The Winner is king ผู้ชนะเลศคือราชา - บทที่ 382 ความแน่วแน่ของหลินหลิ่งตง
เฉินตงก็คิดไม่ถึง หวางหนันหนันที่ไปจากที่นี่แล้วได้กลับมาโดยที่พวกเขาไม่ทันตั้งตัว
มันก็ทำให้เขาขณะที่เดินทางกลับมาคลับสี่ยิ่นนั้น อึดอัดไม่มีความสุข แววตาเต็มไปด้วยความหดหู่
กู้ชิงหยิ่งเห็นท่าทางของเฉินตง รู้สึกสงสารเล็กน้อย
อดไม่ได้ที่จะกล่าวปลอบอย่างอ่อนโยน “มันก็ผ่านไปแล้ว ไม่ใช่เหรอ? ตอนนี้เราก็อยู่ด้วยกัน ในท้องยังมีลูกของเราด้วย”
“ผ่านไม่ได้”
เฉินตงส่ายหัว “สิ่งที่ผมสามารถทำได้ ก็คือไม่ไปแก้แค้นพวกเขา แต่จะให้ผมปล่อยวาง ผมทำไม่ได้”
พฤติกรรมของหวางหนันหนันและคนในครอบครัว มันยังคงฝังแน่นอยู่ในใจ
เฉินตงไม่ใช่คนที่จ้องแต่จะแก้แค้น แต่ก็ไม่ใช่สุภาพบุรุษผู้ยิ่งใหญ่ ที่ไม่ว่าเรื่องอะไรก็ตะโกนคำว่า “ฮาเลลูยา” จากนั้นก็ปล่อยวาง
ตอนที่แม่นอนไม่สบายอย่างหมดหวังอยู่บนเตียง คนของตระกูลหวางเย่อหยิ่งหยาบคาย
ชีวิตของแม่เขา สายตาคนในตระกูลหวาง ยังสู้งานแต่งงานของหวางเห้าไม่ได้เลย
แม้กระทั่ง ในตอนนั้นทุกอย่างก็ผ่านไปและเปลี่ยนไปตามกาลเวลา เขากับกู้ชิงหยิ่งกำลังจะตกลงปลงใจกัน ตระกูลหวางไม่เพียงแต่มาขอเงินก้อนใหญ่ สุดท้ายยังได้แอบวางแผนทำร้ายเขา
หากไม่ใช่เพราะความไว้เนื้อเชื่อใจของกู้ชิงหยิ่ง หากไม่ใช่หวางหนันหนันปรากฏตัวมาอธิบาย เขากับกู้ชิงหยิ่งคงได้เลิกกันไปแล้ว
ทุกตัวอักษรคือความแค้น จะให้ปล่อยวางได้อย่างไร?
“เอาล่ะ มาให้เมียกอดหน่อยนะ”
กู้ชิงหยิ่งกอดเฉินตงเอาไว้ พลางลูบหลัง พลางกล่าว “บางทีมันอาจจะเป็นเรื่องที่ไม่ได้ตั้งใจ เธอก็แค่กลับมาเที่ยว แล้วก็ไปจากที่นี่ล่ะ?”
“เป็นแบบนี้จะดีที่สุด” เฉินตงกล่าว
กู้ชิงหยิ่งมีสีหน้าที่สับสน ไม่พูดอีกเลย
ใช่ว่าเธออยากจะเจอหวางหนันหนันเสียเมื่อไหร่?
รอคอยมาสามปี สุดท้ายถึงได้ร่วมใช้ชีวิตกับเฉินตง อีกทั้งยังท้องแล้ว
ไม่ว่าจะเป็นใคร ก็ไม่มีทางที่อยากจะเห็นหวางหนันหนันในเวลานี้
แต่เมื่อคิดถึงความรู้สึกของเฉินตง สุดท้ายเธอก็ได้ระงับความไม่พอใจนี้เอาไว้
อย่างไรก็ตาม ปฏิกิริยาของเฉินตงในตอนนี้ ทำให้เธอเบาใจไปไม่น้อย
มันไม่เรียกว่าเห็นแก่ตัว มันเป็นสิ่งที่ผู้หญิงทุกคนจะปกป้องความสุขของตัวเอง
กลับมาถึงคลับสี่ยิ่น
เฉินตงกับกู้ชิงหยิ่งก็เข้าไปพักผ่อนในห้องนอน
ท่านหลงเห็นสีหน้าที่แย่ของทั้งสองคน ก็ได้ดึงตัวคุนหลุนไปถามที่ลาน
คุนหลุนอ้ำๆ อึ้งๆ สุดท้ายก็ได้เล่าตามความจริง
ได้ยินเช่นนี้ สีหน้าท่านหลงก็เปลี่ยนไปแล้ว
สุดท้าย เขากล่าวด้วยเสียงต่ำ “ไปสืบดู หากหวางหนันหนันจะตั้งรกรากที่นี่ ให้ไล่เธอไปเลย”
“แบบนี้มันจะเกินไปหรือเปล่า?” คุนหลุนรู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย
“เกินไปเหรอ? เป็นไปตามผลกรรมที่ทำเอาไว้ จะมาพูดว่าเกินไปได้ยังไง?”
ท่านหลงยิ้มอย่างเย็นชา “คุณนายน้อยเพิ่งจะตั้งครรภ์ เวลานี้กลับมียัยหวางหนันหนันโผล่ออกมา อยู่ในใจของคุณชายกับคุณนายน้อย มันก็คือหนาม ฉันที่เป็นคนรับใช้ ต้องช่วยคุณชายกับคุณนายน้อยขจัดหนามนี้ออกไป”
“เข้าใจแล้ว ท่านหลง” คุนหลุนตอบ
หลายวันต่อมา
เฉินตงเหมือนจะกลับมาเป็นปกติแล้ว ทุกวันได้ทุ่มเทไปกับทำงาน
หลังเลิกงาน ก็กลับมาที่ลานป่าไผ่ทันที มาอยู่เป็นเพื่อนกู้ชิงหยิ่ง
เหมือนกับที่เขารับปากกู้ชิงหยิ่งเอาไว้เลย พยายามหาเวลามาอยู่กับเธอให้ได้มากที่สุด
นี่คือสิ่งที่สามี ต้องรับผิดชอบต่อภรรยา และรับผิดชอบต่อลูกด้วย
ผลจากการสืบของคุนหลุน ทำให้ท่านหลงวางใจ
หวางหนันหนันไม่ได้อยู่เมืองนี้นาน ได้ไปจากที่นี่แล้ว
พูดอีกแง่หนึ่ง การเจอกันที่ริมแม่น้ำในคืนนั้น อาจจะเจอกันโดยบังเอิญจริงๆ หนามเล่มนี้มาเร็ว และไปเร็ว
วันนี้บ่าย เฉินตงกำลังจัดเรียงแผนพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ที่เสี่ยวหม่าส่งมา
ก๊อกๆ
เสียงเคาะประตูดังขึ้น
กูหลังเดินเข้ามา ได้วางบัตรเชิญไว้ตรงหน้าของเฉินตง
“คุณเฉิน หลินหลิ่งตงส่งบัตรเชิญมาอีกแล้ว”
“ทิ้งไปซะ”
เฉินตงไม่เงยหน้าขึ้นมาเลย
กูหลังตกใจ “เอ่อ แบบนี้ไม่ค่อยจะดีมั้ง?”
เฉินตงยิ้มๆ “การที่เจอหลินหลิ่งตง เป็นเพราะว่าที่ดินที่อยู่ในมือของโจวเย่นชิวเจอกับปัญหา ตอนนี้ที่ดินก็ได้มาแล้ว โครงการที่โจวเย่นชิวร่วมมือพัฒนากับไท่ติ่งของเราก็กำลังดำเนินการไปแล้ว การที่ไปสมาคมกับหลินหลิ่งตง ไม่มีความหมายอะไรเลย อีกอย่าง……..” นิ่งไปครู่หนึ่ง เฉินตงก็กล่าวอย่างมีความหมาย “หลินหลิ่งตงนั้นไม่ได้สะอาดเหมือนพวกโจวเย่นชิวและโจวจุนหลง”
เห็นแสงสว่างไม่ได้?
กูหลังก็เข้าใจในทันที
เขาในเมื่อก่อน ตอนที่ทำงานเป็นนักชกมวยใต้ดินของโจวเย่นชิวนั้น ก็ต้องหลบๆ ซ่อนๆ เปิดเผยตัวตนไม่ได้เลย
สำหรับความสำคัญในการเปิดเผยฐานะตัวเองได้หรือไม่นั้น เขารู้ดีกว่าใคร
อยู่ในเมืองนี้ ไม่ว่าจะเป็นโจวเย่นชิวหรือโจวจุนหลง
อันที่จริงก็ปนเปื้อนสีเทาไม่มากก็น้อย แต่คนเขาฉลาด ในขณะที่ปนเปื้อน พวกเขาซ่อนมันอยู่เบื้องหลัง แล้วแยกตัวเองออกมาอย่างสะอาดหมดจด
แต่หลินหลิ่งตงล่ะ?
ทั้งเมืองหลิ่งตง ทุกคนต่างก็รู้ว่าเขาคือราชาใต้ดิน!
คนแบบนี้เมื่อเกิดเรื่อง จะไม่กระทบกับคนคนเดียวหรือสองคน แต่ผลกระทบที่เกิดขึ้น มันเหมือนกับถูกสึนามิถล่ม
เพียงแค่คำว่า “ราชาใต้ดิน” มันก็ผิดกฎหมายแล้ว
“เข้าใจแล้ว” กูหลังหยิบบัตรเชิญขึ้นมาโยนเข้าไปในถังขยะ
ฟ้าค่อยๆ มืดลง
เฉินตงกลับมาถึงคลับสี่ยิ่นนานแล้ว
แต่อีกด้านหนึ่ง
ในหมู่ตึกหลิ่งตง
ในห้องจัดเลี้ยงขนาดใหญ่ มีเพียงหลินหลิ่งตงนั่งโดดเดี่ยวอยู่คนเดียว
เขาเอาข้อศอกชันไว้บนโต๊ะ มือที่สอดประสานกันยันอยู่ตรงริมฝีปาก แววตาสั่นไหว มีความกังวลเล็กน้อย
“เจ้านาย”
อู๋จุนหาวเดินเข้ามา กล่าวอย่างจำใจ “เวลาไม่เช้าแล้ว เขาน่าจะไม่มาแล้ว”
“พรุ่งนี้ให้ส่งบัตรเชิญไปอีก” หลินหลิ่งตงกล่าว
“เจ้านาย นี่มันยังไงกันแน่?”
อู๋จุนหาวเป็นลูกน้องที่ภาคภูมิใจของหลินหลิ่งตง ในคำพูดโดยธรรมชาติแล้วก็มีความกลัวน้อยลง มีความสนิทสนมที่เพิ่มขึ้น “ไอ้เฉินตงคนนั้นมันวางอำนาจบาตรใหญ่ เพื่อแย่งที่ดินแล้ว คืนนั้น ได้ฉีกหน้าคุณต่อหน้าคนตั้งมากมาย คนแบบนี้ ทำไมคุณยังอยากจะรู้จักเขา?”
“พื้นเพของไอ้หมอนั่นใหญ่จริง แต่คุณเชิญมันไปครั้งแล้วครั้งเล่า แบบนี้เท่ากับลดฐานะของตัวเอง ช่วงนี้คนในเมืองหลิ่งตงต่างก็หัวเราะคุณ”
“หัวเราะฉันเรื่องอะไร?” หลินหลิ่งตงเลิกคิ้วถาม
รู้สึกถึงสายตาที่จ้องมองของหลินหลิ่งตง หลังของอู๋จุนหาวก็เย็นวาบ
ลังเลไปครู่หนึ่ง เขายังคงกัดฟันกล่าว “ต่างก็พูดว่าคืนนั้นที่คุณเผชิญหน้ากับเฉินตง ทำไมถึงขี้ขลาดขนาดนั้น พูดว่าคุณที่เป็นราชาใต้ดินมีแค่ความสามารถในการรังแกคนในเมืองหลิ่งตง ต่อหน้าเฉินตง คุณก็คือหมาใต้ดิน”
คำเย้ยหยันเหล่านี้ จะว่าไม่โหดไม่ได้แล้ว
หลังจากที่อู๋จุนหาวพูดคำพูดเหล่านี้จบแล้ว ก็เฝ้าดูการเปลี่ยนแปลงในการแสดงออกของหลินหลิ่งตงด้วยความกังวลใจ
เมื่อเขาเห็นหางตาของหลินหลิ่งตงสั่นเล็กน้อย หลังจากหรี่ตาลง หนังหัวของอู๋จุนหาวก็เริ่มชาเล็กน้อย ขนบนร่างกายก็ลุกซู่ขึ้นมา
พี่หลิ่งตง จะระเบิดความโกรธแล้วเหรอ?
และแล้ว
“เห่อ!”
ทันใดนั้นหลินหลิ่งตงกลับหัวเราะขึ้นมาหนึ่งที ปล่อยมือออกแล้วยักไหล่ “ให้พวกเขาพูดไปเถอะ พวกเขาจะว่าอะไรฉันก็ได้ แต่เฉินตง ยังไงก็ต้องเชิญ”
อะไรนะ?!
อู๋จุนหาวตะลึงไปโดยสิ้นเชิง มองดูหลินหลิ่งตงที่อยู่ตรงหน้า เขารู้สึกเหมือนมองคนแปลกหน้า
“พี่ใหญ่ นี่มันไม่ใช่สไตล์ของพี่ พี่……….”
ป้าง!
หลินหลิ่งตงทุบโต๊ะไปหนึ่งที อู๋จุนหาวสะดุ้งจนหยุดพูด
บนใบหน้าที่หล่อเหลาของหลินหลิ่งตง ถูกปกคลุมไปด้วยความเย็น
เวลานี้ แววตาคมดั่งมีด
เขากล่าวอย่างเย็นชา “สิ่งที่ฉันจะทำ ยังต้องให้นายมาออกความเห็นด้วยเหรอ? ฉันหลินหลิ่งตงจะเชิญเฉินตง ก็คือจะเชิญ ครั้งแรกเชิญไม่สำเร็จก็เชิญครั้งที่สอง ครั้งที่สองเชิญไม่สำเร็จก็เชิญครั้งที่สาม เชิญต่อไปเรื่อยๆ สิบครั้ง ร้อยครั้ง ยังไงก็ต้องเชิญมาได้สักวัน!”
พูดจบ
เขาตบโต๊ะไปหนึ่งที แล้วพลิกจานอาหารที่อยู่ตรงหน้าคว่ำลงบนพื้น จึงหันหลังเดินจากไป
“อู๋จุนหาว นายก็เหมือนกับคนในหลิ่งตงที่มองการณ์ตื้นเขิน ล้วนเป็นพวกโง่ที่มีตาแต่ไร้แวว!