The Winner is king ผู้ชนะเลศคือราชา - ตอนที่ 145
บทที่ 145 ฟ่านลู่เกิดเรื่อง!
“เธอหายไปนานแค่ไหนแล้ว?”
เฉินตงถามอย่างซีเรียส
หลี่หลานคิดไปครู่หนึ่ง แล้วกล่าว “ประมาณสิบกว่านาทีแล้ว”
เฉินตงรีบกล่าวทันที “คุนหลุน ท่านหลง พวกคุณไปตามหาในชุมชนก่อน ผมจะไปขอดูกล้องกับนิติ”
“ตงเอ่อ แม่ไปกับลูกด้วย”
หลี่หลานเร่งฝีเท้าจนตามเฉินตงทัน สองมือกำโทรศัพท์ไว้แน่น ใบหน้าลนลาน “เสี่ยวลู่ เธอห้ามเกิดเรื่องเด็ดขาดนะ”
“แม่ คงไม่มีไรหรอก” เฉินตงปลอบแม่
เพียงแต่เขาก็รู้ การปลอบแม่แบบนี้ไม่ได้เกิดประโยชน์อะไร
ฟ่านลู่เป็นคนเก่งมาก และมีความอดทนสูง ตลอดเวลาที่ดูแลแม่เขาดูแลได้อย่างดี แม่เขานั้นก็เห็นฟ่านลู่เหมือนลูกสาวคนหนึ่ง
ที่ห้องทำงานของนิติในวิลล่า
ผู้จัดการฝ่ายนิติหลังจากที่ทราบเรื่อง ก็รีบตรวจสอบกล้องวงจรปิด แต่ผลสุดท้าย กลับทำให้ต้องผิดหวัง
ภาพในกล้องวงจรปิด ไม่มีภาพของฟ่านลู่เลย
ซึ่งก็หมายความว่าฟ่านลู่นั้นไม่ได้ออกไปจากประตูใหญ่
ในความเป็นจริง เขตวิลล่าเขาเทียนซานระบบความปลอดภัยนั้นสูงมาก ไม่ใช่คนที่พักอาศัยอยู่ในวิลล่า หรือได้รับการอนุญาตจากเจ้าของวิลล่า คนนอกนั้นไม่มีทางที่จะเข้ามาได้เลย
ก่อนหน้านั้นตระกูลหวางก็เป็นตัวอย่างที่ดีตัวอย่างหนึ่ง!
“ในวิลล่า ยังมีถนนเส้นอื่นมั้ย?” เฉินตงขมวดคิ้วถาม
ในขณะที่ผู้จัดการฝ่ายนิติกำลังครุ่นคิดนั้น คุนหลุนกับท่านหลงก็มาถึงในเวลาพร้อมกัน
“คุณชาย โทรศัพท์มือถือของฟ่านลู่”
คุนหลุนนำโทรศัพท์ที่พังแล้วยื่นให้กับเฉินตง “เก็บได้ตรงด้านข้างขอบทะเลสาบของวิลล่ากลางเขา”
เมื่อประโยคนี้ถูกพูดออกมา
ผู้จัดการฝ่ายนิติก็สะดุ้งจนสติคืนมา “ใช่ ตอนที่จะพัฒนาทะเลสาบนั้น เพราะราคามันค่อนข้างที่จะสูง ดังนั้นจึงได้เก็บมันไว้คงเดิม ให้มันเป็นจุดชมวิวของวิลล่า ทะเลสาบที่กว้างใหญ่ขนาดนั้นล้อมรอบวิวล่า ดังนั้นเมื่อเวลาตรวจเวรยาม ส่วนใหญ่จะละเลยพื้นที่ส่วนนี้ไป”
“ไป!”
เฉินตงไม่ได้พูดพร่ำทำเพลง หันหลังพาคนออกไปจากห้องนิติทันที
ทะเลสาบที่ถูกละเลยในการตรวจเวร คนปกติไม่มีทางที่จะหาทางเข้ามาในวิลล่าจากตรงนี้อย่างแน่นอน แต่คนที่ลักพาตัวฟ่านลู่ไปไม่ใช่คนปกติ ไม่อย่างนั้นฟ่านลู่ก็คงไม่ส่งข้อความมาขอความช่วยเหลือ
หลังจากที่ส่งแม่กลับบ้านแล้ว
ท่านหลงจึงได้กล่าวขึ้น “คุณชาย ตอนนี้ฟ่านลู่ถูกคนพาออกไปจากวิลล่าแล้ว ที่พวกเราตามหา มันก็เหมือนกับงมเข็มในมหาสมุทร”
“ต่อให้จะเป็นการงมเข็มในมหาสมุทร ก็ต้องงม!”
น้ำเสียงที่หนักแน่นของเฉินตง แฝงด้วยไว้ความโกรธ “ฟ่านลู่เข้ามาอยู่ในบ้านของฉัน ก็เป็นคนของบ้านฉัน ห้ามให้เธอได้รับอันตรายเด็ดขาด ไปตรวจดูกล้องวงจรปิดทุกตัว ต่อให้มันหนีเข้าไปในดิน ก็ต้องเอาตัวมันมาให้ได้!”
น้ำเสียงดังสนั่น ไม่มีอะไรจะแน่วแน่ไปกว่านี้แล้ว
รถโรลส์-รอยซ์เคลื่อนตัวออกไปจากเขตวิลล่า
ตามมาด้วยท่านหลงก็ได้ส่งรูปภาพของฟ่านลู่ออกไป ภาพของกล้องวงจรปิดแต่ละกล้องก็ได้ส่งภาพกลับมาที่โทรศัพท์มือถือ
ขณะที่รถกำลังลงเขานั้น จู่ๆท่านหลงก็ตาลุกวาว
“คุณชาย มีภาพคนที่ลักพาตัวฟ่านลู่ไปแล้วครับ เป็นผู้ชาย”
เฉินตงรับโทรศัพท์มาดูภาพที่หน้าจอ ทันใดนั้นก็ขมวดคิ้วขึ้นมา
ภาพในคลิปเป็นกล้องที่บันทึกภาพถนนที่ลงเขาของเขตวิลล่าเขาเทียนซาน
ในคลิป ชายวัยกลางคนที่รูปร่างผอมคนหนึ่งกำลังเลซ้ายแลขวา เห็นได้ชัดว่าระมัดระวังตัวอย่างดี
และฟ่านลู่ก็เดินตามหลังของเขา
เขาทั้งสองนั้นไม่ได้กระชากลากถูกกัน ความรู้สึกที่ฟ่านลู่ให้เขานั้น เหมือนยอมจำนวน
อีกอย่างรูปร่างของทั้งสองคนนั้นไม่ได้แตกต่างมากนัก ฟ่านลู่เป็นอดีตนักมวยทีมชาติ หากมีอันตรายจริง ด้วยฝีมือของเธอก็สามารถที่จะหนีเอาตัวรอดได้
แต่เธอกลับส่งข้อความให้แม่ของเขาช่วย!
“ด้วยฝีมือของเสี่ยวลู่ ผู้ชายคนนี้จะสามารถทำอันตรายเธอได้เหรอ?”
ความสงสัยเดียวกัน ก็ได้เกิดขึ้นที่ใจของท่านหลง
“ไล่ตรวจตามไปจากคลิปๆนี้ หาคนเจอแล้วค่อยว่ากัน”! เฉินตงกล่าวด้วยเสียงต่ำ
ในเมื่อขอความช่วยเหลือ งั้นฟ่านลู่ก็ต้องมีอันตราย สิ่งที่ต้องทำตอนนี้คือหาคนให้เจอ
สำหรับอดีตของฟ่านลู่ เฉินตงนั้นยังไม่ได้ทำความเข้าใจเลย
แม้ว่าตอนนั้นฟ่านลู่จู่ๆก็ได้วิ่งมาจากไซต์งานก่อสร้าง ถูกคุนหลุนกับโจวเห้าและคนอื่นๆปิดล้อมเอาไว้นั้น หลังจากที่เขาตัดสินใจแล้วก็ไม่ซักไซ้ต่อ
แต่เพิ่งจะผ่านไปไม่นาน กลับเกิดเรื่องแบบนี้อีกแล้ว!
ในระหว่างทาง รถโรลส์-รอยซ์ขับด้วยความเร็วสูง
ในรถ กลับเงียบจนสามารถได้ยินเสียงเข็มหลุ่น
คุนหลุนกำลังขับรถด้วยสีหน้าเคร่งขรึม มองผ่านกระจกหลังเป็นระยะ ๆ มองไปที่เฉินตงและท่านหลง แต่มือเขากลับพวงมาลัยไว้แน่น และค่อยๆเหยียบคันเร่งใต้เท้าของเขาเพิ่มขึ้นอย่างช้าๆ
“หาเจอแล้ว อยู่หมู่บ้านหม่าเถียนที่อยู่ฝั่งตะวันตก!”
ท่านหลงจู่ๆก็อุทานขึ้นมา “รถของชายที่รูปร่างผอมคนนั้นได้พาฟ่านลู่ เข้าไปในหมู่บ้านหม่าเถียน ก็ไม่ได้ออกมาอีกเลย”
หมู่บ้านหม่าเถียน?
เฉินตงขมวดคิ้วแน่น เขาจำได้ลางๆ ตอนแรกที่ฟ่านลู่เข้ามาทำงานนั้น ประวัติที่บริษัทจัดหางานให้มานั้น บ้านของฟ่านลู่ก็อยู่ที่หมู่บ้านหม่าเถียน!
เอี๊ยด……..
ในเวลาเดียวกัน รถโรลส์ – รอยซ์ที่เบรกกะทันหันก็ทำให้เกิดเสียงดังที่แสบหู
คุนหลุนหมุนพวงมาลัยอย่างกะทันหัน และทำให้โรลส์ – รอยซ์ลอยลำ
เฉินตงและท่านหลงที่ไม่ทันตั้งตัว ก็เอียงตัวและล้มลงบนเบาะ
“คุนหลง……….” ท่านหลงลุกขึ้นอยากจะต่อว่าทันที
แต่กลับถูกเฉินตงยกมือห้าม เห็นคุนหลุนที่กำลังขับรถ เผยรอยยิ้มที่มีเลศนัยออกมา
“ขอโทษครับคุณชาย ท่านหลง”
คุนหลุนพลางเร่งความเร็ว พลางกล่าวขอโทษ
หนึ่งชั่วโมงให้หลัง
รถโรลส์ – รอยซ์ก็พุ่งไปที่ทางเข้าหมู่บ้านหม่าเถียน
เฉินตงให้คุนหลุนนั้นหยุดรถ ทั้งสามคนจึงได้เดินเข้าไปในหมู่บ้านพร้อมกัน
หมู่บ้านหม่าเถียนห่างจากตัวเมืองระยะทางประมาณหนึ่ง แม้ว่าการเดินทางจะสะดวก แต่หมู่บ้านเก่า คนหนุ่มสาวล้วนออกไปทำงานในเมือง เหลือไว้เพียงคนชราหรือคนวัยกลางคนที่ขี้เกียจ เมื่อเป็นแบบนี้ ทำให้กลายเป็นหมู่บ้านที่ข่าวสารเคลื่อนไหวช้า
แสงจันทร์ที่สว่างไสว
ช่วงฤดูร้อน ชาวบ้านมักจะนอนดึก ดึกแล้วคนยังมาอาศัยลมเย็นนอกบ้าน รอให้อุณหภูมิลดลงถึงจะกลับเข้าไปนอน
ต้นไทรขนาดใหญ่ที่อยู่ประตูทางเข้า
มีคนชราหลายคนกำลังนั่งรวมตัวกันอยู่ตรงนั้น คุยเรื่องสัพเพเหระ
ท่านหลงก้าวเดินไปด้านหน้า กล่าวด้วยรอยยิ้ม “พี่สาวทั้งหลาย ขอถามอะไรพวกท่านหน่อยสิ บ้านฟ่านลู่อยู่ตรงไหน พวกท่านรู้มั้ย?”
“ฟ่านลู่? บ้านหลังเดียวที่อยู่ท้ายหมู่บ้าน”
หญิงชราที่เรียบง่ายชี้ทางให้เขา แต่สีหน้าของเธอดูแปลก ๆ “เธอเพิ่งกลับมากับพ่อของเธอ ถ้าพวกคุณต้องการพบเธอก็รีบไปหาเธอเลย ถ้าหากไปช้ามันจะยุ่ง”
ไม่ว่าจะเป็นท่านหลง หรือเฉินตงกับคุนหลุนที่อยู่ไม่ไกล เมื่อได้ยินคำพูดนี้ ก็ตกตะลึงไปครู่หนึ่ง
คนที่ลักพาตัวฟ่านลู่ คือพ่อของเธอ?
แล้วการขอความช่วยเหลือ…….มันหมายความว่ายังไง?
คุนหลุนสีหน้าเคร่งขรึม ขณะนั้นก็ได้วิ่งเข้าไปข้างในหมู่บ้าน
เฉินตงกับคุนหลุนก็เร่งฝีเท้าเดินเข้าไปในหมู่บ้าน ด้านหลัง ก็ดังมาด้วยเสียงพูดคุยกันของพวกคนชรา
“เสี่ยวลู่เด็กคนนี้ชีวิตช่างลำบากนัก ที่มีครอบครัวแบบนี้”
“ใช่สิ เด็กคนนี้เมื่อก่อนเก่งขนาดไหน? แต่กลับถูกที่บ้านถ่วงเอาไว้”
“หวังว่าคนพวกนี้จะสามารถช่วยเธอนะ ดูรถที่แพงขนาดนั้น คนเหล่านี้ก็น่าจะเป็นคนที่มีเงิน”
……
“คุณชาย” ท่านหลงมองเฉินตง อยากจะพูดแต่ก็ไม่พูด
“คุณอยากจะบอกว่า นี่มันเป็นเรื่องภายในครอบครัว?”
เฉินตงหัวเราะหนึ่งที แววตากะพริบ “ในฐานะที่เป็นผู้หญิง ร้องขอความช่วยเหลือกับคนนอก คุณยังรู้สึกว่ามันเป็นเรื่องภายในครอบครัว?”
ท่านหลงก็ตกใจ จู่ๆก็เข้าใจทันที
บ้านของฟ่านลู่ เป็นบ้านหลังเดียวที่อยู่ในท้ายหมู่บ้าน
มันเป็นบ้านดินมีปูหลังคาด้วยกระเบื้องสีดำ ด้านนอกยังได้ใช้ดินๆล้อมรอบทำเป็นลานเล็กลานหนึ่ง ทรุดโทรมอย่างมาก แม้แต่ประตูไม้เก่าก็พังไปหนึ่งบาน
เมื่อเฉินตงทั้งสามคนไปถึงนั้น ก็ถูกภาพนี้ทำให้ช็อตไปเลย
โดยปกติฟ่านลู่เป็นคนเฮฮา ไม่เคยเอ่ยถึงเรื่องของครอบครัวเลย
ใครจะไปคิด บ้านของเธอจะจนถึงขนาดนี้?
ในขณะที่ทั้งสามคนเดินไปถึงลานบ้านนั้น
“อ้า! อย่าเข้ามานะ อย่าเข้ามา……..หนู หนูเป็นลูกสาวพ่อนะ!”
ฟ่านลู่ตะโกนร้องไห้เสียงดัง เสียงได้ดังออกมาจากผนังดิน