม่อย่างนั้นคู่ที่เขาจัดให้กู้ชิงหยิ่งไปนัดบอด ก็คงจะไม่ใช่พวกผู้ประกอบการน้ำมัน ลูกหลานซิลิคอนวัลเลย์หรอก
มีเพียงแต่ทุกคนยืนในเวทีเดียวกัน จึงจะสามารถคบกันได้!
ไม่อย่างนั้น ใครจะให้เกียรติเขา?
ท่านเมิ่งยิ้มๆ แฝงด้วยความดูถูกเล็กน้อย “ต่อให้นายมีเงินมาก ก็ไม่มากเท่าเขา!”
พรึบ!
กู้โก๋ฮั้วอึ้งไปทันที หน้าแดงหูแดง
คำพูดของท่านเมิ่ง แค่เพียงคำพูดเดียวก็ได้พูดโดนใจเขาในความรู้สึกแรกที่เขาเจอเฉินตง เหมือนเสียงตบที่ดังสนั่น ได้ตบเข้าที่ใบหน้าของเขาอย่างแรง
ไม่รอที่ให้กู้โก๋ฮั้วจะตั้งสติได้ ผู้อำนวยการหลิวก็พยักหน้า “เหล่าเมิ่งพูดถูก”
พรึบ!
รูม่านตาของกู้โก๋ฮั้วหดลง ราวกับว่าถูกตบที่บ้องหูอีกครั้ง
“อาทั้งสอง ช่วยไขความกระจ่างหน่อย” แม่ของกู้ชิงหยิ่งกล่าวขึ้น
ท่านเมิ่งส่ายหัว มองกู้โก๋ฮั้ว “รักษาไว้ให้ดี เสี่ยวหยิ่งปีนสูงไปแล้ว จะสามารถเข้าบ้านเขยมังกรหรือเปล่า ก็มาดูตระกูลกู้ของแกจะเกิดเรื่องหรือเปล่า!”
พูดจบ เขากับผู้อำนวยการหลิวก็จากไปพร้อมกัน ทิ้งกู้โก๋ฮั้วกับภรรยาที่กำลังสับสน กำลังครุ่นคิด
เฉินตงส่งสัญญาณไม่ให้พวกเขาพูด เขาสองคนสามารถพูดมาถึงขนาดนี้ ก็เพราะเห็นแก่ความสัมพันธ์หลายสิบปี
ครู่ใหญ่
แม่ของกู้ชิงหยิ่งจึงค่อยๆพูดขึ้น “โก๋ฮั้ว คุณเชื่อมั้ย?”
กู้โก๋ฮั้วยิ้มอย่างขมขื่น ถอนหายใจออกมาอย่างแรง “เหล่าเมิ่งกับเหล่าหลิวไม่มีทางที่จะเอาเรื่องนี้มาล้อเล่น”
“แล้วเฉินตง………เมื่อกี้ท่าทีที่เรามีต่อนายเฉินตง ไม่ดีเลยนะ” หลี่หวั่นชิงขมวดคิ้วที่โก่งเล็กน้อย
เดิมเป็นงานที่พบกันดีๆงานหนึ่ง เพราะความเข้าใจผิดของภาพหเพียงภาพเดียว เลยทำให้มันกลายเป็นแบบนี้
กับเฉินตง ในใจเธอรู้สึกผิด
นิ่งไปครู่หนึ่ง หลี่หวั่นชิงก็กล่าว “เอางี้ดีมั้ย เราก็อยู่ที่นี่อีกสักสองสามวัน หาเวลาจัดงานเลี้ยงใหม่เพื่อพบเฉินตงใหม่ และขอโทษเขา มาคลายความเข้าใจผิดนี้? ”
“ขอโทษ?” กู้โก๋ฮั้วขมวดคิ้วจนเป็นเส้นตรง เราขอโทษเขา มันเหมาะสมเหรอ?
หลี่หวั่นชิงพูดอย่างโกรธเคือง “งั้นคุณจะทนดูเสี่ยวหยิ่งที่อยู่ตรงกลางต้องลำบากใจเหรอ? คุณเป็นพ่อนะ เวลาสำคัญแบบนี้ทำไมไม่ใส่ใจลูกสาวบ้าง?”
“เอาล่ะ” กู้โก๋ฮั้วถอนหายใจ ถือว่ารับปากแล้ว พูดอย่างสบายๆ “เพียงแค่เสียเวลาตรงนี้สองสามวัน เกรงว่าเมื่อติดต่อกับตระกูลเฉิน ก็ต้องเสียเวลาอีก”
พูดถึงตรงนี้ ใบหน้าเขาเต็มไปด้วยความเบื่อหน่าย
“ฉันรู้ว่าคุณต้องการอาศัยอำนาจของตระกูลเฉิน เพื่อขึ้นไปในระดับที่สูงขึ้นไปอีกขั้น ฉันก็เห็นด้วย อีกอย่างฉันก็สนับสนุนคุณอย่างมาก”
น้ำเสียงที่อ่อนโยนของหลี่หวั่นชิง แววตาก็เต็มไปด้วยความอ่อนโยน “แต่โก๋ฮั้ว เรามีเสี่ยวหยิ่งเป็นลูกสาวเพียงคนเดียว ความสำเร็จของคุณมีคนมากมายที่อยากจะได้ เงินพอใช้ก็พอแล้ว ความสุขของเสี่ยวหยิ่ง จึงจะเป็นเป้าหมายที่ใหญ่ที่สุดของเรา!”
“แต่ว่า……….” กู้โก๋ฮั้วยังอยากที่จะโต้แย้ง
“ฉันไม่อยากให้การตัดสินใจผิดของเรา ทำให้เสี่ยวหยิ่งเสียความสัมพันธ์ที่ดีไป ไม่พูดถึงเรื่องชาติตระกูลของเฉินตง ตอนนี้การงานเขาก็กำลังไปได้ดี หากเสี่ยวหยิ่งกับเฉินตงต้องแยกจากกันเพราะเรา คนที่เป็นพ่ออย่างคุณจะเสียใจมั้ย?”
น้ำเสียงที่พูดจาของหลี่หวั่นชิงสูงขึ้นเล็กน้อย “บางทีคุณอาจจะคิดว่า เสี่ยวหยิ่งอาจจะสนใจพวกผู้ประกอบการน้ำมัน หรือลูกหลานของซิลิคอนวัลเลย์เหรอ?”
กู้โก๋ฮั้วท่าทางห่อเหยี่ว ยิ้มอย่างขมขื่น
จากนั้น เขาก็กล่าวอย่างองอาจ “เอาอย่างนี้ วันมะรืนเรายังอยู่ จัดงานเลี้ยงใหม่ ขอโทษเฉินตง ก็คือเป็นการเจอผู้ใหญ่อย่างแท้จริงละกัน?”
“แบบนี้ถึงจะเป็นพ่อที่ดี!” หลี่หวั่นชิง ยิ้มอย่างอ่อนโยน
……
เมื่อกู้ชิงหยิ่งกับเหล่าเจิ้งวิ่งไปถึงลานจอดรถของคลับสี่ยิ่น เฉินตงได้จากไปนานแล้ว
เห็นเพียงรถโรลส์-รอยซ์คันหนึ่งแล่นตัวออกไปทางด้านนอกคลับสี่ยิ่น
กู้ชิงหยิ่งขมวดคิ้ว
เหล่าเจิ่งรีบเรียกพนักงานรักษาความปลอดภัยมาถาม
เมื่อรู้ว่าเฉินตงนั่งรถโรลส์-รอยซ์ออกไปแล้ว ทันใดนั้นเขาก็มีความรู้สึกที่ซับซ้อนขึ้นมาทันที
ในสมอง ก็ปรากฏขึ้นด้วยคำพูดและท่าทีของท่านเมิ่งกับผู้อำนวยการหลิว ทำให้หัวใจของเขาเต้นเร็วขึ้น
กู้ชิงหยิ่งได้ยินที่เหล่าเจิ้งคุยกับพนักงานรักษาความปลอดภัย
เขารีบร้อนหยิบโทรศัพท์ออกมาโทรหาเฉินตง
เพิ่งจะดังหนึ่งครั้ง โทรศัพท์ก็ถูกรับสาย
“ฮาโหล เฉินตง! ไอ้คนโง่ ทำไมไปเร็วแบบนี้? อย่าโกรธเลยได้มั้ย?”
เมื่อโทรติด กู้ชิงหยิ่งก็พูดด้วยน้ำเสียงที่น่าสงสาร
“ผมไม่ได้โกรธ” ปลายสาย เฉินตงหัวเราะพูด
ไม่โกรธ?
เป็นไปได้ยังไง!
กู้ชิงหยิ่งอธิบาย “ความเข้าใจผิดได้ถูกไขความกระจ่างแล้ว “คุณอาเจิ้งได้ดูภาพอีกรอบ ยืนยันว่าภาพเป็นภาพจริง เขากำลังตามหาคุณเพื่อขอโทษคุณ อย่าเพิ่งไปได้มั้ย ฉันขอโทษแทนพ่อกับแม่ของฉันด้วย”
สถานการณ์ตอนนั้น เป็นใครก็ลำบากใจทั้งนั้น
เขาที่ไม่พอใจแทนเฉินตง แต่เธอก็ไม่สามารถที่เปลี่ยนแปลงมัน
วันนี้ความเข้าใจผิดได้รับกระจ่าง เขาไม่อยากให้เฉินตงเข้าใจพ่อแม่ตัวเองผิด
“เอาล่ะ ยัยโง่ สถานการณ์ตอนนั้น ถ้าผมไม่ออกมาแล้วอยู่ต่อมันจะทำให้คุณลำบากใจทั้งสองฝ่าย ผมไม่เป็นไรจริงๆ พักผ่อนเร็วๆละ” เฉินตงพูดจบ ก็วางสายทันที
บนรถโรลส์-รอยซ์
ท่านหลงมองดูเฉินตงที่วางสาย ยิ้มๆ “คุณชายไม่โกรธจริงเหรอ?”
“เสี่ยวหยิ่งมาอยู่ข้างกายผมในตอนที่ผมอับจนที่สุดโดยไม่ลังเลเลย เธอใช้ทั้งชีวิตของเธอเป็นเดิมพัน”
เฉินตงส่ายหัว ยิ้มอย่างอ่อนโยน “เรื่องแค่นี้ผมจะไปโกรธพ่อแม่ของเธอทำไม?”
พูดจบ ท่าทางของเขาก็เคร่งขรึมขึ้นมา “สิ่งที่ไม่สบอารมณ์ ก็คือคุณ ภาพวาดราคายี่สิบกว่าล้าน ผมแค่มาทานข้าวกับท่านเมิ่งเท่านั้น คุณก็ให้ผมมอบของขวัญราคายี่สิบกว่าล้าน? รู้จักผิดชอบชั่วดีหรือเปล่า?”
เผชิญหน้ากับเฉินตงที่จู่ๆก็โกรธขึ้นมา ท่านหลงทำหน้าไม่รู้เรื่อง “ยี่สิบล้านเยอะเหรอ?”
“ไม่เยอะเหรอ?” เฉินตงถาม
ท่านหลงยักไหล่ พ่อของคุณเวลาที่ให้ของขวัญราคาไม่ต่ำกว่าเก้าหลัก ครั้งที่แล้วที่ไปทานข้าวกับผู้ประกอบการน้ำมันฝั่งตะวันตก พ่อของคุณยังไม่ได้มอบบ่อน้ำมันให้เขาหนึ่งบ่อ
เฉินตง “…….