The Winner is king ผู้ชนะเลศคือราชา - ตอนที่ 125
บทที่ 125 เสี่ยวเฉินตงนั้นไม่เลว!
“ตื่นเต้น?” ท่านหลงถาม
เฉินตงยิ้มๆ “คุณทายดู?”
ท่านหลงลูบคางเบาๆ แล้วกล่าวอย่างจริงจัง “คุณชาย ไม่ว่ายังไงมันก็ต้องเจอกันอยู่ดี”
เฉินตงหน้าดำคร่ำเครียด ไม่มีคำพูด
เพียงแต่ หากพูดว่าไม่ตื่นเต้น มันก็โกหกแล้ว
แม้ว่าตอนเรียนมหาวิทยาลัย จะเคยเห็นพ่อแม่ของกู้ชิงหยิ่งก็ตาม
แต่ตอนนั้นกับตอนนี้มันไม่เหมือนกันแล้ว
ตอนนั้นเจอในฐานะของเพื่อน แต่วันนี้เจอในฐานะของแฟน
ยิ่งไปกว่านั้น เขายังผ่านการหย่าร้างมาอีก
มันเพียงพอที่จะทำให้ภาพเขาที่อยู่ในใจของพ่อแม่กู้ชิงหยิ่ง ถูกหักคะแนนไปมาก
ครั้งที่แล้วที่กู้ชิงหยิ่งจากไป ทั้งสองคนก็คุยสื่อสารกันน้อยอยู่แล้ว ตอนนี้เจอมากัน ยังต้องเจอพ่อแม่ของกู้ชิงหยิ่งด้วย
ครั้งนี้ มันจะเกิดเรื่องอะไรขึ้นบ้างอีก?
เฉินตงยิ่งคิดยิ่งรู้สึกกระวนกระวาย
ขายโครงการอสังหาริมทรัพย์พร้อมกันทั้งสามโครงกัน เฉินตงสามารถรักษาความสงบในใจได้
แต่การเจอกู้ชิงหยิ่งอีกครั้ง กลับทำให้ใจเขาไม่สามารถสงบลงมาได้
ท่านหลงที่อยู่ด้านข้างมองเฉินตงที่ขมวดคิ้ว ท่าทางที่ตื่นเต้น หัวเราะพูด
“คุณชายท่าทางตอนนี้ของคุณ เหมือนกับสมัยที่พ่อของคุณตอนไปเจอครอบครัวของแม่คุณเลย”
“พ่อแม่ของฉัน?”
เฉินตงมองไปท่านหลง
ท่านหลงตกใจ แววตาเปล่งประกายไปครู่เดียว จากนั้นก็ยิ้มแล้วยกมือห้าม “ล้วนเป็นเรื่องในอดีตแล้ว ไม่มีค่าให้เอ่ยถึง”
ไม่มีค่าให้เอ่ยถึงจริงเหรอ?
ในใจเฉินตงมีความสงสัย
เพราะไม่มีพ่อตั้งแต่เด็ก สำหรับอดีตของพ่อแม่ น้อยมากที่จะไปทำความเข้าใจ
ท่านหลงพูดถึง ทันใดนั้นก็ทำให้เขาสนใจขึ้นมา
แต่ท่านหลงนั้นได้หยุดหัวข้อสนทนานี้ทันที เห็นได้ชัดว่ามันมีความหมายที่ลึกซึ้ง
เช้าวันรุ่งขึ้น
ความสนใจของคนทั้งเมือง ล้วนอยู่ในขณะที่พระอาทิตย์ขึ้นสู่ท้องฟ้า ทั้งหมดได้มารวมตัวกันที่ฝั่งตะวันตกของเมือง
หลังจากผ่านกันโฆษณามาระยะหนึ่ง คนที่อยู่ในเมืองต่างก็รู้นานแล้วว่าไท่ติ่งที่อยู่ฝั่งตะวันตกของเมืองจะขายโครงการอสังหาริมทรัพย์สามโครงการพร้อมกัน
ครั้งที่แล้วที่โครงการหลงถิงฮัวหยวนขายหมดในวันเดียว ภาพยังคงชัดเจน
วันนั้นเพิ่งจะผ่านไปไม่นานเอง?
ก็จะมีการพรีเซลล์อีกครั้งแล้ว อีกอย่างมันคือสามโครงการ!
วันนี้ราคาบ้านของฝั่งตะวันตกของเมือง ต่อให้ขายพร้อมกันสามโครงการ ก็ไม่มีผลกระทบต่อกระแส
ครั้งที่แล้วหลงถิงฮัวหยวนขายหมดในวันเดียว มันทำให้คนที่เตรียมตัวจะซื้อบ้าน ต้องผิดหวังกลับบ้าน
และครั้งนี้ พรีเซลล์สามโครงการพร้อมกัน ที่อยู่อาศัยขนาดใหญ่ ทำให้ผู้ที่ผิดหวังเลือดในตัวกลับมาพลุ่งพล่านอีกครั้ง
การมาซื้อบ้านของทุกคน เต็มไปด้วยความกระตือรือร้นให้ความรู้สึกเหมือนกับได้ฟรี
เพียงแต่ มันเหมือนกับสิ่งที่พวกของเฉินตงคาดการณ์เอาไว้เลย
พรีเซลล์โครงการทั้งสามโครงการในเวลาเดียวกัน มันก็ทำให้ความสนใจถูกกระจายตัวออกไปจริงๆ
สิ่งนี้ยังนำไปสู่ความจริงที่ว่า โครงการทั้งสามแห่งได้รวบรวมผู้ซื้อและผู้เข้าชมเป็นจำนวนมาก แต่บรรยากาศของโครงการทั้งสามแห่งเทียบไม่ได้กับการต่อคิวยาวเหยียดที่หน้าหลงถิงฮัวหยวนในครั้งที่แล้ว
หลังจากจบพิธีตัดริบบิ้น เฉินตงกลับไปที่บริษัทไท่ติ่งโดยตรง
นั่งอยู่นั่งจอคอมพิวเตอร์ ใส่ใจกับข้อมูลการขายแบบเรียลไทม์ที่ส่งมาจากโครงการทั้งสามแห่ง
แม้ว่าปริมาณการซื้อขายจะไม่ระเบิด แต่ก็เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ในสภาวะนี้การขายแบบนี้ การขายหมดก็เป็นเพียงเรื่องของเวลาเท่านั้น
“พี่ตง กระแสครั้งนี้เทียบไม่ได้กับหลงถิงฮัวหยวนจริงๆ คาดว่านักข่าวก็คงไม่รู้จะสร้างกระแสข่าวยังไงแล้ว”
เสี่ยวหม่ารู้สึกเซ็งเล็กน้อย เมื่อคิดถึงบรรยากาศการพรีเซลล์ที่ร้อนแรงที่ได้รับความสนใจจากคนทั้งเมืองครั้งที่แล้ว ใจเขาก็รู้สึกเคว้งคว้างเล็กน้อย
เดิมหากพรีเซลล์ครั้งละหนึ่งโครงการ บรรยากาศที่ร้อนระอุก็จะสามารถเกิดขึ้นได้อีกหลายครั้ง!
นี่เป็นเวลาที่เหมาะสำหรับการโชว์ศักยภาพของไท่ติ่งในเมืองนี้!
“การโชว์ศักยภาพเพียงครั้งเดียวก็พอแล้ว”
เฉินตงยิ้มอย่างอิสระ และชี้ไปที่หน้าจอคอมพิวเตอร์ “ตัวเลขการขาย ถึงจะเป็นสิ่งที่ต้องไขว่คว้า ร่ำรวยอย่างเงียบๆ คือวิถีแห่งราชา”
เสี่ยวหม่าก็ได้ตามเฉินตงสังเกตข้อมูลตัวเลข สำหรับสถานการณ์การพรีเซลล์โครงการทั้งสามแห่งก็เป็นที่น่าพอใจ
เพียงแต่คำพูดของเฉินตง เขายังมีจุดที่ไม่ค่อยเข้าใจ “แต่ว่าการที่ให้ไท่ติ่งโชว์ศักยภาพอีกสักสองสามครั้ง ให้สื่อรายงานข่าวเยอะหน่อย มันน่าจะเอื้อให้ภาพลักษณ์ของไท่ติ่งของเราถูกฝังรากลึกในใจของผู้คนไม่ใช่เหรอ?”
“ต้นไม้ใหญ่ง่ายต่อการถูกลมโค่น!”
เฉินตงเอ่ยคำพูดประโยคนี้ด้วยดวงตาที่ลึกๆ จากนั้นก็ดูข้อมูลตัวเลขในคอมพิวเตอร์ต่อไป
และเสี่ยวหม่าก็ก้มหน้าอย่างครุ่นคิด
ก็อยู่ในช่วงเวลาของการพรีเซลล์ของโครงการทั้งสามแห่ง
ด้านหน้าหนึ่งในโครงการ รถเบนซ์จิ๊บสีดำค่อยๆเคลื่อนตัวเข้ามา บนถนนที่ไม่ไกลจากตัวโครงการ รถก็ได้หยุดลง
เมื่อกระจกรถถูกเลื่อนลงมา ชายวัยกลางคนผมหงอก หวีผมไปด้านหลังทั้งหมด ใบหน้าที่แลดูน่าเกรงขาม ยื่นหัวออกมา
มองดูสำนักงานขายที่เต็มไปด้วยผู้คน
ชายวัยกลางคนอดไม่ได้ที่จะยิ้มเล็กน้อย “เจ้าหมอนี่ บริหารจัดการได้ไม่เลวเลย”
“พ่อคะ อะไรไม่เลวเหรอ เฉินตงครั้งนี้ทำเรื่องโง่ๆแล้ว”
ในรถ น้ำเสียงที่ต่อว่าก็ดังขึ้น “พรีเซลล์ครั้งก่อนได้ดึงดูดความสนใจของคนทั้งเมือง เป็นเหตุการณ์ที่ไม่เคยมีมาก่อน คราวนี้กลับไม่ใช้โอกาสตีเหล็กในขณะที่กำลังร้อนอยู่ ยังจะมีพรีเซลล์โครงการสามโครงการในเวลาเดียวกัน นี่ไม่ใช่เพราะโลภเหรอ? ถ้าเราสามารถทำพรีเซลล์ให้ได้กระแสร้อนแรงซ้ำอีกครั้ง ไท่ติ่งของเขาก็จะเป็นที่จดจำของคนทั้งเมือง ”
“อ้อ คลิปดูวิดีโอนั้นพ่อเคยดูทางอินเทอร์เน็ตแล้ว การแสดงความรักกับลูกน้อยที่น่ารักของพ่ออย่างโจ่งแจ้งขนาดนั้น มันดังไปทั้งเมืองแล้วจริงๆ”
ชายวัยกลางคนหัวเราะและพูดติดตลก “มันใช่พรีเซลล์ที่ดังในเมืองที่ไหนกันล่ะ? เห็นได้ชัดว่าเป็นลูกสาวของพ่อที่ดังไปทั้งเมือง!”
“พ่ออะ……..”
น้ำเสียงที่ความโกรธนั้นไม่รู้จะทำยังไงดี
“คุณนี่มันหน้าไม่อายจริงๆเลย มีที่ไหนกันล้อเล่นกับลูกสาวแบบนี้เหรอ?” มีเสียงที่อ่อนโยนแฝงด้วยความโกรธเล็กน้อยดังขึ้น
ชายวัยกลางคนหัวเราะเสียงดัง เลื่อนกระจกรถขึ้นมาอีกครั้ง
รถเบนซ์จิ๊บค่อยๆถูกสตาร์ทขึ้น
และในรถ ชายวัยกลางคนก็ได้หยิบเอกสารฉบับหนึ่งขึ้นมาดู
ยิ่งดู รอยยิ้มบนใบหน้าของเขายิ่งเพิ่มมากขึ้น
พยักหน้าเป็นระยะ
ด้านข้าง มีผู้หญิงสองคนมองอยู่เงียบๆ
หนึ่งในนั้น ที่น่าประหลาดใจมันคือ……….กู้ชิงหยิ่ง
และคนที่อยู่ข้างกายกู้ชิงหยิ่ง ก็คือสาวสวยคนหนึ่ง มีเสน่ห์น่าหลงใหล ไม่ว่าจะเป็นรูปร่างหรือหน้าตาซึ่งไม่มีริ้วรอยของกาลเวลาหลงเหลือไว้เลย
หากคนอื่นมาเห็น ไม่คิดว่าเขาทั้งสองเป็นแม่ลูกอย่างแน่นอน กลับคิดว่าเขาสองคนเป็นพี่น้องกัน
ในความเป็นจริง เมื่อคืนกู้ชิงหยิ่งและพ่อแม่ของเธอได้กลับมาถึงเมืองนี้แล้ว
เพียงเพราะอยู่กับพ่อแม่ บวกกับเฉินตงกำลังยุ่งการเรื่องพรีเซลล์ ดังนั้นกู้ชิงหยิ่งก็เลยไม่ได้บอกเฉินตงทันที
เช้านี้ เป็นคุณพ่อที่เสนอ อยากจะมาดูสถานการณ์การพรีเซลล์ในโครงการของเฉินตง
จากนั้น ก็เลยมีภาพอย่างในตอนนี้
“พ่อคะ ทำไมพ่อถึงชื่นชมเจ้าทึ่มนั่นจัง?” กู้ชิงหยิ่งรู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย
เพราะความโลภมาก จึงยอมทิ้งความคิดเห็นแรงผลักดันของคนทั้งเมืองที่มีต่อไท่ติ่ง ในมุมมองของเธอ วิธีการทำงานของเฉินตงนั้นโง่มาก
เค้กชิ้นใหญ่ขนาดนี้อย่างเมืองฝั่งตะวันตก ค่อยๆปล่อยออกมาทีละนิด ไม่ต้องกังวลถึงเรื่องยอดขายเลย ในทางกลับกันมันสามารถทำให้ไท่ติ่งค่อยๆซึมเข้าไปในใจของคนในเมืองนี้
ธุรกิจหากอยากให้มันเติบโตในระยะยาว การยอมรับของคนในสังคมและมีภาพลักษณ์ที่ดี ต่างก็ขาดไม่ได้เลย
แต่แล้ว ปฏิกิริยาของคุณพ่อ ทำไมจึงไม่ค่อยปกตินัก?
“เจ้าลูกโง่!”
ชายวัยกลางคนลูบผมของกู้ชิงหยิ่งอย่างอ่อนโยน แล้วพูดอย่างจริงจัง “ต้นไม้ใหญ่ดึงดูดลม ปืนก็จะยิงนกที่โผล่หัวออกมา การโชว์ศักยภาพที่มากเกิน กลับจะนำหายนะมาสู่ตัวเอง”
เขาชี้ไปที่โครงการที่กำลังขายกันอย่างดุเดือดที่อยู่ด้านนอก แล้วกล่าว “ฝั่งตะวันตกของเมืองตอนนี้ก็คือเค้กที่หอมกรุ่น มีผู้คนนับไม่ถ้วนที่อยากได้มัน ถ้าหากทำให้เป็นมันเป็นที่สนใจครั้งแล้วครั้งเล่า มันเพียงแต่จะทำให้คนที่อยากได้เกิดความอิจฉา ไม่กลัวโจรมันขโมยของแต่กลัวโจรมันฝังใจ
“สนามธุรกิจก็เหมือนกับสนามรบ คนที่คอยจะแทงข้างหลังนั้นมีมากมาย ลูกว่าการโชว์ศักยภาพนั้นดี หรือว่าเอาเงินเข้ากระเป๋าอย่างเงียบๆดีกว่าละ?”
พูดจบ ชายวัยกลางคนก็ลูบที่คาง แล้วยิ้มๆ
“เสี่ยวเฉินตงคนนี้ไม่เลว เมื่อก่อนตอนที่พ่อเห็นเขา ทำไมถึงไม่รู้สึกว่าเด็กคนนี้จะมีวิสัยทัศน์ที่กว้างไกลขนาดนี้?”
เมื่อได้ยินพ่อของเธอชื่นชมเฉินตง กู้ชิงหยิ่งรู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่ง มีความรู้สึกมีความสุขและเป็นเกียรติ
เธอกะพริบตา แล้วพูดว่า “แล้วพ่อกับแม่ตัดสินใจได้หรือยังว่าจะเจอเขาเมื่อไหร่?”