The Winner is king ผู้ชนะเลศคือราชา - บทที่ 405 เป็นศัตรูหรือเป็นมิตร? ยากที่จะแยกแยะได้ชัดเจน
- Home
- The Winner is king ผู้ชนะเลศคือราชา
- บทที่ 405 เป็นศัตรูหรือเป็นมิตร? ยากที่จะแยกแยะได้ชัดเจน
นี่คือเรื่องที่พ่อต้องการเตือนให้ฉันระวังอย่างนั้นหรือ?
เฉินตงตระหนักขึ้นมาได้ทันที
การสูญเสียเงินกว่าพันล้านหยวน ถึงแม้จะไม่ได้ส่งผลเสียอย่างร้ายแรงนัก ต่อบริษัทการเงินของตระกูลฉินที่ฉินเย่รับผิดชอบดูแลอยู่ แต่ก็ถือว่าได้รับผลกระทบไม่น้อย
การสูญเสียเช่นนี้ ไม่ใช่เรื่องเล็กน้อย!
ยิ่งไปกว่านั้น ภูมิหลังของเขาในตอนนี้เพิ่งจะยิ่งใหญ่แค่ไหนกัน?
“ใครเป็นคนทำ?” เฉินตงรีบถามขึ้นทันที
ถ้าหากรู้ว่าใครเป็นคนเล่นงานฉินเย่กันแน่ ไม่แน่อาจได้รู้ว่า ที่พ่อคอยหลบซ่อนตัวอยู่ตลอดนั้นเพราะกลัวอะไรกันแน่
“มีด้วยกันทั้งหมดห้าบริษัทเงินทุน”
ในสาย น้ำเสียงของฉินเย่เคร่งขรึมลงเล็กน้อย “เป็นบริษัทเงินทุนในประเทศสามแห่ง และยังมีบริษัทเงินทุนจากต่างประเทศอีกสองแห่ง”
ฉินเย่หยุดพูดไปครู่หนึ่ง เมื่อเห็นว่าอารมณ์ของเฉินตงยังเป็นปกติ จึงพูดต่อด้วยน้ำเสียงเคร่งขรึม “ในนั้นไม่มีร่องรอยของตระกูลเฉินเลย”
ไม่ใช่ตระกูลเฉิน?
เฉินตงขมวดคิ้วแน่นจนบีบกัน อารมณ์เต็มไปด้วยความซับซ้อน
ตอนที่เขาเอ่ยถาม เขาก็คิดเอาไว้แล้วว่าตระกูลเฉินน่าจะมีส่วนรู้เห็นด้วย
แต่คำพูดของฉินเย่ ทำให้ความสงสัยที่อยู่ในหัวของเขาลึกซึ้งยิ่งขึ้น
เฉินตงสูดหายใจเข้าเต็มปอดหนึ่งครั้ง บีบจมูกของตัวเองสักครู่ แล้วถามขึ้นว่า “สืบหาที่มาที่ไปของบริษัทเงินทุนทั้งห้าแห่งอย่างชัดเจนแล้วหรือยัง?”
“บริษัทเงินทุนภายในประเทศสามแห่ง แบ่งออกเป็นเงินทุนจงเคอแห่งเมืองโมตู และการลงทุนซื่อหวา ส่วนบริษัทที่สาม……เป็นกลุ่มการลงทุนทางภาคตะวันตกเฉียงเหนือ”
เมื่อพูดถึงที่สุดท้าย เสียงของฉินเย่ก็ชะงักไปชั่วขณะหนึ่ง จากนั้นจึงรีบพูดเสริมต่อว่า “ส่วนบริษัทการลงทุนจากต่างประเทศอีกสองบริษัท ยังไม่ได้สืบหาข้อมูลอย่างชัดเจน แต่เมื่อตรวจสอบจากเบาะแสเบื้องต้นก็พอจะคาดเดาได้ว่า บริษัทเงินทุนทั้งสองบริษัทนั้น น่าจะมีความซับซ้อนและอันตรายเป็นอย่างมาก”
“ภาคตะวันตกเฉียงเหนือ?”
แววตาของเฉินตงเผยประกายของความฉลาดหลักแหลมออกมา
ในพื้นที่แถบชายฝั่งทะเลทั้งหมด เป็นพื้นที่ที่มีการพัฒนาทางเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งอย่างยิ่งยวด ทุกเมืองต่างก็มีทั้งเสือและมังกรหลบซ่อนตัวอยู่
ส่วนภาคตะวันตกเฉียงเหนือ ว่ากันตามตรงก็คือ ทะเลทรายกว้างๆ ผืนหนึ่ง นอกจากจะมีประชากรอยู่น้อยนิดแล้ว ถือว่าน้อยนักที่จะมีบริษัทเงินทุนที่แข็งแกร่งเข้าไปตั้งรกรากอยู่ที่นั่น
นี่คือสาเหตุที่ฉินเย่ชะงักไป อย่าว่าแต่ฉินเย่เลย แม้แต่เฉินตงเองก็ยังรู้สึกว่าไร้สาระ
ส่วนบริษัทเงินทุนในต่างประเทศสองแห่ง ตอนนี้เฉินตงยังไม่ให้ความสนใจนัก ก่อนที่จะได้รับการตรวจสอบอย่างละเอียด ก็ยากที่จะสรุปออกมาได้
เขาวางมือขวาที่บีบจมูกอยู่ลง แล้วพูดอย่างเคร่งขรึม “ฉันว่าควรจะตรวจสอบบริษัทลงทุนที่อยู่ทางภาคตะวันตกเฉียงเหนือนั่นสักหน่อย บริษัทลงทุนยักษ์ใหญ่ที่ไปก่อตั้งอยู่ที่นั่น หากคิดที่จะตรวจสอบให้แน่ชัด ก็คงไม่ใช่เรื่องยากนัก”
“ฉันให้เสี่ยวเชียนจัดการแล้ว” ฉินเย่กล่าว
ฉินเย่เงียบไปครู่หนึ่ง แล้วเอ่ยถามขึ้นมาอีกว่า “จริงสิ ทางพ่อนายมีข่าวคราวอะไรบ้างไหม?”
เมื่อได้ยินคำพูดนี้
เฉินตงก็หัวเราะตัวเองขึ้นมาทันที “จะบอกให้นะว่า เมื่อเช้าพ่อเพิ่งจะส่งข้อความมาว่าให้ฉันระวัง ฉันคิดมาทั้งวันก็คิดไม่ออกว่าให้ระวังเรื่องอะไร จนกระทั่งนายโทรศัพท์มานี่ล่ะ”
ฉินเย่ที่อยู่ปลายสายเงียบไป
หลังจากนั้นเพียงไม่กี่วินาที ฉินเย่ก็พูดขึ้นอย่างเคร่งขรึม “เรื่องใหญ่แล้ว! ฉันจะให้เสี่ยวเชียนรีบตรวจสอบบริษัทเงินทุนทั้งห้าแห่งอย่างชัดเจน และหลังจากนี้ไปอีกสองสามวัน ฉันจะพยายามควบคุมทุกสิ่งอย่างระมัดระวัง”
“นายรีบจัดการเถอะ เรื่องการเงินนายเก่งกว่าฉัน”
เฉินตงวางสายโทรศัพท์ ท่าทางของเขาเคร่งขรึมลงอย่างเห็นได้ชัด แววตาไม่อาจเก็บซ่อนความสงสัยเอาไว้ได้
ฉินเย่พูดถูก ครั้งนี้คงเกิดเรื่องใหญ่ขึ้นแล้วจริงๆ!
หากแผนการในครั้งนี้ มีตระกูลเฉินอยู่เบื้องหลัง ก็คงไม่ต้องกังวลใจมากนัก เพราะอย่างน้อยก็รู้ว่าตระกูลเฉินต้องการจัดการกับเขา
แต่ตอนนี้ เป็นบริษัทที่แข็งแกร่งห้าแห่ง และที่อยู่ในประเทศทั้งสามแห่งก็ไม่มีร่องรอยของตระกูลเฉินเลย
นี่แสดงให้เห็นว่า……อาจมีมหาอำนาจอื่น ที่กำลังจับตามองเขาอยู่!
ถึงแม้มหาอำนาจเหล่านี้ อาจไม่ยิ่งใหญ่เท่าตระกูลเฉิน แต่ก็ถือเป็นยักษ์ใหญ่ ที่สามารถกำจัดเขาได้จริงๆ!
เมื่อคิดถึงตรงนี้ เฉินตงก็รู้สึกโมโหขึ้นมาทันที
จู่ๆ ก็ถูกคนอื่นจับตามองอย่างไร้เหตุผล อีกทั้งยังกวาดเงินไปกว่าพันล้านหยวน เรื่องแบบนี้ เป็นใครก็ต้องรู้สึกโมโหด้วยกันทั้งนั้น
หลังจากถูใบหน้าของเขา เฉินตงก็สตาร์ทรถ และมุ่งหน้ากลับบ้านในเขาเทียนซาน
เมื่อกลับถึงบ้าน กู้ชิงหยิ่งก็กำลังนั่งดูโทรทัศน์และถักเสื้ออยู่ในห้องนั่งเล่น
ส่วนท่านหลงกำลังจิบชา คุนหลุนและฟ่านลู่กำลังง่วนอยู่กับงานในครัว
ทุกอย่างดูเป็นปกติ
แต่ทว่า ท่านหลงยังคงมองออกว่าท่าทีของเฉินตงนั้นไม่ปกติ
“คุณชาย มีปัญหาหรือครับ?”
เฉินตงพยักหน้า เพื่อส่งสัญญาณให้ท่านหลงเดินขึ้นไปบนดาดฟ้า
หลังจากขึ้นไปถึงดาดฟ้า
เฉินตงก็นั่งลงบนเก้าอี้นอน แล้วพูดอย่างเคร่งขรึมว่า “วันนี้พวกของฉินเย่ถูกบริษัทเงินทุนห้าแห่งเล่นงาน ขาดทุนไปกว่าพันล้านหยวน!”
“พันล้านหยวน?!”
ท่านหลงหน้าถอดสี และอุทานออกมาด้วยความตกใจ
เฉินตงเลิกคิ้วแล้วหันมองท่านหลง “ท่านหลง คุณมีประสบการณ์โชกโชน พอจะรู้ไหมว่าทางแถบภาคตะวันตกเฉียงเหนือ พอจะมีบริษัทเงินทุนยักษ์ใหญ่อะไรตั้งอยู่บ้าง?”
เขาไม่กังวลเกี่ยวกับบริษัทเงินทุนจงเคอและการลงทุนซื่อหวา ทั้งสองบริษัทนี้เป็นบริษัททางการเงินยักษ์ใหญ่ ที่มีชื่อเสียงโด่งดัง หากคิดจะกวาดล้างโลกการเงิน ก็แทบจะไร้คู่ต่อสู้
การแข่งขันกับบริษัทการเงินของฉินเย่นั้น ก็ถือเป็นเรื่องที่สมเหตุสมผล
จะเหลือก็แต่บริษัทที่อยู่ในภาคตะวันตกเฉียงเหนือบริษัทเดียวเท่านั้น!
การปรากฏตัวขึ้นอย่างแปลกประหลาด และสาเหตุในการเข้าร่วมโจมตีก็น่าประหลาดใจเช่นกัน
ทว่า
ที่น่าประหลาดใจยิ่งไปกว่านั้นก็คือ
ท่านหลงขมวดคิ้วเป็นเวลาเกือบจะหนึ่งนาทีแล้ว
จากนั้นจึงส่ายหัวแล้วพูดว่า “อาศัยจากความรู้ที่ผมมี ทางภาคตะวันตกเฉียงเหนือไม่มีบริษัทการลงทุนขนาดใหญ่ตั้งอยู่ ที่นั่นไม่เหมาะสำหรับบริษัทลงทุนยักษ์ใหญ่จะไปตั้งรกรากอยู่ หากเป็น “บริษัทเงินทุนเล็กๆ” ทั่วๆ ไป ก็ไม่น่าจะศักยภาพพอที่จะเข้าร่วมการโจมตีได้”
“เช่นนี้ก็น่าสนใจแล้ว”
เฉินตงลูบจมูก แล้วยิ้มออกมาอย่างมีนัย
สถานที่ที่ไม่มีบริษัทเงินทุนขนาดใหญ่ตั้งอยู่ จู่ๆ กลับเกิดการลงทุนขนาดใหญ่ขึ้นมาได้ และยังเข้าร่วมการโจมตีอีก และท้ายที่สุดยังโจมตีได้สำเร็จอีกด้วย
บริษัทนี้ ช่างน่าสงสัยจริงๆ!
“คุณชาย เจ้าหนูฉินจะต้องจัดการได้เรียบร้อยแน่นอน เรื่องนี้เกี่ยวข้องกับตระกูลเฉินหรือเปล่าครับ?”
ม่านหลงพูดปลอบใจ จากนั้นจึงได้พูดความคิดแรกที่อยู่ในหัวของเฉินตงตอนที่รู้ว่าถูกโจมตีออกมา
เฉินตงส่ายหัว แล้วยิ้มอย่างหดหู่ “ไม่มีร่องรอยของตระกูลเฉินเลยแม้แต่น้อย นอกจากบริษัทที่อยู่ในภาคตะวันออกเฉียบเหนือนั่นแล้ว ยังมีเงินทุนจงเคอและการลงทุนซื่อหวาอีก นอกจากนี้ยังมีบริษัทการลงทุนยักษ์ใหญ่ที่อยู่ในต่างประเทศอีกสองบริษัทอีก
ใบหน้าของท่านหลงเคร่งขรึมลงอย่างเห็นได้ชัด เขาใช้มือขวาบิดนิ้วหัวแม่มือเบาๆ แล้วพึมพำออกมา “บริษัทยักษ์ใหญ่ห้าบริษัทรุมโจมตีเราพร้อมกัน เห็นได้ชัดว่ามีการเตรียมการกันมา แต่ถ้าหากไม่มีร่องรอยของตระกูลเฉิน เช่นนั้นเป็นเพราะอำนาจใดกันแน่ ที่ทำให้บริษัทเงินทุนทั้งห้าบริษัทร่วมมือกันได้?”
ทันทีที่พูดจบ
เสียงโทรศัพท์ของเฉินตงก็ดังขึ้น
เฉินตงหยิบขึ้นมาดูแล้วพูดว่า “ฉินเย่โทรมา”
เขากดรับสายโทรศัพท์ และกดปุ่มเปิดลำโพง
“พี่ตง ผมลองทบทวนเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นวันนี้อยู่หลายครั้ง จึงพบเรื่องที่น่าประหลาดใจอย่างมากเรื่องหนึ่ง” น้ำเสียงของฉินเย่แสดงออกถึงความสับสนอย่างมาก
“อะไร?” เฉินตงถาม
ในสายโทรศัพท์ ฉินเย่ค่อยๆ พูด “ตอนที่บริษัทเงินทุนทั้งห้าโจมตีเรา ระหว่างนั้น บริษัทในภาคตะวันตกเฉียงเหนือบริษัทนั้น ได้มีการโต้กลับไปหนึ่งครั้ง นั้นก็คือ ในขณะที่ทั้งสี่บริษัทการลงทุนกำลังโจมตีเราอยู่นั้น บริษัททางภาคตะวันออกเฉียงเหนือนี้ได้เข้ามาในตลาด และช่วยพวกเราดันราคาหุ้นขึ้นหนึ่งระลอก จากนั้นจึงรีบทุบราคาลงทันที”
หลังจากที่ได้ยิน
สีหน้าของเฉินตงและท่านหลงก็เปลี่ยนไปทันที
ทั้งสองหันมองหน้ากัน แล้วเผยสีหน้าของความสับสนและงุนงงออกมา
“ดันราคาหุ้นขึ้นหนึ่งระลอก นี่มันคือพฤติกรรมอะไรกันแน่?” ท่านหลงโพล่งออกมา “เข้ามาอย่างกะทันหัน และดันราคาหุ้นขึ้น ดูเหมือนจะเป็นการช่วยเหลือพวกเรา แต่สุดท้ายกลับร่วมมือกับอีกสี่บริษัทรุมเข้าโจมตี บริษัทนี่เป็นศัตรูหรือเป็นมิตรกันแน่?”
เฉินตงเองก็รู้สึกสับสนไม่น้อย
ตามที่ท่านหลงกล่าวมา หากต้องการเข้าโจมตีจริง ก็ไม่มีเหตุผลที่จะเข้ามาช่วยดันราคาหุ้นขึ้นอย่างกะทันหัน แต่ท้ายที่สุดแล้ว ทั้งห้าบริษัทกลับรุมเล่นงานพวกฉินเย่อยู่ดี
พฤติกรรมเช่นนี้ ทำให้เรื่องทั้งหมดยากที่จะคาดเดาได้
ทว่า สิ่งที่ทำให้เฉินตงยิ่งคิดไม่ถึงก็คือ
ในสายโทรศัพท์ ฉินเย่ค่อยๆ พูดข้อเท็จจริงที่น่าเหลือเชื่อยิ่งกว่านั้นออกมา