The Winner is king ผู้ชนะเลศคือราชา - ตอนที่ 39
บทที่ 39 ผู้หญิงสามคนพูดคุยกัน
ลังเลอยู่สักพัก เฉินตงอัดอั้นความคิดที่อยากจะบอกกู้ชิงหยิ่งทันที
เขามองดูกู้ชิงหยิ่งที่กำลังตั้งใจขับรถอยู่ ยิ้มและพูด
“เสี่ยวหยิ่ง อีกสักช่วงเวลาหนึ่งผมมีอะไรเซอร์ไพรส์คุณ”
กู้ชิงหยิ่งเป็นเพื่อนของเขา เรื่องหลายๆอย่าง ควรจะบอกความจริงให้เขารู้
เขาไม่อยากให้สิ่งที่กำลังประสบอยู่ในเดือนนี้ ในตอนที่กู้ชิ่งหยิ่งเผชิญหน้ากับเขาแล้ว ทำให้เธอรู้สึกสงสาร
“เซอร์ไพรส์?”
กู้ชิงหยิ่งกระตุกคิ้ว ไม่ตามซักถาม แต่ยิ้มๆและพยักหน้า: “โอเค”
ขับรถเข้าไปในที่จอดรถของโรงพยาบาล
หลังจากลงจากรถแล้ว กู้ชิงหยิ่งให้เฉินตงช่วยถือของ
เปิดกระเป๋าเดินทางออกมา เฉินตงตกตะลึงจนหยุดชะงักกับที่
เต็มไปด้วยผลไม้และอาหารเสริมบำรุงร่างกาย ยัดเต็มกระเป๋าทั้งใบ
“มาเยี่ยมคุณป้าครั้งแรก จะเสียมารยาทไม่ได้ แค่ซื้ออะไรมานิดหน่อย ไม่รู้คุณป้าชอบหรือเปล่า?” กู้ชิงหยิ่งยิ้มและพูดไปด้วย
หัวใจของเฉินตงกระตุกอย่างแรงทีหนึ่ง
คำพูดล้อเล่นคำเดียวของกู้ชิงหยิ่ง เหมือนเข็มเล็กๆทิ่มเข้าไปในใจของเขา
เขาเข้าใจแม่มาก ถึงแม้กู้ชิงหยิ่งจะมาด้วยมือเปล่า แม่ของเขาต้องดีใจอย่างแน่นอน
เมื่อเทียบความเคารพนับถือกับกู้ชิงหยิ่งแล้ว บางคน สามปีไม่เคยมาเยี่ยม ในปากยังคอยด่าว่า “ตาแก่ผีบ้า”
คนหนึ่งคือเพื่อน คนหนึ่งคืออดีตภรรยา ทั้งสองคน แตกต่างกันราวฟ้ากับดิน
“เป็นอะไร?”
กู้ชิงหยิ่งถาม
“ไม่มีอะไร คุณซื้อมาเยอะเกินไปแล้ว!” เฉินตงพยายามยิ้มไว้ ถือของทั้งหมดเข้าไปในโรงพยาบาล
ส่วนกู้ชิงหยิ่งถือผลไม้ถึงเดียวและเดินตามอยู่ด้านหลัง รีบพูด: “เฉินตงคุณรอฉันด้วย ฉัน ฉันรู้สึกตื่นเต้น คุณเข้าไปพร้อมกับฉันนะ”
ในห้องผู้ป่วย
หลี่หลานกำลังพูดคุยกับฟ่านลู่อย่างมีความสุข
ตั้งแต่ที่ฟ่านลู่มาดูแล อาการป่วยของหลี่หลานดีขึ้นมาก สีหน้าก็อมชมพูขึ้นมาก
หลี่หลานชอบฟ่านลู่เหมือนลูกตัวเองเลย
ส่วนฟ่านลู่ก็รู้สึกถึงจุดนี้ ดังนั้นจึงตั้งใจดูแลหลี่หลานอย่างดี
เฉินตงผลักประตูเข้ามา เห็นทั้งสองคนพูดคุยกันอย่างมีความสุขพอดี
“คุณเฉิน”
ฟ่านลู่รีบลุกขึ้นยืน รีบเข้ามาช่วยถือของบนมือของเฉินตง
“ตงเอ๋อ ทำไมซื้อของมาเยอะขนาดนี้ล่ะ?” หลี่หลานพูดด้วยความแปลกใจ
หลายปีมานี้ เธอมีชีวิตที่ลำบากมาตลอด ถึงแม้หลังจากที่เฉินตงรวยแล้ว เพราะเธอยังเจ็บป่วยอยู่ จึงไม่เคยได้รับอะไรดีๆเลย
เห็นเฉินตงซื้อของมาเยอะขนาดนี้ เธอรู้สึกสงสารเอ็นดู
นี่ต้องใช้เงินของลูกไปตั้งเท่าไหร่?
“เพื่อนของผมซื้อมาครับ”
เฉินตงยิ้มและหันกลับไปเรียกกู้ชิงหยิ่ง
กู้ชิงหยิ่งกลับค่อยๆเดินเข้าไปด้วยความเกร็งกลัว เหลือบตาไปมองหน้าเฉินตง
บอกให้คุณรอก่อนรอก่อน แต่ก็รีบร้อนเข้ามาเองก่อน ตอนนี้ทำให้เธอต้องตื่นเต้นขนาดนี้
แต่ว่า เธอก็ยิ้มออกมาอย่างรวดเร็ว: “คุณป้าสวัสดีค่ะ หนูเป็นเพื่อนของเฉินตงค่ะ ชื่อกู้ชิงหยิ่ง”
“สวัสดี สวัสดี”
หลี่หลานยิ้มแย้มอย่างอ่อนโยน แต่หันไปมองเฉินตง แล้วเปลี่ยนสีหน้าไปอีกแบบ: “เฉินตง ลูกยังไม่รีบไปช่วยเธอถือของอีก?”
ภาพนี้ ทำให้กู้ชิงหยิ่งหัวเราะออกมานิดๆ สีหน้าที่ตื่นเต้นโล่งใจขึ้นมามาก
เธอรีบยื่นผลไม้ไปบนมือของเฉินตง จากนั้นเดินเข้าไปตรงหน้าของหลี่หลานด้วยหน้าตาที่ยิ้มแย้ม: “มีแต่คุณป้าที่รู้จักเอ็นดูคนอื่น”
หลี่หลานยิ้ม มองดูหน้าตาของกู้ชิงหยิ่งแล้ว รู้สึกคุ้นๆ: “คุณกู้ ป้าเคยเห็นหนูที่ไหนรึเปล่า?”
เฉินตงวางผลไม้ลง กำลังจะอธิบาย
กู้ชิงหยิ่งรีบพูดขึ้นมากะทันหัน: “ไม่มีนี่คะ หนูก็เพิ่งเจอหน้าคุณป้าครั้งแรก”
เฉินตงมองหน้ากู้ชิงหยิ่งด้วยความแปลกใจ
ตอนที่เรียนมหาลัยสี่ปี กู้ชิงหยิ่งเคยเจอแม่อยู่บ่อยครั้ง อีกทั้งในงานแต่งเมื่อสามปีก่อน เธอยังเป็นเพื่อนเจ้าสาวอีกด้วย
เพราะสามปีไม่เคยได้เจอกัน คุณแม่อายุเยอะขึ้น จึงนึกไม่ค่อยออกในทันทีทันใด
กู้ชิงหยิ่งทำไมไม่ยอมรับล่ะ?
หลี่หลานยิ้มๆและพยักหน้า ไม่ซักถามอีกต่อไป
แต่หันไปพูดกับฟ่านลู่: “เสี่ยวลู่ รบกวนหนูไปรินน้ำแก้วหนึ่งให้คุณกู้หน่อยนะ”
“ได้ค่ะคุณป้า” ฟ่านลู่เริ่มยุ่งๆขึ้นมา ไม่เพียงแค่รินน้ำให้กู้ชิงหยิ่ง ยังหยิบผลไม้ออกมาบางส่วน เอาไปล้างน้ำด้านนอก เตรียมเอาไว้รับแขก
ทำโน่นทำนี่ เฉินตงดูแล้วรู้สึกพอใจมาก
อีกทั้งเขายังดูออก แม่พอใจฟ่านลู่มาก
แต่กู้ชิงหยิ่ง มองดูฟ่านลู่แล้ว อดใจไม่ได้ที่จะขมวดคิ้ว
แต่ว่า ไม่นานนัก กู้ชิงหยิ่งก็กลับมายิ้มแย้มเหมือนเดิม จับมือหลี่หลานไว้และคุยกันอย่างสนิทสนมขึ้นมา
เฉินตงนั่งอยู่ข้างๆ มองดูกู้ชิงหยิ่งและหลี่หลานที่คุยกันอย่างมีความสุข จึงไม่รบกวนเขาสองคน
ไม่นานนัก ฟ่านลู่ถือผลไม้กลับมา
ผู้หญิงทั้งสามคน คุยกันอย่างมีความสุขมากกว่าปกติ
กู้ชิงหยิ่งก็ไม่ได้เล่นตัว แต่กลับเรียบง่ายเข้ากับคนได้ดี อีกทั้งยังรับแอปเปิ้ลจากมือฟ่านลู่มาปอกเปลือก แล้วหั่นเป็นชิ้นเล็กๆ เพื่อให้หลี่หลานกินเข้าปากง่ายๆ
ไม่นาน เวลาหนึ่งชั่วโมงผ่านไป
เพราะเวลาดึกมากแล้ว เฉินตงพูดก่อนว่าจะกลับแล้ว
กู้ชิงหยิ่งพยักหน้าและยิ้มพูดกับหลี่หลาน: “คุณป้าพักผ่อนเยอะๆนะคะ ต่อไปหนูจะมาเยี่ยมท่านบ่อยๆ”
“ดีดีดี”
หลี่หลานพยักหน้า แล้วพูดกับเฉินตง: “ตงเอ๋อ ฟ้ามืดแล้ว อย่าลืมส่งคุณกู้กลับบ้านด้วยล่ะ”
“รู้แล้วครับแม่”
เฉินตงพยักหน้า
เดินออกจากห้องผู้ป่วยแล้ว ในที่สุดเฉินตงก็อดใจไม่ไหวที่จะถาม: “จริงสิ เมื่อกี้ทำไมคุณไม่บอกแม่ผม คุณกับผมเป็นเพื่อนนักเรียนกัน ยังเคยเป็นเพื่อนเจ้าสาวให้ผมอีกด้วย”
“ผู้ชาย ทำอะไรคิดไม่รอบคอบเลย”
กู้ชิงหยิ่งเหล่ตามองเฉินตง: “อาการป่วยของคุณป้าในตอนนี้ กระทบกระเทือนจิตใจได้เหรอ? ถ้าฉันยอมรับว่าเคยเป็นเพื่อนนักเรียนยังเคยเป็นเพื่อนเจ้าสาวอีก จะทำให้เขานึกถึงแต่เรื่องเก่าๆนึกถึงเรื่องคุณกับหนันหนันรึไง?”
เฉินตงตกตะลึงไปสักพัก
ถ้าไม่ใช่เพราะกู้ชิงหยิ่งตักเตือน เขายังนึกไม่ถึงจุดนี้
ไม่รอให้เขาตื่น ข้างหูก็มีเสียงคำพูดแปลกๆของกู้ชิงหยิ่งดังขึ้น
“จริงสิ คุณยังไม่บอกฉันเลย ฟ่านลู่ที่ดูแลคุณป้าคนนั้น คือใครกัน?”
เฉินตงยักคิ้ว: “นางพยาบาลที่จ้างมาดูแลแม่ไงครับ”
“ใช่นางพยาบาลจริงๆเหรอ?” กู้ชิงหยิ่งรู้สึกมีลางสังหรณ์และบ่นไปด้วย: “งั้นทำไมฉันรู้สึกว่าคุณป้าดีกับเธอมากเลยล่ะ? เมื่อกี้ตอนที่พูดคุยกัน คุณป้าคุยกับเธอ ยังเยอะกว่าที่คุยกับฉันเลยนะ”
เฉินตงพูดอะไรไม่ออก กู้ชิงหยิ่งคิดมากเกินไปรึเปล่า?
แต่เขาก็ยังอธิบายว่า: “บางทีอาจจะเป็นเพราะฟ่านลู่ดูแลได้ดี อีกอย่างตัวเธอก็ดูน่าสงสารด้วย แม่ผมคงจะเป็นเพราะรู้เรื่องราวของเธอด้วย”
“เรื่องอะไร?” กู้ชิงหยิ่งถาม
เฉินตงส่ายหัว แต่ไม่เอ่ยปากพูด
ฟ่านลู่เป็นผู้หญิง ผู้หญิงรักสวยรักงามที่สุด ถ้าไม่ใช่เพราะความจำเป็น ก็ไม่ทำให้มือของตนเองด้านหนาขนาดนี้? นี่คือเรื่องส่วนตัวของฟ่านลู่ เขาควรจะต้องให้เกียรติเธอบ้าง
“ชิ…..ไม่พูดก็ไม่ต้องพูด”
กู้ชิงหยิ่งทำปากจู๋ “ในเมื่อเป็นแค่นางพยาบาลของคุณป้า งั้นก็ไม่เป็นไร”
“อะไรไม่เป็นไร?” เฉินตงถามด้วยความไม่เข้าใจ
กู้ชิงหยิ่งรีบหลบสายตา กำลังจะเปลี่ยนเรื่องพูด
ทันใดนั้น เสียงตะโกนเรียกก็ดังขึ้น
“ชิงหยิ่ง?!”
ทั้งสองคนตกใจทันที เงยหน้ามาดู
ที่ที่ไม่ไกลนัก หวางหนันหนันถือแก้วเก็บน้ำร้อน กำลังมองดูเขาสองคนอย่างประหลาดใจ