The Winner is king ผู้ชนะเลศคือราชา - บทที่ 248 สุดจะต้าน
เฉินตงจ้องมองไปที่ป๋าด้วยความประหลาดใจ
มันเกี่ยวกับการที่เขาจะออกไปจากคุกมืดนี้ได้หรือไม่
นี่คงถือว่าเป็นเรื่องใหญ่ในคุกมืดนี้
ป๋ายังกล้าช่วยเขาอีก ?
“อย่าแปลกใจเลย ใครใช้ให้ฉันเป็นหนี้บุญคุณคุนหลุนกันล่ะ?”
ป๋ามองออกว่าเฉินตงกำลังคิดอะไร ยิ้มอย่างไม่ใส่ใจ
เฉินตงอ้ำอึ้ง เต็มไปด้วยความสงสัย
เขาสงสัยมาโดยตลอด ว่าระหว่างป๋ากับคุนหลุนมีความสัมพันธ์ยังไงกัน
คนคนหนึ่งที่ชำนาญกับกระบวนท่าการต่อสู้ของคุนหลุน และเพราะคุนหลุน ชายคนนี้ไม่ลังเลที่จะช่วยเขาโกง ความสัมพันธ์ระหว่างเขากับคุนหลุนมันแน่นแฟ้นแค่ไหนกัน ?
“ขอบคุณครับ”
แต่แล้ว เฉินตงก็เก็บความรู้สึกนี้เอาไว้ แล้วหันหลังเดินไปยังคุกNO.7
ขณะที่เดินไปนั้น เขาก็มองดูสมบัติที่ป๋าให้เขา
เพียงแค่ได้เห็น เขาก็ขมวดคิ้วแน่นขึ้นทันที
กระจก?
มองดูกระจกในมือ เฉินตงก็งงงวยไม่เข้าใจว่ามันคืออะไร
กระจกเงามันเป็นสิ่งต้องห้าม ที่ไม่ควรมีอยู่ในคุกมืดนี้
เพราะมันจะกลายเป็นอาวุธในการสังหารได้
“ป๋าให้สิ่งนี้กับฉัน เพื่อให้ฉันใช้มันฆ่างูเหลือม?”
เฉินคงยังคงสงสัย กระจกในมือมีขนาดเท่าถั่ววอลนัท สะดวกกับการเก็บซ่อนได้ง่าย
เมื่อเทียบกับอาวุธอื่นๆ กระจกนี้ซ่อนและพกพาได้ง่ายกว่ามาก
แต่ว่า กระจกบานเล็กแค่นี้ กับการต่อสู้กับจ่าฝูงอย่างงูเหลือม ใช้เป็นอาวุธสังหารได้จริงเหรอ ?
หรือบางที……มันมีวิธีใช้อย่างอื่น ?
เฉินตงเลิกคิ้ว ไม่เข้าใจ แต่ก็เก็บกระจกไว้ในกระเป๋า
ในตอนที่เฉินตงถูกนำตัวเข้าคุกNO.7นั้น
นักโทษในคุกNO.7 ต่างก็ส่งเสียงโห่ร้องดังลั่นแสบแก้วหูไปหมด
บรรยากาศ ดุเดือดร้อนระอุขึ้นมาทันที
และบนเวทีที่ลานกิจกรรม มีรังสีแสงทรงพลังจ้องมองมา
มีร่างหนึ่งร่างยืนตระหง่านอยู่บนนั้น
“ขึ้นไปเถอะ”
ผู้คุมเอ่ยพูดอย่างเรียบเฉยไปคำหนึ่ง
เฉินตงพยักหน้า แล้วเดินไปยังเวที
ภายในเรือนจำ เสียงโห่ร้องก้องกังวาน
บ้างก็มีเสียงคำราม บ้างก็มีเสียงวิพากษ์วิจารณ์
แต่ภาษาที่ใช้ไม่เหมือนกับภาษาในคุกNO.9 นักโทษในคุกNO.7ใช้ภาษาที่แตกต่างกัน และเมื่อมาอยู่รวมกัน ทำให้เฉินตงไม่รู้ว่าพวกเขากำลังพูดอะไรกันอยู่
รู้เพียงว่า……เสียงดังและหนวกหู!
ดวงตาของเฉินตงจับจ้องมองไปยังงูเหลือมที่อยู่บนเวที
นั่นเป็นร่างที่กำยำ
ไม่ได้กำยำใหญ่โตเท่ากับของหมียักษ์
แต่ก็ผอมกว่าจ่าฝูงสองตัวที่เขาเคยสู้ด้วยมาก่อนหน้า
บวกกับรูปลักษณ์ที่ธรรมดา หากโยนลงไปในฝูงชน ก็ไม่ต่างอะไรกับคนอื่นๆ ยากที่จะหาตัวเจอด้วยซ้ำ
แต่ เฉินตงก็ไม่มีนิสัยที่ชอบตัดสินรูปลักษณ์คนจากภายนอก
เสือซุ่มในคุกมืดนี้ ที่สามารถเป็นจ่าฝูงในเรือนจำได้ ก็ต้องเป็นราชาแห่งฝูงสัตว์ทั้งปวง
ต่อให้เป็นคนธรรมดา หากถูกโยนสู่โลกภายนอก ไม่แน่ว่าก็อาจจะกลายเป็นมือสังหารได้
“เร็วหน่อยได้ไหม?”
เสียงที่แหบแห้ง ดังขึ้นมาจากบนเวที
เฉินตงยกยิ้มเล็กน้อย แล้วเร่งฝีเท้าเดินไป
เมื่อเข้าใกล้มากขึ้น เฉินตงก็สังเกตเห็นความผิดปรกติ
นั่นคือ……ตาของงูเหลือม !
ดวงตาของเขาแวววาวเป็นพิเศษ ไม่ใช่ความอิ่มเอิบแวววับของนัยน์ตา แต่เป็นความแวววาวที่มองดูก็รู้ว่ามันผิดปรกติ
เพราะมันแวววาวเกินไป ทำให้เลนส์ตาของงูเหลือมมีความขุ่นมัว และไม่รู้สึกถึงการถูกเพ่งมอง
เมื่อคิดไปถึงคำเตือนของหมียักษ์ การเผชิญหน้ากับงูเหลือมในตอนนี้
เฉินตงรู้สึกไม่มั่นใจเล็กน้อย
คนในคุกมืดต่างก็รู้ว่าดวงตาเป็นจุดอ่อนของงูเหลือม
แต่งูเหลือมกลับกลายเป็นจ่าฝูงในคุกNO.7 ชัดเจนว่าจุดอ่อนที่ตาของเขา ต่อให้มีคนจำนวนไม่น้อยที่รู้ ก็ทำอะไรเขาไม่ได้
ซึ่งมันแตกต่างจากแผลเก่าที่เท้าซ้ายของจ่าฝูงในคุกNO.8
“ซี๊ด~”
ในตอนที่เฉินตงกำลังสงสัยอยู่นั้น ข้างใบหูก็มีเสียงคล้ายกับเสียงงูดังขึ้น
ชั่วพริบตา เฉินตงขนลุกไปทั้งตัว ไอสังหารที่รุนแรงโอบล้อมไปรอบตัว
จังหวะที่ได้สตินั้น
เฉินตงก็ต้องสะดุ้งตกใจ เมื่อเห็นว่างูเหลือมได้พุ่งเข้ามาหาตัวเองแล้ว
เร็วราวกับสายฟ้าฟาด
และลิ้นของเขา ก็โผล่ออกมาจากปาก พร้อมส่งเสียงขู่ฟ่อ
ในขณะนี้เอง เฉินตงราวกับเห็นภาพถูกงูเหลือมจับล็อกเอาไว้เหมือนเหยื่อ
หวืด!
ชั่วพริบตา
งูเหลือมก็มาอยู่ตรงหน้าของเฉินตงแล้ว มือขวาที่เรียวยาวเร็วดั่งสายฟ้าแลบ ยื่นตรงไปข้างหน้า จ้วงไปที่ลูกกระเดือกของเฉินตง
ลมกระโชกแรง
ยังไม่ทันที่จะได้เตรียมการรับมือ พอออกตัว ก็คือท่าไม้ตาย !
ปัง!
รูม่านตาของเฉินตงกระชับ เขายกมือขวาขึ้น สกัดกั้นการจู่โจมของงูเหลือม
แต่
หวืด……
เสียงลมกระโชกแรงอย่างต่อเนื่อง
ดวงตาของงูเหลือมเป็นประกาย มือของเขาราวกับงูเหลือมสองตัว กวัดแกว่งไปมาอย่างรวดเร็ว และโจมตีไปที่เฉินตงอย่างต่อเนื่อง
สีหน้าของเฉินตงก็เปลี่ยนไป สองมือของเขาก็ตั้งขึ้นเพื่อป้องกันอย่างต่อเนื่องเช่นกัน
สังเวียนชีวิตเพิ่งจะเริ่มต้นขึ้น แต่เฉินตงกลับตกเป็นเบี้ยล่าง
ภายในเรือนจำนี้ นักโทษทุกคนต่างสนุกสนานกับการต่อสู้ที่ดุเดือดบนสังเวียน
แต่ละคนต่างก็ตื่นเต้นกันจนหน้าดำหน้าแดง เสียงโห่ร้องที่ออกมาก็แหบแห้ง
“สมควรตาย ทำไมเกมมันเร็วอย่างนี้?”
บนเวที เฉินตงอกสั่นขวัญแขวน หน้าผากมีเม็ดเหงื่อผุดไหลออกมา
งูเหลือมโจมตีอย่างว่องไว ทำให้เขารู้สึกตื่นกลัวราวกับจะรับมือไม่ไหว
แม้ว่าแขนของเขาจะปัดป้องอย่างรวดเร็วด้วยความรู้สึกเมื่อยล้าแล้ว แต่ก็ยังรู้สึกแทบจะตามไม่ทันกับฝีมือของงูเหลือม
จากนั้น
“ความเร็วของนาย ได้แค่นั้นเหรอ?”
ทันใดนั้นเสียงหยอกล้อก็ดังขึ้น
รูม่านตาของเฉินตงกระชับแน่นขึ้น เห็นงูเหลือมที่ยิ้มเยาะอยู่ตรงหน้า อีกทั้งลิ้นสีแดงของเขาก็แลบออกมาราวกับงู
วินาทีต่อมา
ปัง!
มืออันทรงพลังของงูเหลือมก็เร่งเร็วขึ้น แล้วสับเข้าที่ไหล่ซ้ายของเฉินตง
เฉินตงร้องลั่นออกมา ไหล่ซ้ายเจ็บปวดราวกับถูกค้อนหนักทุบเข้าใส่ และรู้สึกเหมือนไหล่จะแตกเป็นชิ้นเล็กๆ
ในขณะเดียวกันนั้น
งูเหลือมก็กระโดดขึ้นกลางอากาศ และถีบเข้าที่หน้าอกของเฉินตง
พร้อมกับเสียงที่ดังขึ้นมา เฉินตงกระเด็นลอยล่องราวกับถุงกระดาษที่ปลิดปลิว แล้วตกลงไปยังขอบเวที
ในตอนนั้นเอง ใบหน้าของเฉินตงก็ซีดเผือด
หน้าอกแน่นราวกับถูกก้อนหินกดทับ และเขารู้สึกได้ว่าซี่โครงของเขาน่าจะหัก จากการถูกกระแทกครั้งนี้
“พรืด!”
เลือดกระอักออกมาเต็มปาก
เฉินตงค่อยๆลุกขึ้น แล้วจ้องมองไปที่งูเหลือมอย่างหวาดกลัว
นี่……เป็นความเร็วจริงๆของเขาเหรอ ?
เร็วจนฉันเองก็ไม่สามารถต้านทานเอาไว้ได้ ?
“ซี๊ด~”
งูเหลือมยิ้มเยาะ ใบหน้าเต็มไปด้วยความเย่อหยิ่ง:“ไอ้หมียักษ์นั่นคงบอกจุดอ่อนของฉันให้นายรู้แล้วใช่ไหม?”
ในขณะที่พูด เขายกนิ้วขึ้นชี้ไปที่ดวงตา และพูดอย่างไม่สะทกสะท้านว่า :“ดวงตาของฉัน กลัวแสงจ้า หากถูกแสงจ้าส่องเข้าใส่ จะสูญเสียการมองเห็นในช่วงเวลาสั้นๆ”
แสงจ้า?!
เฉินตงนิ่งอึ้งไป
งูเหลือมที่อยู่ตรงหน้าใบหน้าเปี่ยมไปด้วยความอวดดี หัวเราะเยาะเย้ยอยู่กับที่แล้วหมุนตัวไปรอบๆ
“แต่นายดูสิ ในคุกมืดที่มืดมนแบบนี้ แม้แต่ท้องฟ้าก็ยังมืดมิด หากไม่ใช่เพราะสังเวียนชีวิตนี้ ไฟที่อยู่ด้านบนและตรงเวทีก็คงไม่เปิดสว่างจ้าแบบนี้”
“เพราะฉะนั้น นายคิดว่าจุดอ่อนของฉันนี้ ยังเป็นจุดอ่อนอยู่ไหม?”
คำพูดเหล่านี้ ล้วนเต็มไปด้วยความเย่อหยิ่งและหยามเหยียด
เพราะงูเหลือมมั่นใจว่า ในคุกมืดนี้ หากต้องการจะทำร้ายดวงตาของเขา และทำให้มองไม่เห็นไปชั่วขณะนั้นโอกาสที่จะเป็นไปได้นั้นน้อยมาก เพราะฉะนั้นจุดอ่อนของเขาจึงไม่จำเป็นที่จะต้องปิดบัง
“พรืด!”
เฉินตงหัวเราะออกมาทันที
ดวงตาจ้องเขม็งไปที่งูเหลือม ยกมือชี้ขึ้นไปยังเหนือศีรษะ :“นายพูดเองไม่ใช่เหรอ ว่าดวงไฟที่ส่องแสงจ้าเล็กน้อยพวกนี้ทำให้นายสูญเสียการมองเห็นได้ชั่วขณะ”