The Winner is king ผู้ชนะเลศคือราชา - ตอนที่ 168
บทที่ 168 ความลับของหลี่หลาน!
ท่านเมิ่งไปแล้ว
กู้โก๋ฮั้วนั่งอยู่บนเก้าอี้ด้วยสีหน้าที่ซับซ้อน เห็นได้ชัดว่าเหนื่อยล้า
อาการเหนื่อยล้ามาจากที่ดีอกดีใจทั้งคืน ตามมาด้วยความจริงที่ท่านเมิ่งบอก มันถูกเปิดเผยออกมาทั้งหมด
หลี่หวั่นชิงกล่าวปลอบโยน “เอาล่ะ ท่านเมิ่งเพียงแค่บอกความจริงกับเรา แม้ว่าเฉินตงจะไม่ใช่ผู้สืบทอดตระกูลเฉิน แต่เขาก็เป็นลูกเขยของเรา ของเพียงลูกสาวเราชอบก็พอแล้ว”
“อืม อันนี้ผมรู้”
กู้โก๋ฮั้วบิดขี้เกียจ “ท่านเมิ่งบอกความจริงกับเรา ก็เพราะกลัวว่าผมใจร้อนแล้วจะสร้างปัญหา ตอนนี้รู้ความจริงแล้ว เดิมพันก็เดิมพัน ลูกเขยเราก็เป็นหนึ่งในผู้สืบทอดของตระกูลเฉิน ไม่ใช่ว่าจะไม่มีความหวัง เป็นมังกรหรือมังกือ ก็ต้องสู้กับผู้เก่งกาจของตระกูลเฉินถึงจะรู้”
แกระ
เสียงเปิดประตูดังขึ้น
กู้ชิงหยิ่งเดินออกมาจากห้องนอน
เธอมองกู้โก๋ฮั้วกับหลี่หวั่นชิง อันที่จริงเธอตื่นแล้ว เพียงแต่การมาของท่านเมิ่ง ทำให้เธอเลือกที่จะอยู่ในห้องนอนต่อ
และการสนทนาในห้องโถง เธอนั้นได้ยินหมดแล้ว
“คุณพ่อคุณแม่” กู้ชิงหยิ่งพูดอย่างระมัดระวัง “หนูได้ยินหมดแล้วค่ะ”
กู้โก๋ฮั้วกับหลี่หวั่นชิงสบตากัน อึ้งเล็กน้อย
หลี่หวั่นชิงรีบเข้าไปปลอบ “ไม่เป็นไรนะเสี่ยวหยิ่ง แม้ว่าในอนาคตต่อให้เฉินตงไม่สามารถเป็นคนตระกูลเฉิน แต่เขาก็เป็นคนของครอบครัวเรา”
กู้ชิงหยิ่งซาบซึ้ง พยักหน้า “ขอบคุณค่ะแม่”
มองผู้เป็นพ่อกำลังเศร้าแวบหนึ่ง กู้ชิงหยิ่งก็กล่าวขึ้น พ่อคะ เฉินตงไม่มีทางทำให้พ่อผิดหลังเด็ดขาด เขานั้นไม่ได้ด้อยไปกว่าผู้สืบทอดเหล่านั้น
“มันก็แน่อยู่แล้ว คนที่ลูกสาวเลือก มันก็ต้องเป็นมังกรในหมู่คนอย่างแน่นอน”
กู้โก๋ฮั้วหัวเราะ สายตาลึกๆ ในหัวกลับคิดถึงประเด็นสำคัญประเด็นหนึ่ง
ก็คือวิกฤตครั้งนี้ของไท่ติ่ง เริ่มแรกเป็นยี่เคอที่ถอนตัว ในขณะที่เขาช่วยเฉินตงนั้น ยี่เคอก็กลับเข้ามาอีกครั้ง
ยี่เคอนั้นเป็นบริษัทของตระกูลเฉิน
เมื่อมาเชื่อมกับคำพูดท่านเมิ่งเมื่อกี้ เขาก็เข้าใจทันที วิกฤตใหญ่ของไท่ติ่ง เป็นการแข่งขันต่อสู้กันระหว่างเจ้าบ้านตระกูลเฉินและคนอื่นๆในตระกูลเฉินเกี่ยวกับเฉินตง
และสุดท้าย เห็นได้ชัดว่าเจ้าบ้านตระกูลเฉินเป็นผู้ชนะ!
มีพ่อที่เป็นเจ้าบ้านในตระกูลเฉินที่สามารถช่วยเฉินตงในการต่อสู้ โอกาสที่เฉินตงจะชนะก็มีไม่น้อย!
ท่ามกลางตระกูลที่ร่ำรวยและมีอำนาจ เจ้าบ้านนั้นไม่สามารถที่จะตัดสินใจคนเดียว แต่ก็ยังเป็นคนที่ควบคุมอำนาจที่ใหญ่ที่สุด
……
พลบค่ำ
รถเบนซ์จิ๊บสีดำก็ได้แล่นเข้าไปในเขตวิลล่าเขาเทียนซาน
เฉินตงรอแต่เนิ่นๆแล้ว นี่ถือเป็นการเจอกันอย่างเป็นทางการของทั้งสองครอบครัว หลังจากพิธีขอแต่งงาน
ด้านพิธีรีตอง ท่านหลงนั้นคุมได้ดีจนไม่มีที่ติเลย
ในระหว่างการรับประทานอาหารค่ำทั้งสองครอบครัวคุยกันอย่างมีความสุข กู้โก๋ฮั้วกับหลี่หวั่นชิงก็ไม่ได้เอ่ยถึงเรื่องที่ท่านเมิ่งพูด ราวกับว่ามันไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน และไม่ได้แสดงอะไรที่ไม่สมควรออกมา
มันทำให้กู้ชิงหยิ่งนั้นโล่งอก เธอนั้นกังวลว่าเมื่อพ่อแม่รู้ฐานะที่แท้ของเฉินตงแล้ว จะมีทัศนคติที่เปลี่ยนไปต่อเฉินตง
สำหรับตัวเธอเองนั้นไม่เคยสนใจว่าเฉินตงจะเป็นคุณชายของตระกูลเฉินหรือเปล่า!
คนที่เธอชอบก็คือเฉินตง
ตั้งแต่ต้นจนจบ
ไม่ว่าจะสูงหรือต่ำ มันก็เห็นกันตั้งแต่ต้นจนจบ
งานเลี้ยงก็ได้มาถึงตอนสุดท้ายแล้ว
หลังจากจบงานเลี้ยง
กู้ชิงหยิ่งขับรถ พาพ่อแม่กลับไปที่พัก
เฉินตงนั้นดื่มเป็นเพื่อนกู้โก๋ฮั้วไปไม่น้อย หลังจากร่ำลากับกู้ชิงหยิ่งแล้ว ก็ได้กลับไปนอนที่ห้องนอนของตัวเอง
ฟ่านลู่กับคุนหลุนนั้นมัวยุ่งเก็บถ้วยชาม
ท่านหลงนั่งพักอยู่ด้านข้าง เมื่อกี้บนโต๊ะอาหาร เขาก็ได้ดื่มไปบ้าง ด้วยอายุของเขา ก็ดื่มไม่ค่อยจะไหวแล้ว
หลี่หลานนั่งอยู่คนเดียว
ในระหว่างทานอาหารใบหน้านั้นยังเต็มไปด้วยรอยยิ้ม แต่เวลานี้กลับเอาแต่ก้มหัว ใบหน้าเต็มไปด้วยความเศร้า
ค่อยๆเลื่อนโทรศัพท์ที่อยู่ในมือ ใบหน้าของหลี่หลานนั้นยิ่งอยู่ยิ่งแย่
ในที่สุด เธอก็เก็บโทรศัพท์ ลุกขึ้นเดินออกไปข้างนอก “ท่านหลง ฉันจะออกไปเดินเล่น อย่าทำให้ตงเอ๋อตกใจล่ะ”
ท่านหลงลืมตาขึ้น มองหลี่หลานที่เดินจากไปด้วยสายตาลึกๆ
หลังจากปิดประตูแล้ว เขาจึงกล่าวขึ้น “คุนหลุน ตามคุณผู้หญิงไป”
“ท่านหลง สะกดรอยตามคุณผู้หญิง แบบนี้ไม่ดีมั้ง?” คุนหลุนอึดอัดเล็กน้อย
ท่าหลงทำตาเข้ม “ไม่ใช่ให้นายสะกดรอย แต่ให้นายแอบคุ้มกันอยู่ห่างๆ”
“นี่………” คุนหลุนตะลึง
ท่านหลงกล่าวด้วยเสียงต่ำ “หากมีคนมาทำไม่ดีต่อคุณผู้หญิง นายสามารถประหารก่อนแล้วค่อยรายงานทีหลัง!”
คุนหลุนท่าทางจริงจัง พยักหน้า แล้วก็ตามออกไป
ฟ่านลู่เป็นห่วงเล็กน้อย “ท่านหลง คงไม่มีเรื่องอะไรใช่มั้ย?”
“ไม่มีอะไรหรอก”
ท่านหลงส่ายหัว ยิ้มกล่าว “เพียงแต่ฉันน่ะกลัวว่าคุณผู้หญิงจะถูกหมาจรจัดกัด คุณหญิงเป็นคนมีเมตตา ไม่ถือสาหมาแมว ก็เลยต้องให้คุนหลุนคุ้มกันอยู่ข้างหลังไง”
แม้ว่ากำลังยิ้ม แต่สายตาของท่านหลงนั้นคมกริบจนทำให้ฟ่านลู่เหมือนจะขนลุก
วิลล่าเขาเทียนซานในยามค่ำคืน ยังคงงดงามไปด้วยแสงไฟ
หลี่หลานเดินออกมาจากบ้านอย่างรีบร้อน ก้าวเดินอย่างว่องไวมุ่งหน้าไปทางประตูวิลล่า ไม่เหมือนคนเดินเล่นเลย
คุนหลุนออกมาจากบ้าน แอบติดตามอยู่ด้านหลัง
ในฐานะที่เคยเป็นราชาทหารรับจ้าง การติดตามในสนามรบเป็นหนึ่งในหลักสูตรที่จำเป็น
ยิ่งไปกว่านั้น หลี่หลานเป็นเพียงคนธรรมดา คงคิดไม่ถึงพวกวิธีตลบหลังอะไรหรอก
ออกจากวิลล่าเขาเทียนซาน
ในระยะไกล คุนหลุนก็เห็นข้างทางมีรถมายบัคสีดำหนึ่งคัน จอดแอบอยู่ใต้ต้นไม้ที่มืดๆ
เขาขมวดคิ้วทันที ในสายตา หลี่หลานนั้นก้าวเดินไปที่รถอย่างรวดเร็ว ไม่ได้หยุดเลย แล้วเปิดประตูขึ้นรถโดยตรง
มองดูรถมายบัคสีดำกลับรถแล้วขับลงเขาไป
คุนหลุนรีบไปยืมรถกับนิติมาคันหนึ่ง ก็รีบขับตามไป
ภายใต้คืนนี้
รถมายบัคแล่นตามถนนบนภูเขา
ในหลังรถ ข้างกายของหลี่หลานดังขึ้นด้วยเสียงของคนชรา
“เธอ คิดได้ยังไงบ้างแล้ว?”
“ไม่ยุติธรรม!” น้ำเสียงของหลี่หลานแฝงด้วยความตำหนิ
“นี่คือน้ำเสียงที่เธอคุยกับฉันเหรอ?”
เสียงของคนชราเย็นชาเล็กน้อย ตามมาด้วยเสียงไอ เขาพูดขึ้นอีกครั้ง “เรื่องตอนนั้น จนถึงตอนนี้เธอยังวางมันไม่ลงเหรอ?” หลี่หลานขมวดคิ้ว สองมือกำแน่น
เผชิญหน้ากับคนที่อยู่ข้างกาย เธอเหมือนจะประหม่าเล็กน้อย
แต่เธอ ยังคงกัดฟันพูด “มีสิทธิ์อะไรมาให้ฉันปล่อยวาง? ตอนนั้นก็ให้ฉันปล่อยวาง วันนี้ก็ยังมาให้ฉันปล่อยวาง?”
“หรือว่าวันนี้สิ่งที่ฉันมอบให้เธอ ยังไม่จริงใจพอ?”
เสียงของคนชราสูงขึ้นเล็กน้อย “มันยังไม่เพียงพอที่จะชดใช้ความผิดในตอนนั้นเหรอ? หรือเธอต้องการให้ฉันตายต่อหน้าต่อตาเธอ จึงจะปล่อยวางได้?”
พูดจบ คนชราคนนี้ก็ไอด้วยความรุนแรงอีกครั้ง
ท่าทีของหลี่หลานเปลี่ยนอย่างมาก รีบลูบหลังของคนชราคนนี้ กลับพูดว่า “ฉันไม่ต้องการให้คุณตาย คุณจะมีอายุอยู่ถึงร้อยปีก็ได้ เมื่อก่อนคุณบงการฉัน ตอนนี้ยังต้องการบงการลูกชายฉัน ฉันไม่อนุญาต!”
“เธอ……..”
ร่างของเขานั้นสั่นสะท้านอย่างรุนแรง และโกรธอย่างสุดขีด “นี่เป็นการบงการเหรอ? มันคือการเชิญ!”
“ฉันรู้สึกว่า เรื่องนี้ก็ช่างมันเถอะ วันนี้ตงเอ๋อของฉันโดดเด่นมากขนาดนี้ ไม่ต้องการให้พวกคุณเชิญ” หลี่หลานกล่าวด้วยเสียงต่ำ
เห็นคนตรงหน้าจะเอ่ยปากพูด เธอรีบพูดอย่างเฉียบขาด “หากยังตอแยไม่เลิก อย่าลืมว่าฉันก็ไม่ได้เป็นคนที่จะอดทนไปได้ตลอด!”
“เธอมันเดรัจฉาน!”
เพียะ!
เสียงตบดังเข้าหู
ภายใต้แสงไฟที่สาดส่องในถนนที่มืด หัวของหลี่หลานเอียงไปข้างหนึ่ง ชนไปที่กระจกรถ
“ฉันจะลงรถ!” น้ำเสียงของหลี่หลานแข็งกร้าว
“ให้มันไป!”
เอี๊ยด!
รถมายบัคได้หยุดลงทันที
หลี่หลานลงจากรถ ใต้แสงไฟบนถนน หน้าครึ่งหนึ่งของเธอได้บวมขึ้นมาแล้ว แววตาเต็มไปด้วยความโกรธ
ภาพดังกล่าว ถูกคุนหลุนที่ตามมาเห็นเข้าแล้ว
คุนหลุนสงสัย ทั้งๆที่รถได้ขับลงเขา ทำไมไปถึงครึ่งหนึ่ง คุณผู้หญิงกลับลงจากรถ?
เขาไม่ได้หยุดรถ แต่ค่อยๆขับไปทางหลี่หลาน เพื่อดูสถานการณ์ให้ชัดเจน
เพราะเป็นรถที่ยืมมา ก็ไม่กลัวว่าจะถูกสังเกตเห็น
เมื่อเข้ามาในระยะใกล้ ใบหน้าครึ่งหนึ่งที่บวมแดงของหลี่หลานอยู่ในสายตาของคุนหลุน
เขาก็ยังเห็นหลี่หลานค่อยๆเช็ดน้ำตาที่มุมหางตา
คุนหลุนมีสีหน้าที่โกรธ และคลื่นแห่งความโกรธก็พุ่งสูงขึ้น
เขาจ้องรถมายบัคที่จอดอยู่บนถนน เท้าขวาก็เหยียบไปเต็มแรง
โวง~
เสียงเร่งเครื่องดังสนั่น
รถได้เพิ่มความเร็วโดยตรง พุ่งเข้าชนรถมายบัคที่จอดอยู่