The Winner is king ผู้ชนะเลศคือราชา - บทที่ 333 ความรู้สึก
กูหลังกับฟ่านลู่ทำหน้าตาสงสัย
แต่ท่านหลงที่นั่งอยู่ตรงที่นั่งคนขับนั้นกลับตกตะลึงไปเรียบร้อยแล้ว
เต้าจูน
ลุง
ท่านหลงพยายามใช้สมองทั้งหมดที่มีคิดทบทวน แต่เขากลับนึกออกเพียงแค่ชายที่รูปร่างสูงใหญ่คนหนึ่ง ที่ดูแล้วพอจะมีความเชื่อมโยงกับสองสิ่งนี้ได้
เขา……กลับมาแล้วจริงๆเหรอ?
ทันใดนั้น ท่านหลงก็สีหน้าซีดเผือด
เขาสูดหายใจเข้าเต็มปอดหนึ่งครั้ง แล้วพูดออกมาด้วยความโล่งใจ : “ไม่แน่ว่า ภารกิจปกป้องคุณชายในครั้งนี้ อาจจะสำเร็จแล้ว !”
กูหลังและฟ่านลู่หน้าถอดสีพร้อมกัน
การคุ้มกันของคุนหลุนและฟ่านลู่ รวมไปถึงทีมเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยของเฉินเต้าหลิน และทีมเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยของคลับสี่ยิ่น ยังไม่อาจวางใจได้
แต่คนเพียงคนเดียว กลับทำให้ท่านหลงพูดคำพูดเช่นนี้ออกมาได้ ?
ทันใดนั้น บรรยากาศภายในรถก็ดูแปลกไปทันที
ขบวนรถที่แล่นมาอย่างทรงพลัง มุ่งหน้าไปยังสุสานที่แม่ของเฉินตงถูกฝังอยู่
ซึ่งถือว่าสามารถดึงดูดความสนใจของผู้คนที่อยู่ระหว่างทางได้เป็นอย่างดี และมีคนจำนวนไม่น้อยที่ถ่ายรูปลงอินเทอร์เน็ต
เรื่องนี้ เฉินตงเองก็ขี้เกียจสนใจ
เพื่อรักษาชีวิตเอาไว้ หากต้องทำอะไรที่เกินกว่าเหตุก็จำเป็นต้องทำ
หลังจากเฉินตงพาขบวนรถออกจากคลับสี่ยิ่น
ก็มีคลื่นลูกใหญ่ ที่สั่นสะเทือนไปถึงตระกูลใหญ่ๆ ทุกตระกูลทันที
เมืองหลวง ในบ้านตระกูลหลี่
หลี่เต๋อซานนั่งมองจอคอมพิวเตอร์ด้วยความโมโห
ในคอมพิวเตอร์ เป็นคลิปวิดีโอในขณะที่เฉินตงกำลังพาขบวนรถแล่นออกจากคลับสี่ยิ่น
“เขาเสียสติไปแล้วเหรอ? เขาไม่กลัวตายหรือยังไง ? เขาจะไปไหนกันแน่ ?”
คำถามเกิดขึ้นในสมองของหลี่เต๋อซานไม่หยุด ทำให้ตัวของเขาสั่นเทาอยู่ตลอดเวลา
เขาปรารถนาให้เฉินตงตาย หลังจากประกาศภารกิจลอบสังหารเฉินตงในดาร์กเว็บแล้ว ตระกูลหลี่ก็ตั้งตารอฟังข่าวดีเกี่ยวกับการเสียชีวิตของเฉินตง
สำหรับหลี่เต๋อซานแล้ว ในขณะที่เขาตั้งตารอให้เฉินตงตาย เขาก็เสพสุขอยู่กับการที่เฉินตงต้องคอยใช้ชีวิตอยู่อย่างหลบๆ ซ่อนๆ ในทุกๆ วันอีกด้วย
สิ่งนี้ทำให้เขารู้สึกเหมือนได้ระบายความแค้น !
ตอนที่พ่อยังมีชีวิตอยู่ เพื่อที่จะให้เฉินตงเข้ามาดูแลตระกูลหลี่ ถึงขนาดดึงตระกูลหลี่ทั้งตระกูลลงไปก้มหัวให้กับเฉินตง
ไม่ว่าจะเป็นตระกูลหลี่ หรือตัวเขาเอง หลี่เต๋อซาน ไม่เคยต้องรู้สึกคับข้องใจเช่นนี้มาก่อน
ตอนนี้พ่อได้จากโลกนี้ไปแล้ว หลี่เต๋อซานเป็นคนดูแลตระกูลหลี่ จึงให้คำมั่นว่าจะต้องฆ่าเฉินตงให้ได้
เขาชอบความรู้สึกที่ถือไพ่เหนือกว่า และคอยเฝ้าดูเฉินตงเข้าใกล้ความตายทีละนิดๆ
ถึงต้องมีจุดจบเช่นนี้ ตระกูลเฉินทั้งตระกูล และหลี่เต๋อซานเอง ก็ไม่รู้สึกสงสารเลยแม้แต่น้อย
แต่ตอนนี้ เฉินตงซึ่งปกติแล้วเอาแต่หดหัวอยู่ในคลับสี่ยิ่นด้วยความหวาดกลัว จู่ๆ กลับออกไปข้างนอกพร้อมด้วยขบวนรถที่ขับออกมาอย่างเปิดเผยและสง่างามอย่างนั้นเหรอ?
สิ่งนี้ทำให้ความสุขที่หลี่เต๋อซานสั่งสมเอาไว้ หายไปต่อหน้าต่อตาทันที
“เขาไม่ควรเป็นเช่นนี้! เขาควรจะหลบซ่อนตัวในคลับสี่ยิ่นด้วยความหวาดกลัว ได้รับการคุ้มกันจากคนพวกนั้น จากนั้นก็เฝ้ารอนักฆ่าเหล่านั้นไปฆ่าเข้าอย่างขวัญหนีดีฝ่อ !”
หลี่เต๋อซานดวงตาแดงก่ำด้วยความแค้น เขากัดฟันกรอด
เพล้ง !
เขาทุบแจกันโบราณในยุคเฉียนหลงที่วางอยู่ข้างๆ เขาจนแตก แล้วพูดด้วยความโมโหว่า : “ก็ดี แกรนหาที่ตายเองนะ พวกนักฆ่าที่คอยซุ่มดูอยู่พวกนั้น จะต้องช่วยสงเคราะห์แกแน่นอน ! ขอเพียงแค่แกตาย ก็ถือว่าฉันแก้แค้นให้กับพ่อได้สำเร็จแล้ว !”
เมืองหลวง ในตระกูลจางและตระกูลฉู่
หลังจากที่เฉินตงพาคนออกจากคลับสี่ยิ่นแล้ว
เจ้าบ้านของทั้งสองตระกูลและคนที่เป็นเสาหลักภายในตระกูล ก็มารวมตัวกันทันที
“เจียนเจีย นี่มันเกิดเรื่องอะไรขึ้นกันแน่? คุณเฉิน ทำไมจู่ๆ ถึงออกมาจากคลับสี่ยิ่น ?”
ใบหน้าของคุณท่านใหญ่ตระกูลฉู่เต็มไปด้วยความตื่นตกใจ และเอ่ยถามฉู่เจียนเจียเสียงดัง
ส่วนคุณท่านใหญ่ตระกูลจางนั้น สีหน้าเคร่งเครียดอย่างที่สุด
ก่อนหน้านี้ทั้งสองตระกูลเป็นเหมือนไฟกับน้ำมัน แต่เป็นเพราะเฉินตง ถึงมีวันนี้ได้ ตอนนี้ทั้งสองตระกูลเป็นเหมือนตั๊กแตนที่ถูกผูกติดไว้กับเชือก
และอีกด้านหนึ่งของเชือกก็คือเฉินตง !
เมื่อถูกผูกติดอยู่กับเฉินตง หากเฉินตงได้ขึ้นเป็นเจ้าบ้านตระกูลเฉิน ตระกูลจางและตระกูลฉู่ก็จะพลอยได้รับอานิสงส์ไปด้วย
แต่ถ้าหากเฉินตงตาย ก็เท่ากับว่าแผนการที่ตระกูลจางและตระกูลฉู่วางเอาไว้ทั้งหมด ต้องพังลงอย่างไม่เป็นท่า
ภารกิจบอลสังหารขององค์กรhidden killers ทำให้ตระกูลจางและตระกูลฉู่รู้สึกหวาดกลัวเป็นอย่างมาก
อีกทั้งตอนนี้ สิ่งที่สำคัญที่สุดก็คือ ต้องปกป้องเฉินตงเอาไว้ให้ได้ !
ขอแค่เฉินตงรอด ความหวังของทั้งสองตระกูลก็ยังคงอยู่ หากเฉินตงตาย ตระกูลจางและตระกูลฉู่ก็ต้องตกที่นั่งลำบาก
ตอนนี้เฉินตงออกจากคลับสี่ยิ่น เห็นได้ชัดว่าเป็นการรนหาที่ตาย
แล้วจะไม่ให้ทั้งสองตระกูลร้อนใจได้อย่างไร ?
ใบหน้าอันงดงามของฉู่เจียนเจียเรียบเฉย เธอก้มหน้าก้มตาแล้วพูดว่า : “หนูเองก็ไม่รู้ ไม่มีใครส่งข่าวให้หนูเลย !”
คุณท่านใหญ่ของตระกูลจางและตระกูลฉู่หันมองจางหยู่หลันพร้อมกัน
“หยู่หลัน ฉินเย่พูดอะไรบ้าง?” คุณท่านใหญ่ตระกูลจางถามด้วยน้ำเสียงเคร่งขรึม
จางหยู่หลันพูดอย่างจนใจว่า : “คุณปู่ค่ะ ตอนที่เกิดเรื่องขึ้น หนูก็ติดต่อฉินเย่ทันที แต่เขาเองก็ไม่รู้เรื่องเหมือนกัน”
“นี่มัน……”
คุณท่านใหญ่ทั้งสองรู้สึกหายใจไม่ออกขึ้นมาพร้อมกัน และรู้สึกเหมือนมีเสียงดังอื้ออึงอยู่ภายในหัว
ตระกูลฉินแห่งซีสู่
ตอนนี้ทุกอย่างอยู่ในความสงบ
หลังจากที่คุณท่านใหญ่ตระกูลเฉินถือดาบไปตายต่อหน้าเฉินตง ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา ตระกูลที่ร่ำรวยที่สุดในซีสู่อย่างตระกูลฉิน ก็พลอยสิ้นอำนาจไปด้วยเช่นกัน
ฉินเย่และฉินเสี่ยวเชียนเป็นคนควบคุมกิจการครึ่งหนึ่งของตระกูลฉิน โดยมีเฉินตงคอยให้การสนับสนุน และกลายเป็นผู้ที่มีสิทธิ์ขาดในตระกูลฉิน
ต่อให้ฉินเย่และฉินเสี่ยวเชียนไม่อยู่ในซีสู่ ก็ยังคงสามารถควบคุมตระกูลฉินเอาไว้ได้
ภายในห้องที่มีแสงไฟสลัวๆ
ฉินเห้อเหนียนวางขวดเหล้าลง จากนั้นจึงหันมองหน้าจอโทรศัพท์ แล้วแสยะยิ้มออกมาอย่างภูมิใจ
“แกคิดจะรนหาที่ตายอย่างนั้นเหรอ? ตายไปซะก็ดี หากแกตายแล้ว ก็ถึงเวลาที่ฉันจะเปลี่ยนแปลงทุกอย่างเสียที ฉันจะฆ่าฉินเย่และฉินเสี่ยวเชียนทิ้งซะ หลังจากนั้น ตระกูลฉินก็จะกลับมาเป็นตระกูลฉินดังเดิม !”
ขณะที่พูด ฉินเห้อเหนียนก็น้ำตาไหลรินออกมา เขายกขวดเหล้าขึ้นดื่ม จากนั้นจึงโยนขวดเหล้าลงบนพื้น : “พ่อครับ พ่อพักผ่อนให้สบายได้แล้วนะครับ !”
ตระกูลจูเก่อ
เจ้าบ้านตระกูลจูเก่อตะโกนใส่โทรศัพท์ด้วยความโมโห
“จูเก่อชิง! ฉันไม่สนว่าทำไมจู่ๆ เฉินตงถึงได้เดินทางออกจากคลับสี่ยิ่น ! ฉันต้องการให้นายตามคุ้มกันเขาให้ถึงที่สุด ถ้าหากเกิดเรื่องร้ายขึ้นในการเดินทางของคุณเฉินครั้งนี้แล้วล่ะก็ นายเตรียมตัวตายกลับมาได้เลย !”
ภาพเหตุการณ์เดียวกัน เกิดขึ้นซ้ำๆ ในตระกูลมั่งคั่งที่เกี่ยวพันกันทุกตระกูล
พายุลูกใหญ่ที่เกิดขึ้น ทำให้ทุกคนตื่นตระหนก
ตอนนี้ทุกคนต่างไม่เข้าใจว่า ทำไมเฉินตงซึ่งกำลังตกอยู่ในอันตรายเช่นนี้ ถึงได้พาตัวเองออกจากคลับสี่ยิ่นโดยไม่เกรงกลัวความตาย ?
นี่มัน รนหาที่ตายชัดๆ !
ขบวนรถเคลื่อนไปด้านหน้าอย่างทรงพลัง
ผู้เห็นเหตุการณ์ต่างอุทานออกมาด้วยความตะลึง
แต่ ขบวนรถที่แต่เดิมมียี่สิบคัน ไม่รู้ตั้งแต่เมื่อไหร่ ที่มีจำนวนรถเพิ่มขึ้นมาในขบวนมากขึ้น จนทำให้ขบวนรถยาวออกไปไกลจนสุดลูกหูลูกตา
และดูเหมือนความแข็งแกร่งนี้จะไม่ลดน้อยถอยลงเลย
ทรงพลัง
น่าทึ่ง
“พี่ตง พี่เสียสติไปแล้วหรือยังไง? รีบกลับไปเร็วเข้า ! กลับไปที่คลับสี่ยิ่นเดี๋ยวนี้ !”
เมื่อได้ยินเสียงของฉินเย่ที่ดูเหมือนกำลังสติแตกที่ดังออกมาจากโทรศัพท์ เฉินตงก็ตอบกลับอย่างเรียบเฉย : “ถ้านายไม่พาคนมาตอนนี้ ก็รีบไสหัวไปซะ”
ตู้ด !
โทรศัพท์ถูกตัดสาย
เฉินตงนั่งนิ่งด้วยความจนใจอยู่ครู่หนึ่ง นี่เป็นเพียงแค่การเดินทางเท่านั้น
เดิมทีคิดว่าขบวนรถของตัวเองนั้นก็ดูจะเกินกว่าเหตุไปหน่อยแล้ว ใครจะไปรู้ว่าฉินเย่และฉินเสี่ยวเชียน จะพาทีมเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยเข้ามาสมทบอีก ?
การต่อสู้ครั้งนี้ เกรงว่าหากไม่ใช่นักฆ่าที่อยู่ในอันดับยมราชขององค์การ hidden killers แล้วล่ะก็ เมื่อเห็นคงจะต้องตกใจจนรีบวิ่งหนีอย่างแน่นอน ?
ขณะที่กำลังรู้สึกจนใจอยู่นั้น จู่ๆ ท่านหลงซึ่งนั่งอยู่ตรงที่นั่งข้างคนขับก็พูดขึ้นว่า
“คุณชาย ดูเหมือนทานโน้นจะมีขบวนรถของตระกูลจูเก่อกำลังมุ่งหน้ามา!”
อะไรนะ ? !
เฉินตงรู้สึกประหลาดใจ : “นายรู้ได้อย่างไร ?”
ท่านหลงชี้นิ้วไปทางด้านหนึ่ง : “นายจูเก่อชิงคนนั้น นั่งมาบนหลังคารถครับ ดูรีบร้อนน่าดู !”
เฉินตงรีบหันมองทางที่ท่านหลงชี้นิ้วไป
ตรงที่ไกลๆ มีขบวนรถกำลังเคลื่อนมาจากถนนอีกสายหนึ่ง แล้วมาหยุดอยู่ตรงทางแยก
ส่วนเรื่องจำนวนรถว่ามีกี่คันนั้น เขาเองก็ไม่แน่ชัด
แต่จูเก่อชิงที่นั่งอยู่บนหลังคานั้น เขาสามารถมองเห็นได้อย่างชัดเจน !
และเหมือนที่ท่านหลงกล่าวจริงๆ ว่า ตอนนี้ใบหน้าอันหล่อเหลาของจูเก่อชิง ดูคร่ำเครียดจนถึงขีดสุดจริงๆ
ดูราวกับเห็นความตายมารออยู่ตรงหน้า…..