The Winner is king ผู้ชนะเลศคือราชา - ตอนที่ 119
บทที 119 ประณามความผิดของอีกฝ่าย
แสงอาทิตย์แรกสาดส่องมายังพื้นในช่วงเช้าตรู่
เฉินตงก็ลืมตาขึ้น แต่กลับพบว่าในห้องพักผู้ป่วยมีคนเพิ่มขึ้นมาหนึ่งคน
ท่านหลงเอนกายอย่างเหนื่อยล้าอยู่บนโซฟาในห้องพักผู้ป่วย โดยใช้มือทำเป็นหมอนแล้วหลับตาพักผ่อนอยู่
เฉินตงรู้สึกยินดีขึ้นมาทันที
รีบหันไปส่งสายตาถามกูหลังที่นั่งอยู่ข้างๆ ซึ่งตื่นขึ้นมาตั้งแต่เช้า
“ท่านหลง คุณเฉินตื่นแล้ว”
กูหลังกลับตะโกนเรียกออกมาทันที
เฉินตงขมวดคิ้ว ที่เขาหันไปมองกูหลังเป็นเพราะไม่ต้องการรบกวนเวลาพักผ่อนของท่านหลง
ท่านหลงปรากฏตัวขึ้นในห้องพักผู้ป่วยแต่เช้าเช่นนี้ แสดงว่าจะต้องรีบเดินทางกลับมาโดยไม่ได้หยุดพักตลอดทั้งคืน
ท่านหลงลืมตาขึ้น เขาหันมองเฉินตงด้วยใบหน้าที่เต็มไปด้วยความอ่อนเพลีย จากนั้นจึงยิ้มแล้วพูดว่า : “คุณชาย ผมเป็นคนสั่งกูหลังเองว่า หากคุณตื่นแล้ว ให้ปลุกผมทันที”
เฉินตงพยักหน้า เขาขมวดคิ้วแล้วถามว่า : “ที่ตระกูลเฉินเป็นอย่างไรบ้าง ?”
เรื่องของกฎตระกูล แน่นอนว่าจัดการเรียบร้อยแล้ว
แต่ความวุ่นวายที่จะตามมาหลังจากนี้ ก็คงจะมีไม่น้อยเช่นกัน
ยังไงเสียเฉินเทียนเซิงก็เป็นหนึ่งในผู้สืบทอดมรดกของตระกูลเฉิน ส่วนตัวเขานั้นเป็นเพียงแค่ “ลูกนอกคอก” ในสายตาของคนตระกูลเฉินเท่านั้น
ถ้าเรื่องทุกอย่างจบลงอย่างง่ายดายเพียงเพราะการช่วยกันกวนน้ำให้ขุ่นของพ่อกับท่านหลงแล้วล่ะก็ เช่นนั้นเฉินเทียนเซิงก็คงไม่มีค่าพอที่จะอยู่ในฐานะของผู้สืบทอดมรดกหรอก
เมื่อได้ยิน
ท่านหลงก็ยิ้มออกมาอย่างหดหู่ : “ผมรีบเดินทางข้ามวันข้ามคืนกลับมาก็ด้วยสาเหตุนี้ เมื่อคืนคุณหญิงใหญ่ตระกูลเฉินเดินทางมาที่เมืองนี้”
คุณหญิงใหญ่ตระกูลเฉิน ?
เฉินตงอึ้งไป ม่านตาของเขาหดลง
หลังจากตื่นตกใจแล้ว เขาก็ยิ้มออกมาอย่างจนใจ : “คิดไม่ถึงเลยว่าจะทำให้คุณหญิงใหญ่ตระกูลเฉินออกโรงเองมาแล้ว ฐานะของเฉินเทียนเซิงในตระกูลเฉินถือว่าไม่ธรรมดาเลย”
ม่านหลงก็รู้สึกจนใจและหดหู่จนหาที่เปรียบไม่ได้
ในตระกูลเฉิน ฐานะของคุณหญิงใหญ่ตระกูลเฉินนั้นอยู่เหนือสิ่งอื่นใด ในฐานะที่เป็นบรรพบุรุษเพียงคนเดียวที่ยังมีชีวิตอยู่ จึงมีอำนาจเปรียบประดุจดั่งไทเฮาที่คอยชักใยอยู่หลังม่าน
เธอไม่ได้เป็นผู้ควบคุมตระกูลเฉิน แต่ต่อให้เจ้าบ้านเอง ก็ยังต้องยอมอ่อนข้อให้แก่เธออย่างมาก
เพราะเจ้าบ้านเอง มีคำว่ากตัญญูค้ำคออยู่
ท่านหลงสูดหายใจเข้าเต็มปอดแล้วพูดว่า : “ดังนั้นนายท่านจึงสั่งให้ผมเดินทางข้ามวันข้ามคืนกลับมา เพราะเป็นห่วงว่าคุณชายจะไม่สามารถรับมือกับคุณหญิงใหญ่ได้”
“เหอะ !”
เฉินตงหัวเราะเยาะออกมา : “การประณามความผิดของอีกฝ่าย เกรงว่าท่านหลงเองก็อาจจะรับมือไม่ไหวเช่นนี้ ?”ท่านหลงหัวเราะเยาะตัวเอง และไม่ได้โต้แย้งอะไร
เขาเป็นเพียงแค่คนรับใช้ของตระกูลเฉิน คุณหญิงใหญ่ตระกูลเฉินเดินทางมาเมืองนี้เพื่อประณามความผิดของอีกฝ่าย เขาเองก็ยากที่จะรับมือได้จริงๆ และไม่มีสิทธที่จะรับมือด้วย”
ที่เดินทางข้ามวันข้ามคืนกลับมานั้น ก็เพื่อที่จะมาอยู่เคียงข้างเฉินตง เกรงว่าเฉินตงจะทำเรื่องรุนแรงเกินกว่าเหตุจนทำให้เรื่องราวบานปลายใหญ่โตจนยากจะแก้ไข
ท่านหลงพูดว่า : “นายท่าน……อาจจะตามมาด้วย”
คุณพ่อ ? !
เฉินตงผงะไป จู่ๆ ก็มีความคิดซับซ้อนวุ่นวายเกิดขึ้นมาในหัวเต็มไปหมด
จู่ๆ ในใจของเขาก็เกิดความรู้สึกที่ผสมปนเปกันไปหมด
ทั้งลังเล วิตกกังวล โกรธแค้น……ความรู้สึกทุกอย่างรวมเข้าด้วยกัน
ถ้าหากเขามาจริงๆ ฉัน……ควรจะเผชิญหน้ากับเขาอย่างไรดี ?
ในใจของเฉินตกตอนนี้ ก็รู้สึกวิตกกังวลจนทำอะไรไม่ถูก
“คุณชาย ยังไงเสียก็จะต้องพบกัน”
ท่านหลงมองความคิดของเฉินตงออก จึงยิ้มอย่างอ่อนโยน : “เพียงแต่เรื่องที่เกิดขึ้นในครั้งนี้ ทำให้ทุกอย่างดำเนินไปเร็วกว่าที่คาดการณ์เอาไว้ นายท่านเองก็กลัวว่าคุณจะไม่สามารถรับมือกับคุณหญิงใหญ่ตระกูลเฉินได้”
“เขาจะมาถึงเมื่อไหร่ ?” เฉินตงถาม
“น่าจะเป็นคืนนี้” ท่านหลงตอบ “คุณหญิงใหญ่ตระกูลเฉินตัดสินใจได้เมื่อคืน และออกเดินทางในทันที ตระกูลเฉินใหญ่โตเช่นนั้น เจ้าบ้านจึงจำเป็นจะต้องจัดการเรื่องทุกอย่างภายในบ้านเอาไว้ให้เรียบร้อยทั้งหมดเสียก่อน ดังนั้นจึงไม่สามารถไปไหนตามอำเภอใจได้เหมือนกับคุณหญิงใหญ่”
เฉินตงพยักหน้า แววตาเต็มไปด้วยอารมณ์ที่ซับซ้อนแล้วพูดว่า : “เรื่องนี้ ห้ามให้กระทบกระเทือนไปถึงคุณแม่โดยเด็ดขาด”
ตอนนี้แม่ซึ่งอยู่ในโรงพยาบาลได้สติขึ้นมาแล้ว คุนหลุนอยู่ที่นั่น จึงสามารถมั่นใจได้ว่าตอนนี้แม่จะไม่เป็นอะไร
แต่การกลับมาอยู่พร้อมหน้าพร้อมตากันหลังจากที่เวลาร่วงเลยไปกว่ายี่สิบปีแล้วนั้น สำหรับแม่แล้วเขาไม่แน่ใจว่าจะเป็นเรื่องที่น่ายินดีหรือเป็นเรื่องที่ทำร้ายจิตใจกันแน่
“เข้าใจแล้วครับ” ท่านหลงพยักหน้า
หลังจากพูดจบ
ประตูของห้องพักผู้ป่วยก็ถูกเปิดออก
มีผู้ชายสวมใส่ชุดสูทสีดำสามคนเดินเข้ามา
ภาพที่ปรากฏขึ้นนี้ ทำให้กูหลังขมวดคิ้วแน่น และเริ่มระมัดระวังตัวขึ้นมา
คนที่เป็นหัวหน้าพูดออกมาอย่างหนักแน่นว่า : “เฉินตง คุณหญิงใหญ่ตระกูลเฉินเรียกให้คุณไปพบ”
น้ำเสียงที่ฟังดูเย็นชา เป็นการแสดงออกถึงท่าทีว่าอยู่เหนือกว่า
มาเร็วขนาดนี้เลยหรือ ? !
เฉินตงและท่านหลงรู้สึกตกใจพร้อมกัน
“เรียกให้ไปพบ ?”
เฉินตงหัวเราะ แววตาที่ลึกซึ้งมองไปที่ชายที่อยู่ในชุดสูททั้งสามคน : “พวกนายคิดว่าอาการบาดเจ็บของฉันในตอนนี้ สามารถออกจากโรงพยาบาลได้อย่างนั้นหรือ ? เธอมาหาฉันเองได้”
ท่านหลงหางตากระตุก คำพูดนี้ของเฉินตงถือเป็นการท้าทายคุณหญิงใหญ่ตระกูลเฉินอยู่
ที่บอกว่า “เรียกให้ไปพบ” เป็นวิธีที่คุณหญิงใหญ่ตระกูลเฉินจะใช้แสดงฐานะและตัวตนของเธอ แม้แต่ในตระกูลเฉิน เจ้าบ้านเองก็ยังต้องถูกเธอเรียกให้ไปพบ !
“เหอะ ! ตราบใดที่ยังไม่ตาย คุณก็จำเป็นต้องไปเข้าพบ” ชายในชุดสูทหัวเราะเยาะออกมา : “แต่ถ้าหากตายแล้วแต่คุณหญิงใหญ่ยังอยากพบอีกล่ะก็ ต่อให้พวกเราจะต้องหามโลงศพของคุณไปเข้าพบก็ต้องทำ”
เฉินตงหรี่ตาทั้งสองข้างลง รู้สึกเกิดความมืดหม่นขึ้นในจิตใจ
ขณะที่กำลังจะอ้าปากพูด ท่านหลงกลับชิงยกมือขึ้นคารวะเสียก่อน จากนั้นจึงยิ้มแล้วพูดว่า : “เวลาสองทุ่ม ผมจะเป็นคนพาคุณชายไปเข้าพบคุณหญิงใหญ่เอง”
“คลับสี่ยิ่นนอกเมือง”
ชายในชุดสูททิ้งที่อยู่เอาไว้ให้ จากนั้นจึงพาคนกลับไป
ตั้งแต่ต้นจนจบ ไม่พูดอย่างอื่นที่นอกเหนือจากนี้เลยสักคำ
ท่าทีสูงส่งและหยิ่งผยอง ไม่แยแสอะไรทั้งสิ้น
แม้แต่กับท่านหลงก็ไม่ไว้หน้าเลยสักนิด
“ท่านหลง นายนี่เป็นคนรับใช้ที่ไม่ได้เรื่องเท่าไหร่เลยนะ แม้แต่เด็กหนุ่มสามคนยังไม่ไว้หน้านายเลย” เฉินตงพูดติดตลก
เขาไม่เคยคิดที่จะหลีกหนีมาก่อน ในเมื่อคุณหญิงใหญ่ตระกูลเฉินเองก็มาถึงเมืองนี้แล้ว ต่อให้คิดจะหลบก็คงหลบไม่พ้น
ปฏิกิริยาเมื่อครู่ เป็นเพราะท่าทีของชายในชุดสูททั้งสามคน ทำให้เขารู้สึกไม่สบอารมณ์นัก
ท่านหลงลูบคางอย่างจนใจ : “พวกเขาเป็นคนรับใช้คนสนิทของคุณหญิงใหญ่ อยู่ในตระกูลเฉินก็มีหน้าที่รับใช้คุณหญิงใหญ่โดยเฉพาะ ผมเป็นคนรับใช้คนสนิทของนายท่าน แน่นอนว่าพวกเขาไม่จำเป็นจะต้องไว้หน้าผม โครงสร้างภายในตระกูลเฉินนั้นสลับซับซ้อนจนยากเกินจะเข้าใจ”
ตอนนี้เอง แววตาของกูหลังซึ่งยืนอยู่ด้านข้างก็เป็นประกายขึ้นมาทันใด
“คุณเฉิน คลับสี่ยิ่นนี่……”
เฉินตงเลิกคิ้ว แล้วหันมองกูหลังด้วยความสงสัย
“นายจะบอกว่าคลับสี่ยิ่นนี้คือคลับส่วนตัวที่ผู้ชายที่มีอำนาจที่สุดในเมืองนี้คนนั้นเป็นคนเปิดใช่ไหม ?” ท่านหลงพูดพลางยิ้มออกมา
เขาถูกนายท่านส่งมาให้ช่วยสนับสนุนคุณชาย ตอนที่มาถึงนี่นี่ เขาก็ทำความเข้าใจกับสภาพต่างๆ และสถานการณ์ต่างๆ ที่เกิดขึ้นในท้องถิ่นอย่างชัดเจนในทันที”
หากอาศัยเครือข่ายที่ตระกูลเฉินมี เพื่อทำความเข้าใจเรื่องเหล่านี้ ก็ไม่ใช่สิ่งที่ยากเลยสักนิด !
“ถูกต้อง !”
กูหลังพยักหน้าอย่างเห็นด้วย “ตอนแรกที่ผมยังอยู่ในโรงยิมมวยใต้ดิน เคยบังเอิญได้ยินเจ้าของโรงยิมมวยพูดว่า คลับสี่ยิ่นถือเป็นสุดยอดของคลับที่อยู่ในเมืองนี้ เกรงว่ามีเพียงแค่คนที่มีอำนาจอย่างโจวเย่นชิว โจวจุนหลงเท่านั้น ที่จะมีสิทธทำเรื่องขอเข้าไปข้างในได้”
“แม้แต่พวกของโจวเย่นชิวยังต้องทำเรื่องขอเข้าไปข้างในเลยหรือ ?”
เฉินตงหัวเราะออกมาอย่างประหลาดใจ โจวเย่นชิว โจวจุนหลงถือว่ายิ่งใหญ่ค้ำฟ้าในเมืองนี้ แต่ภายใต้คำว่า “ใหญ่ค้ำฟ้า” นั้น ก็ยังต้องผ่านขั้นตอนการทำเรื่องขอด้วยหรือ?
แต่ทว่า ไม่ช้า สีหน้าของเฉินตงก็เคร่งขรึมขึ้นทันที ในแววตามีความคิดที่เป็นปรปักษ์ปรากฏขึ้น
“ถ้าหากอยู่ในนั้น การประณามความผิดของฝ่ายตรงข้าม ก็คงจะทำได้ยากแล้ว”
“เป็นเช่นนี้จริงๆ”
ท่านหลงพยักหน้า ใบหน้าปรากฏความรู้สึกที่ซับซ้อน : “ถ้าหากคนผู้นั้นมีอคติต่อคุณชายเพราะคุณหญิงใหญ่แล้วล่ะก็ ต่อไปธุรกิจของไท่ติ่งก็จะเจริญเติบโตในเมืองนี้ได้ยาก
เฉินตงขมวดคิ้วแน่น แล้วพูดอย่างมีนัยว่า : “ถ้าหากโจวเย่นชิวเป็นคนรับหน้าที่นี้ ก็คงจะจัดการได้ง่ายกว่า”
ถ้าหากเป็นโจวเย่นชิว เขาก็ไม่จำเป็นจะต้องกลัวเลยสักนิด เพียงแค่ใช้ความสามารถทั้งหมดที่มีรับมือกับคุณหญิงใหญ่ตระกูลเฉินก็พอแล้ว
แต่ตอนนี้ไม่เพียงแต่มังกรผู้ยิ่งใหญ่มาเท่านั้น แต่ยังมีไส้เดือนคอยสนับสนุนอยู่ด้วย หากเฉินตงถูกกดดันจากทั้งสองฝ่ายที่แข็งแกร่งเช่นนี้ คงทำให้เขารู้สึกเป็นกังวลไม่น้อย
“ผมจะไปติดต่อนายท่าน” ท่านหลงรีบเดินออกจากห้องพักผู้ป่วยไป
……
เวลาหนึ่งทุ่ม
ท้องฟ้าเริ่มมืดลง
เฉินตงและท่านหลงขึ้นรถโรลส์-รอยซ์พร้อมกัน จากนั้นจึงมุ่งหน้าไปยังคลับสี่ยิ่นที่อยู่นอกเมือง
คุนหลุนรับหน้าที่ขับรถ ส่วนกูหลังไม่ได้ตามมาด้วย
ฐานะของกูหลังไม่เหมาะที่จะพามาด้วย อีกทั้งจุดหมายที่มาในคืนนี้ก็เพื่อที่จะให้คุณหญิงใหญ่ตระกูลเฉินตำหนิความผิด หากมีคนเยอะเกินไปคงไม่ใช่เรื่องดีนัก
ระหว่างทาง บรรยากาศภายในรถเต็มไปด้วยความกดดัน
สีหน้าของเฉินตงและท่านหลงเคร่งเครียดอย่างเห็นได้ชัด
ในมือของท่านหลงถือโทรศัพท์เอาไว้ แล้วคอยก้มหน้าลงไปมองเป็นระยะๆ
ทันใดนั้น คุนหลุนที่กำลังขับรถอยู่ก็ส่งเสียงออกมาเพื่อทำลายบรรยากาศที่เงียบสงัด
“คุณชาย ท่านหลง ใกล้จะถึงคลับสี่ยิ่นแล้วครับ”
“ดี”
เฉินตงขานรับ จากนั้นจึงนั่งตัวตรง แล้วจู่ๆ ก็ยกหมัดขวาขึ้นมา
ตุบ !
เขาออกแรงต่อยไปที่บาดแผลที่ถูกพันเอาไว้อยู่
ใบหน้าของเฉินตงบิดเบี้ยว และส่งเสียงร้องออกมาด้วยความเจ็บปวด ผ้าพันแผลที่พันปิดบาดแผลเอาไว้อาบไปด้วยเลือดสีแดงสด
“คุณชาย นี่คุณทำอะไรของคุณ ?”
ภาพที่ปรากฏขึ้นตรงหน้าอย่างกะทันหัน ทำให้ท่านหลงตกใจจนหน้าซีด