The Winner is king ผู้ชนะเลศคือราชา - บทที่ 408 เย่หลิงหลง
“ขอโทษด้วย คนในครอบครัวรอผมกลับไปทานข้าวเย็นอยู่”
เฉินตงตอบปฏิเสธ
ประการแรก เพราะเข้าไม่มีความเกี่ยวข้องกับหงหุ้ย
ประการที่สองคือ ตอนนี้เงินทุนของหงหุ้ยกำลังเล่นงานฉินเย่ ตอนนี้คนของหงหุ้ยมา ทำให้เฉินตงรู้สึกไม่พอใจนัก
“คนในครอบครัว?”
ผู้หญิงที่อยู่ตรงหน้าหัวเราะขึ้น “ถ้าหากคุณเฉินคิดถึงคนในครอบครัวแล้วล่ะก็ ฉันสามารถเชิญพวกเขามาทั้งหมดได้ เชื่อฉันเถอะค่ะว่า หงหุ้ยมีความสามารถที่จะทำเช่นนี้ได้”
เฉินตงแสดงท่าทีดุดันขึ้นทันที
“คุณกำลังข่มขู่ผมหรือ?”
หญิงสาวพูดออกมาด้วยท่าทีสงบ “ทำไมหงหุ้ยจะไม่กล้าข่มขู่คุณเฉิน?”
คำพูดตรงไปตรงมา แสดงออกถึงความมั่นใจและน่าเกรงขาม
นี่คือ……สิ่งที่หงหุ้ยมอบให้!
มือทั้งสองข้างของเฉินตงกำหมัดแน่น เขาจ้องมองหญิงสาวที่อยู่ตรงหน้าด้วยแววตาโกรธเกรี้ยว
ในที่สุด เขาก็คลายหมัดลง แล้วพูดออกมาอย่างเย็นชา “ไปไหน?”
แน่นอนว่า หงหุ้ยสามารถข่มขู่เขาได้จริงๆ!
ถึงแม้ข้างกายของกู้ชิงหยิ่งจะมีคุนหลุน ฟ่านลู่ และท่านหลงคอยคุ้มกันอยู่ แต่ถ้าหากหงหุ้ยต้องการ ก็ต้องทำสำเร็จได้แน่นอน
เหมือนกับตอนที่ทหารรับจ้างเดดพูลบุกเข้าโจมตีเขตวิลล่าเขาเทียนซานในตอนนั้น
เพื่อพลังที่มหาศาลปรากฏขึ้น ก็ทำให้เกิดการโจมตีที่ยากเกินต้านทานได้
หญิงสาวแสดงให้เห็นว่าหงหุ้ยมีการเตรียมการไว้เป็นอย่างดี เฉินตงจึงไม่กล้าเอาความปลอดภัยของกู้ชิงหยิ่งเข้ามาเสี่ยง
“ขึ้นรถ”
หญิงสาวพาเฉินตงเดินตรงไปที่รถบีเอ็มดับเบิลยู i8
หลังจากขึ้นรถ ในที่สุดหญิงสาวก็ถอดหมวกกันแดดออก
และในที่สุด เฉินตงเองก็ได้เห็นใบหน้าของหญิงสาว
เป็นใบหน้าที่ยากจะหาคำมาอธิบายได้
หากจะใช้คำพูดว่า งามไร้ที่ติ สี่คำนี้มาอธิบาย ก็ดูเหมือนว่ายังน้อยไป
ผิวขาวใสราวกับคริสทัลที่ละเอียด สะท้อนแสดงสีแดงแวววาวออกมาเล็กน้อย
การแสดงออกทางสีหน้าทุกอย่าง มีความงามที่เป็นธรรมชาติและตราตรึงใจ
ต่อให้เป็นเฉินตง ก็อดไม่ได้ที่จะเคลิบเคลิ้มไป
ความงามเช่นนี้……มีอยู่บนโลกใบนี้จริงๆ หรือ?
เกิดคำถามขึ้นในใจของเฉินตง ไม่ใช่เป็นการนอกใจ แต่เป็นการรู้สึกตกใจด้วยเจตนาที่บริสุทธิ์!
“ฉันสวยไหม?” หญิงสาวเลิกคิ้วถาม
เฉินตงพยักหน้าอย่างตรงไปตรงมา
“อยากได้ไหม?”
เฉินตงขมวดคิ้วเล็กน้อย เส้นเลือดบริเวณหางตาปูดโปนขึ้นมา
หญิงสาวเผยอริมฝีปาก หัวเราะแล้วกล่าวอธิบายว่า “ฉันหมายถึงว่า คุณอยากครอบครองฉันไหม?”
รอยยิ้มที่อ่อนโยน ทำให้รู้สึกรื่นรมย์ใจ
น้ำเสียงที่หนักแน่น ทำให้รู้ว่าสิ่งที่เธอพูดมานั้นคือเรื่องจริง
หากเป็นคนอื่น เกรงว่าคงจะพยักหน้าตอบรับอย่างไม่ลังเล
แต่ขณะที่หญิงสาวเอ่ยถามประโยคนี้กับเฉินตง ในหัวของเขากลับปรากฏภาพของกู้ชิงหยิ่งขึ้นมา
เขาลูบจมูก แล้วเอ่ยด้วยรอยยิ้ม “คำพูดของคุณ ควรใช้พูดกับผู้ชายที่แต่งงานมีภรรยาแล้วอย่างนั้นหรือ?”
“ทำไมจะพูดไม่ได้?” หญิงสาวหัวเราะร่าออกมา “แต่งได้ก็หย่าได้ หากไม่หย่า ฉันก็ไม่ถือสาถ้าหากต้องเป็นอนุ”
เฉินตงตกตะลึง
จากนั้นจึงพูดด้วยรอยยิ้ม “อันที่จริงผมรู้สึกว่าคุณนั้นสวยมาก สวยกว่าภรรยาของผมเสียอีก แต่คำพูดของคุณประโยคนี้ ทำให้ผมเริ่มที่จะรังเกียจคุณแล้ว”
“รังเกียจก็รังเกียจไปสิ ฉันเองก็ไม่ได้สนใจอะไร ถ้าหากคุณต้องการก็บอกฉัน ฉันเป็นคนใจง่าย แค่คุณต้องการก็สามารถครอบครองฉันได้แล้ว”
หญิงสาวยกมืออันเรียวงามขึ้น ปัดผมสองสามเส้นที่ปกลงมาบนใบหน้า ไปทัดไว้ที่หู จากนั้นจึงยื่นมืออันเรียวงามออกไปหาเฉินตง “คุณเฉิน ทำความรู้จักกันใหม่อีกสักครั้ง ฉันชื่อเย่หลิงหลง เป็นหงกุ้นของหงหุ้ย!”
“คำว่า “หงกุ้น” ทำให้เขาได้รู้จักเย่หลิงหลงใหม่อีกครั้ง
อันที่จริงแล้ว หญิงสาวคนนี้ไม่ได้เป็นแค่ไม้ประดับที่งดงามเท่านั้น!
เป็นครั้งแรกที่เฉินตงรู้จักหงหุ้ย แต่นี่ก็ไม่ได้ความว่า เขาจะไม่เข้าใจว่า “หงกุ้น” หมายถึงอะไร
นี่แสดงให้เห็นว่า เย่หลิงหลงที่อยู่ตรงหน้า อย่างน้อยก็เป็นคนที่มีความสามารถอย่างที่สุดในด้านใดด้านหนึ่งของหงหุ้ย!
เมื่อเห็นเฉินตงไม่ยื่นมือออกมา เย่หลิงหลงก็ดึงมือกลับไปโดยไม่ได้สนใจ จากนั้นจึงสตาร์ทรถ
รถบีเอ็มดับเบิลยู i8 สีน้ำเงินส่งเสียงคำรามราวกับสัตว์ร้าย และควบไปบนถนนด้วยความเร็ว
“ตอนนี้กำลังจะไปไหน?” เฉินตงถาม
“ไม่ต้องถาม ไปถึงคุณก็รู้เอง”
เย่หลิงหลงยิ้มเยาะ “สาวน้อยอยากจะหาสถานที่ที่เงียบสงบไร้ผู้คน พูดคุยทำความรู้จักเป็นการส่วนตัวตามลำพังประสาชายหญิงกับคุณเฉินสักหน่อย”
เฉินตง “……”
จู่ๆ เขาก็รู้สึกไม่ดี
เย่หลิงหลงทำให้เขารู้สึกว่าเธอนั้นปล่อยตัว ซึ่งไม่เข้ากับรูปลักษณ์ภายนอกที่แสดงออกมาของเธอเลย
คำว่า “ยั่วอารมณ์” ดูเหมือนจะจุดประกายขึ้นได้ทุกเมื่อ
แต่……จะเป็นไปได้ไหม?
ไม่ต้องพูดถึงเรื่องที่ว่าเฉินตงมีเพียงแค่กู้ชิงหยิ่งอยู่คนเดียวภายในใจ ต่อให้เป็นคนธรรมดาทั่วไปที่อยู่ตามท้องถนน ถ้าถูกหญิงสาวที่งดงามเช่นนี้ยั่วยวนเข้า ก็ต้องรู้สึกใจสั่นเป็นธรรมดาใช่หรือไม่?
เฉินตงจึงทำได้เพียงเบี่ยงสายตามองออกไปนอกหน้าต่างตามสัญชาตญาณ
เขาไม่อยากมีปฏิสัมพันธ์ใดๆ กับเย่หลิงหลงทั้งสิ้น
ส่วนเย่หลองหลงเองก็ไม่ได้สนใจ เธอยิ้มเล็กน้อย และเหยียบคันเร่งขับรถออกไปด้วยความเร็ว
หลังจากที่รถแล่นออกจากเมืองแล้ว ในที่สุดเย่หลิงหลงก็เอ่ยปากขึ้นอีกครั้ง และทำลายความสงบภายในรถ
“คุณเฉิน คุณไม่คิดจะถามเรื่องที่หงหุ้ยเรา เล่นงานฉินเย่เลยหรือ?”
“ไม่ถาม” เฉินตงมองออกไปนอกหน้าต่าง
แววตาของเย่หลิงหลงเผยความประหลาดใจออกมา เธอเหลือบไปมองเฉินตงและริมฝีปากที่แดงระเรื่อของเธอก็แสยะยิ้มออกมา
หลังขับออกจากเมืองได้สิบนาที
ก็มีคฤหาสน์เก่าแก่หลังหนึ่ง ปรากฏขึ้นต่อสายตาของเฉินตง
จะพูดว่าเก่าแก่ก็คงไม่ใช่ ต้องพูดว่า……ให้ความรู้สึกโบราณ!
มีลานบ้านที่กว้างขวาง มีตึกสามชั้นขนาดเล็ก กำแพงเต็มไปด้วยเถาวัลย์ที่ขึ้นปกคลุมจนเขียวชอุ่ม
แต่ก็ยังไม่อาจอำพรางกล้องวงจรปิดที่อยู่ห่างออกไปเกือบสองสามร้อยเมตรได้
ขณะที่บีเอ็มดับเบิลยู i8 ขับไปถึงด้านหน้าประตูใหญ่ ประตูเหล็กก็ค่อยๆ เปิดออก
เย่หลิงหลงขับรถเข้าไปในลาน เธอเบรกรถดังเอี๊ยด และจอดรถเอาไว้กลางลาน
“ถึงแล้วค่ะคุณเฉิน” เย่หลิงหลงยิ้มอย่างอ่อนหวาน
เฉินตงลงจากรถด้วยท่าทีเย็นชา
ทว่า
ในขณะที่เท้าทั้งสองข้างของเขาแตะพื้น และเขายืนตัวตรง
ฟิ้ว!
จู่ๆ ก็มีลมแรงพัดมา
ความโกรธแผ่ซ่านออกจากร่างกายของเฉินตงทันที เข้าตกใจจนรูม่านตาหดแน่น
เขาหันศีรษะตามสัญชาตญาณ
แต่เมื่อเห็นเย่หลิงหลงที่ยืนอยู่อีกฟากหนึ่งของรถ กระโดดลอยตัวขึ้นไปบนอากาศ วางมือข้างหนึ่งลงบนรถ แล้วเตะขาออกไปด้านข้าง
“ไสหัวไป!”
ในช่วงจังหวะหน้าสิ่วหน้าขวาน เฉินตงตะโกนออกมาด้วยความโกรธ มือขวาของเขาโค้งงอ แล้วแทงศอกออกไป
ตุ้บ!
เกิดเสียงดังสนั่น
ตัวของเย่หลิงหลงสั่นคลอน ราวกับปลาที่กำลังว่ายน้ำอยู่ เธอหล่นลงไปบนหลังคารถ และกลิ้งตกลงไปหยุดอยู่ที่กระโปรงท้ายของรถบีเอ็มดับเบิลยู i8
ใบหน้าอันงดงามของเธอแสดงความประหลาดใจออกมา
ไม่สิ ต้องพูดว่าแสดงความยินดีออกมาต่างหาก
ราวกับได้เห็นสมบัติที่ล้ำค่า และจ้องมองไปที่เฉินตงตาเขม็ง
จากนั้น จึงแลบลิ้นแดงระเรื่อเลียที่ริมฝีปากของเธอ “การต่อสู้ของคุณเฉินร้ายกาจขนาดนี้เชียวหรือ? เหนือความคาดหมายของฉันจริงๆ”
เธอไม่ได้ตั้งใจจะชมเชย แต่รู้สึกประหลาดใจจริงๆ
ในฐานะที่เป็นหงกุ้น การลอบโจมตีเมื่อครู่ เธอรู้ดีว่าน่ากลัวเพียงใด
แต่เฉินตงกลับตั้งรับได้ในทันที ถึงขั้นที่ว่าในขณะที่รับมืออยู่นั้น สามารถอาศัยข้อได้เปรียบของความแข็งแกร่งที่เหนือกว่า โต้กลับได้ในแทบจะครั้งเดียว
“นี่คือการพูดคุยกันส่วนตัวที่คุณพูดถึงหรือ?”
ใบหน้าของเฉินตงเย็นชาเหมือนน้ำแข็ง แววตาของเขาดุดันถึงขีดสุด
เย่หลิงหลงเลิกคิ้วแล้วยิ้มออกมา “ถ้าไม่อย่างนั้นล่ะ? หากคุณเฉินต้องการพูดคุยส่วนตัวแบบอื่น ฉันก็ตอบสนองให้ได้เช่นกัน!”
“คุณไม่คู่ควร!”
เฉินตงพูดออกมาอย่างเย็นชาหนึ่งประโยค
เย่หลิงหลงแสดงความโกรธออกมาทันที “คุณกำลังดูถูกฉัน? ฉันเทียบกับภรรยาของคุณไม่ได้ตรงไหน?”
“เพราะเธอคือภรรยาของผม คุณจึงเทียบไม่ได้เลยสักอย่าง!”
เฉินตงค่อยๆ โค้งตัว ตอนนี้ ท่าทางของเขาราวกับภูเขาที่ยิ่งใหญ่
“ถ้าคุณต้องการพูดคุยเป็นการส่วนตัว ผมก็จะช่วยตอบสนองคุณ”