The Winner is king ผู้ชนะเลศคือราชา - ตอนที่ 31
บทที่ 31 มียางอายไหม
ถูกหวางเห้าชกที่หน้าเต็มๆ
ฟ่านลู่ไม่หลบเลยสักนิด เธอเคยเป็นนักมวยระดับจังหวัด
เรื่องชกต่อยต่อสู้กัน เธอไม่เคยกลัวจริงๆ
ยิ่งไปกว่านั้น รูปร่างของเธอกับหวางเห้าก็พอๆกัน ไม่ต่างกันมาก
แค่เอียงตัว ก็หลบหมัดของหวางเห้าได้ทันที ฟ่านลู่ก้มตัวยื่นมือชกเข้าไป
ปั้ง!
ชกไปที่ท้องของหวางเห้า
หวางเห้า “อ้า”ตะโกนออกมาเสียงหนึ่ง เอามือจับที่ท้องและถอยออกไปสามเก้า แล้วนั่งลงกับพื้น
ตั้งแต่ต้นจนจบ ท่าทางของฟ่านลู่รวดเร็วว่องไวมาก
ตั้งตัวยืนตรง ฟ่านลู่รวบผมมัดหางม้า แล้วยิ้มอย่างดูถูก: “คนอย่างคุณ เมื่อก่อนฉันจัดการวันละสิบคน!”
“มึง……” หวางเห้าจับท้องไว้และยังอยากจะตะโกนด่า แต่ในท้องทั้งใส้ทั้งพุงเหมือนคนเข้าด้วยกันหมด เจ็บจนพูดไม่ออก
ภาพที่เกิดขึ้นอย่างกะทันหันนี้ ทำให้หลี่หลานตะลึงจนตาค้าง
เขานึกไม่ถึงว่าฟ่านลู่เป็นผู้หญิง แต่กลับสามารถต่อยผู้ชายจนล้มลงได้
“ไสหัวออกไป เดี๋ยวนี้!”
ฟ่านลู่ยกมือขึ้นมาจับคอเสื้อของหวางเห้า เหมือนหิ้วเป็ดไก่อย่างนั้นและผลักตัวเขาออกจากห้องผู้ป่วย: “อย่ามารบกวนคุณป้าอีกนะ ไม่อย่างนั้นอย่าหาว่าฉันโหดร้าย จะตีให้ขาหักจนพิการไปเลย”
“ปล่อยมือออก!”
หวางเห้าสะบัดมือของฟ่านลู่ออกอย่างแรง แล้วถามด้วยสีหน้าที่เจ็บ: “มึงคิดว่ามึงเป็นใคร? ฉันเป็นน้องเมียของคนที่ไม่เอาไหนอย่างเฉินตงนะเว้ย!”
น้องเมีย?
ฟ่านลู่ตกตะลึงไปสักพัก เธอไม่เคยได้ยินเฉินตงพูดถึงเรื่องนี้เลย
แต่ว่า เธอจึงตอบกลับไปว่า: “คุณเฉินจ้างให้ฉันมาดูแลคุณป้า”
“โอ้โห? มีเงินจ้างนางพยาบาลด้วยหรือนี่?”
หวางเห้ายักคิ้ว ยิ่งมั่นใจกับเรื่องที่ตนคิดไว้ในใจ แล้วตะโกนพูดอย่างเสียงดัง: “ตอนนั้นยังพูดด้วยหน้าตาน่าสงสารว่ามีเงินเหลือแค่สองแสน หาเรื่องจะขอหย่ากับพี่สาวผมอีก ดูตอนนี้แล้ว ที่แท้ก็มีแผนการ แกล้งทำเป็นจน เอาเงินให้พี่สาวสองแสนแล้วไล่ออกจากบ้าน ยังบังคับให้หย่าอีก ประหยัดเงินไปเยอะเลยนะ พอหลังจากนั้นก็รวยขึ้นมาทันที?”
ทันใดนั้นฟ่านลู่รู้สึกตกตะลึงทำตัวไม่ถูก
แต่หลี่หลานกลับร้องไห้และตะโกนขึ้นมากะทันหัน: “หุบปาก ลูกชายชั้นไม่ใช่คนอย่างที่แกพูด แกกำลังใส่ร้ายเขา!”
ถึงแม้เธอไม่รู้ว่าทำไมหลังจากที่ตนเองรอดจากความตายกลับมาแล้ว ลูกชายทำไมถึงรวยขึ้นมาอย่างกะทันหัน
แต่ก่อนหน้านั้นที่เธอยังรู้สึกตัวและมีสติดีๆอยู่นั้น ลูกชายเป็นยังไง เธอรู้ดีกว่าใครๆ
มีแม่ที่ไหนไม่รักลูก ก่อนหน้านั้นที่เธอป่วยหนัก ได้แต่มองดูลูกชายลำบาก
“ใส่ร้าย? ผมใส่ร้ายเขายังไง? พี่สาวผมต่างหากที่ถูกใส่ร้าย!”
หวางเห้าก็ยังไม่ยอมเลิกราวี กัดฟันตะคอกอย่างเสียงดัง: “ในตอนนั้นเฉินตงที่เป็นชายหงศ์คนนี้โชคดี ถึงแม้เขาจะเป็นแค่ชาวไร่ชาวสวน พี่สาวผมก็ไม่แคร์ยอมลดตัวลงไปแต่งงานกับเค้า แต่มาตอนนี้ เขามีเงินรวยขึ้นเท่านั้น ก็หย่ากับพี่สาวผม พวกชาวสวนบ้านนอกอย่างพวกคุณ จิตใจแข็งกว่าก้อนหินซะอีก!”
“หุบปาก หุบปากของนายเดี๋ยวนี้นะ ฉันไม่ยอมให้นายว่าลูกชายฉันแบบนี้!” หลี่หลานตะโกนตอบด้วยเสียงสั่นไปทั้งตัว
เห็นหลี่หลานที่อารมณ์ขึ้น ฟ่านลู่ก็รู้สึกร้อนใจด้วย
เปี๊ยก!
ฟ่านลู่ตบไปที่หน้าหวางเห้าหนึ่งที: “คุณรีบออกไปเดี๋ยวนี้นะ!”
“ผม……” หวางเห้ากำลังจะโต้ตอบ
เปี๊ยก!
ฟ่านลู่ตบหน้าหวางเห้าอีกครั้ง: “ฉันบอกให้คุณออกไป!”
ใบหน้าของหวางเห้าบวมแดงครึ่งหน้าแล้ว แต่ถ้าให้เขาสู้กับฟ่านลู่ เขาไม่กล้าจริงๆ
ในใจรู้สึกโมโหอย่างมาก ถ้าไม่ใช่เฉินตงแกล้งจนแล้วหย่ากับพี่สาว ตอนนี้เขาก็หมั้นกับหลินเสว่เอ๋อสำเร็จและเตรียมจะแต่งงานแล้ว
หวางเห้าเปิดปาก กำลังจะตะโกนพูดอีก
เปี๊ยก!
ฟ่านลู่ตบไปอีกครั้ง
หวางเห้ารู้สึกมึน โดนตบไปสามทีจนสมองของเค้ามีเสียงวงๆอยู่ในหัว
นั่งนี่ ผีบ้ารึเปล่า?
เสียงทะเลาะกัน ทำให้หน้าระเบียงมีคนยืนมุงดูกันอย่างสงสัย
ได้ยินเสียงตะโกนของหวางเห้า ทุกๆคนเริ่มขมวดคิ้วและมองอย่างดูถูก แน่นอนว่าพวกเค้ากำลังมองไปทางเฉินตงและหลี่หลานในห้องผู้ป่วย
ส่วนท่าทางที่ดุร้ายของฟ่านลู่ ยิ่งทำให้ทุกคนตกตื่นใจ
“ออกไป! ฉันบอกให้นายออกไป!”
ฝ่ามือของฟ่านลู่ผลักไปที่หน้าอกของหวางเห้า
หลี่หลานจะได้รับผลกระทบมากไปกว่านี้ไม่ได้ ถ้าปล่อยให้หวางเห้ามายุ่งวุ่นวายต่อไป ต้องแย่แน่ๆ
หันกลับไปมองหลี่หลานที่กำลังร้องไห้จนตัวสั่น ฟ่านลู่รีบร้อนไปปลอบโยน: “คุณป้าคะ มีฉันอยู่ ไม่เกิดเรื่องอะไรแน่นอนค่ะ!”
“มีคุณอยู่? นางพยาบาลตัวเล็กๆอย่างคุณจะพลิกฟ้าได้หรือไง?”
หวางเห้ายืดหอยาวๆและตะโกนอย่างโมโห ปกติอยู่บ้านเค้าก็เป็นคนที่ทะนงตัวจนชินแล้ว ตอนนี้ “ดูออก” กับนิสัยที่เลวทรามของเฉินตง วันนี้ถ้าไม่เอาเรื่องให้ถึงที่สุด เขาไม่มีทางหายโมโหง่ายๆอย่างแน่นอน
“นายอย่ามาหาเรื่องอีกเลยนะ ตอนนี้คุณป้าถูกกระทบกระเทือนจิตใจต่อไปอีกไม่ได้แล้ว นายทำอย่างนี้จะทำร้ายเธอนะ” ฟ่านลู่พูดด้วยน้ำเสียงที่ขอร้อง
“ทำร้ายเธอ? ถ้าเธอตายก็ไม่เกี่ยวอะไรกับผม!”
หวางเห้ายกมือขึ้นมาสะบัด: “ชาวสวนแม่ลูกสองคนนี้ บังอาจเอื้อมตระกูลหวางของพวกเรา หลายปีมานี้ ไอ้สัตว์นรกอย่างเฉินตงมันเอาเงินมารักษาผู้หญิงคนนี้จนจะไม่เหลือสมบัติอะไรแล้ว เค้าเคยรู้สึกผิดต่อพี่สาวผมไหม?”
“พอแล้ว!”
ฟ่านลู่แหกปากตะโกนลั่น ขวามือยังกำหมัดไว้แน่นๆอยากจะชกออกไปอีกที
แต่เธอรู้ดีว่า ถึงตนเองจะต่อยเก่งยังไง ก็ตีหวางเห้าให้ตายไม่ได้
“เสี่ยวลู่ ให้เขาออกไป ให้เขาออกไป……” หลี่หลานกัดปากพูดจนเลือดจะออกอยู่แล้ว “ตระกูลของเราไม่เคยเป็นหนี้ตระกูลของเขา ลูกชายของฉันทนทุกข์ทรมานเพราะหวางหนันหนันมามากพอแล้ว นี่เขากำลังใส่ร้ายลูกชายฉัน”
“คุณป้าคะ เดี๋ยวฉันให้เขาออกไปเดี๋ยวนี้เลยค่ะ คุณป้าต้องทนไว้นะคะ” ฟ่านลู่ก็ตาแดงไปด้วย
กิริยาอาการหลี่หลานแสดงต่อเธอ เธอรู้สึกได้
แม้แต่นางพยาบาลยังรู้สึกสงสารได้ถึงขนาดนี้ มันน่าสงสารเหมือนที่ชายคนนี้ที่อยู่ตรงหน้าพูด?
ในเวลานี้พอดี
คุณหมอจางก็วิ่งตามพยาบาลที่นำทางให้ วิ่งมาอย่างรีบร้อน
ผลักดันกลุ่มคนออกและเห็นภาพนี้ คุณหมอจางตกใจจนขนหัวลุก
ครั้งก่อนหลี่หลานถูกกระทบกระเทือนจิตใจจนอาการป่วยกำเริบ ทำให้เกือบจะช่วยชีวิตกลับมาไม่ได้
ครั้งนี้ยังมาอีก?
เห็นหวางเห้าโวยวายเสียงดังมาก คุณหมอจางรีบร้อนเข้าไปดุว่า: “ที่นี่คือโรงพยาบาลนะ คุณคิดว่าที่นี่คือบ้านของคุณหรือไง?”
หวางเห้าโดนดุจนตะลึงไปสักพัก
คุณหมอจางหันหน้าไปมองทางฟ่านลู่: “คุณคือนางพยาบาลที่คุณเฉินจ้างมาใช่ไหม? เคยบอกแล้วไม่ใช่หรือครับ? ว่าอย่าให้คุณหลี่ถูกกระทบกระเทือนจิตใจอีก”
ฟ่านลู่ตอบด้วยความอัดอั้นใจ: “ฉัน ฉันห้ามเขาแล้ว แต่เขาไม่ยอมไป”
“ทำไมผมต้องไป? คุณแค่นางพยาบาลเล็กๆคนหนึ่งที่ไอ้หนุ่มบ้านนอกชาวสวนชาวไร่เค้าจ้างมาดูแลแม่ของเขา คุณจะมาห้ามผมไม่ให้มาทวงความยุติธรรมให้พี่สาวได้ยังไง?” หวางเห้าตะโกนอย่างเสียงดัง
“พอแล้ว!”
คุณหมอจางโกรธและดุดังๆ: “คำนึงก็ชาวสวนบ้านนอก คนบ้านนอกไม่ใช่แพะรับบาปนะ! มารยาทเช่นนี้อย่างคุณ ยังมีหน้าพูดคำพูดเช่นนี้หรือครับ?”
หวางเห้าหน้าแดงและกำลังจะโต้ตอบกลับ
คุณหมอจางขี้เกียจจะพูดให้เสียเวลาอีก รีบยกมือขึ้นมาโบกและสั่งการ: “รีบเรียกรปภ.ขึ้นมาลากตัวคนๆนี้ออกไป!”
“คุณ คุณมีสิทธิ์อะไรมาทำแบบนี้?” หวางเห้าตกใจ
คุณหมอจางพูดด้วยน้ำเสียงที่โมโห: “ในฐานะที่ผมเป็นหมอใหญ่โรงพยาบาลแห่งนี้! แม้แต่ผู้อำนวยการโรงพยาบาลมาก็ห้ามผมไม่ได้หรอก!”
หวางเห้าโมโหอย่างมาก
แต่คุณหมอจางก็ยังตะโกนด่าอย่างไม่หยุดยั้ง: “คุณเฉินมาเจอกับครอบครัวของคุณ นั่นแหล่ะคือความซวยที่แท้จริง! คุณหลี่พักรักษาที่โรงพยาบาลนานขนาดนี้ ผมเป็นหมอประจำตัวที่รักษาเธอ ก็เห็นทุกอย่างกับตาตัวเอง ครั้งไหนที่ไม่ใช่คุณชายหลี่มาดูแลคุณผู้หญิงหลี่ด้วยตนเอง? พี่สาวคุณและพวกคุณเคยมากี่ครั้ง?”
“แม่คุณมาหาผมที่โรงพยาบาล ถามว่าแม่ของคุณเฉินจะหมดลมหายใจเมื่อไหร่ พี่สาวคุณเอาเงินที่จะใช้รักษาแม่ของเขาไปให้ทางบ้านของพวกคุณ ตอนนี้คุณยังหน้าด้านมาหาเรื่องคุณหญิงหลี่ที่นี่อย่างไร้ยางอาย”
“ครอบครัวของคุณรู้จักอายบ้างไหม?”