The Winner is king ผู้ชนะเลศคือราชา - ตอนที่ 103
บทที่103 พฤติกรรมของคนในตระกูลหวาง
เวลานี้ในตระกูลหวาง กำลังปลาบปลื้มยินดี เต็มไปด้วยความสุขและเสียงหัวเราะ
ตอนบ่ายหวางหนันหนันกับเฉินเทียนเซิงที่ออกมาจากวิลล่าเขาเทียนซาน ไม่ได้กลับมาที่บ้านทันที แต่ได้แวะซื้อของแถวบ้านก่อน
ในสายตาหวางหนันหนัน วันนี้เป็นครั้งแรกที่เทียนเซิงไปบ้านเธอ
ไปพบผู้ใหญ่ ต้องทางการหน่อย
ดีที่เฉินเทียนเซิงใจกว้าง มือเติบ
โสมร้อยปี เห็ดหลินจือร้อยปี เหล้าชั้นดี ยังได้เตรียมกำไลหยกชิ้นหนึ่งให้กับจาวซิ่วจือโดยเฉพาะ
ของขวัญทั้งหมด มีราคามากกว่าหนึ่งล้าน
มันจึงทำให้หวางหนันหนันยิ้มไม่หุบ ยิ่งทำให้เธอเชื่อ การเจอกันโดยบังเอิญนี้ทำให้เธอพบรักแท้
และเมื่อเฉินเทียนเซิงขับรถลัมโบร์กินีเข้ามาในชุมชนที่ตระกูลหวางพักอยู่นั้น ก็ได้ดึงดูดความสนใจของคนในชุมชนทั้งหมด
เมื่อตอนที่หวางเต๋อกับจาวซิ่วจือเห็นหวางหนันหนันลงมาจากรถลัมโบร์กินี ทันใดนั้นก็ตกตะลึงจนตาค้าง
แม้สองสามีภรรยาจะไม่มีความรู้เรื่องรถ แต่หวางเห้านั้นมี
ขณะนั้นประโยคเดียวของหวางเห้า “รถคันนี้อย่างน้อยก็ต้องห้าล้าน!” ทำให้หวางเต๋อกับจาวซิ่วจือนั้นตกใจจนในสมองเบลอ
จากนั้น เฉินเทียนเซิงกับหวางหนันหนันก็ถือของขวัญอันมีค่าเข้าไปในบ้าน วางของขวัญมากมายลงบนโต๊ะ แล้วก็หยิบบัตรเอทีเอ็มที่มีเงินหนึ่งล้านให้กับจาวซิ่วจือ
มันเหมือนกับเสียงฟ้าผ่าที่ดังระเบิดครั้งแล้วครั้งเล่า ดังจนหวางเต๋อ จาวซิ่วจือและหวางเห้าไม่กล้าที่จะเชื่อ
ความรู้สึกแบบนี้ คงอยู่ตลอดทั้งบ่าย
จนกระทั่งท้องฟ้ามืดลง ในที่สุดทั้งสามคนจึงยอมรับความจริงนี้
นั่นก็คือ……..หวางหนันหนันมีแฟนเป็นคนรวย
ตระกูลหวางของพวกเขา กำลังจะรวยแล้ว!
บนโต๊ะอาหาร วางเต็มไปด้วยอาหารเลิศรสต่างๆ
อาหารที่วางอยู่เต็มโต๊ะ มันเงินเดือนทั้งเดือนของหวางเต๋อเลย
แต่ไม่มีใครในตระกูลหวางที่จะรู้สึกว่ามันไม่เหมาะสม
ล้อเล่นป่ะ!
ของขวัญที่เฉินเทียนเซิงมอบให้รวมๆกันก็เกือบสองล้านแล้ว เอาเงินเดือนหนึ่งเดือนมาเลี้ยงต้อนรับเขา มีอะไรที่ไม่เหมาะสมเหรอ?
ไม่ว่าจะเป็นหวางเต๋อ จาวซิ่วจือ ยังมีหวางเห้า
ทั้งหมดหัวใจต่างเต้นแรง ตื่นเต้นและดีใจ
ตั้งแต่ที่หวางหนันหนันหย่ากับเฉินตง ตระกูลหวางทั้งตระกูล ราวกับว่าได้เกิดเรื่องมากมาย วุ่นวายไปหมด ทะเลาะกันทุกวัน
วันนี้การมาของเฉินเทียนเซิง เหมือนกับว่าได้ทำให้ท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยเมฆหมอกแจ่มใสขึ้นมาทันที
หวางเต๋อกับหวางเห้า แม้กระทั่งจาวซิ่วจือดื่มเหล้าชั้นดีที่เฉินเทียนเซิงซื้อมาไปไม่น้อย
ทั้งครอบครัวเชิดชูเฉินเทียนเซิงอย่างมาก คำพูดที่เต็มไปด้วยคำยกยอปอปั้น
บรรยากาศที่มีความสุข หวางหนันหนันที่มองอยู่ดวงตาที่สวยงามก็ปริ่มไปด้วยน้ำตา ในใจนั้นตื้นตันอย่างมาก
ครอบครัวที่ทะเลาะมาโดยตลอด ในที่สุดวันนี้ก็สงบลงแล้ว
เธอสามารถทำอะไรเพื่อครอบครัวได้บ้างแล้ว กตัญญูต่อพ่อแม่ สนับสนุนน้องชาย
และทั้งหมดนี้ ล้วนเป็นสิ่งที่เฉินเทียนเซิงมอบให้!
เมื่อคิดถึงตรงนี้ หวางหนันหนันก็เอียงตัวซบลงที่อกของเฉินเทียนเซิงอย่างอ่อนโยน มือที่สวยงามกุมมือของเฉินเทียนเซิงไว้แน่นๆ กระซิบที่ข้างหูของเฉินเทียนเซิง “เทียนเซิง ขอบคุณคุณมากจริงๆ คุณก็คือของขวัญที่ดีที่สุดที่เบื้องบนมอบให้กับฉัน”
“คุณก็เช่นกัน” เฉินเทียนเซิงยิ้มอย่างอ่อนโยน
อ่อนโยนและอ่อนหวาน
จนจาวซิ่วจือที่มองอยู่ต้องยิ้ม ปากเกือบจะฉีกถึงหูแล้ว ตาหยีจนเป็นสระอีแล้ว
หวางเต๋อก็ถอนหายใจครั้งแล้วครั้งเล่า ก้มหน้าแอบยิ้ม
แม้กระทั่งหวางเห้า ดูเหมือนว่าจะลืมความเศร้าโศกที่สูญเสียหลินเสว่เอ๋อไปแล้ว ใบหน้าเต็มไปด้วยความตื่นเต้น
พวกเขาเชื่อว่า หากหวางหนันหนันแต่งงานกับเฉินเทียนเซิง ตระกูลหวางของพวกเขา จะสามารถเดินไปถึงจุดสูงสุดของชีวิตอย่างแน่นอน
เฉินเทียนเซิงมาครั้งแรก ก็สามารถให้ของขวัญที่มีมูลค่ามากสองล้านกว่า อนาคตแม้หวางหนันหนันเพียงแค่ช่วยเหลือตระกูลหวางตามความต้องการ มันก็เพียงพอที่จะทำให้พวกเขาใช้ชีวิตได้อย่างสุขสบาย
“เทียนเซิงจ๋า อย่าหาว่าน้าพูดมากเลยนะ ช่วงบ่ายตอนที่นายขับรถเข้ามาในชุมชน มันเอิกเกริกมากอยู่นะ”
จาวซิ่วจืออาศัยที่เมา จงใจยิ้มแล้วถาม “ตอนนั้นน้าก็ได้ยินเสี่ยวเห้าพูด รถของนายอย่างน้อยก็ต้องห้าล้าน มันใช่เรื่องจริงมั้ย?”
“คุณน้า คุณน้าเป็นแม่ของหนันหนัน ผมจะว่าคุณน้าได้อย่างไรกัน?” เฉินเทียนเซิงยิ้มแล้วส่ายหัว
ภาพนี้ ยิ่งทำให้จาวซิ่วจือดีใจมากขึ้นไปอีก
เมื่อเทียบกับเทียนเซิง
เดรัจฉานอย่างเฉินตงจะแค่ไหนเชียว?
เทียนเซิงถึงจะเป็นลูกเขยของฉันจาวซิ่วจือ!
วินาทีต่อไปมา เฉินเทียนเซิงก็กล่าวขึ้น “แต่ว่ารถคันนั้นไม่ใช่ราคาห้าล้านกว่าจริงๆ แต่มันคือเจ็ดล้านกว่าหยวน”
โครม!
จาวซิ่วจือเหมือนถูกฟ้าผ่า ตกตะลึงอยู่อย่างนั้น
หวางเต๋อ หวางหนันหนันและหวางเห้า ก็เช่นกัน
เฉินเทียนเซิงยิ้มอย่างเรียบเฉย แล้วอธิบาย “เพราะมันมีค่าตกแต่งอื่นๆอีก ก็ไม่แพงหรอก”
เจ็ดล้านกว่า ยังไม่แพงเหรอ?
โอ้มายก๊อด!
“พี่ พี่เทียนเซิง นี่ยังไม่แพงอีกเหรอ?”
หวางเห้าควบคุมความรู้สึกไม่อยู่อยู่แล้ว “กล่าวด้วยริมฝีปากที่สั่น รถคันนี้ของพี่ สามารถซื้อรถออดี้ของผมสิบคันแล้ว”
“ออดี้?”
เฉินเทียนเซิงขมวดคิ้ว ดวงตามืดมนเล็กน้อย “เท่าไหร่?”
ภาพนี้ ทำให้หวางเห้าที่ดูอยู่สะดุ้งทันที หรือว่าผมพูดอะไรผิดไปเหรอ?
แต่เขาก็ยังคงตอบกลับ “สามแสนกว่ามั้ง”
หวางเต๋อกับจาวซิ่วจือใบหน้าเต็มไปด้วยความมึนงง
แต่จาวซิ่วจือที่ไหวพริบดี ก็ไปตีไปที่แขนของหวางเห้าไปหนึ่งที “ไอ้ลูกคนนี้ พูดมั่วอะไร?”
หวางเห้าอึ้งไปเลย
หวางหนันหนันก็รีบอธิบายกับเฉินเทียนเซิงทันที
แม้ว่าไม่รู้ว่าพูดผิดอะไร จึงทำให้เทียนเซิงมีปฏิกิริยาแบบนี้
แต่ในเมื่อเทียนเซิงแสดงท่าทีแบบนี้ออกมา ต้องเป็นเพราะหวางเห้าพูดอะไรผิดอย่างแน่นอน!
แต่ ยังไม่ทันที่เธอจะอ้าปากพูด
จู่ๆเฉินเทียนเซิงก็หัวเราะกล่าว “เสี่ยวเห้า นายเป็นถึงน้องชายของหนันหนัน ต่อไปเราก็เป็นคนในครอบครัวเดียวกันแล้ว นายก็คือน้องชายของพี่ ขับรถราคาสามแสนกว่าหยวนมันช่างไม่เหมาะกับนายเลย พรุ่งนี้ไปซื้อรถกับพี่ ราคาต่ำกว่าหนึ่งล้านหยวนนายไม่ต้องพิจารณาเลย”
โครม!
ในหัวของตระกูลหวางเสียงฟ้าผ่าได้ดังขึ้นอีกครั้ง
หนึ่ง หนึ่งล้าน?
ต่ำกว่าหนึ่งล้านไม่ต้องไปคิด?
โอ้มายก๊อด!
ร่างกายที่อ้อนแอ้นของหวางหนันหนันสั่นสะท้าน ร้อนไปทั้งตัว แทบอยากที่จะเข้าไปในร่างกายของเฉินเทียนเซิงทันที
หวางเต๋อดูมึนงง หัวใจของเขาเต้นแรง แต่มุมปากของเขากลับโค้งขึ้นโดยไม่รู้ตัว
จาวซิ่วจือวางมือของเธอไว้ใต้โต๊ะด้วยความตื่นเต้น และเกาต้นขาของหวางเต๋ออย่างรุนแรงจนกลายเป็นรอยเส้นเลือดแล้ว
สายตาที่เธอมองเฉินเทียนเซิง เต็มไปด้วยประกายที่ระยิบระยับ เกือบจะกลายเป็นพุลดอกไม้ไฟแล้ว
“พี่เทียนเซิง ไม่ พี่เขย พี่ พี่พูดจริงใช่มั้ย?”
หวางเห้าได้คุกเข่าลงบนพื้นทันที จับแขนของเฉินเทียนเซิงเอาไว้ ถามเขาอย่างตื่นเต้น
เป็นเพราะใช้แรงมากเกินไป ทำให้เฉินเทียนเซิงขมวดคิ้วเล็กน้อย
จาวซิ่วจือมองดูอย่างตั้งใจ หยิบตะเกียบขึ้นมาแล้วโยนไปตัวของหวางเห้า “ไอ้เด็กบ้า นายกำลังทำอะไรอยู่?”
หากเป็นเฉินตง หวางเห้าทำแบบนี้ จาวซิ่วจือไม่มีทางที่จะสนใจอย่างแน่นอน
อาจจะลงมือกับเฉินตงโดยตรง คนตระกูลหวางต้องเข้าข้างหวางเห้าอย่างแน่นอน
ตอนนี้ไม่เหมือนกันแล้ว เฉินเทียนเซิงนั้นเป็นลูกเขยที่ร่ำรวยในสายตาของจาวซิ่วจือ!
อีกอย่างยังเป็นลูกเขยที่รวยมากๆด้วย!
“คุณน้า ไม่เป็นไรครับ” เฉินเทียนเซิงคลายหว่างคิ้วออก กล่าวกับหวางเห้า “พรุ่งนี้แปดโมงเช้า พี่มารับนาย นายคิดดูก่อนว่าจะซื้อรถอะไร จำไว้ ห้ามไปคิดถึงรถที่ราคาต่ำกว่าหนึ่งล้าน มันไม่เหมาะสมกับนาย”
“ครับ ได้ครับพี่เขย ขอบคุณครับพี่เขย” หวางเห้าตื่นเต้นจนหัวใจจะหลุดออกมาแล้ว
หลังจากทานข้าวเสร็จ เฉินเทียนเซิงก็ลุกขึ้น “คุณน้าทั้งสอง เวลาก็ไม่เช้าแล้ว ผมต้องขอตัวก่อนแล้วครับ”
“พ่อแม่ เสี่ยวเห้า หนูก็จะไปพร้อมกับเทียนเซิง” หวางหนันหนันลุกตามขึ้นมา
จาวซิ่วจือรีบตอบ: “ดีๆๆ ขับรถระวังด้วยล่ะ หนันหนันต้องดูแลเทียนเซิงดีๆนะ”
พลางพูด พลางขยิบตาให้กับหวางหนันหนัน
หวางหนันหนันพอเข้าใจว่ามันคืออะไร หน้าแดงระรื่น กล่าวด้วยท่าทางที่จริต “แม่ เทียนเซิงดื่มเหล้าแล้ว ขับรถไม่ได้ เรานั่งแท็กซี่กลับไป”
“ดี เวลาไม่เช้าแล้ว รีบกลับบ้านเถอะ” จาวซิ่วจือกล่าวไล่
“ใช่แล้ว พ่อคะแม่คะ เทียนเซิงพักอยู่ที่เขตวิลล่าเขาเทียนซาน หากมีเวลาจะมาพาพวกท่านไปเที่ยวนะคะ” จู่ๆหวางหนันหนันก็นึกขึ้นได้ กล่าวกับหวางเต๋อและจาวซิ่วจืออย่างมีความสุข
โครม!
หวางเต๋อกับจาวซิ่วจือ หวางเห้าเหมือนโดนฟ้าผ่าอีกครั้ง ตกตะลึงกันอยู่ตรงที่เดิม
นึกถึงสิ่งที่พบเจอครั้งที่แล้วตรงประตูวิลล่า จู่ๆจาวซิ่วจือก็มีความรู้สึกสบายใจขึ้นมา
ยามหมาๆพวกนั้น ตอนนี้ลูกเขยของฉันพักอยู่ที่นั่นแล้ว ครั้งหน้าหากไปอีก ฉันจะดูว่ามีใครกล้ามาแตะต้องฉันอีก?
ขณะที่ใจที่คิดอยู่ จาวซิ่วจือยังคงยิ้มและพยักหน้า “จ้าๆๆๆ”
รอกระทั่งหวางหนันหนันกับเฉินเทียนเซิงจากไปแล้ว
จู่ๆหวางเต๋อก็พูดขึ้น “หนันหนันกับเทียนเซิงเพิ่งรู้จักไม่นาน ให้เธอตามไปด้วยแบบนี้ ดูไม่ค่อยจะดีมั้ง?”
เขาเป็นครู ดังนั้นก็จะพิจารณาถึงปัญหาเรื่องหน้าตาทางสังคมด้วย
เพิ่งจะพูดออกมา จาวซิ่วจือก็หยิกหวางเต๋ออย่างแรง “คุณมันจะไปรู้อะไร? ลูกเขยเศรษฐีอย่างเทียนเซิง ฉันฝันยังอยากได้เลย ต้องให้หนันหนันตัวติดตลอดเวลาไม่ดีเหรอ? ไม่อย่างนั้นหากหลุดมือจะทำไง?”
“พ่อครับ แม่ครับ ผมรู้สึกเหมือนฝันไปเลยครับ” จู่ๆหวางเห้าก็พูดขึ้น
“พ่อก็รู้สึกเหมือนฝัน”
จาวซิ่วจือเลิกคิ้ว ถามหวางเต๋อ “คุณเจ็บมั้ย?”
หวางเต๋อพยักหน้า
แววตาของจาวซิ่วจือเต็มไปด้วยประกาย กล่าวอย่างเข้าใจ “ครอบครัวเรา โชคดีแล้วจริงๆ หนันหนันจะต้องทำให้ครอบครัวของเราเจริญรุ่งเรือง หนันหนันช่างเป็นลูกสาวที่ดีของฉันจริงๆ”